บทที่ 45 ค้นหา
บทที่ 45 ค้นหา
คนที่เจ้าหน้าที่หลิวพามาเริ่มรื้อค้นข้าวของในลานบ้านของตระกูลซู
ทุกคนในตระกูลถูกจับมาอยู่ในสวนกันหมด พวกเขาต่างยืนอยู่ด้วยกันด้วยความกังวลและความขุ่นเคือง
หัวใจของคุณย่าซูเกิดความผันผวน ไม่ง่ายเลยที่ชีวิตพวกเราจะดีขึ้นกับเขาบ้าง แล้วทำไมถึงได้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น?
ราชามังกรคอยดูแลเถียนหลานรัก ทั้งยังมอบของดี ๆ ให้ด้วย เพียงครู่เดียวก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว และไม่แน่ว่าอาจเป็นการนำปัญหามาให้ครอบครัวตนเองแทน
เธอค่อนข้างหวาดกลัว แต่เพราะผ่านลมผ่านฝนมาครึ่งค่อนชีวิต จึงปรับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าคนพวกนี้จะเจออะไร เธอจะพูดว่าเป็นของที่หัวหน้าใหญ่ของมณฑลส่งมาในตอนแรกก็พอ คนพวกนี้จะกล้าไปตามหาเพื่อยืนยันถึงที่เชียวหรือ?
หลังจากคิดหาทางออกได้ อารมณ์ของคุณย่าซูถึงค่อย ๆ สงบลง
คนที่เจ้าหน้าที่หลิวนำมาเป็นพวกคนหนุ่มสาวหัวรุนแรง แต่ละคนพุ่งเข้าแต่ละห้องในบ้านไม่ต่างจากหมาบ้า แทบทนไม่ไหวที่จะขุดดินสักสามฉื่อเพื่อค้นหาหลักฐานการก่อกบฏของคนบ้านนี้
ไม่ต้องพูดถึงกล่องในตู้เลย แม้แต่เสื่อฟางบนเตียงเตายังไม่เว้นเพราะกลัวว่าจะตกหล่นตรงไหนไป
ไม่นานนัก บ้านซูก็ถูกรื้อค้นราวกับถูกโจรปล้น เมื่อเห็นครอบครัวที่ทำงานหนักมาหลายปีไม่ได้ถูกพวกมารที่ไหนมาทำลาย แต่ถูกฝีมือของคนพวกนี้ทำ คุณปู่ซูก็โกรธจนหน้าแดง เนื้อตัวสั่นเทิ้ม มองเห็นว่าแกเกือบจะล้มฟุบไป
บาปกรรมนัก ทำไมจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้โดยไม่มีเหตุผลด้วย?
เขาอยู่มามากกว่าครึ่งชีวิตไม่เคยถูกใครรังแกเช่นนี้มาก่อน แต่คนพวกนี้ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่ามีคนในอำเภอเมืองถูกชายผู้นี้จู่โจมมาก่อน ไม่คิดเลยว่าจะถึงคราวบ้านของตน
ถ้าเขาเป็นคนเสียเปรียบคงจะดี แต่ว่าตระกูลชาวนาแปดชั่วโคตรของเขาล้วนมีเมตตาต่อผู้อื่น แล้วทำไมจะต้องประสบหายนะเช่นนี้ด้วย
คุณปู่ซูรู้สึกได้ถึงความปะแล่มในลำคอ แต่เขากลับกลืนลงไปอย่างแรง
ซูเสี่ยวเถียนเห็นสภาพคุณปู่ไม่ค่อยดี จึงรีบไปเป็นกำลังให้อยู่ข้าง ๆ แล้วใช้มือเล็กลูบหลังเขาแผ่วเบา
“คุณปู่อย่าโมโหนะคะ อย่าโมโหนะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้ว!”
ซูเสี่ยวเถียนกระซิบอย่างกังวล ในที่สุดเสียงของเธอก็ปลุกให้คนในตระกูลตื่นขึ้น
พวกเขาไม่สนใจของพวกนั้น ก่อนจะเข้ามาล้อมคุณปู่และเอ่ยเรียกอย่างกังวล
คุณปู่ซูได้รับการปลอบโยนจากหลานสาว อารมณ์จึงดีขึ้นมาก แต่ใบหน้าเหี่ยวย่นยังบิดเบี้ยวอยู่ มันเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีม่วงแล้ว
“ปู่ไม่เป็นไร ปู่ไม่เป็นไร!” คุณปู่ซูพยายามพูด ดวงตาเบิกกว้างราวกับจะมองให้ละเอียดว่าบ้านของตนถูกคนพวกนี้ทำลายอย่างไร
ซูเสี่ยวเถียนมองอย่างกระวนกระวาย สีหน้าคุณปู่แย่มาก มันต้องเป็นโรคชราแน่ ๆ
หัวใจของเด็กน้อยหมุนวน ครุ่นคิดอย่างหนักว่าทำไมสิ่งต่าง ๆ ถึงได้มาอยู่ในจุดนี้?
หลังจากที่เธอเกิดใหม่ มีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ทำไมครอบครัวของเธอยังเจอสิ่งเหล่านี้อยู่อีกล่ะ?
ในชีวิตที่แล้วไม่มีเรื่องอะไรแบบนี้เกิดขึ้นเลย ตระกูลผู้เฒ่าซูเป็นครอบครัวที่ดีในหมู่บ้านมาโดยตลอด
ส่วนคุณปู่อยู่ได้ไม่นานก็จากไปเพราะทำงานหนัก
ชีวิตครั้งนี้เธอจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อบำรุงร่างกายของคุณปู่ เลี่ยงไม่ให้ท่านจากไปก่อนวัยอันควร ไม่ง่ายเลยที่จะเห็นผลของการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย เป็นเพราะเรื่องนี้เชียวหรือมันถึงได้ผิดซ้ำซาก?
พอคิดว่าอีกไม่นานจะต้องเสียคุณปู่ไป ดวงตากลมโตของเธอก็มีน้ำตาเอ่อล้นออกมา ซูเสี่ยวเถียนแค่ร้องไห้ หากแต่ไม่ได้ส่งเสียงออกมาสักนิด
เดิมทีคนในครอบครัวยังโกรธที่ถูกคนกระทำเช่นนี้ และกังวลเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายของคุณปู่ด้วย แต่พอเห็นซูเสี่ยวเถียนร้องไห้เงียบ ๆ จึงคิดว่าเธอกำลังหวาดผวา
“สะใภ้สามพาลูกไปหลบก่อนเถอะ เสี่ยวเถียนตกใจกลับแย่แล้ว” คุณย่าซูอยากจะพาซูเสี่ยวเถียนออกไปด้วยตนเอง แต่สุดท้ายก็ปล่อยให้เหลียงซิ่วพาออกไปดีกว่า
ตอนนี้เธอต้องอยู่ที่นี่กับตาเฒ่า อยู่และตายไปด้วยกัน!
“ช้าก่อน คนที่มาแจ้งบอกว่าบ้านคุณมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับพวกคอกวัวด้วย ฉันมีเหตุผลที่จะสงสัยว่าพวกคุณอาจจะไปส่งข้อความลับกันก็ได้ จนกว่าเรื่องทุกอย่างจะคลี่คลาย จะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกไป” เจ้าหน้าที่หลิวใช้มือกั้นประตู ดวงตาเต็มไปด้วยความพึงพอใจ มองดูแล้วน่าขยะแขยง
ซูฉางจิ่วมองใบหน้าซีดของซูเสี่ยวเถียน เธอร้องไห้ไม่มีเสียงสักแอะ คิดเช่นเดียวกับคุณย่าว่าเด็กคนนี้กำลังตกใจกลัว
เขาอดปวดใจไม่ได้ที่ปกติแล้วเธอเป็นเด็กที่เชื่อฟังอยู่เสมอ
“เจ้าหน้าที่หลิว คุณดูสิ เด็กคนนี้กำลังตกใจกลัว ไม่อย่างนั้นก็ปล่อยให้สองแม่ลูกออกไปไม่ได้หรือ?” เขาถามอย่างไม่มั่นใจ
เจ้าหน้าที่หลิวขมวดคิ้วหลังจากฟังซูฉางจิ่วพูดจบ เขาอ้าปากด่า “หัวหน้าซู คุณเป็นใคร คุณจำได้ไหม? คุณเป็นเจ้าหน้าที่ และคุณต้องต่อสู้กับพวกกองกำลังชั่วร้ายให้หมด ไม่สามารถหลบซ่อนพวกศัตรูได้!”
ว่าง่าย ๆ ก็คือ จัดให้คนตระกูลซูเป็นพวกศัตรูแล้ว
ซูฉางจิ่วไม่กล้าพูดต่อ ถ้าพูดอีกก็ไม่รู้ว่าคนคนนี้จะพูดจาหยาบคายอะไรออกมาอีกหรือเปล่า อีกอย่าง หากมีอะไรเกิดขึ้นกับตระกูลซูในครั้งนี้ หลังจากนี้คนในชุมชนการผลิตก็จะตกอยู่ในอันตราย
ชีวิตดี ๆ ในชุมชนการผลิตหงซินจบลงแล้ว เขาทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาวันเวลาดี ๆ ตลอดหลายปี แล้วมันก็ไม่มีอีกแล้ว!
เขามองคุณย่าซูอย่างขอโทษ แล้วมองไปยังเหลียงซิ่ว ถึงจะทนไม่ไหวแต่ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย
ถึงคนในตระกูลซูจะโกรธแต่ไม่มีอำนาจพอจะทำอะไรได้ แต่เจ้าหน้าที่หลิวกลับดูภาคภูมิใจยิ่งนัก
หัวหน้าซูแห่งชุมชนการผลิตหงซินคนนี้จะไร้ประโยชน์เกินไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้สักอย่างแล้วยังพูดว่าภายในชุมชนการผลิตดีมากอีก
ชัดเลยว่าไม่มีการค้นหาอย่างละเอียด ครั้งนี้เขาจะต้องทำอะไรสักอย่าง ให้ดีที่สุดคือจะต้องเอาหัวหน้าซูออกให้ได้ แล้วให้ลูกพี่ลูกน้องของเขาขึ้นเป็นหัวหน้าแทน
ซูเสี่ยวเถียนจำได้ว่าครอบครัวของเธอเกี่ยวข้องกับคนคอกวัวไม่น้อยเลย โดยเฉพาะตอนที่ส่งอาหารไปให้ ถ้าถูกค้นเจอก็กลัวว่าจะไม่เกิดผลดีอันใด
ไม่รู้ว่าฝั่งนั้นได้เตรียมตัวอยู่หรือเปล่า ถ้าซ่อนตอนนี้อาจจะยังทัน หากแต่ไม่มีผู้ใดไปแจ้งข่าวเลย
แล้วยังมีเงินกับตั๋วพวกนั้นในบ้านอีก ไม่รู้ว่าจะทำให้เดือดร้อนหรือไม่
เดี๋ยวก่อนนะ ยังมีทองคำก้อนใหญ่อีกก้อนที่เธอเอามาด้วย ถ้าถูกหาเจอครอบครัวจะต้องเดือดร้อนเป็นแน่!
ชีวิตครั้งก่อนภายใต้การนำของหัวหน้าซู ชุมชนการผลิตหงซินสงบสุขมากโดยตลอด สงบสุขมากเสียจนเธอลืมไปว่าในยุคที่แสนพิเศษยุคนี้ หากมีใครคนใดคนหนึ่งไม่ทันระวังก็จะก้าวสู่หายนะอย่างง่ายดาย
ซูเสี่ยวเถียนวิตกกังวล ใบหน้าของเธอซีดเผือด เนื้อตัวเริ่มสั่นสะท้าน
เธอเริ่มโทษตัวเอง ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอเอง ถ้าไม่ใช่เพราะความประมาทวันนี้ก็คงไม่ทำให้เกิดปัญหาพวกนี้
แต่เรื่องราวได้เกิดขึ้นแล้ว ต่อให้โทษตัวเองมากแค่ไหนก็ไม่ช่วยอะไร!
มีวิธีใดที่จะย้อนกระแสน้ำกลับบ้าง?
จดหมาย จดหมายที่พ่อเอากลับมา อาจช่วยคนในครอบครัวได้
“คุณพ่อคะ คุณพ่อเอาจดหมายไปไว้ไหนแล้ว?” ซูเสี่ยวเถียนดึงแขนเสื้อซูเหล่าซาน แล้วกระซิบถาม
“จดหมายเหรอ? จดหมายอะไร?” ชัดเจนเลยว่าซูเหล่าซานกำลังสับสนมาก เดิมทีไม่ได้นึกถึงเลยว่าจดหมายที่เสี่ยวเถียนว่าจะทำให้เกิดเรื่อง