ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 271-2 กึ่งร่างทอง (2)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 271 กึ่งร่างทอง (2)

กลางอากาศ

ปรมาจารย์เฉินประหลาดใจอยู่บ้าง ตาเฒ่าหลี่ก็ตกตะลึงเช่นกัน เอ่ยว่า “พลังจิตใจของฟางผิงอึดดีจริงๆ”

“ใช่ ทนทานทีเดียว น่าสนใจ”

ปรมาจารย์เฉินพยักหน้า ขั้นสามสามารถใช้พลังจิตใจได้ก็ไม่เลวแล้ว นอกจากฟางผิงจะสามารถใช้ข่มขวัญคู่ต่อสู้อย่างเหมาะสมได้ หลังจากได้รับบาดเจ็บก็ฟื้นฟูขึ้นมาในชั่วพริบตา นี่แข็งแกร่งกว่าที่คิดไว้เยอะเลย

แม้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุดบางส่วน พลังจิตใจยังคงอ่อนแอ คนพวกนี้ไม่กล้าใช้พลังจิตใจระหว่างต่อสู้ด้วยซ้ำ

หากถูกคนสัมผัสได้ บดขยี้พลังจิตใจของคุณ นั่นย่อมได้รับบาดเจ็บหนักทันที ผลย้อนกลับเข้าร่างกายตัวเอง

แม้ว่าจะเป็นปรมาจารย์ยอดฝีมือ หากพลังจิตใจถูกทำลายสูญสิ้น เส้นทางนี้มีเพียงต้องตกต่ำลงเท่านั้น

ฟางผิงสามารถฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว นี่เพียงพอให้คนตกใจและประหลาดใจแล้ว

ฟางผิงที่อยู่ด้านล่างไม่ได้สนใจอะไรมากมาย ฟื้นฟูพลังจิตใจแล้ว เขาก็ไม่ใช้มันอีก นี่ไม่นับว่าใช้ระบบโกงรังแกคนหรอกมั้ง?

รวบรวมพลังไว้ข้างในแล้ว ฟางผิงก็บุกฟันเข้าไปหาหลิงอีอีไม่หยุดหย่อน

ดูเหมือนจะทำเรื่องไร้ประโยชน์ แต่ความจริงฟางผิงกำลังลองฟันเจ็ดดาบติดต่อกันอยู่ต่างหาก

เคล็ดวิชาต่อสู้ ไม่ต่อสู้แล้วจะฝึกวิชาออกมาได้ยังไง

ปกติฟันหิน ฟันอากาศ หาโอกาสที่เหมาะสมอย่างฟันคนได้ที่ไหนกัน

คนอย่างหลิงอีอี ฟางผิงคงไม่จำเป็นต้องระวังฟันเธอตาย แต่ต้องระวังผู้หญิงคนนี้ลงมือเหี้ยมโหดกับตัวเองโดยไม่ทันตั้งตัวมากกว่า

ฟันติดต่อกันนับสิบดาบ แม้จะไม่ได้ระเบิดพลังและปราณมากนัก แต่ฟางผิงยังคงหอบหายใจอยู่บ้าง

หลิงอีอีไม่ได้เอาแต่ป้องกันเพียงอย่างเดียว ฉวยโอกาสที่เขาอ่อนกำลังลงหมายเอาชีวิต ฟางผิงหายใจไม่เป็นระเบียบอยู่บ้าง ชั่วพริบตานั้นหลิงอีอีก็ฟันขวานลงไปทันที!

ฟางผิงกระโดดแตะเท้าในอากาศ รีบถอยไปด้านหลัง

พลังของขวานทะลุสู่พื้นดิน ปรากฏรอยแยกขึ้นมา

“อ่อนหัด นี่คือฟางผิงที่ชอบต่อยตีผู้หญิงในข่าวลือ? ดูท่าไม่เท่าไหร่กันนี่ นายเข้ามาตีฉันสิ!”

หลิงอีอียั่วยุขึ้นมาอีกครั้ง

ตอนแรกฟางผิงโมโหขึ้นมา อยากจะสู้เอาเป็นเอาตายกับเธอซะเดี๋ยวนั้น ทว่ากลับสงบจิตใจลง เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “วิธียั่วยุแบบเด็กๆ ยิ่งไปกว่านั้น เธอนับว่าเป็นผู้หญิงด้วยหรือไง?”

ฟางผิงเพิ่งจะพูดจบ หลิงอีอีก็แตะเท้าในอากาศทันที ขวานยาวฟาดลงมาอย่างว่องไว

ฟางผิงใช้ดาบสกัดไว้ ครั้งนี้หลิงอีอีกลับไม่ถอยในทันที แต่ฟันออกไปนับสิบครั้งติดต่อกันอย่างรวดเร็ว

“แฮ่ก…”

ฟางผิงหอบหายใจอย่างหนัก หลิงอีอีที่อยู่ตรงข้ามเหงื่อชื้นแผ่นหลังเช่นกัน

“ขวานเบิกฟ้า!”

จู่ๆ หลิงอีอีก็คำรามขึ้น ขวานใหญ่ทวีความเร็วเพิ่มขึ้นมาอีกช่วงตัว

ทั้งสองคนสู้กันมาจนถึงตอนนี้ แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ปราณ พลังจิตใจ และพลังกายล้วนสิ้นเปลืองอย่างมาก

เห็นได้ชัดว่าหลิงอีอีไม่อยากยืดเวลาการต่อสู้กับฟางผิงอีก ระเบิดปราณที่เข้มข้นแล้วก็ฟันขวานออกไป!

ขวานนี้ ฟางผิงราวกับรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของความตาย…ตอนที่ฉินเฟิ่งชิงฟันผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่พวกนั้นในดาบเดียวก็เป็นกลิ่นอายแบบนี้เช่นกัน!

ฟางผิงกัดฟันแน่น กล้ามเนื้อและกระดูกส่งเสียงดังลั่นไม่ขาดสาย ปราณทั่วร่างไปรวมอยู่ที่แขน

ครู่ต่อมา ฟางผิงไม่คิดหลบหลีก ฟันดาบออกไปทันที!

“เจ็ดดาบต่อเนื่อง!”

“เจ็ดดาบต่อเนื่อง!”

ในฝูงชน พวกฟู่ชางติ่งพากันร้องเสียงหลง ฟางผิงจะก้าวหน้าเร็วไปแล้ว

ปรากฏว่าพูดไม่ทันขาดคำ จู่ๆ ฟางผิงกลับถอยหนีอย่างรวดเร็ว

ถอยไปหลายก้าวแล้วค่อยตะโกนนว่า “ออกกระบวนท่าใหญ่ไปไม่มีความหมาย ฉันไม่อยากฆ่าเธอ!”

“สารเลว ฉันจะฟันนายให้ตาย!”

หลิงอีอีโมโหอย่างหนัก ออกกระบวนท่าใหญ่ไม่มีความหมายอะไรกัน ฟางผิงตะโกนว่าเจ็ดดาบต่อเนื่อง น่าจะคิดระเบิดพลังนั่นแหละ ผลปรากฏว่าฟันออกมาหนึ่งดาบก็ตระหนักได้ว่าฟันเจ็ดดาบติดต่อกันไม่ได้ เวลานี้ถึงได้รีบถอยหลังไป

หลิงอีอีไล่ตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว ฟางผิงคำรามอีกครั้ง

อาจารย์จากปักกิ่งรีบกระโดดลงมา ตะโกนว่า “ถอยไป!”

ฟางผิงแทบจะถอยไปถึงบริเวณที่คนยืนอยู่แล้ว ตอนนี้ฟางผิงฟันเจ็ดดาบติดต่อกันออกมาไม่ได้ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงอีอี จึงรีบดึงตัวกลับ จำเป็นต้องถอยหลังไป

ฝูงชนต่างพากันถอยหลังอย่างว่องไว

ฟางผิงคำรามไม่หยุดเช่นกัน ถอยหลังติดต่อกัน แต่มาถึงตอนนี้แล้วรู้สึกขาดอีกแค่นิดเดียวเท่านั้น

หลิงอีอีไม่ยอมเลิกรา ขวานใหญ่ไม่ได้ฟันลงมา ไล่ตามฟางผิงไปอย่างไม่ลดละ ราวกับจะบอกว่านายหนีออกไปจากสวนสนุกสิ แล้วฉันจะไม่ตามฆ่านายอีก!

‘หงุดหงิด!’

‘น่าขายหน้าชะมัด!’

ฟางผิงตะโกนอย่างโมโหในใจ คนเยอะขนาดนี้ ถูกผู้หญิงตีจนต้องถอยร่นไม่ลดละ น่าอายเกินไปแล้ว!

ทำไมฟันเจ็ดดาบต่อเนื่องออกมาไม่ได้!

วันนั้นตะโกนว่า ‘หกดาบต่อเนื่อง’ ไม่ใช่ว่าทำได้เลยหรือไง?

ในเวลานี้ข้างหูของฟางผิงกลับมีเสียงดังขึ้น

“โง่เง่า รวมพลังปราณ พลังกายและพลังจิตใจเป็นหนึ่ง พลังจิตใจสู้ศัตรูไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าต้องละทิ้งไป ตาแก่อย่างฉันโมโหแล้วจริงๆ”

เสียงคุ้นหูทำให้ฟางผิงมีสติขึ้นมา ฉันจดจ่อกับเรื่องนี้มากไป!

เนื่องจากเขาเพิ่มพลังจิตใจแล้ว จึงไม่คิดเอามาใช้กับศัตรูอีก แต่เดิมทีพลังจิตใจก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมนุษย์ จะมองเป็นสิ่งนอกกายทั้งหมดไม่ได้

ฟันเจ็ดดาบต่อเนื่องไม่สำเร็จ ถึงกระทั่งไม่มีแนวโน้มว่าจะทำได้เลยก็อยู่ที่เรื่องนี้เหมือนกัน

ในใจคิดอย่างกระจ่างแจ้งแล้ว ท่าทีของฟางผิงก็เปลี่ยนไปทันที ตะโกนออกมาอีกครั้ง “เจ็ดดาบต่อเนื่อง!”

“ตะโกนหาหอกอะไร!”

หลิงอีอีสบถคำหยาบออกมา ฉวยโอกาสนี้ไล่ตามเข้าไปหาฟางผิงทันที ฟันขวานยาวลงไป!

ฟางผิงใบหน้าแดงก่ำ คำรามเสียงดัง ไม่ถอยไปข้างหลังอีก ดาบยาวฟันออกมาอย่างว่องไว หกดาบดังขึ้นติดต่อกัน พื้นใต้ฝีเท้าทั้งสองคนแตกแยก ปรากฏเป็นหลุมลึกกว่าครึ่งเมตร ทำให้ทั้งสองคนตกลงไปในนั้น

รอจนดาบที่เจ็ด ฟางผิงกลับขมวดคิ้วแน่น ฟื้นฟูปราณขึ้นมาเล็กน้อยอย่างไม่ลังเล ชั่วพริบตานั้นก็ฟันลงไปทันที!

‘เปรี้ยง!’

เสียงระเบิดดังขึ้น หลิงอีอีกระเด็นตัวลอยออกไป กระอักเลือดออกมาเป็นสาย

ฟางผิงคายลมออกมา ไม่ได้คิดว่าตัวเองทำไม่เหมาะสมอะไร เขาขาดปราณแค่เล็กน้อยเท่านั้นก็จะฟันเจ็ดดาบต่อเนื่องได้ ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ใครจะสนใจกัน จดจ่อกับเรื่องพวกนั้นเกินไปไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน

ฟันเจ็ดดาบต่อเนื่องได้ สำคัญกว่าอุปสรรคที่เกิดในใจ ยิ่งไปกว่านั้นฟางผิงก็ไม่รู้สึกว่านี่เป็นอุปสรรค

ตอนนี้พวกเขาฟื้นฟูปราณขึ้นมาอีกครั้ง ฟันเจ็ดดาบต่อเนื่องออกไปแล้ว เขาทำถึงขั้นนี้ได้ หลิงอีอียังต้องยอมรับเรื่องนี้

หลิงอีอีกระเด็นไปตกที่พื้น สะบัดหัวเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้ามองฟางผิง กัดฟันว่า “นายทำได้แล้วจริงๆ?”

ดาบคลั่งโลหิตฉบับดั้งเดิมเป็นเคล็ดวิชาต่อสู้ทั่วไปในระดับกลาง

แต่หลังจากจางติ้งหนานเข้าสู่ขั้นปรมาจารย์ก็ปรับปรุงใหม่ กลายเป็นเคล็ดวิชาต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมในระดับกลาง

ฟางผิงระเบิดพลังฟันเจ็ดดาบต่อเนื่อง แข็งแกร่งกว่ากระบวนท่าชั้นยอดทั่วไปไม่น้อย

ทั้งสองคนสู้มาจนถึงตอนนี้ปราณเหลือพอๆ กัน ฟางผิงระเบิดเจ็ดดาบต่อเนื่อง ยังเหลือปราณอีกเล็กน้อย หลิงอีอีระเบิดอานุภาพออกไปกลับสู้เขาไม่ได้

ฟางผิงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “ช่างเถอะ ฉันไม่รังแกเธอหรอก ดูสภาพแล้วยังสู้ได้อีกหรือไง! ฉันไม่ใช้ปราณละกัน พวกเรามาวัดพลังตัวต่อตัว!”

“ไอ้เวร ถ้านายกล้าแต๊ะอั๋งฉัน ฉันจะฆ่านายให้ดู!”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา หลิงอีอีก็มีโทสะทันที กระโดดขึ้นมา ก่อนจะพุ่งเข้าหาฟางผิง เหวี่ยงหมัดโจมตีอย่างรวดเร็ว!

ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุด แม้ว่าปราณจะหมดเกลี้ยงแล้ว อาศัยแค่ร่างกาย ฝีมือก็ไม่ได้อ่อนด้อย

ฟางผิงเห็นเธอบ้าคลั่ง จึงตกตะลึงไปเล็กน้อย ไม่อาจสนใจผู้หญิงเสียสติคนนี้ได้อีก ทิ้งดาบยาวออกไป ก่อนจะชกหมัดเผชิญหน้าเช่นกัน

เสียงปะทะกันดังอย่างไม่ขาดสาย

ไม่ใช้ปราณในการต่อสู้ ทั้งสองคนกลับสู้กันได้อย่างถึงใจกว่าตอนแรกเสียอีก

การระเบิดพลังก่อนหน้านี้ แม้อานุภาพเคล็ดวิชาของทั้งสองคนจะทำได้ดี แต่ในสายตาของคนภายนอก ยังไม่ถึงใจเท่าไหร่

ตอนนี้วัดกันจากพื้นฐานร่างกายล้วนๆ ทั้งสองคนเหยียบพื้นจนเกิดเป็นหลุมใหญ่ หมัดโจมตีไปโดนสิ่งก่อสร้างรอบๆ บางส่วน กระทั่งเหล็กยังหักบิดเบี้ยว ทำให้คนธรรมดาถึงกับร้องอย่างตกตะลึงไม่หยุด!

“อีอีจะแพ้แล้ว…”

หนึ่งในอาจารย์ของปักกิ่งเอ่ยขึ้น ปู่ของฟู่ชางติ่งส่ายหัว ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

ชายร่างสูงวัยกลางคนกลับเงยหน้ามองไปบนฟ้า แค่นเสียงเบาๆ ว่า “หลี่ฉางเซิงเล่นไม่ซื่อ!”

ปู่ของฟู่ชางติ่งไม่ได้พูดอะไร นี่ไม่นับว่าเป็นการประลองเอาเป็นเอาตาย หลี่ฉางเซิงชี้แนะฟางผิงแค่หนึ่งประโยคในตอนที่เขาใกล้ทะลวงเคล็ดวิชาแล้วเท่านั้น หลี่ฉางเซิงให้คำแนะนำนิดหน่อยไม่ถือว่าเกินไป

แต่ฟางผิงฟันเจ็ดดาบต่อเนื่องได้เพราะเรื่องนี้ รอปราณหมดเกลี้ยงแล้ว ทั้งสองวัดกันด้วยพลังกาย พื้นฐานของฟางผิงนั้นแข็งแกร่งกว่า หลิงอีอีตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

“เขาหลอมไขกระดูกแล้ว”

ท่านผู้เฒ่าฟู่มั่นใจในเรื่องนี้ ถอนหายใจว่า “ใช้พลังจิตใจข่มขวัญ หลอมไขกระดูก รอเขาเข้าสู่ขั้นหกสูงสุดแล้ว…อาจจะข้ามสู่ขั้นเจ็ดไปเลยก็ได้!”

ทุกคนต่างสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย!

มีคนเอ่ยอย่างไม่ค่อยมั่นใจ “กะโหลกของเขายังไม่ได้หลอม ขั้นเจ็ดน่าจะเร็วไปอยู่บ้าง ทั้งคงไม่ถึงกระทั่งข้ามขั้นเจ็ดไปได้หรอกมั้ง?”

ความแตกต่างของขั้นเจ็ดและขั้นแปดอยู่ที่ร่างทอง

ทั้งร่างทองขึ้นอยู่กับกระดูก ไขกระดูก รวมถึงการหลอมกระดูกกะโหลกและไขกระดูกทั้งร่างกาย

หากฟางผิงฝึกฝนอวัยวะภายในสำเร็จ ขอแค่กะโหลกและไขกระดูกหลอมเสร็จสิ้นแล้ว พลังจิตใจแตะถึงเป้า อาจสามารถกลายเป็นร่างทองได้เลย

ท่านผู้เฒ่าฟู่ส่ายหัวว่า “ไม่แน่ใจเหมือนกัน ดูตามสถานการณ์ไปก่อน ยังไงก็เป็นเรื่องดี การฝึกฝนของขั้นเจ็ด…สำหรับเขาไม่ใช่เรื่องยาก…”

ฟางผิงไม่อาจพูดได้ว่าเป็นว่าที่ปรมาจารย์อย่างเดียวแล้ว จะว่าบอกเป็นกึ่งร่างทองแล้วก็ได้เหมือนกัน

ในอากาศ ปรมาจารย์เฒ่าเฉินก็ใช้พลังจิตใจอยู่เช่นกัน พึมพำว่า “นอกจากกะโหลก กระดูกทั่วร่างหลอมสำเร็จขั้นสูงแล้ว!”

ตาเฒ่าหลี่มองไปบนฟ้า!

หากฉันจำไม่ผิด ครั้งก่อนที่เตรียมจะบีบคอเจ้าเด็กนี่ กระดูกแกนกลางของเขายังไม่หลอมถึงไขกระดูกเลย! เด็กนี่…บางทีอาจต้องชำแหละวิจัยดูจริงๆ แล้ว

มีคนเอ่ยอย่างไม่ค่อยมั่นใจ “กะโหลกของเขายังไม่ได้หลอม ขั้นเจ็ดน่าจะเร็วไปอยู่บ้าง ทั้งคงไม่ถึงกระทั่งข้ามขั้นเจ็ดไปได้หรอกมั้ง?”

ความแตกต่างของขั้นเจ็ดและขั้นแปดอยู่ที่ร่างทอง

ทั้งร่างทองขึ้นอยู่กับกระดูก ไขกระดูก รวมถึงการหลอมกระดูกกะโหลกและไขกระดูกทั้งร่างกาย

หากฟางผิงฝึกฝนอวัยวะภายในสำเร็จ ขอแค่กะโหลกและไขกระดูกหลอมเสร็จสิ้นแล้ว พลังจิตใจแตะถึงเป้า อาจสามารถกลายเป็นร่างทองได้เลย

ท่านผู้เฒ่าฟู่ส่ายหัวว่า “ไม่แน่ใจเหมือนกัน ดูตามสถานการณ์ไปก่อน ยังไงก็เป็นเรื่องดี การฝึกฝนของขั้นเจ็ด…สำหรับเขาไม่ใช่เรื่องยาก…”

ฟางผิงไม่อาจพูดได้ว่าเป็นว่าที่ปรมาจารย์อย่างเดียวแล้ว จะว่าบอกเป็นกึ่งร่างทองแล้วก็ได้เหมือนกัน

ในอากาศ ปรมาจารย์เฒ่าเฉินก็ใช้พลังจิตใจอยู่เช่นกัน พึมพำว่า “นอกจากกะโหลก กระดูกทั่วร่างหลอมสำเร็จขั้นสูงแล้ว!”

ตาเฒ่าหลี่มองไปบนฟ้า!

หากฉันจำไม่ผิด ครั้งก่อนที่เตรียมจะบีบคอเจ้าเด็กนี่ กระดูกแกนกลางของเขายังไม่หลอมถึงไขกระดูกเลย! เด็กนี่…บางทีอาจต้องชำแหละวิจัยดูจริงๆ แล้ว

ในตอนที่ทุกคนต่างตกตะลึงพรึงเพริด กลางสนาม ฟางผิงก็ชกหมัดเข้าที่หน้าอกของหลิงอีอี เอ่ยอย่างดุดันว่า “เข้ามาอีกสิ!”

หลิงอีอีเสียหลักถอยไปหลายก้าว ใบหน้าซีดเผือด กัดฟันแน่นว่า “หากตีฉันไม่ตาย วันนี้ไม่ทางจบหรอก!”

พูดจบก็ถลาโจมตีฟางผิงอย่างรุนแรงอีกครั้ง

ฟางผิงแค่นเสียงในลำคอ ก่อนจะโต้กลับ ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมอะไร โจมตีสมองทำให้คนตาย ดังนั้นแขนขาและหน้าอกย่อมเป็นตำแหน่งโจมตีที่ดีที่สุด

——————

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท