เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 691 นายก็เป็นเด็กใหม่หรือ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 691 นายก็เป็นเด็กใหม่หรือ

บทที่ 691 นายก็เป็นเด็กใหม่หรือ

เสี่ยวเถียนให้เขาจอดรถก่อนตนจะยื่นหน้าออกไป ดวงตามองอักขระอันสง่างามของ ‘มหาวิทยาลัยจิ่งเฉิง’ บนบานประตูโบราณด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปอยู่ในใจ

ชาติที่แล้วเธอไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย

ในตอนที่กำลังยากลำบากไม่รู้จะเดินไปทางไหน เธอเคยคิดอยากเรียนเหมือนกัน และอิจฉาคนได้เรียนสูง ๆ เวลาเดินผ่านประตูก็จะหยุดมองอยู่นาน มองเหล่านักศึกษาที่แสนกระตือรือร้นด้วยความอิจฉา

ตอนนั้นรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ทั้งยังคิดว่าหากมีโอกาสเริ่มต้นใหม่ เธอจะต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยให้ได้เลย แล้วจู่ ๆ วันหนึ่งเธอก็รับโอกาสอีกครั้ง นับตั้งแต่วันนั้นก็ตั้งใจเรียนอย่างมาก คะยั้นคะยอให้พวกพี่ ๆ ตั้งใจเรียนหนังสือไปด้วย และในที่สุดพวกเราพี่น้องก็ได้เข้าเรียนอย่างราบรื่น

วันนี้เธอเดินทางมาถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัยแล้ว

ยามเห็นพวกนักศึกษาหนุ่มสาวเดินสวนกันขวักไขว่ที่ทางเข้า เสี่ยวเถียนพลันเกิดความลังเล ไม่รู้ว่าอนาคตจะมีชีวิตแบบไหนรออยู่ มหาวิทยาลัยจิ่งเฉิงจะเป็นอีกเส้นทางชีวิตที่ต่างออกไปแล้ว และยังเป็นจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับการก้าวไปสู่อนาคตด้วย

ฉือเก๋อมองหลานสาว เขาอดยิ้มมุมปากไม่ได้ ยังไงเธอก็เป็นเพียงเด็กอยู่ดี ไม่รู้ว่าจะแบกรับชีวิตอันหนักหน่วงในรั้วมหาวิทยาลัยได้หรือเปล่า

เสี่ยวเถียนไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย แค่กำลังสับสนกับอนาคตมากกว่า เธออ่านหนังสือจากระบบมาเยอะมาก แต่มันก็มีข้อเสียเหมือนกัน เธอขลุกอยู่กับเนื้อหาเกือบทุกด้าน ตั้งแต่อุตสาหกรรมการเกษตรขั้นพื้นฐานไปจนถึงโบราณคดี วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ และอีกหลาย ๆ อย่าง

แต่เพราะเธออ่านเนื้อหากระจัดกระจายทำให้ไม่มีเป้าหมายโดยตรง และตัวระบบเองก็ส่งแต่หนังสือเฉพาะทางมาให้ ตอนนี้เลยยังไม่รู้ว่าตนเองอยากทำอะไร จุดนี้แหละที่ทำให้เสี่ยวเถียนคิดว่าตนเองสู้พี่เก้าไม่ได้เลย

ตอนเลือกคณะวิชา เธอเลือกภาษาและวัฒนธรรมมา ส่วนอนาคตเป็นยังไง ตอนนี้ยังไม่มีแผนการอะไรทั้งนั้น

เธอรู้นะว่าแบบนี้มันไม่ดี แต่ในยุคนี้มันไม่มีทางหาทางที่ดีให้กับอนาคตของเธอ

ส่วนจะทำงานอะไรในอนาคต เธอจะค่อยคิดอีกทีภายหลัง ตอนนี้ร่างกายเพิ่งจะอายุสิบกว่าปีเอง ยังกำหนดอนาคตไม่ได้หรอก เธอเชื่อว่าคนอื่นจะเข้าใจได้

พอคิดแบบนี้ก็โล่งใจมาก เธอยังเด็กอยู่เลย!

“เสี่ยวเถียน พวกเราเข้าไปข้างในกัน!” ฉือเก๋อกระซิบ

เขาดึงสติเด็กสาวออกมา

“คุณปู่ฉือ หนูตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ!” เสี่ยวเถียนรีบบอก

ฉือเก๋อคิดว่าหลานสาวจะคิดมากเพราะเห็นยืนจ้องอยู่นาน

“ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยจะต่างไปจากชีวิตเราก่อนหน้านี้เลยเสี่ยวเถียน สังคมที่นี่เป็นสังคมขนาดเล็ก และให้เธอได้สัมผัสกับคนทุกประเภท”

ฉือเก๋อมองใบหน้าไร้เดียงสา และเอ่ยเตือนสติ

“ถึงเธอจะฉลาด แต่ยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่างได้ เมื่อวานปู่ติดต่อลูกศิษย์คนหนึ่งไว้ เขาเรียนอยู่สาขาภาษาจีนพอดี จะให้เขาดูแลเธอนะ!”

เสี่ยวเถียนไม่คิดเลยว่าชายชราจะคิดไปไกลถึงขนาดนั้น

ขอใครสักคนดูแลเธอ?

“ไม่ต้องหรอกค่ะปู่ฉือ หนูโตแล้ว ดูแลตัวเองได้”

ชายชราลูบผมเด็กหญิงด้วยรอยยิ้ม “สมกับเป็นเด็กจริง ๆ เวลาไปเรียนมันไม่มีคนอายุเท่าเธอแล้วนะ ทุกคนล้วนเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว!”

“…” เสี่ยวเถียน

ตอนนั้นเองถึงเพิ่งนึกเรื่องนี้ได้

เธอเรียนห้องพิเศษ แถมยังอายุน้อยกว่าคนอื่น ๆ 6-7 ปี ความต่างทางด้านอายุทำให้สนิทกับคนอื่น ๆ ยาก

“ปู่ฉือ หนูจะตั้งใจปรับตัวให้ได้ค่ะ!” เธอคิดว่าตนเองน่าจะทำได้

“ปู่รู้ว่าเธอเก่ง แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าไม้เด่นเกินไพร ลมพักหักโค่นนะ*[1]!”

อายุแค่นี้แต่เรียนเก่งที่สุดในห้อง ไม่แปลกใจเลยที่จะกลายเป็นคนน่าอิจฉา เสี่ยวเถียนสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยคะแนนอันดับ 1 และทางนั้นก็ต้องให้ความสำคัญกับเธออยู่แล้ว

หาได้ยากที่ชายชราจะขอความช่วยเหลือจากใครสักคน แบบนี้ไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน

“หนูเข้าใจแล้วค่ะ!” เธอพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

“เสี่ยวเถียน แค่มีเธอก็พอดึงความสนใจคนอื่นแล้ว ต่อให้ระวังตัวมากแค่ไหนก็ยังตกเป็นเป้าสายตาอยู่ดี!”

หลังจากประสบกับความยากลำบากมามากมาย ฉือเก๋อไม่เชื่อสันดานมนุษย์อีกต่อไป คนเรามักอิจฉาและเกลียดชังคนที่เก่งกว่าตัวเอง และคนประเภทนี้มักคิดจะทำลายคนที่เก่งกว่าเสมอ!

เสี่ยวเถียนยังเด็กเกินไป ถ้าไม่ระวังจะกลายเป็นหินให้เขาเหยียบย่ำ แต่เสี่ยวเถียนมักเป็นที่ชื่นชอบคนอื่นอยู่แล้ว บวกกับความโชคดีอาจจะเลี่ยงเรื่องพวกนี้ได้ก็ได้

รถค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าในมหาวิทยาลัย

ตอนนี้มีนักศึกษาอยู่หน้าประตูหลายคนเลย ทั้งนักศึกษาใหม่และเก่าปะปนกัน ก่อนจะเห็นรถสองคันที่เข้ามา ทุกคนต่างสงสัยว่าผู้นำคนไหนเดินทางมาหาที่นี่ พอรถหยุดหน้าบริเวณจุดลงทะเบียนเด็กใหม่ ก็ยิ่งทำให้ผู้คนแปลกใจ

นี่รถนักศึกษาใหม่หรือ?

เป็นเด็กจากครอบครัวแบบไหนกันถึงมีรถมาส่งแบบนี้? หรือส่งสองคน?

ผู้คนเริ่มส่งเสียงกระซิบกระซาบ เช่นว่า ในหมู่นักศึกษาใหม่ปีนี้มีลูกเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้วยหรือเป็นต้น แถมยังประหลาดใจที่เห็นคนสูงวัยลงมาจากรถ

“อะไรเนี่ย? ปีนี้ไม่จำกัดอายุนักศึกษาหรือ?”

นักเรียนคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างสับสน คนข้าง ๆ หัวเราะทันที จากนั้นก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งตามลงมา ใบหน้าคนทั้งสามหล่อเหลากว่าคนอื่น ๆ ทำให้สาว ๆ รอบข้างตื่นเต้น ใบหน้าบางคนก็ขึ้นสีแดงก่ำ

เสี่ยวเถียนลงจากรถคนสุดท้าย จึงไม่ได้มีใครสังเกตเธอ

ช่วยไม่ได้ เธอเองก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งในสายตาคนอื่น ๆ ก็เป็นแค่น้องสาวที่มาส่งพี่ ๆ เข้าเรียนเท่านั้น

ทุกคนคิดว่าอี้หย่วน ซื่อเลี่ยง และซานกงเป็นนักศึกษาใหม่

สาว ๆ จึงเริ่มหันไปกระซิบกระซาบกันอีกครั้ง

“สวัสดีจ้ะน้องใหม่ มาลงทะเบียนใช่ไหม? พวกเราเป็นเจ้าหน้าที่มาทำหน้าที่ต้อนรับนักศึกษาน่ะ!” หญิงสาวหน้ากลมยืนอยู่เบื้องหน้าฉืออี้หย่วน เธอเอ่ยออกมาเสียงแผ่วด้วยใบหน้าแดงก่ำ

เสี่ยวเถียนมองคนทั้งสองสลับกัน ก่อนเข้าใจในทันที เด็กหญิงหัวเราะคิกคัก พี่อี้หย่วนเป็นคนที่หล่อที่สุดในมหาวิทยาลัยไม่ใช่หรือ? เธอเป็นถึงเจ้าหน้าที่ แต่ไม่รู้จักเขาเนี่ยนะ? ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่คนเดิมก็ต้องรู้จักฉืออี้หย่วนอยู่แล้วสิ

ที่จริงหญิงสาวคนนี้เป็นนักศึกษาที่มาลงทะเบียนเหมือนกัน แต่เพราะตัวเองเก่งและมีความสามารถอยู่บ้าง หลังจากรายงานตัวเสร็จก็เลยมาเสนอตัวช่วยงาน ซึ่งเขากำลังขาดคนพอดีเธอก็เลยได้รับเลือก

แถมยังพาคนอื่น ๆ มาช่วยอีกด้วย

เพราะแบบนี้ฉืออี้หย่วนที่หล่อที่สุดในมหาวิทยาลัยจิ่งเฉิงจึงไม่เป็นที่รู้จัก

ใบหน้าฉืออี้หย่วนเรียบนิ่ง เพราะไม่รู้ว่านี่คือเด็กใหม่เหมือนกัน แต่คิดว่าอีกฝ่ายจงใจหาข้ออ้างมาคุยกับเขา เพราะสองปีที่ผ่านมา มีคนมากมายที่หาข้ออ้างมากมายเพื่อมาคุยกับเขา พอคิดถึงความเป็นไปได้นี้ สีหน้าเขาดำทะมึนราวกับก้นหม้อ

ซื่อเลี่ยงก็เรียนที่นี่ พอเห็นนักศึกษาหญิงที่ดูพึ่งพาไม่ได้ เขาก็เริ่มเสียใจแล้วว่าทำไมต้องมางานนี้ด้วย

เขาชำเลืองมองผู้หญิงทั้งสอง “พวกเราจะไปรายงานตัวสาขาภาษาจีนน่ะ!”

เขาคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี

“เดี๋ยวพวกเราพาไปเองค่ะ” พอได้ยินเช่นนั้นพวกเธอก็เป็นกังวลมาก

“ไม่ต้องหรอกสหาย ขอบคุณมาก เดี๋ยวพวกเราไปเอง!” ชายหนุ่มตอบเสียงเบา

เพราะการเรียนวาดรูปเลยทำให้เขามีบรรยากาศรอบกายที่นิ่งสงบ สง่างาม และน่าดึงดูด ถึงจะมีคนหล่อที่สุดอย่างฉืออี้หย่วนอยู่ข้าง ๆ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเขาเลยสักนิด

หญิงร่างสูงข้างสาวหน้ากลมมองซื่อเลี่ยง ก่อนจะคิดว่าอีกฝ่ายต้องไม่ใช่เด็กใหม่แน่ ๆ

“สหาย นายก็เป็นนักศึกษาใหม่หรือ?” เธอก้มหัวลงเล็กน้อย

[1] คนที่โดดเด่นหรือเป็นที่น่าจับตามอง จะทำให้คนอื่นอิจฉาและถูกเล่นงานได้

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท