บทที่ 970 โชคดีเหลือเกิน
บทที่ 970 โชคดีเหลือเกิน
พวกเธอเดินทางออกจากบ้าน วันนี้ซูฉางจิ่วต้องไปทุ่งนา
ซึ่งเป็นทางเดียวกับที่เสี่ยวเถียนจะไปพอดี
“เสี่ยวเถียน หนูลงเขาไว ๆ นะ ตอนนั้นพวกป้าน่าจะอยู่ในทุ่งพอดี” ภรรยาฉางจิ่วเอ่ยอย่างเป็นกังวล
เด็กสาวรับคำมั่น จากนั้นก็โบกมือลาแล้วขึ้นเขาไปพร้อมเซี่ยหนานอย่างมีความสุข
เซี่ยหนานไม่เคยขึ้นเขามาก่อน แต่ชุดที่ใส่มาในวันนี้เหมาะแก่การปีนเขามาก
ถ้าเสี่ยวเถียนมาคนเดียวก็อาจจะไปเดินเล่น แต่มีอาจารย์อยู่ด้วยจึงล้มเลิกแผนการนี้ไป
เธอตั้งใจว่าอาจจะขุดดินที่ตีนเขาหาเห็ด ผักกูด ต้นหอมป่า หรือไม่ก็ผักป่าชนิดอื่น
ถ้าให้ดีคือมีไก่ป่า หรือไม่ก็กระต่ายป่าเดินโซซัดโซเซมาล้มตรงหน้า
ไอ้เรื่องหาผักไม่ได้ เธอไม่เคยคิดหรอกนะ
เพราะถึงจะโชคร้ายแค่ไหน แต่ก็เธอยังมีสกิลคุยกับต้นไม้ได้อยู่ใช่ไหมล่ะ?
แต่เซี่ยหนานไม่รู้เรื่องความมหัศจรรย์ของเด็กคนนี้ จึงไม่มั่นใจในการขุดผักป่าเท่าไร
ถ้าเดินเล่นอาจรู้สึกดีขึ้นก็ได้จึงตามเสี่ยวเถียนมาด้วย
ตอนนี้อารมณ์ของเธอดีขึ้นมาก
ถึงจะไม่ได้ลูกกลับคืน แต่อย่างน้อยหลังจากนี้จะได้ยินลูกเรียกว่าแม่บุญธรรมแล้ว
เป็นความสุขเดียวในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา
คนทั้งสองหัวเราะเฮฮากันตลอดทาง
เสี่ยวเถียนรู้สึกได้เลยว่าอาจารย์มีความสุขกว่าตอนอยู่เมืองหลวงเยอะเลย
ยิ้มบ่อยขึ้น จริงใจมากขึ้น
แน่นอนว่าได้เจอลูกสาวแล้วไงละ
หลังจากเดินออกมาได้ระยะหนึ่ง เซี่ยหนานก็เอ่ยขึ้น “ไม่คิดเลยว่าที่นี่จะมีภูเขาแบบนี้ด้วย ต้นไม้พวกนั้นคงอยู่มานานมากเลยสินะ”
“ถ้าเดินลึกเข้าไปอีก จะเห็นป่าไม้เก่าแก่หนึ่งเดียวของหมู่บ้านเราด้วยนะคะ พวกมันอยู่มานานแล้วแต่ไม่รู้ว่านานเท่าไรค่ะ”
ต่อให้สื่อสารกับพวกมันได้ แต่ถ้าถึงขนาดที่ต้นไม้ไม่รู้ ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน
เสี่ยวเถียนละมือไปตามกิ่งไม้ใบหญ้า
จากนั้นจึงย่อตัวลง ใช้พลั่วที่ยืมมาขุดดินบริเวณใต้ต้นไม้
เซี่ยหนานนึกสงสัยเลยเข้าไปดู ก่อนเห็นกอเห็ดขึ้นอยู่ตรงนั้น
อันที่จริง เธอใช้ชีวิตอยู่ในเมืองมาโดยตลอด จึงไม่รู้จักของป่าชนิดอื่น แต่รู้จักเห็ดนะ
“เห็ดกอใหญ่ขนาดนี้ฉันไม่ทันสังเกตเลย เธอหาเจอก่อนเสียอีกนะเนี่ย”
เสี่ยวเถียนยิ้ม “อาจารย์ดูเร็วค่ะ เห็ดโตดีมากเลย เอามาทำอาหารตอนเย็นได้นะคะ”
เธอเห็นเลยว่าเห็ดที่เพิ่งเด็ดมาสดแค่ไหน
“บนเขามีเห็ดเยอะขนาดนี้เลยหรือ?” เซี่ยหนานสงสัย
เขาฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือไม่น่ามีเห็ดขนาดนี้สิ
“เราเจอแค่บางครั้งค่ะ แต่ไม่ได้เป็นของล้ำค่าอะไร” เสี่ยวเถียนอธิบาย
แต่ที่ไม่ได้ใส่เข้าไปด้วยคือขอแค่เธอขึ้นเขาก็จะมีเห็ดผุดขึ้นมา
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความพิเศษของตัวเองไหม ต่อให้ขึ้นไปไม่เจออะไรก็ยังมีเห็ดให้อยู่
เสี่ยวเถียนเด็ดเห็ดอย่างระมัดระวังแล้วใส่ตะกร้าน้อยไว้
วันนี้เธอไม่ได้สะพายกระเป๋ามา
เซี่ยหนานได้ยินเช่นนั้นจึงเดินไปหาบ้าง
แต่ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง เธอก็ยังไม่เจอสักต้นเลย
ในขณะที่ฝั่งเสี่ยวเถียนมีเห็ดเต็มตะกร้า
“เสี่ยวเถียนเก็บได้เยอะขนาดนี้เลยหรือ?” เซี่ยหนานยิ้มอย่างเบิกบานใจตอนที่เห็น
ขณะกำลังจะตอบ สายตาพลันเหลือบไปเห็นผักกูดที่อยู่ไม่ไกล มันกำลังโอนเอนไปมา
“อาจารย์เซี่ย มีผักกูดด้วยค่ะ” เสี่ยวเถียนตะโกนลั่นแล้วชี้ให้ดู
ถึงปริมาณจะไม่เยอะ แต่อย่างน้อยก็ทำอาหารจานหนึ่งได้เลยนะ
“ต้นนี้คือผักกูดหรือ?”
เซี่ยหนานมองต้นพืชที่โตขึ้นจากพื้น สูงประมาณห้าหกชุ่น มีตาใบที่ม้วนงุ้มและรูปร่างเหมือนอุ้งเท้าแมว พืชต้นนี้ดูต่างไปจากต้นอื่น ๆ ที่อยู่รอบข้าง เธอจึงเดาว่านี่น่าจะเป็นผักกูด
“ถูกต้องค่ะ บนเขานี้อาจไม่ถือว่าอุดมสมบูรณ์เท่าไร แต่ถ้าดูดี ๆ เราก็อาจจะหาพืชพวกนี้ได้ค่ะ เราลองหากันอีกรอบดีกว่าเผื่อมีต้นหอมป่าด้วยนะคะ”
เสี่ยวเถียนคิดเผื่อไปอีกว่าถ้าหาสมบัติได้อีกก็คงดี
“ต้นหอมป่าหรือ? ที่นี่ก็มีด้วยหรือ?”
“มันโตเป็นบางครั้งค่ะ แล้วแต่โชคนะ”
จากนั้นเด็กสาวก็วานอาจารย์เก็บผักกูด ส่วนตัวเองหาเห็ดต่อ
เซี่ยหนานคลี่ยิ้มบาง “ฉันว่าเธอต้องเป็นเด็กที่โชคดีแน่เลย”
เด็กสาวไม่ได้พูดอะไร
ไม่ใช่แค่โชคดีหรอก โชคดีมากต่างหาก!
ตอนลงเขา เซี่ยหนานยังทอดถอนใจไม่หยุดว่าเสี่ยวเถียนโชคดีจริง ๆ
เธอถือตะกร้าเห็ดข้างหนึ่ง อีกข้างเป็นผักป่าสองต้น ผักกูดหนึ่ง และต้นหอมป่าอีกหนึ่ง
ส่วนเสี่ยวเถียนอุ้มไก่กับกระต่ายเต็มไม้เต็มมือ จากสาวงามกลายร่างเป็นนักล่าผู้แข็งแกร่ง
เด็กสาวในตอนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนลูกสะใภ้แบกลูกตัวอ้วน ๆ กลับบ้านเกิด
อย่าว่าแต่เซี่ยหนานตกใจเลย กระทั่งซูฉางจิ่วเห็นยังตกใจเหมือนกัน
แม่เจ้า! เสี่ยวเถียนขึ้นเขาไปครั้งเดียวได้ของกลับมาเยอะกว่าเขาไปสิบครั้งเสียอีก
บางคนขึ้นเขาไปเพิ่งจะได้ต้นหอมป่ามาแค่ต้นเดียวเอง
บางคนกลับมามือเปล่าด้วยซ้ำ ทำไมเด็กคนนี้ถึงหาพืชพวกนี้ได้เยอะจัง?
“เสี่ยวเถียน ทำไมเธอได้ผักมาเยอะจัง? แค่เห็ดก็พอกินหลายมื้อแล้วนะ นี่ยังมีไก่กับกระต่ายอีก ลาภปากแล้วเย็นนี้”
เสี่ยวเถียนระบายยิ้มออกมา “ตอนเย็นเราทำไก่ตุ๋นใส่เห็ด เนื้อกระต่ายผัด ไข่ผัดต้นหอมป่า แล้วก็ผักกูดเป็นอาหารจานเย็นกันค่ะ อาหารจานร้อนและอาหารจานเย็น เนื้อผักมีครบเลย!”
“ได้จ้ะ งั้นเราทำตามนี้แล้วกันนะ แต่ป้าฝีมือไม่เท่าย่าหนูน่ะสิ”
ภรรยาฉางจิ่วรู้ว่าแม่ครัวที่เก่งที่สุดในหมู่บ้านคือคุณย่าซู และเสี่ยวเถียนชินกับรสชาติที่ท่านทำดี เลยไม่รู้ว่าหลานจะไม่ชอบฝีมือตนหรือเปล่า
ส่วนเซี่ยหนานเหมือนเป็นคนเลือกเยอะ ถึงเมื่อก่อนจะเคยลำบาก แต่ตอนนี้น่าจะอยู่ดีกินดีแล้ว
อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกไม่มั่นใจเท่าไร
“คุณป้าทำอาหารอร่อยนะ ย่ายังบอกเลยว่าถ้าไม่ใช่เพราะป้าไม่อยากย้ายไปไหนว่าจะชวนไปทำช่วยทำอาหารที่ร้านค่ะ”
เสี่ยวเถียนไม่ได้แต่งเรื่องนะ คุณย่าพูดจริง ๆ