ตอนที่ 915 เคารพผู้อาวุโส
ตอนที่ 915 เคารพผู้อาวุโส
อวี้ชิงลั่วเดินไปข้างหน้าอีกสองสามก้าว เสิ่นอิงที่มีสัมผัสเฉียบคมของรู้สึกได้ถึงร่างของนางจึงชะงักไปทันทีพร้อมกับสีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน
จนกระทั่งอวี้ชิงลั่วเดินมาถึงตรงหน้าเขา เขาก็ปรับสีหน้ากลับไปเป็นปกติแล้ว ทักทายนางอย่างเป็นธรรมชาติดังเช่นทุกครั้ง
“เจ้ามาทำอะไรตรงนี้หรือ” อวี้ชิงลั่วเอียงคอถามด้วยรอยยิ้ม
เสิ่นอิงกระแอมครั้งหนึ่งแล้วก็ยิ้มออกมา “ไม่มีอะไรขอรับ เพียงแต่สงสัยเกี่ยวกับบ้านพักซิ่วจิ่งนี้มาก จึงออกมาเดินดูสภาพแวดล้อมเสียหน่อย อย่างไรก็เป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นชิน”
ถึงน้ำเสียงจะเหมือนปกติ แต่ก็ยังแปลกอยู่เล็กน้อย ราวกับพยายามจะอธิบายเป็นอย่างมาก
อวี้ชิงลั่วหรี่ตาแล้วตอบออกไปว่า “อ้อ”
เมื่อเห็นเช่นนี้ เสิ่นอิงก็ใบหน้าแข็งทื่อ รีบกล่าวออกมา “แม่นางอวี้ หากไม่มีเรื่องอันใดแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อนขอรับ เผิงอิงนัดข้าไว้ให้ไปฝึกวิชาด้วยกันขอรับ”
หลังจากมาถึงบ้านพักบนเขาซิ่วจิ่ง เย่ซิวตู๋ก็ไม่ได้ให้พวกเขาคอยอยู่ข้างกาย และไม่ได้มีคำสั่งอันใดให้พวกเขาทำ เพียงแต่ให้พวกเขาอยู่รอฟังคำสั่งที่เรือนเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีอะไรทำตลอดทั้งวัน
แต่โม่เสียนก็ยังคอยอยู่ข้างกายเยว่ซินดูแลหมอเจียง จึงเหลือเพียงเขาและเผิงอิงสองคนที่เป็นพี่น้องคู่ทุกข์คู่ยากที่ฝึกซ้อมตลอดทั้งวันเพื่อฆ่าเวลา
อวี้ชิงลั่วมองเขาแวบหนึ่งแล้วพยักหน้า “อืม”
เสิ่นอิงลอบถอนหายใจ สีหน้ายังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
แต่อวี้ชิงลั่วกลับรู้สึกได้ว่าฝีเท้าตอนเขาเดินกลับไปนั้นรวดเร็วขึ้นไม่น้อย ราวกับว่ามีนางไล่ตามอยู่ข้างหลังอย่างไรอย่างนั้น
อวี้ชิงลั่วยืนอยู่ที่เดิมพักใหญ่ ก่อนจะเม้มปากแล้วครุ่นคิด
หลังจากนั้นก็ถามสาวใช้ที่เดินตามหลังมา “ผ่านตรงนี้ไปคือที่ใดหรือ?”
นางชี้ไปยังทิศทางที่เสิ่นอิงวางแผนจะเดินไป
สาวใช้สองคนด้านหลังเงียบไป จากนั้นก็กล่าวเสียงเบา “ทางด้านนั้นคือห้องตำราของคุณชายรองเจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วขึ้นมาทันใด เสิ่นอิงจะไปที่ห้องตำราของฟ่านผิงอวิ๋นทำไมกัน? ไปหาเย่ซิวตู๋หรือ? ไม่หรอก
ในใจนางรู้สึกว่าพฤติกรรมของเขามีบางอย่างผิดปกติ
“แม่นาง ท่านจะไปโล่วซื่ออยู่หรือไม่เจ้าคะ” เมื่อเห็นว่านางยืนอยู่ใต้แสงอาทิตย์ ไม่มีสิ่งใดกำบัง ทั้งยังนิ่งเฉย กระทั่งใบหน้ามีเหงื่อไหลซึมแล้วก็ยังไม่ตอบสนองใดๆ สาวใช้สองคนที่ด้านหลังจึงสบตากันแล้วอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือน
อวี้ชิงลั่วได้สติกลับมาในทันใด หายใจออกมาช้าๆ ปรับอารมณ์ที่สับสนวุ่นวายของตน พยักหน้าแล้วกล่าว “ไปกันเถิด”
ทั้งสามคนเดินตรงไปทางโล่วซื่ออีกครั้ง สาวใช้ด้านหลังก็เดินตามอวี้ชิงลั่วทุกฝีก้าว คอยพัดให้นางอย่างรู้ความ
หลังจากเดินไปเกือบสิบนาที อวี้ชิงลั่วก็ยืนอยู่ตรงหน้าประตูโล่วซื่อ
ทางด้านนั้นมีสาวใช้เฝ้าอยู่ เมื่อเห็นอวี้ชิงลั่วก็คิดจะเข้าไปรายงาน แต่ก็ถูกอวี้ชิงลั่วยกมือห้ามไว้
นางยืนอยู่ด้านนอกห้องตำราอย่างเงียบๆ ไม่นานนัก ด้านในก็มีเสียงเอะอะโวยวายของฟ่านซิวอวิ๋นดังขึ้นมา “ข้านั่งเช่นนี้เจ้าก็ไม่พอใจ นั่งเช่นนั้นเจ้าก็ยังไม่พอใจ ข้าจะนั่งเก้าอี้ตัวนี้ เหตุใดเจ้าจึงพูดไร้สาระมากมายนัก?”
อวี้ชิงลั่วกระตุกมุมปาก มองเห็นจากหางตาว่าสาวใช้ที่เฝ้าอยู่ตรงประตูกำลังเม้มปากด้วยท่าทางลำบากใจ
นางยังไม่ทันได้คิดอะไร ด้านในก็มีเสียงของแม่นมเซียวดังขึ้น ฟังดูเคร่งครัดเป็นอย่างมาก “นายท่าน นั่นไม่ใช่การนั่ง นั่นคือการนอนแผ่ หรือว่านายท่านอายุมากเพียงนี้แล้ว ยังแยกการนอนแผ่กับการนั่งไม่ออกอีกหรือ?”
หนานหนานกล่าวเสริม “ใช่ๆๆ ท่านลุงนายท่าน ท่านเอนกายลงไปทั้งตัวเช่นนั้น พุงยื่นออกมาจนไม่น่าดูเลย ท่านควรนั่งตัวตรงตรงนี้ มา ดูข้านี่ ทำเหมือนข้า”
ใบหน้าของฟ่านซิวอวิ๋นโกรธเกรี้ยว ส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ “ข้าจะนั่งเช่นนี้ หากพวกเจ้าไม่พอใจ ข้าจะไล่พวกเจ้าออกไปเสีย ได้ยินหรือไม่?”
อวี้ชิงลั่วเดินอย่างเงียบๆ ไปตรงใต้หน้าต่างที่เปิดอยู่ ก็เห็นฟ่านซิวอวิ๋นจ้องมองผู้ใหญ่และเด็กอย่างดุร้าย
แม่นมเซียวสีหน้าเคร่งขรึม เม้มปากถือไม้บรรทัดแล้วก้าวไปข้างหน้าเพื่อตีเขา “นายท่านอย่าลืมเรื่องที่ตกลงกับคุณหนูของข้าไว้สิเจ้าคะ หากท่านไม่เชื่อฟังคำสั่งสอน ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจแล้วกัน”
“อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจล่ะ” หนานหนานกล่าวตาม
แม่นมเซียวออกแรงไม่มากนัก ไม้บรรทัดที่ฟาดลงไปบนเนื้อหนังหนาๆ ของฟ่านซิวอวิ๋นจึงไม่ได้สร้างความเจ็บปวดแก่เขาเลยแม้แต่น้อย
แต่เขาก็ยังทำท่าทางเหมือนถูกตีเสียจนแทบสลบแล้วเด้งตัวขึ้นมา “ยายแก่ อย่าลงมือกับข้านะ ข้าฆ่าเจ้าได้รู้หรือไม่”
แม่นมเซียวแค่นหัวเราะ “หากนายท่านกล้าก็ลองดูเถิด”
แม่นมเซียวอยู่ในวังมานาน เคยได้รับอนุญาตจากฮองเฮา หากในวังมีองค์หญิงหรือองค์ชายคนไหนที่ไม่เชื่อฟัง นางก็สามารถว่ากล่าวตักเตือนได้ นับประสาอะไรกับฟ่านซิวอวิ๋นที่ดื้อด้าน
ดูท่าทางเช่นนี้ของเขา แม่นมเซียวกลับรู้สึกอยากจะสู้ขึ้นมาแทน หากไม่ได้เปลี่ยนนิสัยที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้ของเขา นางคงจะเสียเวลาหลายปีที่ฮองเฮาสั่งสอนไปโดยเปล่าประโยชน์
ฟ่านซิวอวิ๋นเห็นนางมีจิตใจแข็งแกร่งมากก็กัดฟันในทันใด กระโดดขึ้นไปบนโต๊ะทันทีแล้วก้มลงมองนาง
“เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่กล้านะ อย่างไรเจ้าก็เป็นเพียงคนรับใช้ หากเจ้าทำให้ข้าขุ่นเคืองขึ้นมาจริงๆ ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย เย่ซิวตู๋เองก็ไม่สามารถทำอะไรข้าได้”
หนานหนานยืนอยู่ข้างๆ เงยหน้าขึ้นมองเขา รู้สึกเมื่อยคอเล็กน้อย จึงถอยเท้าไปสองสามก้าวก่อนจะกล่าว “ทำไมจะทำอะไรท่านไม่ได้ แม่นมเซียวไม่ใช่ข้ารับใช้ธรรมดาทั่วไป นางเป็นมือขวาของฮองเฮาเหนียงเหนียงแห่งอาณาจักรเทียนอวี่ เป็นผู้ช่วยชีวิตข้า เป็นผู้อาวุโสที่ท่านแม่เคารพรักมากที่สุด ครั้งก่อนมีคนทำร้ายแม่นมเซียว แม่ของข้าจึงตัดมือสองข้างของเขาเสีย หากท่านฆ่าแม่นมเซียวล่ะก็… โอ๊ย ข้าว่าท่านแม่คงจัดการท่านจนร้องโหยหวนเป็นหมูโดนเชือดแน่”
ฟ่านซิวอวิ๋นตัวสั่นอย่างอธิบายไม่ถูก หันไปมองแม่นมเซียวที่มีท่าทางเหมือนจะบอกว่า ‘หากเจ้ากล้าลงมือ ข้าก็ยื่นหัวให้เจ้าตัดเสีย’ แล้ว ก็มีท่าทางอ่อนลงเล็กน้อย
ช่างเถิด บรรดาสตรีไม่เคยใช้เหตุผลอยู่แล้ว นี่ยิ่งไม่ใช่หญิงในจวนของตนด้วย เขาไม่สนใจลองดีกับนางหรอก
ดังนั้น ฟ่านซิวอวิ๋นจึงตั้งเป้าหมายไปที่หนานหนาน “เจ้าเด็กน้อย เจ้าอย่ายุ่งเรื่องคนอื่นให้มากนัก ข้าอาวุโสกว่าเจ้า ในเมื่อแม่นมเซียวผู้นี้รู้จักมารยาทและธรรมเนียมปฏิบัติเป็นอย่างดี นางไม่เคยสอนเจ้าหรือว่าอะไรคือเคารพผู้อาวุโส”
อวี้ชิงลั่วอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว เหตุใดนางจึงรู้สึกว่าฟ่านซิวอวิ๋นกล่าวคำพูดเช่นนี้จึงดูอ่อนโยนเป็นอย่างมากนักนะ
สาวใช้ด้านหลังนางสองคนสบตากัน รู้สึกอยากจะหันหลังไปจากที่นี่อย่างบอกไม่ถูก
พวกนางได้ยินมาว่าเด็กที่ชื่อหนานหนานนี้มีฝีมือวรยุทธ์สูงส่ง หากไม่พอใจขึ้นมา คงไม่สู้กับนายท่านหรอกใช่หรือไม่
ด้วยนิสัยของนายท่านนั้น เป็นไปได้มากว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น หากเด็กคนนี้ก็เป็นเช่นเดียวกัน เช่นนั้นจะสู้กันจนออกมาถึงข้างนอกหรือไม่?
หนานหนานยังคงเงยหน้ามองเขา ดูท่าทางเมื่อยเล็กน้อย ตอนนี้เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตนจะรีบโตไวๆ สูงเท่าพวกเขา จะได้ไม่ต้องเงยหน้ามองพวกเขาแล้ว เมื่อยคอเกินไปแล้ว
“แน่นอนว่าแม่นมเซียวเคยสอนให้ข้าเคารพผู้อาวุโส” หนานหนานพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม พูดกับเขาอย่างจริงจัง “แต่ว่า…”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ท่านเสิ่นกลับมาคราวนี้ดูมีพิรุธนะคะ คิดอะไรในใจอยู่หนอ
เหมือนสอนเด็กโข่งให้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักโตเลย สู้ ๆ นะแม่นมเซียวกับหนานหนาน
ไหหม่า(海馬)