เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 603 พึ่งพาคนอื่นเพื่อหาเงิน

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 603 พึ่งพาคนอื่นเพื่อหาเงิน

บทที่ 603 พึ่งพาคนอื่นเพื่อหาเงิน

หลี่จู้จื่อหารายได้จากการขายไข่

ในฐานะภรรยาของเขา เธอรู้ชัดว่าเราไม่ควรมองข้ามไข่พวกนั้นหรอกนะ

แค่สองปี ครอบครัวที่เคยมีฐานะยากจนเริ่มดีขึ้น ประกอบกับไข่ที่เสี่ยวเถียนเอามาให้ชิมก่อนหน้านี้ก็รสชาติดีจริง ๆ

เธอเริ่มคิดด้วยซ้ำว่าหากเอามาแปรรูปได้ และนำมาวางขายในร้าน จะต้องมีคนมาซื้อเยอะแยะแน่นอน

หากบอกว่าคิดแต่หาเงินก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง แต่เธอก็ยังมีความกังวลอยู่

“เสี่ยวเถียน ที่บ้านอามีทั้งคนแก่มีทั้งเด็ก ถ้าตัวอากับอาสี่ทำงานสองกันก็กลัวจะไม่มีคนดูแลพวกเขาน่ะ! อาพูดตรง ๆ นะ ที่จริงพวกเราวางแผนไว้ด้วยว่าจะให้อาสี่เดินทางไปหรงเฉิงด้วย”

สะใภ้จู้จื่อเอ่ยตรง ๆ เสี่ยวเถียนเป็นคนมีความคิด บางทีอาจให้คำแนะนำที่ดีกับเราได้

เด็กสาวยิ้มเมื่อรู้ว่าหลี่จู้จื่อมีความคิดเช่นนั้น

“งั้นก็ดีเลยค่ะ ถ้าอาสี่ได้ลองไปขายของที่หรงเฉิงสักสองสามครั้งเขาจะหาเงินได้เยอะกว่าขายที่นี่อีก ชีวิตของพวกคุณจะดีขึ้นทันตาเห็นเลยค่ะอาสะใภ้”

แต่ละยุคสมัยก็มีวิธีการหาเงินที่แตกต่างกันไป สิบปีหลังจากนี้ถ้าลองมาทำแบบเดียวกันได้เงินไม่เท่าหรอกนะ

แต่สองปีมานี้ การทำธุรกิจแบบซื้อของมาขายกลับไปกลับมาเป็นวิธีที่ได้กำไรที่ดีที่สุด รอจนกระทั่งทำได้เงินก้อนแรก ถึงตอนนั้นเราอยากจะเอาไปทำอะไรก็ได้ไม่ใช่หรือ?

“ถ้าสามีอาไป งั้นอาก็ต้องอยู่บ้านคอยดูแลคนที่เหลือจ้ะ ไม่งั้นดูแลไม่ไหว” เธอลำบากใจมาก

“งั้นให้อาสี่ไปหรงเฉิง ส่วนอาสะใภ้เปิดร้านในอำเภอสิคะ คุณตากับพวกน้องก็หิ้วไปอยู่ด้วยกันเลย อาจจะดีกว่าตอนนี้ก็ได้นะ?” เสี่ยวเถียนไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่มันน่าจะดีกว่าอยู่ที่หงซินหรือเปล่า?

สะใภ้จู้จื่อยิ้มอย่างขัดเขิน “ธุรกิจที่บ้านก็ไม่อยากทิ้งไปน่ะ!”

เพราะกลัวว่าเกิดสามีหมดตัวขึ้นมา ก็ยังดีที่มีธุรกิจตรงนี้อยู่

เสี่ยวเถียนคาดไม่ถึงว่าจะได้รับคำตอบเช่นนี้

ไม่แปลกใจที่คนที่นี่ค่อนข้างมีความคิดอนุรักษ์นิยม แต่น่ายกย่องที่สองสามีภรรยาหลี่คิดถึงตรงนี้ด้วย

“ที่จริงก็ใช่ว่าจะไม่มีทางหรอกนะคะ อาสะใภ้หาคนที่ไว้ใจได้ให้เขาไปรับของมา แต่ว่าอาจจะต้องให้ค่านายหน้าเขาสักหน่อยค่ะ” เสี่ยวเถียนเตือน

ไม่ว่าจะยุคไหน หากเราหาเงินด้วยตัวเองไม่มีทางได้เงินเยอะหรอกนะ วิธีที่ดีที่สุดคือรบกวนคนอื่นให้ช่วย

จ่ายเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้ได้กำไรมากขึ้น นี่คือวิธีการทำเงินที่แท้จริง

สะใภ้จู้จื่อไม่เคยคิดมาก่อนเลย ต้องทำแบบนี้ด้วยสินะ แต่คนอื่นจะเต็มใจทำหรือ? แทนที่จะช่วยเรา สู้ทำธุรกิจเองได้เงินเยอะกว่าอีกนะ

“เราจะมีกำไรได้ก็ต่อเมื่อมีคนทำค่ะ บางคนรับของมาก็จริง แต่ไม่ได้มีความสามารถในการขายทุกคนนะคะ”

เฝ้ามองจู้จื่อทำเงินมาสองสามปี ใครต่อใครก็อิจฉาทั้งนั้น แล้วก็มีคนทำตามด้วยนะ

แต่เพราะอีกฝ่ายคลำหาทางมานานหลายปีจึงมีเส้นสายอยู่บ้าง เลยทำให้ธุรกิจผ่านไปได้อย่างราบรื่น

ส่วนคนอื่นที่ไม่ได้มีเงื่อนไขแบบนี้ต่างก็ล้มเหลวทั้งนั้น บางคนพอจะรักษาเงินทุนได้บ้าง แต่บางคนก็เสียมันไปเลย

“เดี๋ยวขอปรึกษากับอาสี่ก่อนนะ แล้วจะให้คำตอบทีหลัง?”

เธอโดนล่อลวงเสียแล้ว แต่เรื่องในบ้านต้องปรึกษากันก่อน

ขณะที่กำลังจะตอบก็ได้ยินเสียงหลี่จู้จื่อพอดี

“มีเรื่องอะไรหรือถึงต้องปรึกษาฉัน” อีกฝ่ายเพิ่งกลับมาจากหาของป่ามา ตอนเข้าบ้านก็ได้ยินว่าภรรยามีเรื่องอยากจะคุยด้วย

ผู้เป็นภรรยาไม่ได้ปิดบังเสี่ยวเถียนและเอ่ยบอกเรื่องก่อนหน้านี้ให้ฟัง

หลี่จู้จื่อขบคิด “วันนี้ก็มีคนมาถามฉันเหมือนกัน เขาบอกว่าตอนนี้มีสินค้าอยู่ เลยเสนอขายให้ฉันในราคาที่เพิ่มมาสองเฟินน่ะ”

เสี่ยวเถียนไม่คิดเลยว่าจะเจอเรื่องบังเอิญเช่นนี้

เหมือนว่าจะไม่ค่อยมีคนรับซื้อของมาขายเท่าไรนะ

“แล้วอาสี่รับมาไหมคะ?” เสี่ยวเถียนถาม

“รับมาน่ะ ถึงจะแพงขึ้นมาสองเฟิน แต่เรายังได้กำไรอยู่ แล้วก็ไม่ต้องลำบากไปรับมาเองด้วย”

“แล้วคุณคิดเห็นด้วยกับเรื่องของเสี่ยวเถียนหรือเปล่า?” ภรรยาถาม

“เห็นด้วยอยู่แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เข้าอำเภอไปด้วย เราหาร้านก่อนแล้วกัน”

ตอนนี้หลี่จู้จื่อตื่นเต้นมาก และเตรียมตัวเข้าสู้การหาร้านค้าทันที

เสี่ยวเถียนหัวเราะ แม่รองว่าเด็ดเดี่ยวแล้วนะ แต่อาจู้จื่อก็ไม่ต่างกัน

จากนั้นเธอก็บอกเรื่องส่วนแบ่งให้ทั้งสองรู้ด้วย

หลี่จู้จื่อเอ่ยเป็นคนแรก “สมเหตุสมผลอยู่แล้วสิ ว่าแต่เสี่ยวเถียน 20% นี่ไม่น้อยไปหน่อยหรือ?”

เด็กสาวยิ้ม “หนูบอกแม่รองไว้ว่า 20% ค่ะ แล้วจะเอาจากพวกอามากกว่าได้ยังไงกันคะ?”

คนเป็นอาหัวเราะลั่น ฝ่ายภรรยาเองก็เช่นกัน

นี่คือความรู้สึกของการเป็นครอบครัวเดียวกันสินะ

“เสี่ยวเถียน งั้นอาสี่ไม่เกรงใจแล้วนะ”

หลังจากนี้ต้องเตรียมสินสอดไว้ให้เสี่ยวเถียนแล้ว ไว้ตอนนั้นค่อยว่ากัน

เรื่องในวันนี้เป็นอันจบ คืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เช้าวันรุ่งขึ้น กลุ่มเราออกเดินทาง

ซูฉางจิ่วเห็นพวกเขาออกจากกองชุมชนอย่างมีความสุขจากไกล ๆ ภายในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเป

เรื่องดี ๆ ที่เสี่ยวเถียนคิดเพื่อพวกเรา

แต่ดันเสียไปเพราะความโง่เขลาของสะใภ้

และหลี่จู้จื่อก็ได้มันไปโดยไม่ต้องลงแรงอะไรเลย นี่คือโชคชะตาสินะ บ้านเราไม่มีใครไขว่คว้าโชคเสี่ยวเถียนได้เลย

ตอนเดินทางมาถึงอำเภอ เรายังมีเวลาสี่ชั่วโมงก่อนจะถึงเวลานั่งรถไฟเข้าตัวเมืองมณฑล

ทุกคนพร้อมใจกันคิดว่าไม่ควรปล่อยเวลาให้สูญเปล่าจึงช่วยสองสามีภรรยาหลี่ตามหาร้านค้า

ในยุคนี้ไม่ค่อยมีใครยินดีขายให้เท่าไรหรอก

เฟ้นหาจนทั่วแต่ไม่มีใครยินยอมเลยสักคน

เราหานานกว่าชั่วโมงก่อนจะพบกับครอบครัวหนึ่งที่ต้องการจะขายพอดี

มันเป็นลานบ้านแห่งหนึ่ง มีเรือนหลักสาม เรือนขนาบข้างสอง แล้วก็มีเรือนที่เป็นหน้าร้านอีกสอง

ฝ่ายภรรยาลังเลเมื่อเจ้าของไม่ได้คิดจะให้เช่า แต่จะขายให้เราแทน

แม้จะพอมีเงินอยู่บ้างแต่มันไว้เป็นเงินสำรองสำหรับธุรกิจสามี

และถ้าเราซื้อมัน จู้จื่อจะมีเงินทุนสำหรับทำธุรกิจน้อยมาก และยิ่งเขาต้องเทียวไปหรงเฉิงอีก เงินที่ได้รับก็จะน้อยลงไปด้วย ไม่คุ้มเสียเลย

“เราซื้อกันเถอะ โชคดีที่เป็นบ้านแบบมีกิจการร้านค้านะ!” หลี่จู้จื่อเอ่ยยามมองสีหน้าลำบากใจนั่น

เราไม่มีบ้านเป็นของตัวเองในอำเภอเลย และไม่ใช่ว่าจะสะดวกเสมอไปด้วย

การที่สะใภ้จะต้องอยู่ที่นี้กับพ่อและลูกๆ อีกทั้งพวกเขายังไม่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ดี การได้ลานบ้านหลังนี้มาจะเป็นการดีที่สุด

คนที่ขายบ้านหลังนี้เป็นชายชรา ดูเหมือนเพิ่งอายุหกสิบ

“พ่อหนุ่ม ถ้าตาแก่อย่างฉันไม่ได้ไปอยู่ที่อื่นเล่าก็ คงไม่คิดขายลานบ้านแห่งนี้เด็ดขาด ไม่ใช่แค่ราคา 200 หยวนเท่านั้นนะ พ้นหมู่บ้านนี้ไป ก็ไม่มีร้านแบบนี้แล้วล่ะ!”

น้ำเสียงของชายชราจริงใจมาก

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท