บทที่ 234 เสริมพลังแปดแดนร้าง
บทที่ 234 เสริมพลังแปดแดนร้าง
หลังจากฉู่เชิ่งกลับยอดเขาบรรพชน เขาก็ไม่เห็นชิวชิงหลีอีก
เขาพอจะคาดเดาได้ว่า คำพูดที่เพิ่งกล่าวออกไปลอยเข้าหูของนางเข้าแล้ว ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่พอใจ
แต่ศิษย์เอกยอดเขาดาบผู้นี้ไม่เก็บมาใส่ใจ ชิวชิงหลีชอบพอเขามาหลายปี เขาเชื่อว่าเราไม่มีทางทะเลาะกันเพราะเรื่องแบบนี้อย่างแน่นอน
ฉู่เชิ่งสาวเท้าเข้าห้องโถงหลักของยอดเขาบรรพชน “ท่านหู่ วันนี้ไปอาบโอสถกันต่อเถอะ!”
เสียงแหบพร่าดังขึ้นจากส่วนลึกของจิตใจ “เจ้าหนูอาบโอสถมาหลายวันแล้ว ต่อให้พยายามเสริมพลัง แต่ด้วยพลังระดับนั้น เจ้าอาจยังไม่แกร่งพอที่จะสามารถรับมันได้!”
“ข้ารับมันไหว!”
ดวงตาของฉู่เชิ่งทอประกายเคร่งขรึม “คัมภีร์เก้าวิชาดาบแปดแดนร้างคือตำราลับเคล็ดวิชาดาบที่ดีที่สุดที่ข้าได้มาในวันนี้! หากข้าต้องการฝึกฝนคัมภีร์ลับนี้ ขั้นตอนแรกคือเสริมพลัง! ข้าไม่มีเวลาหลายเดือนที่จะมาทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป แถมตอนนี้ก็ผ่านไปเกือบหนึ่งวันแล้ว!”
“ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะให้การสนับสนุนเอง แต่สมุนไพรวิญญาณที่ต้องใช้ในวันนี้อาจจะมากกว่าคราวที่แล้วถึงสองเท่า”
“ไม่เป็นไรหรอก ตระกูลชิวมีสมุนไพรเหลือเฟือ ข้าจะไปเอามาเพิ่มให้!”
สิ้นคำ ฉู่เชิ่งก็หันหลังแล้วมุ่งหน้าสู่อีกด้านของห้องโถงที่อยู่ไม่ไกล
ห้องโถงด้านข้างเปิดออกครึ่งหนึ่ง เขาจึงผลักประตูเข้าไปข้างใน…
ห้องโถงด้านข้างคือที่พักของชิวซานกับชิวซื่อ เมื่อทั้งสองได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็ลุกขึ้น ก่อนออกมาต้อนรับด้วยท่าทีเย็นชา ตามที่คาดไว้ ผู้มาคือฉู่เชิ่งจริงเสียด้วย
ชิวซานถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ฉู่เชิ่ง วันนี้เจ้ามาทำอะไรที่นี่อีก?!”
ฉู่เชิ่งคลี่ยิ้มอย่างเย็นชา “แน่นอนว่าข้ามาเอาสมุนไพรวิญญาณกับโอสถ เอาเป็นว่า… พวกเจ้ามีเท่าไหร่ ส่งมาให้หมด!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทั้งสองจึงเต็มไปด้วยโทสะ
ตระกูลส่งชิวซานกับชิวซื่อมาปกป้องคุณหนู พวกเขาจึงมีทรัพยากรติดตัวมากมาย ทว่าไม่กี่วันมานี้ ฉู่เชิ่งกลับมาขอทรัพยากรเหล่านั้นเสียนี่
ทั้งสองลังเลอยู่หลายครา ทว่าชิวชิงหลีได้มีคำสั่งไว้ว่าหากเป็นสิ่งที่ฉู่เชิ่งต้องการ ให้ส่งมอบทันที อย่าได้ขาดตกบกพร่อง!
ดังนั้นพวกเขาจึงส่งมอบทรัพยากรให้ฉู่เชิ่งอย่างไม่เต็มใจ เพียงแต่ทั้งสองไม่คาดคิดว่าฉู่เชิ่งจะเป็นพวกเดรัจฉานที่ไม่รู้จักคำว่าพอ!
ไม่กี่วันที่ผ่านมา ลำพังจำนวนสมุนไพรวิญญาณที่อีกฝ่ายมาขอก็เป็นจำนวนที่น่าตกตะลึงไม่น้อย!
ทรัพยากรในมือพวกเขาหมดลงในเวลาเพียงสองวัน ชิวซานกับชิวซื่อได้รับส่วนที่เหลือมาจากการร้องขอกับแม่ทัพใหญ่ชิวหรัน… หญิงชราผู้อยู่ข้างกายคุณหนู
ทว่าวันนี้… ฉู่เชิ่งกลับมาขอสมุนไพรวิญญาณอีกงั้นหรือ?!
เขายังกล้าโผล่หน้ามาอีกได้อย่างไร!
ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนนอกบ้างหรือ?!
“ฉู่เชิ่ง หลายวันมานี้เจ้าก็ใช้ทรัพยากรไปตั้งมากมาย อย่าละโมบให้มันมากนัก!”
ชิวซานหันมองไปทางอื่น เส้นโลหิตบนมือปูดโปนด้วยโทสะ
ชิวซื่อเอ่ยรับอย่างเห็นด้วยว่า “ฉู่เชิ่ง พวกข้าอดทนมามากพอแล้ว! ข้าขอแนะนำอะไรเจ้าหน่อย อย่าคิดว่าคุณหนูชอบเจ้า แล้วจะมาขอทรัพยากรจากตระกูลชิวแบบนี้ได้! หากไม่ใช่เพราะคุณหนู เจ้าจะมีรากฐานการบ่มเพาะอย่างทุกวันนี้หรือ?! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นลูกเขยของตระกูลชิว…”
ก่อนชิวซื่อจะทันได้กล่าวจบ ฉู่เชิ่งพลันเงยหน้าขึ้น สายตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
ความว่างเปล่ารอบข้างศิษย์เอกยอดเขาดาบพลันสั่นไหว ไม่นานลมกระโชกแรงพร้อมหมัดทรงพลังก็พุ่งเข้าหาชิวซื่อ มันกระแทกเข้ากับช่วงท้องของอีกฝ่ายอย่างทารุณ
ตูม!!
ชิวซื่อไม่อาจตอบสนองได้ทันเวลา เขาจึงต้องฝืนรับหมัดนี้ไว้ ทั่วร่างราวกับว่าวที่สายป่านขาดสะบั้น มันกระเด็นไปด้านหลังจนกระแทกกับกำแพง สุดท้ายร่างของเขายังลอยไปอีกหลายสิบจั้งก่อนตกลงสู่พื้น
สีหน้าของชิวซานที่เดิมเต็มไปด้วยโทสะพลันแข็งทื่อ เขาตกตะลึงกับภาพตรงหน้า
ฉู่เชิ่งผู้นี้กล้าโจมตีสมาชิกของตระกูลชิวงั้นหรือ?!
ช่างเป็นสุนัขที่อาจหาญอะไรอย่างนี้!
เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นลูกเขยของตระกูลชิวจริงหรือ?!
“ฉู่เชิ่ง เจ้ามันรนหาที่ตาย!”
กลิ่นอายของชิวซานหนักอึ้ง พลังวิญญาณในระยะสามสิบจั้งพลันเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว เหนือกำปั้นของเขามีกลุ่มพลังรวมตัวกัน
ดวงตาของฉู่เชิ่งทอประกายจิตสังหารออกมา เขาไม่พอใจสองคนนี้มานานแล้ว!
ช่วงที่เขากลับสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์แล้วพ่ายแพ้ให้กับลู่หยวน เขาถูกสองคนนี้พาตัวออกมา
ยามนั้นทั้งสองคนเป็นผู้ดูแลเรื่องอาหารการกิน และเป็นตอนนั้นเองที่สองคนนี้เยาะเย้ยถากถางเขา!
ฉู่เชิ่งยกมือขวาขึ้น เปลวเพลิงสีน้ำเงินอ่อนลุกโชติช่วงเหนือปลายนิ้ว ก่อนที่กลิ่นอายเย็นเยือกจะปรากฏขึ้น จนทำให้อุณหภูมิของอากาศรอบข้างลดต่ำลง
“ช้าก่อน!”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังจะแตกหักกัน เสียงทุ้มต่ำพลันดังขึ้นมา หญิงชราผู้หนึ่งพุ่งเข้ามาจากไกล ๆ
… เป็นแม่ทัพใหญ่ชิวหรันผู้อยู่ข้างกายชิวชิงหลี
เมื่อทราบว่าผู้มาเยือนเป็นใคร ชิวซานจึงรีบดึงรากฐานการบ่มเพาะกลับมา แล้วคำนับด้วยความเคารพ “ท่านแม่ทัพใหญ่!”
ชิวหรันพยักหน้า นางหันมามองฉู่เชิ่งด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณชายฉู่เชิ่งมาปรากฏตัวในยามนี้ ไม่ทราบว่ามีเจตนาอะไร?”
“หรือว่าเจ้าอยากฆ่าคนจากตระกูลชิวของข้า?!”
คำพูดของชิวหรันเต็มไปด้วยกลิ่นอายเย็นเยียบน่าขนลุก
แต่ฉู่เชิ่งไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย เขาดึงเพลิงเหมันต์สงัดกลับเช่นกัน แล้วเอ่ยว่า “ข้าแค่ต้องการสมุนไพรวิญญาณเพิ่มก็เท่านั้น แต่พวกเขาทั้งสองกลับปฏิเสธและพูดจาไร้เหตุผล ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าก็เลยสั่งสอนพวกเขา”
“ต้องการสมุนไพรวิญญาณเพิ่มงั้นหรือ?!” ชิวซานถามอย่างเย้ยหยันว่า “ฉู่เชิ่ง ลองถามตัวเองดูว่ามีครั้งไหนที่เจ้าได้สมุนไพรวิญญาณต่ำกว่าหนึ่งร้อยต้นบ้าง?!”
เขากำลังจะพูดต่อ แต่ถูกชิวหรันขัดเอาไว้ “ในเมื่อคุณชายฉู่เชิ่งต้องการสมุนไพรวิญญาณก็ให้เขาไป”
“ท่านแม่ทัพใหญ่ คราวนี้จำนวนที่เขาต้องการต้องไม่ใช่น้อยเป็นแน่!”
“ให้เขาไป!”
ชิวหรันเอ่ยอย่างเย็นชาจนชิวซานไม่กล้าปฏิเสธ ได้แต่ยอมมอบแหวนเก็บของที่เหลือเพียงวงเดียวให้
“ข้างในนี้มีสมุนไพรวิญญาณหนึ่งพันต้น รวมถึงโอสถอีกจำนวนมาก น่าจะมากพอสำหรับเจ้าแล้ว!”
ฉู่เชิ่งรับเอาไว้อย่างสงบ ก่อนชำเลืองมองชิวหรัน พร้อมความสงสัยก่อตัวขึ้นในใจ
แม่เฒ่าชิวหรันผู้นี้มักดูถูกเขามาโดยตลอด!
เหตุใดวันนี้ถึงยอมยื่นมือช่วยเขา?!
ต้องมีสิ่งใดผิดปกติ!
ฉู่เชิ่งมีสีหน้าแปลกประหลาด เขาไม่ทราบว่าชิวหรันกำลังคิดอะไรอยู่
“ถ้าเช่นนั้น ก็ขอขอบคุณผู้อาวุโส”
ศิษย์เอกยอดเขาดาบสะกดความสงสัยเอาไว้ เขายกมือขึ้นทำความเคารพแล้วจากไป
ไม่ว่ายามนี้จะเกิดอะไรขึ้น ขอเพียงเขาได้สมุนไพรวิญญาณที่ต้องการก็พอ!
หลังจากเสริมพลังจากคัมภีร์เก้าเคล็ดวิชาดาบแปดแดนร้างแล้ว ต่อให้ชิวหรันวางแผนจะทำอะไรก็เปล่าประโยชน์!
หลังจากฉู่เชิ่งจากไปแล้ว สายตาของชิวซานเต็มไปด้วยโทสะ “ท่านแม่ทัพใหญ่ เหตุใดท่านต้องปล่อยให้เด็กคนนี้หยามพวกเราด้วย?! หลายวันมานี้เขาได้ทรัพยากรจากพวกเราไปมาก! แต่นอกจากไม่รู้จักตอบแทนน้ำใจไม่พอ ยังมาทุบตีชิวซื่อจนอยู่ในสภาพนี้อีก!”
ชิวหรันยกมือขึ้นเพื่อห้ามไม่ให้ชิวซานพูดอะไรอีก ริมฝีปากเหี่ยวย่นของนางคลี่ยิ้ม “ไม่ต้องเป็นกังวลไป การถูกทุบตีของชิวซื่อในวันนี้จะต้องไม่สูญเปล่า!”
“ในช่วงสามวันนี้ หากเขาต้องการสิ่งใดก็จงมอบให้กับเขาไปเสีย!”
“สามวันหลังจากนี้ เจ้านั่นอาจไม่ได้มีชีวิตแบบนี้อีกต่อไป”
สิ้นคำ ชิวหรันถ่ายทอดคำสั่งให้ทั้งสองคนก่อนจะจากไป