เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 966 บทสรุปของบทสนทนา

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 966 บทสรุปของบทสนทนา

บทที่ 966 บทสรุปของบทสนทนา

เหมือนว่าตัวสามีจะจากไปตั้งแต่เนิ่น ๆ สินะ เสี่ยวเฉ่าจึงอาจจะเป็นเด็กกำพร้าพ่อ

ขนาดมีสามีชีวิตยังลำบาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเซี่ยหนานที่อยู่ตัวคนเดียวเลย

แค่นึกภาพผู้หญิงคนหนึ่งเป็นลมเป็นแล้งอยู่ข้างถนน ภรรยาฉางจิ่วพลันเศร้าใจขึ้นมา

แถมได้กลับมาเจอลูกทั้งทีกลับไม่สามารถเลี้ยงดูเขาได้อีก

“เธออย่าคิดมากเลย เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเธอนะ”

“โชคดีของเสี่ยวเฉ่าค่ะ ถึงจะโดนสุนัขคาบไปแต่ก็ยังปลอดภัย ไม่มีแผลบนร่างกายด้วยซ้ำ”

เซี่ยหนานคว้ามืออีกฝ่าย “โชคดียิ่งกว่าคือได้พบกับพี่ซูและพี่สะใภ้ ถ้าไม่ได้พวกพี่ ลูกก็คง…”

หากแย่กว่านี้อาจจะโดนสุนัขกินไปก็ได้ และคงไม่เหลืออะไรทิ้งไว้

“ฉันจะจำบุญคุณนี้ไว้ค่ะ โชคของพี่จะรออยู่ในอนาคตข้างหน้า เสี่ยวเฉ่าเป็นเด็กดีเขาจะตอบแทนแน่นอน”

เสี่ยวเถียนยืนฟัง ไม่รู้ว่าควรบอกเสี่ยวเฉ่าว่าเธอโชคดีหรือไม่

โดนสุนัขคาบไปจนต้องแยกจากอ้อมอกแม่ แต่ก็ยังได้เจอกับคุณลุงคุณป้า

พอได้เดินทางมาเมืองหลวงก็เจอแม่ผู้ให้กำเนิดโดยบังเอิญ

ถึงจะไม่รู้จักกัน แต่อย่างน้อยก็เคยพบกันแล้วใช่ไหมล่ะ?

ภรรยาฉางจิ่วรู้สึกได้ว่าตัวเองทำไม่ถูก เซี่ยหนานมีลูกสาวแค่คนเดียว แต่ตัวเองกลับไม่ยอมคืนลูกให้เขา

“เธอไม่มีญาติเลยใช่ไหม ไม่อย่างนั้นก็นับถือฉันเป็นพี่สาวแท้ ๆ สิ เสี่ยวเฉ่าจะได้นับถือเธอเป็นน้าไง?”

เพราะไม่อยากคืนลูกให้เขา แต่เซี่ยหนานก็น่าสงสารอีก เธอเลยคิดหาวิธีเช่นนี้แทน

เซี่ยหนานมองด้วยแววตาดีใจ แต่หลังจากนั้นก็กลับมาสงบอีกครั้ง

“จะเป็นไปได้หรือคะ? ไม่มีใครสงสัยเอาหรือ?”

ภรยาฉางจิ่วกล่าว “ไม่มีหรอก ก็บอกไปว่าเป็นน้องสาวที่พลัดพรากกันตอนยังเด็ก พอดีสามีไปเมืองหลวงเลยได้พบกันไง”

เสี่ยวเถียนเงยหน้าขึ้นมอง ป้าคนนี้คิดอะไรก็จะทำแบบนั้นเลยหรือ?

ถึงจะไม่ได้มาจากหมู่บ้านเรา แต่ท่านก็มาจากหมู่บ้านข้าง ๆ กัน คนที่นั่นจะไม่รู้กันเลยหรือไง?

วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลหรอก

“หนูว่าไม่รอดหรอกค่ะ คนไม่เชื่อแน่ เผลอ ๆ ชาวบ้านจะพูดไปต่าง ๆ นานาอีก พี่เสี่ยวเฉ่าอาจโดยสงสัยไปด้วย”

เสี่ยวเถียนเตือน

ครอบครัวคุณป้าเป็นคนในพื้นที่ ไม่ใช่คนที่ย้ายเข้ามาอยู่

แถมลูกสะใภ้ท่านก็ไม่ได้นิสัยดีเท่าไร ถ้ามีเรื่องแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะสร้างปัญหาอะไรให้อีกก็ไม่รู้

ถึงเสี่ยวเถียนจะอยากให้อาจารย์กลับมาหาลูก แต่ก็ไม่คิดจะสร้างปัญหาให้ท่านหรอกนะ

ทว่าเราจะพูดต่อหน้าป้าก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ

ภรรยาฉางจิ่วลังเล “แล้วเราควรทำยังไงดีล่ะ?”

เธอยากให้เซี่ยหนานได้เจอลูกอย่างถูกต้อง และได้อยู่ใกล้ ๆ กัน

เสี่ยวเถียนนึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้ อาจารย์เคยพูดถึงการเป็นแม่บุญธรรมอยู่

อาจจะเป็นทางออกที่ดีก็ได้นะ “ให้เป็นแม่บุญธรรมไหมคะ?”

เธอว่าเป็นความคิดที่ดีที่สุดแล้ว

ถ้าเสี่ยวเฉ่ายอมรับ พวกเขาทั้งสองคนก็สามารถพบปะกันได้อย่างเปิดเผยด้วย

อีกอย่างแม่บุญธรรมก็เป็นแม่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ?

ไม่ได้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับคุณป้าด้วย ย่อมไม่มีปัญหาแน่นอน

ภรรยาฉางจิ่วถามขึ้น “แล้วจู่ ๆ คนที่ไม่ได้รู้จักอะไรกันมาเป็นแม่บุญธรรมเนี่ยนะ เสี่ยวเฉ่าจะไม่สงสัยเอาหรือ?”

เสี่ยวเถียนยิ้มออกมา “ขอแค่คุณป้าเห็นด้วย ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่หนูเองค่ะ”

คงจะดีถ้าจัดการทุกอย่างได้ด้วยวิธีนี้

สมบูรณ์แบบ

“ได้สิ เดี๋ยวเธอคุยกับลุงฉางจิ่วเขาแล้วกัน ถ้าเขาเห็นด้วยก็เอาแบบนี้เลย”

แบบนี้ก็ดี เธอจะได้ไม่รู้สึกผิด

ภรรยาของซูฉางจิ่วเป็นคนเด็ดเดี่ยว หลังจากตัดสินใจก็ตะโกนเรียกสามีทันที “พ่อคุณ เข้ามาหน่อยสิ มีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ”

ซูฉางจิ่วรีบตอบรับและเข้ามาทันที

จากนั้นฝ่ายภรรยาก็บอกถึงสิ่งที่วางแผนกันไว้

“คุณเห็นด้วยหรือเปล่า?”

ซูฉางจิ่วมองภรรยา “แล้วเธอยินดีไหมล่ะ?”

ก่อนหน้านั้นยังเห็นอยากจะฉีกร่างเขาออกอยู่เลย

แล้วจู่ ๆ ก็ยอมให้เป็นแม่บุญธรรมเนี่ยนะ?

“ในฐานะที่เป็นแม่เหมือนกัน น้องสาวเขามีลูกสาวอยู่คนเดียว ฉันจะไม่ยอมได้ยังไง?”

เสี่ยวเถียนหัวเราะ

“ถ้าเธอเห็นด้วย ฉันก็ไม่ขัดข้องอยู่แล้ว”

ตอนที่ยืนคิดอยู่คนเดียว ซูฉางจิ่วนึกถึงเรื่องนี้เหมือนกัน

ถ้าแม่เด็กตามหาไม่เจอก็ว่าไปอย่าง แต่เขารู้แล้ว พวกเราจะไม่ให้ทั้งสองคนรู้จักกันได้ยังไง?

มนุษย์จะเห็นแก่ตัวไม่ได้!

ตอนนี้แม่ทั้งสองคนได้ผลสรุปเสียที แบบนี้ก็ดีแล้ว

“แม่เฉ่าเอ๋อร์ ด้วยอายุเราก็เยอะมากแล้วถ้าไปก่อน ค่อยบอกความจริงกับลูกตอนนั้นแล้วกัน น้องใหญ่เขาจะได้รับช่วงต่อ”

ซูฉางจิ่วเอ่ย

ฝ่ายภรรยาลังเล แต่สุดท้ายก็เห็นด้วย

เซี่ยหนานมีความสุขมาก เธอไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์เช่นนี้มาก่อนเลย

ขอแค่ได้ยินลูกเรียกว่าแม่สักครั้งในชีวิตจะไม่เสียใจเลย

“งั้นหลังจากนี้ฉันจะเรียกพวกคุณว่าพี่กับพี่เขยนะคะ” เซี่ยหนานจับมือภรรยาฉางจิ่ว

“ได้สิ หลังจากนี้เธอจะเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของฉันแล้วกัน”

แบบนี้ก็ดี ไม่ต้องแยกจากลูกด้วย แถมอยู่ ๆ ก็ได้น้องสาวเป็นคนในเมืองมาเพิ่มอีก

จากนั้นพวกเขาก็ออกไปด้วยกัน

ชาวบ้านที่ยืนดูความโกลาหลอยู่ พลันเห็นพวกเขาเดินยิ้มแย้มออกมา

แต่ละคนได้แต่ประหลาดใจ

เพราะผิดหวังมาก พวกเขานึกว่าจะได้เห็นการแสดงอันอลังการเสียอีก แต่ดันไม่มีอะไรเลยเนี่ยสิ

เสี่ยวเถียนคิดว่าถ้าไม่อธิบายให้ชัดเจน ต้องเกิดเรื่องซุบซิบเกี่ยวกับลุงฉางจิ่วแน่

จากนั้นก็เดินเข้าไปคุณป้าแล้วกระซิบกระซาบ “คุณป้า ถ้ามีคนถามก็บอกไปว่าพี่เสี่ยวเฉ่าได้ช่วยชีวิตคนเมืองคนหนึ่งไว้ อีกฝ่ายก็เลยเดินทางมาแสดงความขอบคุณน่ะ”

ภรรยาฉางจิ่วพยักหน้า “ไม่ค่อยเหมาะหรือเปล่า เขามาขอบคุณ แต่ป้าเอาแต่ไล่ตะเพิดเนี่ยนะ”

เหมือนจะเป็นแบบนั้นนะ ไม่สมเหตุสมผลเลยที่พวกเธอจะทำแบบนั้น

“งั้นบอกไปว่าพี่เสี่ยวเฉ่าได้รับบาดเจ็บตอนช่วยเขาไว้ ป้าก็เลยเสียใจค่ะ”

เสี่ยวเถียนคิดหาทางอื่น

“จะดีหรือ? จะไม่ทำให้เขาสงสัยเอาหรือ?”

“ไม่หรอกค่ะ!”

——————————————————-

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท