เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 378 จะมาโทษหนูไม่ได้นะ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 378 จะมาโทษหนูไม่ได้นะ

บทที่ 378 จะมาโทษหนูไม่ได้นะ

เธอไม่เคยด่าใครมาก่อน เลยไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเสี่ยวเถียนเลย แถมมือที่ชี้หน้าก็ยังสั่นระริกจนคนโดนชี้ขมวดคิ้ว ก่อนมือนั่นจะโดนตบลงเบา ๆ

“ถ้าไม่อยากโดนด่าก็อย่าไปทำร้ายคนอื่นเขาอีกนะ เข้าใจไหม?”

สิ้นประโยค คนรอบ ๆ ก็หัวเราะออกมา

เสี่ยวเถียนร้ายจริง ๆ

หลิวเสี่ยวหงหน้าแดงจัด ทนไม่ไหวแล้วแล้วจริง ๆ

เธอแค่พูดเฉย ๆ เอง แล้วทำไมถึงโดนเสี่ยวเถียนทำถึงขนาดนี้ด้วยล่ะ?

ซ่งหลิงหลิงด่าแค่ประโยคเดียว แล้วเสี่ยวเถียนล่ะ? ทำไมด่าเยอะแบบนั้น?

แถมคำพูดคำจายังไม่น่าพิสมัย เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิตเลย

ต่อให้เป็นคนมีความสามารถก็ใช่ว่าจะทนได้

แต่ถึงหลิวเสี่ยวหงจะเป็นเด็กสาวทรงพลังมากแค่ไหน แต่โดนดูถูกถึงขนาดนี้ก็เสียใจมากจนเกือบร้องไห้

ยิ่งเห็นท่าทางของเสี่ยวเถียนก็ยิ่งโกรธมากขึ้น

เธอทำแบบนี้ได้อย่างไร?

หลิวเสี่ยวหงก้าวเข้าไปหาหมายจะข่วนใส่

แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยืนขึ้นอย่างรวดเร็วและหมุนตัวหลบ

“ดูเธอสิ พอทนไม่ไหวก็ลงมือใส่ นี่คิดจะทำร้ายกันหรือ? หลิวเสี่ยวหง เรื่องระหว่างฉันกับซ่งหลิงหลิงมันไม่ได้เกี่ยวกับเธอเลย แต่เธอกลับเข้ามาขวางแบบนี้มันเรียกว่าหน้าด้านนะ เข้าใจไหม?”

สิ้นเสียง ทุกคนโดยรอบไม่กล้าพูดอะไรสักคำ

โดนด่าอย่างไม่มีเหตุผลก็ว่าพอแล้วนะ แล้วยังลงมืออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอีก

อืม… ไอ้เรื่องด่าก็ไม่ได้อยู่ในการคิดคำนวณเหมือนกัน สุดท้ายเสี่ยวเถียนก็ด่าคนอื่นแรงจริง ๆ นั่นแหละ คนที่ไหนจะไปทนได้

หลิวเสี่ยวหงหลั่งน้ำตา รู้สึกน้อยใจกับชีวิตมาก และซ่งหลิงหลิงห็เหมือนจะตอบสนองขึ้นมาได้

เธอรีบก้าวออกมายืนเบื้องหน้าเสี่ยวหง “ซูเสี่ยวเถียน เธอระบายความโกรธใส่คนอื่นแบบนี้ได้ยังไง? เสี่ยวหงยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ทำไมเธอต้องด่ากันแรงขนาดนี้ด้วย?”

เสี่ยวเถียนยิ้ม น้ำเสียงดีจริง ๆ !

พูดจาเป็นเรื่องเป็นราว

“ที่จริงฉันกับเธอก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันด้วยนะ เธอจะชอบใครมันก็เรื่องของเธอ ไม่ต้องห่วงหรอกนะ คนที่เธอชอบฉันไม่มีทางชอบแน่นอน!” พูดจบก็กระตุกยิ้มมุมปาก

ซ่งหลิงหลิงที่โดนจี้ใจดำก็โกธรมาก ไม่เต็มใจยอมรับว่าตนชอบตู้หย่งเฮ่อต่อหน้าผู้คนมากมาย

ส่วนตู้หย่งเฮ่อเป็นคนที่ไม่สนใจอะไรเลย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าทำไมเด็กสองคนนี้ถึงทะเลาะกัน

เสี่ยวปาปรบมือ “ฮ่า ๆ เสี่ยวเถียน วันนี้มือน้องมีเมตตาอยู่นะ!”

ถึงปากจะไม่มีก็ตาม แต่มือยังมีอยู่

ไม่งั้นซ่งหลิงหลิงน่าจะฟันร่วงไปครึ่งปากแล้ว

เพื่อนรอบ ๆ ต่างเข้าใจความหมายนั้นอย่างดี

จะบอกว่าเสี่ยวเถียนยังไม่ได้ใช้แรงทั้งหมดหรือ?

เป็นไปได้อย่างไร ทั้งตบทั้งด่า แถมยังออมแรงด้วย?

ซูเสี่ยวเถียนเป็นคนแปลกแบบไหนกัน?

เรียนเก่ง เอะอะก็ลงมือตบคน แถมด่าคนอย่างไหลลื่นอีก

ไม่รู้ที่เสี่ยวปาพูดว่าเมตตามันหมายถึงเรื่องที่ตบหรือด่ากันแน่

“น้องสาวนายเมตตาแล้วหรือ?”

คนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเสี่ยวปารีบลดเสียงถาม

ถ้าเสี่ยวเถียนเป็นคนชอบใช้ความรุนแรงจริง ๆ จากนี้จะอยู่ให้ห่างแล้ว เพราะไม่รู้ว่าจะโดนตบเมื่อไร

“แน่นอนสิ!

เสี่ยวปาทำราวกับได้รับเกียรติจากเรื่องนี้มาก แววตาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

“สองปีก่อนน้องสาวฉันยังต่อยกับผู้ชายตัวใหญ่คนหนึ่งจนลุกไม่ขึ้นด้วย พวกนายคงไม่รู้หรอกว่าตอนที่น้องฉันต่อยมันเท่มากเลยนะ!”

ทัศนคติทั้งสาม*[1] ของคนรอบข้างแตกเป็นฝอย แบบนี้ก็ได้ด้วยหรือ?

การตบคนมันเป็นเรื่องน่าอวดหรือ? เท่มาก?

ซูเสี่ยวเถียนน่ะนะ?

ทุกคนแทบไม่เชื่อ

เพราะใบหน้าที่อ่อนโยนกำลังหลอกคนอื่นเข้าเต็มเปา

“นายกำลังหลอกกันอยู่หรือเปล่าเนี่ย?”

“ทำไมฉันต้องหลอกด้วยล่ะ? ไม่งั้นไปลองหน่อยไหม?” เสี่ยวปาจ้องเพื่อนแล้วถามด้วยความโกรธ

อีกฝ่ายเข้าใจดีแล้ว และส่ายหัวอย่างไว

ช่างเถอะ เขาไม่อยากลองแล้ว!

เสี่ยวจิ่วกล่าวต่อ “ตอนนั้นพวกเราคิดจะร่วมวงด้วย แต่เสี่ยวเถียนแค่คนเดียวเราก็เลยไม่ได้ออกโรงเลย”

เพื่อน ๆ ถอยกรูดออกไป คนพวกนี้มันเป็นคนอย่างไรเนี่ย?

พอไม่เห็นด้วยก็ต่อยคน?

แถมยังรวมกันสามคนอีก?

“ที่จริงพวกเราก็เป็นเพื่อนร่วมห้องกันนะ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะ?” บางคนเอ่ยเสียงสั่นเทา

คนอื่น ๆ เริ่มคิดแล้วว่าเผลอทำพี่น้องบ้านซูไม่พอใจช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านหรือเปล่า

“คนที่โดนต่อยก็แสดงความรู้สึกออกมานะ พวกนายคงไม่รู้หรอกว่าเขากลายเป็นแฟนตัวยงของน้องสาวฉันด้วย โชคดีที่เขาไม่รู้ว่าเราย้ายมานี่แล้ว ถ้ารู้คงร้องไห้ตายแน่!” เสี่ยวปาเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ

เสี่ยวเถียนมองพี่ชายด้วยความรังเกียจ ไม่ได้เรื่องเลย

ทำไมต้องเจอพี่ที่พึ่งพาไม่ได้ขนาดนี้ด้วยนะ?

การต่อยคนมันเป็นเรื่องไม่ดีนะ เข้าใจไหมเนี่ย?

ซ่งหลิงหลิงตกใจมาก ไม่คิดเลยว่าเสี่ยวเถียนจะเป็นพวกเอะอะก็เริ่มต่อยคนแบบนี้

นี่ดีจริง ๆ หรือ?

“ซูเสี่ยวเถียน คนอย่างเธอไม่เหมาะที่จะอยู่โรงเรียนมัธยมอันดับเจ็ดเลย เธอทำลายจิตวิญญาณของโรงเรียนเราไม่ได้นะ!”

เสี่ยวเถียนเดาะลิ้น “หลักการที่ฉันยึดมั่นมาเสมอคือ ผู้ใดไม่รุกรานฉัน ฉันก็ไม่รุกรานผู้นั้น!”

ยังไม่ทันจะพูดจบ ครูก็เดินถือกระดาษข้อสอบเข้ามา

เขาคิดว่าเด็ก ๆ น่าจะนั่งรอที่โต๊ะรอด้วยสีหน้ากังวลสิ แล้วทำไมบรรยากาศมันแปลก ๆ แบบนี้ล่ะ?

โดยเฉพาะนักเรียนที่ชื่อซ่งหลิงหลิง เอามือกุมหน้าตัวเองทำไมน่ะ?

ปวดฟันหรือ?

ครูฮวางไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นก่อนการสอบแบบนี้

“ครูฮวางคะ ซูเสี่ยวเถียนตบคนแถมยังด่าอีกด้วยค่ะ!” ในที่สุดซ่งหลิงหลิงก็ทนไม่ได้อีกต่อไป

พอฮวางเหวินป่ายได้ยินเช่นนั้นก็ไม่เชื่อ

ถ้าคนอื่นตบยังพอว่า แต่เสี่ยวเถียนตบเนี่ย ใครมันจะเชื่อ!

“นักเรียนซ่งหลิงหลิง เธอต้องมีหลักฐานที่พูดน่ะ จะพูดขึ้นมาเฉย ๆ ไม่ได้!” ฮวางเหวินป่ายคิดในใจทว่าก็เอ่ยออกมาอยู่ดี

และเธอไม่คิดว่าครูจะพูดแบบนี้

“จริง ๆ นะคะครูฮวาง แผลบนหน้าหนู เสี่ยวเถียนเป็นคนทำ แถมยังด่าหลิวเสี่ยวหงจนเขาร้องไห้ด้วย!” ซ่งหลิงหลิงรีบหมุนตัวให้ดี แล้วก็ให้ครูเห็นเสี่ยวหงที่ร้องไห้ด้วย

และเมื่อหลิวเสี่ยวหงได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกคับข้องใจกว่าเดิม

ครูฮวางผงะ จากนั้นก็มองเสี่ยวเถียน สายตาชัดเจนมากเหมือนจะถามอีกครั้งว่าที่พูดน่ะจริงหรือเปล่า

เสี่ยวเถียนยักไหล่อย่างไม่แยแส “หนูทำจริง ๆ ค่ะครูฮวาง แต่จะมาโทษหนูไม่ได้นะ!”

ครูฮวางใจหายวาบ

เสี่ยวเถียนยอมรับจริง ๆ หรือ?

แล้วมันเรื่องที่ตบหรือด่ากันแน่?

ถึงเสี่ยวเถียนจะสอบได้คะแนนดี แต่เพราะใช้ชีวิตอยู่บนเขาเลยมีความป่าเถื่อนอยู่?

ครูฮวางแทบจะปฏิเสธความคิดตัวเองในทันที

*[1] ทัศนคติทั้งสาม คือ ทัศนคติต่อโลก ทัศนคติต่อชีวิต และทัศนคติต่อคุณค่า

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท