บทที่ 29 ท่านอา
กลุ่มคนที่รวมตัวกันมองฝูงปลาเริ่มเบิกตากว้างขึ้น
มีคนถูๆ ดวงตาและพูดว่า “มีอะไรอยู่ใต้น้ำหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่ว่ามีแต่ปลางั้นหรือ?”
“ไม่…ดูเหมือนมีอะไรบางอย่าง นายดู มีฟองด้วย…”
ฟองเริ่มผุดขึ้นมาจากใต้น้ำ ส่วนในตอนนี้ฝูงปลาในแม่น้ำก็ยิ่งดูบ้าคลั่งจนกระโดดออกมาจากน้ำ!
“อา…ดูเหมือนมีอะไรอยู่จริงๆ…หนีเร็ว!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้น! เห็นเพียงผิวน้ำเรียบพลันนูนขึ้นราวกับว่ามีของบางอย่างพุ่งขึ้นมา! ครู่หนึ่งหลังจากแม่น้ำเพิ่งนูนขึ้นมา ก็เหมือนมีภูเขาไฟปะทุ แท่งน้ำขนาดใหญ่พุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้า!
เสาน้ำที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าสาดกระเซ็นขึ้นไปบนฝั่ง ขับไล่ฝูงคนออกไป!
อากาศในตอนนี้เต็มไปด้วยกลิ่นของแม่น้ำและไอน้ำ แม้แต่ปลาที่ว่ายอยู่ในแม่น้ำก็ถูกดันขึ้นมาด้วย
รอจนเสาน้ำหายไป แม่น้ำค่อยๆ กลับคืนสู่ความสงบ แต่ก็ยังขุ่นมาก
“นี่…เกิดอะไรขึ้นใต้น้ำกัน? ท่อแก๊สระเบิดหรือไง? ที่นี่มีท่อแก๊สอยู่ด้วยเหรอ?”
“ไม่รู้ แต่ช่างมันเถอะ…รีบเก็บปลากัน!”
สำหรับชาวบ้านแล้ว นี่เป็นปลาที่ตกลงมาจากฟ้า…ปลาแม่น้ำสดๆ ดิ้นอยู่เต็มพื้นไปหมด!
ชั่วขณะนั้นก็มีคนรีบเก็บปลาเหล่านั้นขึ้นมา และก็มีคนดูแคลนกับการกระทำนั้น เสี่ยงที่จะเปียกไปทั้งตัวงั้นหรือ ไม่รู้ว่าจะยังมีมาอีกรอบไหม มีบางพวกยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายแม่น้ำขุ่นรอเหตุการณ์แปลกประหลาดให้เกิดขึ้นอีกครั้งและพูดคุยกันถึงสาเหตุ
เพียงแต่แม่น้ำขุ่นเกินไปจนไม่มีใครมองเห็นได้ว่ามีอะไรกันแน่
…
น้ำไหลเข้าไปในผนึกจุดที่สองอย่างบ้าคลั่ง หลังจากแสงหลากสีเปล่งประกายออกมา ปากทางเข้าถ้ำก็ขยายออกหลายเท่าตัวกลายเป็นทางเข้าขนาดใหญ่!
น้ำไหลเข้ามาท่วมสองเท้าของเซียงหลิ่วและคุกในพริบตา
สีหน้าของทั้งสองคนซีดขาวลง เซียงหลิ่วกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง…แล้วก็กระอักเลือดออกมาอีกเหมือนจะหยุดไม่ได้
ส่วนคุกก็มองไปที่หอกแห่งความตายในมืออย่างเคร่งเครียด…ปลายหอกเกิดรอยบิ่น!
รอยบิ่นรอยหนึ่ง!
หอกแห่งความตายสืบทอดต่อๆ กันมานานหลายปี ไม่เคยมีบันทึกว่าเสียหายมาก่อน ตอนนี้กลับปรากฏรอยบิ่นในมือเขา!
“นั่น…คืออะไร?” คุกค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา
ตอนนี้ซูจื่อจวินลอยผมสยายอยู่กลางอากาศ กางมือออก พลังปีศาจสีแดงเข้มขยับเคลื่อนอยู่รอบกายของเธอดุจดั่งคลื่นอันบ้าคลั่ง…แต่สีหน้าของเธอกลับดูแย่มาก
ส่วนตรงหน้าของซูจื่อจวินก็มีกระบี่เปล่งประกายสีสันสดใสอยู่เล่มหนึ่ง!
คุกเคยเห็นกระบี่มามากมาย…แต่มีเพียงกระบี่เล่มนี้เล่มเดียวที่เขายอมศิโรราบ!
เป็นความรู้สึกเหมือนเผชิญหน้ากับราชาและต้องคุกเข่ากราบไหว้!
เพราะหอกแห่งความตายในมือ เขาถึงสามารถต่อต้านแรงกระตุ้นภายในร่างกายได้!
“แผ่นดินเทพ…ไม่ใช่ เป็นอาวุธเทพที่แข็งแกร่งที่สุดในเก้าแผ่นดินโบราณเลยต่างหาก…กระบี่เซวียนหยวน!” ในที่สุดเซียงหลิ่วก็หยุดกระอักเลือด ใบหน้าเต็มไปด้วยความแตกตื่น “คิดไม่ถึง…ว่านางจะเรียกมันออกมาได้!”
“กระบี่…เซวียนหยวน?” คุกขมวดคิ้วแน่น
เซียงหลิ่วหรี่ตาลงพูดอย่างอ่อนแรงว่า “รู้สึกอยากกราบไหว้หรือไม่? นี่คืออำนาจของกระบี่เซวียนหยวน…เพราะว่ามันคือกระบี่ของจักรพรรดิ! กระบี่จักรพรรดิ! คุก ข้าไม่รู้ว่าหอกมารของเจ้ามีที่มาอย่างไร แต่ข้าแน่ใจว่าหากหอกมารของเจ้าอยู่ต่อหน้ากระบี่เซวียนหยวนก็ได้แต่อับแสง!”
คุกสบถออกมา
เซียงหลิ่วกัดฟัน “เจ้าไม่ได้ยินเสียงหอกมารของเจ้ากำลังคร่ำคราญอย่างนั้นหรือ?”
ทำไมถึงคร่ำคราญ?
หอกแห่งความตายเหมือนมีความรู้สึกเป็นของตนเองซึ่งกำลังสั่นไม่หยุด!
คุกสูดหายใจเข้าลึกๆ กุมหอกแห่งความตายแน่นเพื่อพยุงตนเองขึ้นมา ก่อนกรีดมือของตนเองด้วยปลายทวนจนเลือดไหลเป็นทาง!
“เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“แทงเธอ” คุกตอบอย่างเย็นชา
แต่เซียงหลิ่วกลับลุกพรวดขึ้นมา “อย่าเชียวนะ! ซูจื่อจวินไม่ได้อยู่ในร่างของราชวงศ์เซวียนหยวนแล้ว! กระบี่เซวียนหยวนเป็นคู่ปรับของปีศาจทั้งมวล ตอนนี้นางฝืนเรียกมันออกมา…เจ้ามองไม่เห็นสถานการณ์ของนางในตอนนี้งั้นหรือ?”
“ฉันถึงต้องฉวยโอกาสไงล่ะ!” คุกรีบตัดสินใจ
เซียงหลิ่วพูดอย่างโมโหว่า “นอกจากราชวงศ์เซวียนหยวนแล้วก็ไม่มีใครควบคุมกระบี่เซวียนหยวนได้! พลังของมันไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะคาดเดาได้! เผ่าเซียงหลิ่วของข้าเล่าสืบต่อกันมาว่าพลังอำนาจของกระบี่เซวียนหยวนนั้นสามารถทำลายฟ้าดินได้! หากเจ้าฆ่านางในตอนนี้ หากกระบี่เซวียนหยวนจะหลุดออกจากการควบคุม ถึงตอนนั้นไม่ต้องพูดถึงเส้นสายพลังวิญญาณแล้ว แม้แต่พวกเราก็ไม่มีทางรอดออกไปจากที่นี่ได้!”
“งั้นนายว่าจะทำยังไง?” คุกหยุดมือ
เซียงหลิ่วขมวดคิ้วและพูดว่า “ตอนที่กระบี่เซวียนหยวนปรากฏตัวออกมาและระเบิดพลัง นางได้เสี่ยงเบี่ยงเบนพลังของมันออกไปยังแม่น้ำด้านนอกถึงฝืนคุ้มครองผนึกในถ้ำนี้ได้…ดูจากท่าทีแล้ว เกรงว่าซูจื่อจวินคงฝืนได้ไม่นาน พวกเรารีบหนีออกจากที่นี่กันเถอะ! ถ้าหากซูจื่อจวินควบคุมไม่ไหวแล้วกระบี่เซวียนหยวนระเบิดพลังออกมาอีก ผนึกของที่นี่ก็จะเสียหายเช่นกัน…ตอนนี้พวกเราไปจุดผนึกที่สาม! ท้ายที่สุดจะเอาเส้นสายพลังวิญญาณมาได้หรือไม่ก็ดูที่โชคชะตาแล้วกัน!”
คุกขมวดคิ้ว สุดท้ายก็พยักหน้าพูดอย่างไม่ยินยอมว่า “เอาเถอะ”
เขาสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของกระบี่เซวียนหยวนหลากสีสันเล่มนี้
บางทีอาจจะเป็นเขาคิดไปเอง หลังจากที่เขาปล่อยวางความคิดจะต่อสู้แล้ว หอกแห่งความตายก็เหมือนจะส่งความรู้สึกผ่อนคลายออกมา
อาศัยช่วงเวลาก่อนที่น้ำจะไหลเข้าไปทั้งหมด เซียงหลิ่วก็ดึงคุกลอยออกไปทางสะดือแม่น้ำ
ซูจื่อจวินมองเห็นทุกอย่าง…แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย
กระบี่เซวียนหยวนตรงหน้าเป็นเหมือนภูเขาไฟที่พร้อมจะปะทุได้ตลอดเวลา ส่วนเธอนั้นก็เป็นเพียงชั้นฟิล์มบางๆ ที่โอบคลุมภูเขาไฟขนาดใหญ่นี้เอาไว้ แล้วยังพร้อมแหลกสลายได้ตลอดเวลาเช่นกัน
เลือดค่อยๆ ไหลออกจากทวารทั้งห้าของซูจื่อจวิน ทำให้เธอเข้าใจคำว่า ‘ตนเองทำตนเอง’ ได้อย่างลึกซึ้ง…บางทีอาจจะเป็นเหมือนอย่างที่เซียงหลิ่วพูด ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความเป็นความตายของเผ่าปีศาจ ใครจะทำสงครามที่ไหนก็ปล่อยไป หากทำเช่นนั้นเธออาจจะไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ก็ได้
“เซวียนหยวน…เจ้ารู้หรือไม่ว่าหากเจ้าขับเลือดปีศาจในตัวข้าออกแล้วข้าจะตายในทันที? หรือเจ้าคิดว่ายังสามารถไปหาเจ้านายของเจ้าในนรกได้อีก?” ซูจื่อจวินกระอักเลือดออกมา ยิ้มอย่างขมขื่นมองกระบี่เซวียนหยวนเล่มนี้
แต่พลังก็ยังปะทุออกมามากและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ซูจื่อจวินยิ้มเยาะ…คิดไม่ถึงว่าจะเป็นการทำร้ายตนเองอย่างที่เซียงหลิ่วพูดจริงๆ!
“แต่ก็ขออย่าเป็นที่นี่เลย…”
ซูจื่อจวินมองลงไปใต้พื้น หากกระบี่เซวียนหยวนระเบิดพลังอยู่ที่นี่จริงๆ แล้วละก็ ลั่วเพียนเซียนที่กำลังวิวัฒนาการอยู่ใต้ดินก็จะ…
มีเพียงยายเด็กคนนี้เท่านั้นที่ซูจื่อจวินไม่อยากเห็นเธอตายอยู่ที่นี่อย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ซูจื่อจวินกัดฟัน เงยหน้าจ้องไปด้านบนของถ้ำ…ถ้าหากชักนำพลังที่กระบี่เซวียนหยวนระเบิดออกมาขึ้นไปบนพื้นดินล่ะ
ในใจของทุกคนล้วนแล้วแต่มีตาชั่ง…และตอนนี้ตาชั่งของซูจื่อจวินก็เอนเอียงไปด้านหนึ่ง
“ยายเฒ่า…หากจะตามหาข้าเพื่อคิดบัญชีก็รอหลังเจ้าตายเถอะ”
ซูจื่อจวินร้องไห้เป็นสายเลือด ทันใดนั้นก็ตะโกนลั่น พร้อมกับลากกระบี่เซวียนหยวน แล้วลอยขึ้นไปด้านบน!
“ตอนนี้ข้ามาคิดบัญชีแล้ว!”
ท่ามกลางเสียงสายน้ำก็มีเสียงโมโหสายหนึ่งดังแทรกขึ้นมา เหมือนมิติกำลังบิดเบี้ยวตรงบริเวณมุมของถ้ำ…เงาร่างสายหนึ่งพุ่งออกมาจากมิติที่บิดเบี้ยวนั้น
มาจนถึงตรงหน้าของซูจื่อจวิน
“ยายเฒ่า…”
“อย่าพูดไร้สาระ! ข้าจะควบคุมกระบี่เซวียนหยวนให้เจ้า! เจ้ารีบเตะมันกลับไป!” หลงซีรั่วพูดจากนั้นก็ใช้สองมือจับบนคมกระบี่เซวียนหยวน!
“ได้!”
ชั่วขณะนั้นนัยน์ตาของหลงซีรั่วก็เปลี่ยนเป็นสีทองบริสุทธิ์ บนสองมือมีเกล็ดสีทองปรากฏออกมา บนหน้าผากก็เกิดเขามังกรงอกยาวออกมาสองเขา
“กระบี่เซวียนหยวน! ข้าคุ้มครองแผ่นดินเทพ ข้าคุ้มครองประชาชนบนแผ่นดินเทพ…อย่าต่อต้านข้า! จงสงบเดี๋ยวนี้!”
เกล็ดมังกรที่ปกคลุมมือทั้งสองถูกคมกระบี่ทำลาย ทำให้เลือดสีทองอาบชโลมบนคมกระบี่เซวียนหยวน
เป็นเหมือนกับผนึกที่ค่อยๆ ปกคลุมแสงหลากสีเอาไว้!
สีหน้าของหลงซีรั่วเปลี่ยนเป็นขาวซีดในพริบตา!
ในตอนนี้ซูจื่อจวินใช้สองมือจับด้ามกระบี่และพยายามเก็บพลังปีศาจของตนเอง!
ทั้งสองคนค่อยๆ ตกลงมา น้ำที่ไหลเข้ามาเริ่มหมุน สุดท้ายก็กลายเป็นเหมือนพายุหมุนและเผยบริเวณที่สะอาดจุดหนึ่งออกมา! ซูจื่อจวินใช้สองมือกุมด้ามกระบี่แล้วค่อยๆ แทงกระบี่ลงไปในดิน
ทั้งสองคนตั้งอกตั้งใจจดจ่อกับมันอย่างเต็มที่ ด้วยกลัวว่าจะเกิดความผิดพลาดขึ้น เพียงเวลาไม่กี่วินาทีก็ให้เหงื่อออกชื้นเต็มหลัง!
ในที่สุดกระบี่เซวียนหยวนอันแข็งแกร่งที่สุดในเก้าแผ่นดินโบราณก็แทงเข้าไปในพื้นดินอย่างสมบูรณ์…และหายไปอย่างไร้ร่องรอยในพริบตา!
ซูจื่อจวินกับหลงซีรั่วล้มลงกับพื้นพร้อมกัน หลงซีรั่วเช็ดเหงื่อ พูดอย่างหวาดหวั่นว่า “เกือบไปแล้ว หากข้ามาช้าไปครึ่งก้าว ไม่รู้ใครจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องในครั้งนี้!”
พูดแล้วหลงซีรั่วก็ถลึงตามองซูจื่อจวินแวบหนึ่งแล้วพูดอย่างโมโหว่า “เด็กน้อย! หัวของเจ้าถูกประตูหนีบมาหรือไง? ทำไมเจ้าถึงกล้าเรียกกระบี่เซวียนหยวนออกมา?”
“ก่อนหน้านั้น เจ้าช่วยสวมเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?” ซูจื่อจวินพูดออกไปอย่างไร้อารมณ์ แต่สายตากลับฉายแววซาบซึ้งใจ
หลงซีรั่วได้ยินแล้วก็ยิ่งโมโห “เจ้ายังจะสนใจเสื้อผ้าอีกงั้นหรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าอยู่ที่ไหน? เมื่อสัมผัสได้ว่าเจ้าเรียกกระบี่เซวียนหยวนออกมา ข้าก็ใช้เลือดมังกรรีบมาในทันทีเลยนะรู้ไหม!”
“ทะลวงขอบฟ้า…วิชาลับของมังกร” ซูจื่อจวินยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดเบาๆ ว่า “นับรวมเรื่องที่ช่วยข้าควบคุมกระบี่เซวี่ยนหยวนจนลมปราณหยวนชี่ของท่านได้รับบาดเจ็บหนัก ข้าต้องขอโทษด้วย…ท่านอา”
“เจ้าก็รู้ดีนี่!”
หลงซีรั่วสูดหายใจเข้าลึกๆ ความโมโหคลายลงไปครึ่งหนึ่งแล้ว จึงส่ายหน้าพูดว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมถึงมาอยู่บริเวณจุดผนึกได้?”
“เซียงหลิ่วกลับมาแล้ว” ซูจื่อจวินพูดอย่างเคร่งขรึม
“อะไรนะ?” หลงซีรั่วขมวดคิ้ว แต่พริบตาเดียวหลงซีรั่วก็กระอักเลือดออกมาใส่หน้าของซูจื่อจวิน
บริเวณหน้าอกของเธอเหมือนถูกของบางอย่างแทงทะลุ…มันเป็นสีน้ำตาลอมแดง เป็นของที่เหมือนกับกิ่งไม้!
…ไม่รู้ว่ามีก้อนเนื้อขนาดใหญ่ปนมากับสายน้ำที่ไหลเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่…