บทที่ 19 เกลี้ยกล่อมเหยียนโจว (ต้น)
บทที่ 19 เกลี้ยกล่อมเหยียนโจว (ต้น)
ภายใต้ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เหยียนโจวตกอยู่ในความเงียบงัน
ลู่หยวนไม่รีบร้อนอะไร เขาเลิกคิ้วแล้วถามว่า “อาวุโส ท่านเคยคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ข้ากล่าวก่อนหน้านี้หรือไม่?”
เหยียนโจวฟื้นคืนสติกลับมาอีกครั้งแล้วกล่าวตอบว่า “ขอบคุณในความเมตตาของบุตรศักดิ์สิทธิ์ ชายชราคุ้นเคยกับสภาพนี้แล้ว และไม่กังวลเกี่ยวกับร่างกายนัก”
หลังจากครุ่นคิดสักพัก วิญญาณยอดฝีมือเฒ่าจึงตัดสินใจได้
ท้ายที่สุด มียอดฝีมือในขั้นเทียมเทพมากมาย และเหยียนโจวไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถหลบหนีได้หรือไม่หลังจากสังหารลู่หยวน
หากหมัวเทียนมีความมืดอยู่ภายในใจ เขาคงต้องใช้วิธีอื่นเพื่อระงับมันไว้ แล้วค่อยคิดส่วนที่เหลือภายหลัง
ลู่หยวนหรี่ตาลง “อาวุโสได้พิจารณาเรื่องนี้แล้วจริงหรือไม่?”
เหยียนโจวพยักหน้ารับ “คุณชายลู่แห่งตำหนักธารสุญญะ ข้าไม่เคยเห็นบุรุษใดแข็งแกร่งมากเท่านี้มาก่อน แต่เหตุใดจึงยึดติดกับเศษเสี้ยววิญญาณของชายชรานัก?”
ลู่หยวนสยายรอยยิ้มโดยไม่ได้พูดอะไรตอบ เขาครุ่นคิดกับตนเองว่าทำไมต้องยึดติดกับเหยียนโจว? นั่นเพราะเหยียนโจวเปรียบเสมือนพรที่สวรรค์ประทานให้หมัวเทียน เป็นความขี้โกงของเจ้าพระเอกลูกรักสวรรค์นั่น
ดังนั้นหากเขาได้มาครอบครอง โอกาสทั้งหมดที่เคยเป็นของหมัวเทียน ในอนาคตก็จะตกเป็นของวายร้ายอย่างเขา!
เสี้ยวดวงวิญญาณที่หลงเหลือนี้ตามติดบุตรแห่งโชคชะตา และเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทานในแผ่นดินใหญ่ก่อนจะตายตก แม้ตอนนี้จะไร้ประโยชน์ แต่หากได้รับการฝึกฝนและบ่มเพาะกายเนื้อขึ้นใหม่ เหยียนโจวจะกลายเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทาน
ยิ่งกว่านั้น คนเช่นนี้มีประสบการณ์มาก และสามารถคัดสรรของดีและไม่ดีได้ในพริบตา เช่น สมบัติล้ำค่า อาวุธวิทยายุทธ์ เขาจะบอกข้อดีข้อเสียของมันได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งบุคคลเช่นนี้พบเจอได้ยากยิ่ง!
แม้ตอนนี้ลู่หยวนจะมีระบบวายร้าย แต่ระบบนี้ก็ยังไม่สามารถบอกกล่าวทุกสิ่งได้ แต่หากมียอดฝีมืออย่างเหยียนโจวคุ้มกันอยู่ข้างกาย การเดินทางของลู่หยวนก็จะยิ่งราบรื่น
“ข้าเพียงชื่นชมความสามารถของท่านเท่านั้น คนโง่เขลาเช่นหมัวเทียนไม่สมควรได้รับมัน!”
หมัวเทียนยังคงมีสติครบถ้วน เขาขุ่นเคืองยิ่งนัก จนเหยียนโจวต้องใช้ทักษะอันแยบยลสะกดลูกศิษย์ผู้เป็นเจ้าของร่างอยู่หลายครั้งกว่าจะสงบลงได้
เหยียนโจวเงยหน้าขึ้น แม้เห็นลู่หยวนมีท่าทีนิ่งเฉย แต่ก็รู้สึกราวกับบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งตำหนักธารสุญญะผู้นี้สามารถควบคุมทุกสิ่งอย่างได้ ราวกับโลกทั้งใบอยู่ในกำมือ
แม้หมัวเทียนจะค่อนข้างบ้าคลั่ง แต่ในอดีตเขาก็สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี และจะไม่ขุ่นเคืองเพียงเพราะคำไม่กี่คำนี้
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง นับตั้งแต่ได้พบกับลู่หยวน การควบคุมอารมณ์ของลูกศิษย์ก็ดูเหมือนจะยิ่งย่ำแย่
เวลานี้สัญชาตญาณถูกครอบงำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้พบเจอลู่หยวน ความทะเยอทะยานและความปรารถนาของหมัวเทียนยิ่งเพิ่มพูนไร้ที่สิ้นสุด …ความปรารถนาที่อาบย้อมด้วยเพลิงแค้นจากก้นบึ้งของหัวใจของบุตรแห่งโชคชะตาทำให้อาจารย์สับสนว่าควรทำอย่างไรต่อ
เหยียนโจวสัมผัสได้เลือนรางว่ามีบางสิ่งกำลังเจือปนวิถีวรยุทธ์ของหมัวเทียน ราวกับความมืดที่แฝงเร้นอยู่ในกายโดยที่เจ้าตัวไม่สามารถสัมผัสได้ เพราะขั้นของเขายังไม่สูงนัก แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ขั้นเทียมเซียน เขาอาจจะถูกความมืดครอบงำได้
ในเวลานั้น ไม่ต้องกล่าวถึงความล่าช้าในการฝึกฝน บุคคลผู้นั้นจะคลุ้มคลั่งและขุ่นเคืองใจอยู่เสมอ สุดท้ายแล้วหากเขาถูกความมืดครอบงำจิตใจ มันคงยากที่จะรับมือ
ต่อมา แม้จะสามารถกำจัดความมืดในจิตใจได้ แต่กว่าจะสำนึกได้ หมัวเทียนก็ต้องจ่ายออกเป็นราคามหาศาล
เหยียนโจวรู้สึกกังวลเล็กน้อย คงจะดีที่สุดถ้าเขาสามารถกำจัดปีศาจของหมัวเทียนได้ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นเทียมเซียน
แต่การกำจัดความมืดนั้นไม่ง่ายดาย…
สายตาของเหยียนโจวมองลู่หยวนจากระยะไกล
ท้ายที่สุดแล้ว …บุตรศักดิ์สิทธิ์ตระกูลลู่ผู้นี้คือความมืดในใจของหมัวเทียน
ก่อนเข้าสู่ขั้นเทียมเซียน หมัวเทียนจะสามารถสังหารลู่หยวนได้หรือไม่?
เหยียนโจวครุ่นคิดเรื่องนี้สักครู่ เขาลดสายตาลงพร้อมระงับจิตสังหารในใจ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือจากไปอย่างปลอดภัย แต่ก็ไม่ควรประมาท
“ไม่ว่ามันจะคุ้มค่าหรือไม่ ชายชราก็สามารถตัดสินใจเองได้ คุณชายลู่ไม่ต้องกล่าวคำใดอีก”
ลู่หยวนรู้แล้วว่าที่เหยียนโจวเลือกหมัวเทียนเป็นศิษย์นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์เท่านั้น
คาดเดาว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน หรือหมัวเทียนอาจจะมีบุญคุณต่อเหยียนโจว หรือเจ้านี่อาจจะเป็นลูกหลานสหายเก่าของยอดฝีมือเฒ่าผู้นี้
เหยียนโจวไม่คิดละทิ้งหมัวเทียนแล้วติดตามลู่หยวนโดยง่าย
อย่างไรแล้ว การทำเช่นนั้นก็ไม่ใช่คุณธรรมที่ดี
แต่ว่า…
ความสับสนอลหม่านภายในโลกนั้นมีผลกำไร สุดท้ายแล้วผลประโยชน์ที่ได้มาท่ามกลางความโกลาหลเท่านั้นคือผลกำไรแท้จริง
ลู่หยวนยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมเหยียนโจวอีกครั้ง “ผู้อาวุโส ข้าคงต้องบอกท่านว่า หมัวเทียนต้องตายวันนี้!”
ลู่หยวนลดสายตาเคร่งขรึมมองบุตรแห่งโชคชะตาราวกับมองดูคนตาย “ผู้อาวุโส หากท่านเชื่อฟังข้า ข้าผู้นี้จะปฏิบัติต่อท่านอย่างสุภาพแน่นอน ทุกสิ่งที่จำเป็นต่อการบ่มเพาะกายเนื้อขึ้นใหม่ ลู่หยวนผู้นี้มีในครอบครอง ตราบใดที่ผู้อาวุโสเห็นด้วย บุตรศักดิ์สิทธิ์จะพาผู้อาวุโสกลับไปและสร้างร่างใหม่ทันที”
เหยียนโจวลังเล สิ่งล่อใจที่ลู่หยวนมอบให้นั้นยิ่งใหญ่มาก …มันคือความปรารถนาเดียวของเขา
ตราบใดที่เขามีร่างกาย แม้จะเป็นร่างที่อ่อนแอ แต่ด้วยประสบการณ์ที่มากล้น เขาจะสามารถเติบโตได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ และกลายเป็นยอดฝีมือในที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยทรัพยากรของตระกูลลู่ อีกฝ่ายย่อมเตรียมกายเนื้อที่ยอดเยี่ยมไว้แน่นอน ในเวลานั้น กายเนื้อใหม่จะสามารถแบกรับพลังใหม่ได้มากมาย หรือเขาอาจจะใช้กายเนื้อใหม่นี้ก้าวขาเข้าสู่ขั้นใหม่ที่ไม่เคยไปถึง!
เมื่อเห็นว่าแววตาของเหยียนโจวกำลังสับสน โทสะในใจของหมัวเทียนก็ยิ่งเพิ่มพูน
เห็นได้ชัดว่าลู่หยวนต้องการสังหารเขา! หากเหยียนโจวไม่ปกป้องมาตลอด ตนคงตายตกไปนานแล้ว
แต่หากถูกอาจารย์ละทิ้งในวันนี้ นับว่าตนต้องสิ้นหวังอย่างแท้จริง
“อาจารย์!”
เสียงของหมัวเทียนดังขึ้น “เป็นไปได้หรือไม่ว่าวันนี้อาจารย์คิดละทิ้งข้าเพื่อลู่หยวน?”
“ท่านอาจารย์ ท่านลืมไปแล้วหรือว่าข้าเป็นคนปลุกท่านขึ้นมา?”
“ข้าสัญญากับอาจารย์ว่าข้าจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยอาจารย์สร้างร่างใหม่!”
“คนชั่วอย่างลู่หยวนจะต้องไม่ซื่อสัตย์แน่! วันนี้อาจารย์มีประโยชน์ต่อเขา เขาจึงยอมจ่ายมากมายเพื่อช่วยเหลือ แต่หากอาจารย์ไร้ประโยชน์ ท่านก็จะตกอยู่ในอันตรายเช่นเดียวกับข้า!”
บางทีอาจเป็นเพราะหมัวเทียนกังวลใจมากเกินไป จนกลับมาเป็นฝ่ายควบคุมร่างกายอีกครั้ง และพูดออกมาให้ทุกคนรับฟัง
เวลานี้ตู้เหิงตระหนักได้ทันทีว่า หมัวเทียนไม่เพียงแต่มีพลังของตนเองเท่านั้น แต่ยังมียอดฝีมือที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังเพื่อสนับสนุนเขา
ตู้เหิงมองท่าทางลังเลของเหยียนโจว แล้วยังร้อนใจตามไปด้วย เขาปรารถนาว่ายอดฝีมือเฒ่าจะไม่ถูกตระกูลลู่ล่อลวง มิฉะนั้นวันนี้หมัวเทียนคงจะไม่รอดพ้นจากความตาย
เขาเกรงว่าหากหมัวเทียนลงมือกระทำเรื่องต่าง ๆ ได้ยากขึ้น แล้วสำนักฟ้าประทานจะแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไร!
เหยียนโจวถอนหายใจ “คุณชายลู่ ข้าคงไม่อาจยอมรับได้ หมัวเทียนมีน้ำใจปลุกข้าขึ้นมา ข้าจึงยอมรับเขาเป็นศิษย์ นั่นคือสายสัมพันธ์ตลอดชีวิต ข้าซาบซึ้งในน้ำใจคุณชายลู่แล้ว แต่คงต้องปฏิเสธ”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ หมัวเทียนและตู้เหิงผ่อนคลายลง ราวกับยกภูเขาออกจากอก
ตราบใดที่เหยียนโจวไม่ยอมรับ บุตรแห่งโชคชะตาก็ยังมีโอกาสแข็งแกร่งขึ้น