อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนพิเศษ 37 อย่าทำให้ข้าต้องผิดหวัง

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนพิเศษ 37 อย่าทำให้ข้าต้องผิดหวัง

ตอนพิเศษ 37 อย่าทำให้ข้าต้องผิดหวัง

เมื่อเย่ฉิงหนานเห็นท่าทางของเขา มุมปากก็กระตุกอย่างเสียไม่ได้

“ช่วยข้าหาคนคนหนึ่ง ค้นหาเบาะแสพี่ชายของอู๋ซื่อ ฮูหยินของรองเจ้ากรมหลาน ประจำกรมราชทัณฑ์”

เย่หลานเวยกะพริบตา “เจ้าต้องการสืบหาคน เลยต้องการให้ข้าช่วยงั้นหรือ?”

“ช่วงนี้ข้ามีเรื่องต้องทำและยุ่งมาก ข้าจึงมอบหมายงานนี้ไว้ให้เจ้า อย่าทำให้ข้าต้องผิดหวัง”

ช่วงนี้เขาต้องเตรียมวางแผนแต่งงานกับว่าที่ภรรยา จึงมีหลายสิ่งอย่างที่ต้องเตรียมการ อีกทั้งลุงของสุ่ยชิงยังเคยรับราชการในกองทัพ และตอนนี้เย่หลานเวยก็เชี่ยวชาญเรื่องในกองทัพดั่งปลาว่ายน้ำ เขาจึงน่าจะสืบได้สะดวก

“…” เย่หลานเวยอยากจะดุสักหน่อย เห็นได้ชัดว่าเจ้านี่อายุน้อยกว่าเขา แต่ดูจากท่าทางการพูดของเขาแล้ว ก็เหมือนกับว่าเขากำลังพูดกับเย่ฉิงเป่ย

ไม่สิ เขาไม่ได้พูดแบบนี้กับเย่ฉิงเป่ย

เอ๊ะ เดี๋ยวนะ…

ในที่สุดเย่หลานเวยก็ค่อย ๆ หรี่ตาลง แล้วหันไปจ้องเย่ฉิงหนาน ”เหตุใดเจ้าต้องสืบเรื่องพี่ชายของหลานฮูหยินด้วย? เขาทำให้เจ้าขุ่นเคืองหรือ?”

“ไม่ใช่ เขาเป็นผู้ใหญ่ ถ้าเจ้าเจอเขาก็ทำตัวให้สุภาพด้วยแล้วกัน” เย่ฉิงหนานไม่ต้องการคุยกับเขาอีก จึงลุกขึ้นและเตรียมจะเดินจากไป

เย่หลานเวยรีบลุกขึ้นยืน “เจ้าไม่แม้แต่จะอธิบายอะไรให้ข้าฟัง แต่กลับให้ข้าไปสืบหาเขา นี่ไม่ใจร้ายเกินไปหน่อยหรือ? เจ้าคิดจะบอกข้าถึงเหตุผลของเรื่องนี้หรือไม่? ไม่เช่นนั้น… เอ๊ะ เอ๊ะ เฮ้ เย่ฉิงหนาน รอข้าก่อน”

เย่หลานเวยกัดฟันจ้องมองเขา จากนั้นเตรียมจะรีบวิ่งตามเย่ฉิงหนานออกจากสนามฝึก

แต่ทันทีที่เขายืดขาออก เขาก็รู้สึกเจ็บแปลบที่กระดูกทั่วร่างกาย เขาจึงได้แต่ยืนมองเย่ฉิงหนานอยู่ที่เดิมด้วยความโมโห

เจ้าบ้าเอ๊ย รังแกคนที่ด้อยกว่าตัวเองงั้นหรือ? แค่ถูกเขาแกล้งเมื่อครู่นี้ เขาก็หมดแรงจากการต่อสู้แล้วหรือนี่?

เย่หลานเวยอยากจะบดขยี้หัวใจเขาจริง ๆ เมื่อยืนอยู่บนลานฝึกที่ว่างเปล่า เขาก็รู้สึกอ้างว้างยิ่งนัก

ส่วนเย่ฉิงหนานนั้น หลังจากระบายความอัดอั้นตันใจในใจออกไปจนหมด ในที่สุดเขาก็กลับมาที่ตำหนักอ๋องซิวอย่างสดชื่น

ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว และคนรับใช้ในตำหนักก็เริ่มตื่นขึ้นทีละคน เมื่อเห็นเย่ฉิงหนานกลับมาจากข้างนอก พวกเขาก็ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยความเคารพทันที

เมื่อเย่ฉิงหนานเดินไปที่เรือนอี้เฟิงที่เขาอาศัยอยู่ เขาก็หยุดกะทันหัน ก่อนหันไปพูดกับคนรับใช้ที่เพิ่งเดินออกมาว่า “เจ้าเข้ามากับข้า”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เย่ฉิงหนานเข้าไปในห้อง หยิบพู่กันและกระดาษออกมาเริ่มเขียน หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พับกระดาษที่เขียนแล้วส่งให้ชายคนนั้น

“เมื่อเหวินเกอตื่นขึ้น เจ้าให้สิ่งนี้แก่เขา และให้เขาทำตามที่เขียนไว้บนกระดาษ”

“พ่ะย่ะค่ะ” คนรับใช้รีบเก็บกระดาษนั้นอย่างทะนุถนอม แล้วรับคำด้วยความเคารพ

เย่ฉิงหนานขมวดคิ้วอีกครั้ง หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งก็กำชับอีกครั้ง “อย่าให้ท่านอ๋องและหวางเฟยรู้ อย่าให้คนอื่นเห็น เจ้าต้องส่งมันให้เหวินเกอ”

คนรับใช้ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขารู้แล้วว่าตนได้แบกรับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ จึงต้องระมัดระวังให้มากขึ้น เขารีบตอบว่า “พ่ะย่ะค่ะ ซื่อจื่อ”

เย่ฉิงหนานเพียงแค่พยักหน้า ก่อนลูบหว่างคิ้วตนเอง แล้วพลิกตัวเข้านอน

ตำหนักอ๋องซิวอันใหญ่โตค่อย ๆ มีชีวิตชีวาขึ้น หลังจากที่เขาเข้าสู่ห้วงนิทรา

เมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติที่ตำหนักอ๋องซิว จวนหลานนั้นกำลังตึงเครียดมากเพราะมีเรื่องเร่งด่วน

ในตอนเช้า ไท่ฮูหยินและจินซื่อตื่นขึ้นมา และไม่สามารถข่มตาหลับได้

แม้ว่าข่าวลือของชาวบ้านเมื่อวานนี้จะมีการอธิบายโดยคนของซิวหวางเฟยแล้ว และหลายคนก็เข้าใจได้ แต่บางคนก็ยังปักใจเชื่อว่าคนที่ผลักเสิ่นเหวินเสียนตกน้ำคือสองพี่น้องสกุลหลาน

เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งที่พวกนางทำเมื่อวานนี้ก็ดูหยิ่งยโสเกินไป และคำพูดของสาวใช้สองคนนั้นก็รุนแรงมากด้วย

เหล่าสตรีที่ทะเลาะกับพวกนางไม่ได้สนใจว่าใครเป็นต้นเหตุของเรื่องเสิ่นเหวินเสียนอีกต่อไป รู้เพียงว่าเมื่อวานนี้ถูกพวกนางด่าทอจนทำให้เสียความรู้สึกมาก พวกนางจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้คุณหนูตระกูลหลานทั้งสองเสื่อมเสียชื่อเสียง

ดังนั้นจึงไม่อาจระงับการนินทาได้เลย ซึ่งมันส่งผลโดยตรงกับเสิ่นฉี เสนาบดีกรมราชทัณฑ์

เดิมทีเสิ่นฉีอารมณ์เสียเพราะบุตรสาวที่รักของเขาถูกทำร้าย แต่เขาได้ยินมาว่านางตกน้ำเพราะนางกลัวแมลงเอง เขาจึงจำต้องระงับความโกรธไว้

ยิ่งกว่านั้นคือคำบอกเล่าลูกสาว ก็ดูเหมือนว่านางจะตกใจกลัวแมลงขณะยืนอยู่ใต้ต้นไม้ หลังจากชวนหลานสุ่ยชิงไปว่ายในทะเลสาบ และคนที่ยืนอยู่ข้างลูกสาวของเขา คือคุณหนูรองและคุณหนูสามของตระกูลหลาน ยิ่งไปกว่านั้น พวกนางยังเป็นคนยุยงให้เสิ่นเหวินเสียนจัดการกับหลานสุ่ยชิงด้วย

สุดท้ายแล้วเรื่องทั้งหมดก็เกิดจากการแก่งแย่งชิงดีกัน ระหว่างลูกสาวของตระกูลหลาน ซึ่งเป็นการลากลูกสาวของเขาไปสู่ความโชคร้ายด้วยจนตกน้ำ

จากการวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย มันก็เป็นความผิดของตระกูลหลานอยู่ดี

ดังนั้นในฐานะหัวหน้าของรองเจ้ากรมหลาน ในที่สุดเสิ่นฉีก็มีที่ระบายความโกรธ

เช้าวันนั้น เขาเพิ่มข้อผิดพลาดในเอกสารของรองเจ้ากรมหลาน ซึ่งทำให้ฮ่องเต้ตำหนิรองเจ้ากรมหลาน

หลังจากที่เขามาที่ราชสำนัก รองเจ้ากรมหลานก็ทำผิดพลาดบ่อยขึ้นในกรมราชทัณฑ์ เมื่อถูกคนอื่นกดดัน และตกอยู่ในสถานการณ์ที่โดดเดี่ยวเมื่อมีปัญหา เขาก็ยากที่จะดิ้นรนหาทางแก้

รองเจ้ากรมหลานไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากอ้างว่าไม่สบาย และขอลาหยุดอยู่บ้านสองสามวัน เพื่อรอจนกว่าเรื่องวุ่นวายนี้จะผ่านไป รอจนกว่าโทสะของเสิ่นฉีจะจางลง แล้วจึงจะกลับไปทำงาน

เมื่อเห็นเขามีท่าทางเซื่องซึม ไท่ฮูหยินและจินซื่อก็กังวลมาก จากนั้นทั้งจวนก็ตื่นตระหนก

ไท่ฮูหยินโกรธแค้นสาวใช้สองคนของหลานสุ่ยหยวนและหลานสุ่ยเถียนแทบตาย เพราะคิดว่าต่อให้จะเพิ่งทุบตีพวกนางจนตายไปเมื่อวานนี้ นางก็ไม่สามารถคลายโทสะได้เลย

เห็นลูกชายเป็นแบบนี้แล้ว นางก็รู้สึกหดหู่ใจจนไม่อาจปล่อยวางได้ ด้วยความปวดหัวและความรำคาญในใจ นางจึงสั่งให้เปลี่ยนสาวใช้ทุกคนรอบกายหลานสุ่ยหยวนและหลานสุ่ยเถียน โดยไม่เหลือคนเดิมไว้สักคนเดียว

หลานสุ่ยหยวนกับน้องสาวรู้สึกผิดมาก และต้องการไปคุยกับไท่ฮูหยิน แต่จินซื่อห้ามไว้

ตอนนี้จิตใจของไท่ฮูหยินกำลังยุ่งเหยิงเพราะเรื่องรองเจ้ากรมหลาน นางจึงกำลังหงุดหงิด แม้ว่านางจะรักสองพี่น้องสกุลหลานมากเพียงใด แต่นางก็คงไม่ต้องการให้พวกนางมาขัดความคิดของนาง

จินซื่อรู้จักไท่ฮูหยินดี นางจึงทำได้เพียงเกลี้ยกล่อมหลานสุ่ยหยวนและน้องสาวให้สงบลง หลังจากเรื่องนี้จบลง ไท่ฮูหยินก็จะอารมณ์ดีขึ้นเอง หากพวกนางคุ้นเคยกับคนรับใช้เก่า ก็ค่อยไปขอให้นำพวกนางกลับมาได้

ตอนนี้สิ่งเดียวที่สองพี่น้องสกุลหลานทำได้ คืออยู่ในจวนอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว

แน่นอนว่าหากข่าวลือข้างนอกยังไม่ลดลง พวกนางก็ออกไปไหนไม่ได้

แต่สิ่งที่ทำให้จินซื่อแปลกใจก็คือ เหตุใดถึงมีข่าวลือเช่นนี้ไปทั่ว? การทะเลาะเบาะแว้งกันของลูกสาวในครอบครัวเป็นเรื่องปกติธรรมดาในครอบครัวข้าหลวงระดับสูงและตระกูลที่มีอำนาจ เสิ่นเหวินเสียนที่ตกน้ำก็ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต แล้วมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?

จินซื่อขมวดคิ้ว เมื่อนึกได้ว่าเรื่องที่ลูกสาวของนางไปตำหนักอ๋องซิว มีเพียงคนในจวนหลานและในตำหนักอ๋องซิวเท่านั้นที่รู้

เป็นไปได้หรือไม่ว่าเป็นฝีมือของคนในตำหนักอ๋องซิว? ไม่สิ ถ้าข่าวลือนี้แพร่ออกไป แล้วจะมีประโยชน์อะไรต่อวังหลวง? อีกทั้งแม่นมหลินคนนั้นยังตักเตือนเด็กสาวสองเมื่อวานนี้ อีกทั้งซิวหวางเฟยก็ส่งคนไปชี้แจงและอธิบายเรื่องนี้ด้วย

หรือว่าจะเป็นฝีมือคนในจวนหลาน?

……………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

หนานหนานจะวางแผนทำอะไรโดยไม่ให้พ่อแม่รู้กันนะ

อีกประเดี๋ยวก็จะมาโทษสุ่ยชิงจนได้อะดูทรงแล้ว คนจวนนี้มันไม่มีที่ทิ้งขยะอื่นนอกจากสุ่ยชิงหรือไงนะ

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท