บทที่ 925 พี่รองและเจี้ยนหง
บทที่ 925 พี่รองและเจี้ยนหง
“เสี่ยวอวี๋ ถึงเรื่องหาเงินจะสำคัญ แต่นายจะผัดวันเรียนไม่ได้นะ”
“ไม่ต้องห่วงครับ ๆ ผมไม่ผัดเรื่องเรียนหรอก ไม่ว่ายังไงก็ต้องเรียนจบให้ได้”
เขาเอ่ยด้วยความมั่นอกมั่นใจ
แต่เสี่ยวเถียนกลับคิดว่าถ้าบิลขายของมันเยอะขนาดนี้แล้วจะไม่ผัดเรื่องเรียนได้ยังไงกัน?
“ผมตั้งทีมขายขึ้นมาน่ะครับ มีสมาชิกสี่ห้าคน พวกเขาจะช่วยพวกรายการเล็ก ๆ ส่วนที่เหลือผมจัดการเองครับ”
ซุนเสี่ยวอวี๋หยิบกระดาษออกมาอีกแล้วอธิบายเพิ่มเติม
เขาเป็นกังวลมากเพราะกลัวเสี่ยวเถียนจะไม่ชอบ
เธอขอให้เขาทำพาร์ตไทม์เป็นนักขายเพราะเห็นว่าเป็นนักศึกษาเหมือนกัน
แต่ตนกลับมอบหน้าที่นี้ให้คนอื่นทำ แล้วรอเอากำไรแทน…
ฝ่ายเสี่ยวเถียนแปลกใจมากกว่า ซุนเสี่ยวอวี๋จ้างคนมาช่วยเลยหรือ?
เธอไม่อยากเชื่อ เพราะงานที่ทำอยู่ก่อนหน้านั้นก็ได้เงินเยอะอยู่แล้ว
แล้วมันมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้กัน?
“ดีมากเลย นายทำธุรกิจเครือข่าย*[1]ได้หลายทอดสินะ ก็เลยได้เงินเยอะขึ้นอีก!”
ในเมื่อได้รับการยืนยันแล้วว่าซุนเสี่ยวอวี๋จะไม่พักเรื่องเรียน เสี่ยวเถียนจึงเซ็นเอกสารให้เขาอย่างเบิกบานใจ
ก่อนเจ้าตัวจะรีบวิ่งหนีไปอย่างว่องไว ขณะเด็กสาวเตรียมกลับหอ สายตาบังเอิญเหลือบไปเห็นกลุ่มรูมเมต โดยมีพี่รองเดินตามต้อยอยู่ข้างหลัง
ช่วงนี้เธอมักจะเห็นพี่ชายอยู่กับเพื่อนตัวเองบ่อย ๆ ใช้เวลามากกว่าน้องสาวอย่างเธอด้วยซ้ำ
เสี่ยวเถียนมองด้วยความแคลงใจ หรือพี่รองกำลังตามติดรูมเมตของเธองั้นหรือ?
โอ๊ะ ไม่สิ เหมือนพี่รองจะตามหลี่เจี้ยนหงต่างหาก ดูสายตาเขาสิ ร้อนแรงเสียจนเธอยังเขินแทนเลย
แต่แล้วจู่ ๆ ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ พี่เขาน่าจะชอบเจี้ยนหงแล้วล่ะ
เพื่อนคนนี้เป็นตัวเลือกที่ดีเลยนะ ซื่อสัตย์ ตั้งใจทำงาน ใช้ชีวิตติดดิน ไม่ได้มีความคิดร้ายอะไรด้วย
คงจะดีถ้าเจี้ยนหงเป็นพี่สะใภ้ของเธอ
แต่ไม่รู้แม่รองจะคิดยังไงเนี่ยสิ
เพราะตอนนี้บ้านเราถือว่าอยู่ในฐานะดี แต่ฐานะบ้านเจี้ยนหงแย่กว่าเล็กน้อย
ถ้าแม่รองไม่ชอบที่อีกฝ่ายด้อยกว่า ก็มีโอกาสที่เขาจะต้องหาคู่ครองใหม่
“เสี่ยวเถียน มายืนทำอะไรตรงนี้เนี่ย?” ซื่อเลี่ยงรีบเข้าไปหาน้อง
เด็กสาวหยอก “หนูมารอดูว่าจะขวางทางพี่รองสุดที่รักได้หรือเปล่าน่ะค่ะ!”
จากนั้นก็เหลือบมองเพื่อนด้วยสายตามีนัย
ซื่อเลี่ยงดูไม่เป็นอะไร ในขณะที่เจี้ยนหงหน้าแดงจัด อยากจะอธิบายแต่ไม่รู้จะพูดยังไง
“เด็กคนนี้ ซนขึ้นทุกวันเลยนะ พี่รองว่าจะชวนไปเลี้ยงข้าวน่ะ” เขาเอ่ยอย่างใจกว้าง
“หนูอยากไปกินที่หออีหมิง!” เสี่ยวเถียนรีบร้องขอทันที
“พี่สะใภ้กลับไปพักที่บ้านแล้วนะ ตอนนี้ที่ร้านหาแม่ครัวชั่วคราวอยู่น่ะ แน่ใจหรือว่าจะไป?”
เห็นได้ชัดเลยว่าซื่อเลี่ยงไม่อยากไป
ตลกแล้ว ถ้าย่าเป็นคนดูแลร้านนะ เกิดท่านเดินมาเห็นคงดูไม่ดีเท่าไร
“หนูอยากไป ย่าต้องทำของโปรดให้หนูแน่ ๆ” เสี่ยวเถียนเงยหน้ายิ้ม
“ก็ได้ งั้นไปหออีหมิงกัน!” ซื่อเลี่ยงทำได้แค่เห็นด้วยเท่านั้น
ยังไงก็ดูไม่ได้สำคัญเท่าไรที่เลี้ยงข้าวน้องสาวกับเพื่อนของเธอ
“ถ้างั้นหนูพาพวกฉู่เยว่ไปด้วยนะ!” เสี่ยวเถียนรีบคว้าโอกาสเอาไว้
ตอนนี้พี่รองไม่ใช่พี่รองอีกต่อไป แต่เป็นคนตามจีบรูมเมตเธอต่างหาก
ถ้าซื่อเลี่ยงรู้ว่าน้องสาวคิดอะไรอยู่ เขาคงตกใจแน่ ๆ
คุณย่าไม่ได้คิดอะไรมากตอนเห็น ท่านนึกว่าหลานชายพาหลานสาวมากินข้าว แล้วก็ชวนเพื่อน ๆ หลานมาด้วย
เสี่ยวเถียนคอยสังเกตพฤติกรรม ก่อนจะตัดสินใจได้ว่าเขาชอบเจี้ยนหง
เย็นวันนั้นหลังจากกลับไปที่มหาวิทยาลัย เธอก็เอ่ยขึ้นมา
“เธอรู้แล้วสินะ ที่จริงพี่คิดว่าเจี้ยนหงดูดีเลย นิสัยติดดิน เรียบง่าย ไม่ได้คิดไม่ดีอะไรด้วย!”
มุมปากเขายกยิ้ม บอกให้รู้ว่าชอบเธอคนนั้นมาก
“ถ้าพี่รองชอบก็ต้องขยันเข้าไว้นะคะ! หนูเชื่อในตัวพี่นะ”
เสี่ยวเถียนกำหมัดแน่นแล้วให้กำลังใจ
“เธอไม่คัดค้านหรือ?” ฝ่ายพี่แปลกใจกับความคิดของน้องสาว
เสี่ยวเถียนสับสน “ทำไมต้องค้านล่ะ?”
“แล้วไม่อายหรือที่เพื่อนตัวเองกลายมาเป็นพี่สะใภ้ตัวเองน่ะ?”
เสี่ยวเถียน “…”
มีอะไรให้อาย?
แต่ว่าก็มีบ้างนะ มันนิดเดียวจริง ๆ ถ้าพี่เขาไม่เตือนก็ไม่ได้สังเกตหรอก
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ขอแค่พี่จริงใจก็พอ”
แต่ถ้าในตอนท้ายกลับตาลปัตรขึ้นมา แบบนี้สิเธอควรจะอายใช่ไหมล่ะ?
แต่ตนรู้จักพี่ ๆ ดี พวกเขาไม่ใช่คนไร้จุดหมาย
ถ้าเป็นฝ่ายเริ่มก็บอกได้เลยว่าเขาชอบเธอจริง ๆ
“จริงใจอยู่แล้วสิ!”
“ต้องคุยกับปู่ย่าด้วยนะ สิ่งสำคัญคือผู้ใหญ่ในบ้านต้องให้การสนับสนุน”
เสี่ยวเถียนห่วงแม่รองมาก เลยคิดว่าบอกสองผู้อาวุโสไว้ก่อนดีกว่า
ซื่อเลี่ยงเห็นด้วย “เธอพูดถูก!”
หลังจากยืนยันความจริงใจของพี่ได้แล้ว เสี่ยวเถียนก็บอกเรื่องนี้กับคนที่บ้านในวันหยุดสุดสัปดาห์
ปู่ย่าพอใจมากเมื่อได้ยินว่าหลานชายชอบเจี้ยนหง เด็กสาวผู้ขยันทำงานและติดดิน
เพื่อนในหอของเสี่ยวเถียนค่อนข้างดูดีทีเดียว โดยเฉพาะหลี่เจี้ยนหง เจ้าตัวไม่ได้นิสัยแย่หรือมีจิตใจบิดเบี้ยว เรียกได้ว่าดีเลย
“หลานรัก ย่าคิดมาตลอดเลยว่าเพื่อนหลานดูใช้ได้ ยังนึกเลยว่าพี่ชายคนไหนจะโชคดีพอได้แต่งกับหนึ่งในนั้น แต่ไม่คิดว่าพี่รองหลานจะฉลาดขึ้นมา” คุณย่าซูมีความสุขมาก
คนที่เป็นเพื่อนกับหลานสาวเธอได้จะต้องดีอยู่แล้ว
เจ้าซื่อเลี่ยงสายตาดีจริง ๆ
“ย่าคิดยังไงกับเสี่ยวฟางและเสี่ยวเป่ยคะ? อยากแนะนำให้พี่สามกับพี่สี่ไหม? ถ้าไม่ งั้นเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ดูดีนะ มาจากในเมืองค่ะ”
เสี่ยวเถียนคิดว่าคงไม่ได้แย่อะไรถ้าได้พี่สะใภ้เป็นรูมเมตในห้อง ก็เลยลองโปรโมตให้
ถึงปัญหาสะใภ้จะเกิดขึ้นในครอบครัวชาวบ้าน แต่เสี่ยวเถียนรู้ว่ามันไม่มีทางเกิดกับบ้านเธอแน่นอน
แม้จะเป็นการถามไปแบบนั้น แต่คุณย่ากลับส่ายหัว
[1] ธุรกิจเครือข่าย ตามคำนิยามของสมชาติ กิจยรรยง, 2547: 29 ระบุไว้ว่า เป็นธุรกิจที่มีระบบการตลาดลักษณะการขายไปยังบุคคลต่อเป็นทอด ซึ่งมีทั้งแบบชั้นเดียวและแบบหลายชั้น สร้างรายได้สูงรวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปประสบความสำเร็จในอาชีพการขายเท่าเทียมกัน
——————————————————-