บทที่ 737 คิดการร้าย
บทที่ 737 คิดการร้าย
จ้าวหงเหมยหวีดร้องด้วยความตื่นเต้น
“เสี่ยวเถียน เธอนี่เป็นสมบัติล้ำค่าจริง ๆ บอกฉันที เธอมีอะไรที่ทำไม่ได้บ้างเนี่ย?”
จ้าวหงเหมยแปลกใจเหลือเกิน พวกหัวกะทิเดี๋ยวนี้เก่งรอบด้านขนาดนั้นเลยหรือ? เรียนหนังสือมีความไม่รู้พอ ยังเก่งภาคปฏิบัติด้วย?
“ตอนนี้ไม่รู้ว่าทำอะไรไม่ได้บ้าง แต่คิดว่าน่าจะมีนะ!” เสี่ยวเถียนครุ่นคิด
ฟังจากคำพูดคำจาน่าโมโหเหลือเกิน มั่นใจตัวเองเกินจะบรรยาย
“ฉันไม่ห่วงเรื่องพันผ้าเป็นหรอกนะ ขอแค่ตั้งใจก็ทำเป็นแล้ว ที่กลัวคือเรื่องฝึกทหารคงไม่เหมือนที่พวกพี่ ๆ เขาฝึกทหารกันใช่ไหม?”
ฉู่เยว่เศร้าใจ แทบจะขยี้หัวตัวเองด้วยซ้ำ
ครอบครัวเธอมีคนเป็นทหาร จึงรู้ว่าการฝึกนั้นยากลำบากเพียงใด ถ้าการฝึกของเราเข้มข้นเท่ากับการฝึกในกองทัพจริง ๆ เธอคงไม่สามารถรับมือไหวหรอกนะ
“ก็เป็นไปได้ แต่คงไม่โหดขนาดนั้นหรอก!” เสี่ยวเถียนเอ่ยเบา ๆ
ล้อกันเล่นแล้ว ถ้าฝึกนักศึกษาพวกนี้เป็นทหาร เราคงตื่นพรุ่งนี้ไม่ไหวแน่
“มันเหนื่อยมากใช่ไหม?” เฉียนเสี่ยวเป่ย
เธอไม่รู้หรอกว่าการเป็นทหารมันเหนื่อยกว่าการที่เราจะไปลงสนามหรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ เราเหนื่อยมากแน่นอน
ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ไม่รู้ต้องทำอะไรด้วย ถ้ามันยากเกินไปเธอจะทำยังไงล่ะ?
จะโดนหัวเราะเยาะไหม? แล้วถ้าเป็นตัวถ่วงคนอื่น จะโดนคนอื่น ๆ ดูถูกเอาไหม?
เฉียนเสี่ยวเป่ยมาจากชนบท จึงรู้สึกต่ำต้อยกว่าคนอื่น ๆ
อันที่จริงก็ไม่ใช่แค่เธอหรอก ยังมีฉีเสี่ยวฟางและหลี่เจี้ยนหงที่มาจากชนบทด้วย พวกเธอก็กังวลแต่ดีกว่าเพื่อน
ส่วนทางพวกฉู่เยว่กลับกังวลมากกว่า
อย่างแรกคือห่วงเรื่องสภาพร่างกายว่าจะทนไม่ไหวจะตายเอา!
อย่างที่สองห่วงว่าผิวจะดำคล้ำแดดกับการฝึกทหารไหม
เราตั้งใจจะเป็นนักศึกษาสวย ๆ การฝึกทหารจะทำให้พวกเธอขี้เหร่หรือเปล่า?
ฉีเสี่ยวฟางตอนนี้กำลังห่วงว่าถ้าออกกำลังหนัก ๆ แล้วตนจะกินไม่อิ่ม
ขนาดก่อนไปฝึก ยังหิวตลอดเลย
สรุปแล้วทั้งความกังวล ความคิดของคนในห้องแตกต่างกันหมด ปัญหาที่ต้องเผชิญจึงต่างกันด้วย
แต่ก่อนที่จะหาคำตอบได้ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เพียงแค่ฟังก็รู้ว่าอีกฝ่ายไร้มารยาทเพราะเคาะประตูเสียงดังสนั่น
คนไม่รู้ก็คิดว่ามีศัตรูมาบุกถึงห้อง
เสี่ยวเถียนเดินไปเปิด แต่ก็โดนเสื้อผ้าปาใส่หน้า
เด็กสาวหยิบมันออกด้วยความไม่เข้าใจ จากนั้นก็เห็นถังหมิ่นหมิ่นจ้องเขม็ง
“ซูเสี่ยวเถียนเธอทำอะไร? เพราะเมื่อเช้าฉันไม่ไว้หน้าเธอใช่ไหม เธอก็เลยวางแผนแก้แค้นจะทำให้ฉันขายหน้าบ้างสินะ?”
ใบหน้าถังหมิ่นหมิ่นเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ
เสี่ยวเถียนไม่เข้าใจ
เกิดอะไรขึ้น?
เธอไม่รู้อะไรสักอย่าง ไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงต้องมาทุบประตูด้วย?
“ถังหมิ่นหมิ่น มีเรื่องอะไรก็พูดสิ เสี่ยวเถียนไปทำอะไรให้เธอกัน?” อิ่นหรูอวิ๋น ที่กำลังตื่นเต้นเอ่ยถามราวกับกลัวว่ามันจะยังวุ่นวายไม่พอ
ไม่คิดเลยว่าทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ จะส่งผลได้ดีขนาดนี้
ถังหมิ่นหมิ่นกำลังโมโหมาก ผนวกกับเมื่อเช้าก็โดนเสี่ยวเถียนทำให้คับข้องใจอีก เรื่องราวทุกอย่างอาจไม่จบลงง่าย ๆ แน่
เสี่ยวเถียนได้ยินเสียงคนคนนั้นก็รู้ได้ทันทีเลยว่าลำบากแล้ว
เพราะมองออกว่าไอ้ท่าทางไร้เดียงสาและจิตใจดีงามไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ แท้จริงแล้วกลับเป็นใจที่เน่า
คงจะแปลกถ้าไม่ได้ข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่ตอนนี้ถังหมิ่นหมิ่นกำลังโกรธจัด ทั้งตัวเธอก็ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างด้วย จึงได้แต่อดทนเอาไว้แล้วถามออกไป
“ยังกล้าถามฉันอีกหรือ? ซูเสี่ยวเถียน ฉันไปทำอะไรให้เธอ เธอถึงมารังแกกันแบบนี้!”
คนที่แข็งแกร่งอย่างถังหมิ่นหมิ่นร้องไห้ออกมาด้วยความโกรธจริง ๆ
เสี่ยวเถียนสับสนหนักกว่าเก่า ในตอนนั้นเองผู้หญิงที่ตามมาด้วยเดินเข้ามาในห้อง
จากนั้นก็รับเสื้อผ้าไปจากมือ “หัวหน้า ชุดนี้มันมีปัญหาน่ะ”
พูดแล้วก็น่าอายจริง ๆ
เสี่ยวเถียนหยิบมันขึ้นมา เป็นกางเกงตัวหนึ่ง
ทว่าในตอนนี้กลับมีส่วนเป้าที่เปิดเป็นรูโหว่
นี่มัน…
เสี่ยวเถียนแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น
กางเกงดี ๆ ทำไมมันถึงขาดได้ล่ะ?
“เธอดูเอาก็แล้วกัน เห็นกันจะ ๆ ว่าจงใจตัดด้ายออก ซูเสี่ยวเถียน เธอนี่มันน่ารังเกียจเหลือเกิน!”
ตอนที่ถังหมิ่นหมิ่นกำลังใส่กางเกง ร่างกายเธอคดเคี้ยวไปมาพอดี และตอนที่ออกแรงไปอีกหน่อยเป้ากางเกงก็ขาดออก
ถึงจะยืนอย่างมั่นคงแล้ว แต่บั้นท้ายของเธอกลับโผล่ออกมาจากช่องไปครึ่ง
ถังหมิ่นหมิ่นเกิดมาฐานะทางบ้านดี เรียนเก่ง เป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว ทำไมถึงโดนรังแกกันแบบนี้?
ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าคงเป็นที่คุณภาพ
แต่ตอนที่ถอดออกก็ต้องตกใจที่พบว่าส่วนด้ายมันโดนคนตัดออก
ถังหมิ่นหมิ่นอดคิดมากไม่ได้
ถ้าไม่ขาดเพราะใช้แรงมาก ก็ต้องขาดเพราะจากการฝึกทหารสิ
เธออายมากจนอยากกลับบ้าน
ทุกคนเพิ่งเข้าเรียน ถังหมิ่นหมิ่นคิดว่าถ้าจะมีใครพุ่งเป้ามาหาจะต้องเป็นซูเสี่ยวเถียนแน่
เธอไม่ชอบเด็กนั่นสักนิด ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ก็ยิ่งแน่ใจแล้วว่าซูเสี่ยวเถียนตั้งใจทำ
“เธออยากทำให้ฉันอับอาย ขายหน้า เสื่อมเสียชื่อเสียงสินะซูเสี่ยวเถียน?”
น้ำตาถังหมิ่นหมิ่นไหลมากกว่าเดิมยามที่คิดว่าคนจำนวนมากจะได้เห็นก้นเธอที่ลานฝึก
อิ่นหรูอวิ๋นลอบดีใจ ถ้าเรื่องในวันนี้แดงขึ้นมาซูเสี่ยวเถียนต้องโดนประจานอย่างแน่นอน
ไม่มีใครยอมขายหน้าในที่สาธารณะได้หรอก
นั่นรวมถึงซูเสี่ยวเถียนด้วย
ไม่คิดเลยว่ากางเกงที่โดนดัดแปลงจะตกไปอยู่ในมือถังหมิ่นหมิ่น
ด้วยนิสัยอีกฝ่าย ไม่มีทางไว้ชีวิตซูเสี่ยวเถียนง่าย ๆ แน่นอน
“ถังหมิ่นหมิ่น เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับฉันนะ!”
จากจิตใต้สำนึกมันบอกไว้ว่า อิ่นหรูอวิ๋นต้องทำอะไรแน่นอน แต่เพราะไม่มีหลักฐานจึงจะพูดออกไปลอย ๆ ไม่ได้
ตอนนี้ควรอธิบายให้ชัดเจนเสียก่อนว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอจริงๆ
“ถ้าเธอไม่ได้ทำ แล้วมันจะมีใครทำอีก อีกอย่างนะ เธอก็เป็นคนเอาเสื้อผ้าไปแจกไม่ใช่หรือไง?”
“ฉันเอาเสื้อผ้ามาแล้วแจกให้พวกเธอก็จริง แต่จะไปรู้ได้ยังไงว่าเธอได้ชุดนี้น่ะ? ห้องเธอก็มีคนอยู่ตั้งแปดคนเหมือนห้องฉันไม่ใช่หรือไง!”
ถึงไม่อยากเอาเรื่องนี้มาเทียบให้ฟัง แต่เสี่ยวเถียนก็ยังพยายามอธิบายอย่างมีน้ำอดน้ำทน
เธอบ่นอยู่ในใจ