บทที่ 628 แม่จอมเผด็จการ
บทที่ 628 แม่จอมเผด็จการ
“สวัสดีพวกเรามาคุยกันหน่อยได้ไหม?” ใบหน้าของอวี๋ซีเยว่หยิ่งยโส
สาวน้อยคนนี้ได้ยินว่าเรียนได้ไม่เลว ทั้งยังหน้าตาดีมาก แต่ถึงอย่างไรก็เป็นแค่สาวบ้านนอก ครอบครัวไม่มีภูมิหลังอะไรไม่สามารถมาช่วยอะไรฉืออี้หย่วนได้
ซูเสี่ยวเถียนชี้ไปยังซูเสี่ยวปาและซูเสี่ยวจิ่วที่กำลังรออยู่ด้านหนึ่ง ในเมื่ออีกฝ่ายมาหาแล้วก็ต้องพูดอะไรสักหน่อย
ซูเสี่ยวปาและซูเสี่ยจิ่วมองอวี๋ซีเยว่ พวกเขาไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ ถึงขั้นที่พวกเขาไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้ติดต่อกับซูเสี่ยวเถียนมากนัก
แต่เสี่ยวเถียนตัดสินใจไปพูดกับผู้หญิงคนนี้พวกเขาก็พูดอะไรมากไม่ได้ ทำได้เพียงยืนรอซูเสี่ยวเถียนอยู่ไม่ไกลอย่างเงียบ ๆ
“คุณอวี๋คุณมีอะไรก็พูดได้เลยค่ะ!”
ซูเสี่ยวเถียนคิดเล็กน้อยเรื่องคำเรียกของคุณผู้หญิงคนนี้
เดิมทีเธอควรจะเรียกว่าป้าอวี๋ แต่เห็นได้ชัดว่าคุณผู้หญิงคนนี้คงไม่ยินยอมให้เธอเรียกว่าป้า เรื่องหน้าร้อนติดเย็น*[1] แบบนี้ซูเสี่ยวเถียนไม่อยากทำจริง ๆ
นอกจากคำว่าคุณอวี๋คงไม่มีคำที่เหมาะสมมากกว่านี้แล้ว
เพราะคำพูดนี้ของซูเสี่ยวเถียนใบหน้าของอวี๋ซีเยว่จึงแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
คำว่าคุณอวี๋คำนี้ทำให้เธอนึกถึงคำเรียกที่ฉืออี้หย่วนเรียกตนเมื่อวาน
ฉืออี้หย่วนเรียกเธอที่เป็นแม่ว่าคุณอวี๋ วันนี้นังหนูคนนี้ก็เรียกตัวเองว่าคุณอวี๋
“เด็กบ้านนอกช่างไร้กฎเกณฑ์เสียจริง!” อวี๋ซีเยว่พูดด้วยใบหน้าเย็นชา
“กฎเกณฑ์ย่อมมีค่ะ แต่กฎเกณฑ์ก็เหมาะสมกับผู้ที่รู้กฎเกณฑ์ค่ะ” ซูเสี่ยวเถียนยิ้มบางพลางพูด
อวี๋ซีเยว่สำลักพลางกล่าว “ปากคอเราะร้าย!”
“คุณอวี๋ถ้าคุณไม่มีเรื่องอื่นจะพูดแล้วจนมาตำหนิกฎเกณฑ์ของหนู งั้นหนูขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ คุณก็รู้ว่าปีนี้หนูต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยจึงต้องรีบเรียนค่ะ!”
ซูเสี่ยวเถียนไม่สนใจจะเถียงกับอวี๋ซีเยว่ต่อจึงถือโอกาสเปิดปากพูดไปตามตรง
อวี๋ซีเยว่เปิดปากทันที “ฉันมาวันนี้เพราะอยากให้เธอออกห่างจากลูกชายฉัน!”
“หืม? ออกห่างหรือคะ? หนูไม่เข้าใจว่าคุณหมายความว่ายังไง?”
ซูเสี่ยวเถียนรู้สึกขำ อวี๋ซีเยว่คนนี้สมองโตหรืออย่างไร?
มาบอกให้เธอออกห่างจากฉืออี้หย่วน เธอคงคิดไปเองว่าเป็นแม่แล้วจะสามารถบงการลูกตัวเองได้ในยุคสมัยนี้ดูเหมือนจะยังไม่มีนิยายแนวประธานจอมเผด็จการไม่ใช่หรือ? หรือเธอเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง?
แต่เหมือนเธอจะเลือกเป้าหมายผิดไปหรือไม่?
เธอและฉืออี้หย่วนไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันคู่รัก!
“เธอรู้ว่าฉันหมายความว่ายังไง อย่ามาเสแสร้งเลย ต้องการเงินเท่าไหร่เธอถึงจะยอมออกห่างจากลูกชายฉัน?” อวี๋ซีเยว่พูดอย่างเย่อหยิ่ง
ซูเสี่ยวเถียนพ่นเสียงเย็นชาออกมา “คุณพูดแบบนี้ไม่เกรงใจลูกชายคุณแม้แต่น้อยเลยหรือคะ?”
ซูเสี่ยวเถียนดีใจที่คำพูดนี้ฉืออี้หย่วนไม่มาได้ยินเข้า
หากฉืออี้หย่วนได้ยินต้องเศร้าใจมากแน่!
เมื่อคิดว่าฉืออี้หย่วนจะต้องเสียใจเพราะเหตุผลนี้ซูเสี่ยวเถียนจึงยิ่งรังเกียจอวี๋ซีเยว่ ผู้หญิงคนนี้ทิ้งลูกชายมานานหลายปี พอกลับมาก็จะทำลายชีวิตลูกชายช่างมีความสามารถเสียจริง!
“ฉันจะเกรงใจลูกชายไหมเธอไม่ต้องมาสนใจหรอก เธอแค่บอกมาก็พอว่าต้องทำยังไงเธอถึงจะยอมออกห่างจากลูกชายของฉัน!” เห็นได้ชัดว่าอวี๋ซีเยว่หมดความอดทนแล้ว จึงพูดกับซูเสี่ยวเถียนด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ใบหน้าของซูเสี่ยวเถียนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “คุณก็ยังคิดถึงแต่ตัวเองจริง ๆ! คุณคิดว่าลูกชายคุณออกห่างจากคุณเพราะหนูหรือคะ? ดูเหมือนคุณจะไม่เคยใคร่ครวญดูเลยนะคะ ว่าลูกชายคุณถูกคุณทิ้งไปตั้งหลายปีก็ต้องรู้สึกเสียใจสิคะ!”
ความคิดนี้ไม่ใช่ว่าอวี๋ซีเยว่ไม่เคยคิด เพียงแต่เธอไม่อยากยอมรับ เธอไม่สามารถยอมรับเหตุผลนี้ได้
“พูดมาตามตรงเถอะถ้าเธอไม่เปิดปากตอนนี้ต่อไปจะไม่มีโอกาสแล้วนะ จะบอกตามตรงนะฉืออี้หย่วนฉันจะพาเขาไปแน่ อยู่ที่เยอรมนีเขาจะพัฒนาได้มากกว่า!”
ไม่กี่วันนี้ที่อวี๋ซีเยว่อยู่ในประเทศรู้สึกว่าที่นี่ล้าหลังแร้นแค้นจริง ๆ ใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่แบบนี้คนก็จะล้าหลังไปด้วย
ซูเสี่ยวเถียนพูด “หนูกับลูกชายของคุณไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแบบนั้นค่ะ มากสุดก็เป็นเพียงเพื่อนที่โตมาด้วยกัน ถ้าคุณวางแผนจะพาเขาไปก็แค่ทำให้ได้สิคะ”
พูดประโยคนี้จบซูเสี่ยวเถียนก็คิดจะเดินจากไป
เธอรู้สึกว่าการพูดกับคนที่ไร้สติปัญญาแบบนี้จะส่งผลต่อสติปัญญาของตัวเองด้วย
“เธอยังคิดจะเกาะติดลูกชายฉันต่อหรือ?” น้ำเสียงของอวี๋ซีเยว่ยิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ “สาวน้อยฉันแนะนำให้เธอเลิกเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นในอนาคตหากไก่บินหนีทั้งไข่ยังตกแตก*[2] เธอจะไม่ได้อะไรเลยนะ”
ซูเสี่ยวเถียนถูกทำให้โกรธจนอยากหัวเราะ บนโลกนี้มีผู้หญิงแบบนี้ด้วยหรือ?
เธอมองอวี๋ซีเยว่อย่างแน่วแน่พลางพูด “เช่นนั้นคุณคิดจะใช้เงินเท่าไหร่เพื่อดึงให้หนูออกจากพี่อี้หย่วนคะ?”
ตอนที่อวี๋ซีเยว่ได้ยินซูเสี่ยวเถียนถามคำถามนี้ออกมา ใบหน้าไม่เก็บซ่อนความดูถูกแม้แต่น้อย
หางจิ้งจอกโผล่ออกมาแล้วหรือ?
รู้มานานแล้วว่าเด็กที่ไร้ประสบการณ์สุดท้ายก็ต้องเลือกเงิน
“ฉันจะให้เธอสามพันหยวน ฉันรู้ว่าในประเทศสามพันหยวนก็เยอะมากแล้ว!”
ซูเสี่ยวเถียนหัวเราะพรืดออกมาเสียงหนึ่ง
สามพันหยวน อวี๋ซีเยว่พูดออกมาอย่างไม่ละอาย
สามพันหยวนวางไว้ในครอบครัวธรรมดาก็นับว่าไม่น้อยจริง ๆ แต่เธอไม่ถามสักหน่อยเลยหรือ?
หออีหมิงของตระกูลซูสร้างกำไรได้มาก อีกทั้งตระกูลซูยังมีห้างร้านหรงฟารวมถึงกิจการอื่น แม้จะไม่ใช่ของซูเสี่ยวเถียนทั้งหมด
แต่ด้วยสิ่งเหล่านี้ซูเสี่ยวเถียนจะชายตามองเงินสามพันหยวนได้หรือ?
“ทำไม น้อยไปหรือ?” อวี๋ซีเยว่ขมวดคิ้ว
เด็กบ้านนอกคนนี้ช่างใจดำนัก
เงินสามพันหยวนพอจะเลี้ยงครอบครัวหนึ่งให้อยู่ดีได้หลายปีแล้ว
“ฉันแค่คิดว่าตอนที่คุณเปิดปากพูดเรื่องนี้ คุณประเมินลูกชายคุณน้อยไปแล้วค่ะ!”
ฉืออี้หย่วนในสายตาของอวี๋ซีเยว่มีค่าแค่สามพันหยวนหรือ? ดูเหมือนว่าแม้อวี๋ซีเยว่จะไถ่ถามสถานการณ์ของฉืออี้หย่วน แต่กลับไม่ได้รู้จักคนรอบตัวฉืออี้หย่วนมากนัก ไม่รู้จักแม้กระทั่งศัตรูแล้วอวี๋ซีเยว่เอาความมั่นใจอะไรมาโอ้อวดแบบนี้?
ซูเสี่ยวเถียนคิดว่าคนผู้นี้ไปอยู่ต่างประเทศก็โง่เช่นนี้หรือ?
“เธอ…” อวี๋ซีเยว่คิดจะโกรธแต่สุดท้ายก็ข่มใจระงับความเดือดดาลไว้
ตาคู่สวยทั้งสองข้างของเธอจ้องเขม็งไปยังซูเสี่ยวเถียน แววตามองมาที่ซูเสี่ยวเถียนด้วยความดูถูกเหยียดหยามอย่างชัดเจน
แต่ซูเสี่ยวเถียนไม่ได้สนใจ ชาติที่แล้วผ่านการดูถูกมาตั้งมาก ช่วงที่ยากลำบากก็ยังผ่านมาแล้ว ท่าทีของคุณผู้หญิงอวี๋ซีเยว่คนนี้ สำหรับเธอไม่นับว่าเป็นอะไรได้เลยจริง ๆ
ซูเสี่ยวเถียนไม่เปิดปากพูด ทำเพียงยืนนิ่งเงียบ
หลังจากอวี๋ซีเยว่สงบอารมณ์ลงก็เปิดปากพูดต่อ
“มากสุดให้ได้ห้าพันหยวน สาวน้อยฉันแนะนำให้เธอรับไว้นะ หลังจากนี้ถ้าไม่ได้อะไรเลยจะมาเสียใจทีหลังก็ไม่ทันแล้ว!”
ตอนที่อวี๋ซีเยว่พูดแบบนี้ในน้ำเสียงราวกับเคลือบยาพิษ
เมื่อซูเสี่ยวเถียนกำลังคิดจะตอบบางอย่าง จู่ ๆ ก็มีคนรีบวิ่งตรงมาทางฝั่งซูเสี่ยวเถียน
ทั้งยังเป็นคนที่คุ้นเคยด้วย!
[1] หน้าร้อนติดเย็น หมายถึง การชมเชยเอาใจผู้อื่นแต่ถูกผู้อื่นเมินเฉยไม่แยแส
[2] ไก่บินหนีทั้งไข่ยังตกแตก หมายถึง จับปลาสองมือจนไม่ได้ทั้งสองอย่าง