ตอนที่ 797 เย่ซิวตู๋แผ่รัศมีเต็มที่
ตอนที่ 797 เย่ซิวตู๋แผ่รัศมีเต็มที่
หนานหนานจูงมือไป๋อีเฟิงขณะชะโงกหัวเยี่ยม ๆ มอง ๆ เมื่อเดินไปถึงห้องโถง เขาก็บังเอิญเห็นเย่ซิวตู๋และเหมิงจื่อเชียนกำลังคุยเรื่องอะไรบางอย่างกันอยู่
เมื่อเห็นเขา สีหน้าเคร่งขรึมของเย่ซิวตู๋ก็อ่อนโยนลง และยกมือขึ้นกวักเรียกเขา
หนานหนานรีบกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเย่ซิวตู๋โดยไม่ได้เอ่ยคำใดสักคำ
เย่ซิวตู๋รู้สึกได้ถึงความสุขของลูกชายที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เขาลูบศีรษะหนานหนาน แล้วพูดเสียงเบา “เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร? เจ้าไม่ได้บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเสี่ยวอวี้หรอกหรือ?”
หนานหนานกอดคอพลางถูไถใบหน้าเข้ากับคอของบิดา แม่ของเขาไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงชอบอยู่ในอ้อมแขนของเย่ซิวตู๋เป็นพิเศษ
เขาเหลือบมองไป๋อีเฟิง แล้วพูดเสียงเบาว่า “ข้าจะไปหาตาทวดของข้าขอรับ”
“ได้ เช่นนั้นพ่อจะพาไป” เขาตอบว่าได้ แต่แท้ที่จริงคือทำได้แค่ยืนมองที่ประตูเท่านั้น
ท่านประมุขมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปรบกวนผู้อาวุโสสกุลหมิง รวมทั้งเขาและหนานหนานด้วย
แม้ว่าคำสั่งนี้จะเกิดจากการสั่งการของท่านประมุข แต่เขาก็ไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติ
เย่ซิวตู๋พยักหน้าให้เหมิงจื่อเชียนที่มีสีหน้าจริงจัง “เช่นนั้นข้าต้องไปก่อน แล้วเจอกันที่อื่นในภายหลัง”
“ได้เลย”
เหมิงจื่อเชียนพยักหน้าให้ไป๋อีเฟิงที่ตามเข้ามาทีหลัง แล้วพูดว่า “คุณชายไป๋ตามสบายนะขอรับ วันนี้ข้าต้องขอตัวก่อน”
“ไม่เป็นอะไรขอรับ ข้าเพียงแค่มาส่งเจ้าตัวเล็ก”
เหมิงจื่อเชียนหันหลังเดินออกจากห้องโถง
เย่ซิวตู๋เดินออกจากประตูพร้อมหนานหนานในอ้อมแขนของเขา และเดินไปยังเรือนที่ผู้อาวุโสสกุลหมิงอาศัยอยู่
ไป๋อีเฟิงกลอกตา เม้มปากเดินตามทีละก้าวอย่างดูลับ ๆ ล่อ ๆ
หนานหนานซบบนไหล่ของเย่ซิวตู๋และมองเห็นได้ชัดเจน เขายักไหล่และยกยิ้ม
เมื่อเย่ซิวตู๋อยู่ห่างจากห้องของผู้อาวุโสสกุลหมิงราวยี่สิบหมี่ หนานหนานก็ตบไหล่เขา แล้วพูดเสียงเบาว่า “ท่านพ่อ ความจริงแล้วข้ามาหาท่านพ่อเพราะมีธุระอื่นขอรับ ข้าต้องการนำจดหมายมามอบให้ท่านพ่อขอรับ”
ฝีเท้าของเย่ซิวตู๋หยุดชะงักเล็กน้อย “จดหมาย? จดหมายอะไร?”
หนานหนานแนบหน้าข้างหูเขา แล้วลดเสียงลง “เป็นจดหมายที่ท่านแม่ขอให้ท่านอาไป๋ส่งมาให้ขอรับ”
“เจ้าว่าอะไรนะ?” รูม่านตาของเย่ซิวตู๋เบิกกว้างทันที เขากอดหนานหนานจนห่างจากเขาครึ่งนิ้ว สีหน้าของเขาตื่นเต้นมาก “เจ้าพูดว่าอะไรนะ? พูดอีกครั้งสิ”
“จุ๊ ๆ ท่านพ่อ ความจริงแล้วข้ายังไม่รู้รายละเอียด ข้ายังไม่ได้อ่านจดหมายของท่านแม่เลย พวกเราเข้าไปอ่านกันเถิด ระวังอย่าให้ใครรู้เห็นด้วยนะขอรับ”
เมื่อเห็นบุตรชายของเขาเป็นเช่นนี้ เย่ซิวตู๋ก็ค่อย ๆ กลับมามีสติ เขาพ่นลมหายใจ จากนั้นพยักหน้าและพูดว่า “พวกเราเข้าไปกันเถิด”
หลังจากพูดจบ เขาก็แทบรอไม่ไหวที่จะเปิดประตูด้านซ้าย นี่คือห้องทำงานของผู้อาวุโสสกุลหมิง สะอาด เป็นระเบียบ และให้ความรู้สึกสดชื่น
ทันทีที่เย่ซิวตู๋เข้ามา เขาก็หันหลังกลับไปปิดประตู
ครึ่งตัวของไป๋อีเฟิงเกือบจะถูกประตูหนีบ
เขากะพริบตาและพูดว่า “ให้ข้าเข้าไปด้วยสิ”
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว “เข้ามาทำอะไร?” นี่เป็นจดหมายที่ชิงเอ๋อร์ส่งถึงเขา เหตุใดคนนอกเช่นเขาต้องตามมายุ่งด้วย?
ไป๋อีเฟิงโกรธมาก พ่อลูกคู่นี้เหมือนกันไม่มีผิด เขาชี้ไปที่หนานหนาน แล้วพูดว่า “ข้าเป็นคนนำจดหมายในอ้อมแขนของหนานหนานมาส่ง ดังนั้นข้าจึงมีสิทธิ์ที่จะอ่านด้วย”
เย่ซิวตู๋คิดว่าไป๋อีเฟิงช่างไร้ยางอายนัก อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เขามีสิทธิ์อ่านสิ่งที่เขานำมาส่ง? ใครบัญญัติไว้?
“ท่านอาไป๋ ท่านเข้ามาไม่ได้ ท่านเพิ่งบอกเองว่าให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ อย่าให้คนอื่นเห็นจดหมายนี้ และอย่าให้คนอื่นรู้ว่าแม่ของข้าอยู่ที่ไหนไม่ใช่หรือขอรับ?” หนานหนานพูดอย่างไร้เดียงสา “ท่านเป็นคนอื่น…”
ไป๋อีเฟิงหมดคำจะพูด ร่างกายของเขาแข็งทื่อ “ข้า…”
“เช่นนั้นท่านอาไป๋ต้องคอยระวังให้พวกเราอยู่ข้างนอกนะขอรับ ต้องคอยดูให้ดี อย่าให้ใครเข้ามา ไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายมาก การที่ท่านแม่ฝากจดหมายมากับท่าน ก็แสดงว่าท่านแม่ต้องเชื่อใจท่านมาก อย่าทำให้นางเสียความเชื่อใจต่อท่านไปเลย เข้าใจหรือไม่?”
ในที่สุดไป๋อีเฟิงก็เข้าใจความหมายของการยกหินขึ้นมาแต่หล่นทับขาตัวเอง เขาเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นว่าพ่อลูกคู่นี้มีสีหน้าเหมือนกันทุกประการ แววตาของพวกเขาเหมือนจะบอกว่า ‘ถ้าเจ้ากล้าก้าวเข้าประตูมาล่ะก็ ขาของเจ้าอาจจะไม่ได้อยู่ติดกับตัว’ เขารู้สึกอ่อนแรงลงทันที และถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่ได้ตั้งใจ
เย่ซิวตู๋พยักหน้า แล้วปิดประตูใส่หน้าเขาเสียงดัง ‘ปัง’
ไป๋อีเฟิงยืนอยู่ข้างนอก สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งทหารยามในคฤหาสน์เดินผ่านมา เขาก็ฝืนยิ้มแล้วหันหลังกลับไป
การเคลื่อนไหวข้างนอกเงียบไปแล้ว ทันทีที่เย่ซิวตู๋อุ้มหนานหนานเข้าไปข้างในแล้ว เขาก็แทบรอไม่ไหวที่จะให้เขาหยิบจดหมายออกมา
แทบรอไม่ไหวที่จะดึงมันออกจากซอง แล้วฉีกเปิดทั้งสองด้านก่อนเปิดอ่าน
หนานหนานนั่งบนตักของเขาขณะอ่าน
จดหมายของอวี้ชิงลั่วไม่ยาวนัก เพียงแค่อธิบายข้อมูลพื้นฐานบางอย่างเท่านั้น รวมถึงเล่าว่านางถูกจับตัวไปได้อย่างไร อีกฝ่ายเป็นใคร และมีจุดประสงค์อะไร อีกทั้งยังรายงานความปลอดภัยของนางด้วย
สำหรับวิธีการหลบหนีนั้น นางแค่พูดคลุมเครือและบอกว่าจะได้พบกันเมื่อถึงเวลา
ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างซับซ้อน อวี้ชิงลั่วสงสัยว่าเหมิงพั่วจะเป็นคนทำเรื่องนี้ และไม่อาจเพิกเฉยต่อเหมิงจื้อเฉิงได้ บางทีพวกเขาสองคนอาจสมรู้ร่วมคิดกัน
ดังนั้นนางจึงไม่สามารถปรากฏตัวได้ในขณะนี้ ไม่เช่นนั้นนางจะกลายเป็นเป้าหมายของเหมิงจื้อเฉิงอีกครั้ง
จู่ ๆ ก็มีข่าวลือปรากฏขึ้นในเมืองหลวงว่าเหมิงลู่สังหารผู้อาวุโสสกุลหมิง หรืออาจเกี่ยวข้องกับมือสังหารที่มาลอบสังหารผู้อาวุโสสกุลหมิง ทุกคนรู้ว่าเย่ซิวตู๋กำลังสืบสวนเรื่องนี้อยู่ และมือสังหารจะหาทางเล่นงานเขาแน่นอน
อวี้ชิงลั่วต้องการร่วมมือกับเย่ซิวตู๋อยู่เบื้องหลัง เพื่อสืบหาความจริงของเรื่องนี้
นางขอให้เย่ซิวตู๋ดูแลตัวเองและหนานหนานให้ดี นางรู้สึกว่าจะมีการสมรู้ร่วมคิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นในเผ่าเหมิง และความรู้สึกนี้ทำให้นางกระวนกระวายใจมาก
หลังจากอ่านจดหมายจบแล้ว เย่ซิวตู๋ก็ถอนหายใจยาว
เพียงแต่เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาล้มเหลวในการค้นหาชิงเอ๋อร์ในครั้งแรก ซึ่งทำให้เขา…รู้สึกผิดต่อชิงเอ๋อร์
“ท่านพ่อ ท่านแม่สบายดี หนีไปได้แล้ว” หนานหนานมีความสุขมาก แต่ความประทับใจที่มีต่อเหมิงจื้อเฉิงกลับจางหายไปเล็กน้อย
คนผู้นี้มีลักษณะเย็นชาและไม่เคยทำสีหน้าดีเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาเลย ตอนนี้เขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวแม่ของเขา เขาจึงต้องสนใจจับตาดูไว้แน่นอน ถ้ากล้าทำเรื่องเลวร้าย หนานหนานจะจัดการเขาด้วยตัวเอง
หนานหนานเม้มปากคิดอย่างโกรธเคือง
เย่ซิวตู๋ยืนขึ้น ก่อนวางจดหมายในมือลง เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็จุดเทียนเผาจดหมายทั้งฉบับ
“หนานหนาน ตามอาไป๋กลับไปก่อน พ่อ… มีเรื่องต้องทำ” ตอนนี้ชิงเอ๋อร์พ้นอันตรายแล้ว และเขาไม่ต้องกังวล เขาสามารถปล่อยวางการกระทำบางอย่างได้
หนานหนานมองดูรัศมีของพ่อที่แผ่ออกมาอย่างเต็มที่ครู่หนึ่ง แล้วจ้องมองด้วยความชื่นชมทันที
จนกระทั่งเขาถูกเย่ซิวตู๋อุ้มออกจากห้องตำรา แล้วส่งเขาเข้าไปในอ้อมแขนของไป๋อีเฟิง สายตาของเขาก็ยังคงไม่ขยับไปไหน
ใช่แล้ว หนานหนานรู้สึกว่าเขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดท่านแม่จึงหลงรักท่านพ่อ ท่านพ่อช่างหล่อเหลาเหลือเกิน
“เอ๊ะ นั่นใครน่ะ?” ไป๋อีเฟิงเดินออกมาข้างนอกพร้อมกับหนานหนานในอ้อมแขน แต่เมื่อเขาเดินไปถึงด้านหลังโขดหิน เขาก็เห็นคนแปลกหน้าที่สามารถเข้าออกคฤหาสน์ผู้อาวุโสสกุลหมิงได้ตามใจชอบ ความเย่อหยิ่งแผ่ซ่านจากตัวเขา เมื่อทหารยามเห็นเขา พวกเขาก็ยืนนิ่งก้มต่ำ ราวกับว่าพวกเขาเคารพเขามาก ซึ่งทำให้ไป๋อีเฟิงประหลาดใจ
หนานหนานชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อหันไปมอง เขาก็ขมวดคิ้วทันที
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
รอบคอบอยู่นะชิงลั่วที่ยังไม่ปรากฏตัวตอนนี้ ไม่งั้นท่านอ๋องต้องรับศึกหลายด้าน
ใครเข้ามาน่ะ จะเป็นเหมิงจื้อเฉิงหรือเปล่า?
ไหหม่า(海馬)