ตอนที่ 84 วิชายุทธ์ระดับนภา สามรูปแบบอสูร
ฮัดเช้ย!
ใครกันที่พูดเรื่องไม่ดีลับหลังบิดา?”
ในป่าเขาเงียบสงบ จั๋วฝานถูจมูก สูดหายใจลึก จากนั้นก็จ้องเนินเขาสูงร้อยเมตรตรงหน้า
รูม่านตาของเขาหดลง และก็กระทืบเท้า ในชั่วพริบตา ปีกสายฟ้าก็กางออกบนหลังเขา และบินไปเหมือนสายฟ้าฟาด
“สามรูปแบบอสูร กระบวนท่าที่หนึ่ง มังกรทะยานฟ้า!”
โฮก!
ตามเสียงตะโกนของจั๋วฝาน เงามังกรดำแผ่ออกจากตัวเขา ผสมกับเสียงฟ้าผ่า มังกรดำทะยานขึ้นฟ้าและกระแทกเนินเขาโดยตรง
บูม!
ในชั่วพริบตา เนินเขาก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ และร่างของจั๋วฝานก็เปลี่ยนเป็นสายฟ้า พุ่งผ่านก้อนหินที่ตก แต่ตอนนี้ ตัวของเขาพลิกเปลี่ยน และกรงเล็บดำก็ปรากฏ คว้าเศษหินที่กระจัดกระจาย
“กระบวนท่าที่สอง กรงเล็บมังกรปีศาจ!”
พุฟ!
ไม่เกิดเสียงดังอะไรเหมือนเดิม แต่ภายใต้กรงเล็บ ก้อนหินที่ร่วงลงมาพลันเปลี่ยนเป็นผงเหมือนแห้ง ลอยคลุ้งในอากาศ
พรึ่บ..
แรงสั่นสะเทือนรุนแรงทำให้นกทั้งภูเขาแตกรัง กระพือปีกพวกมันบินขึ้นฟ้าอย่างวุ่นวาย จั๋วฝานสูดลมหายใจ เหงื่อเริ่มไหล แต่เขายังประสานมือ และเปิดปาก สูดลมหายใจไปทางฝูงนก
“กระบวนท่าที่สาม มังกรปีศาจคำราม!”
โฮก!
ราวกับปีศาจร้ายได้คืบคลานออกจากยมโลกมาสู่โลกมนุษย์ คลื่นเสียงของจั๋วฝานกวาดไปทั่วฝูงนกด้วยระลอกที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ในชั่วพริบตา ฝูงนกที่บินในท้องฟ้าก็ไม่ขยับ และร่วงหล่นลงพื้น พวกมันตายสนิท ถ้าเพ่งมองให้ดี ๆ จะพบว่าพวกมันมีมากเป็นพัน
หลังใช้สามกระบวนท่านี้ จั๋วฝานก็หอบหายใจหนัก นั่งยอง ดวงตาเต็มไปด้วยความผิดปกติ
กระบวนท่าทั้งสามเหล่านี้คือวิชายุทธ์ระดับนภาขั้นต่ำที่ใช้ร่วมกับเคล็ดวิญญาณอสูร(แก้จากวิญญาณพิโรธ) แต่ละกระบวนท่าเป็นกระบวนท่าสังหาร แม้มันจะเป็นวิชายุทธ์ระดับนภาขั้นต่ำ พลังของมันก็เทียบได้กับขั้นกลาง
มันแค่ว่ากระบวนท่าทั้งสามนี้ต้องการความแข็งแกร่งทางร่างกายสูงมาก มีแค่ผู้บ่มเพาะปีศาจถึงสามารถฝึกได้ แต่ทว่า ร่างกายของจั๋วฝานแข็งแกร่งกว่าผู้บ่มเพาะปีศาจมากหลังผ่านการเปลี่ยนแปลง
มันเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงสามารถฝึกกระบวนท่าทั้งสามนี้ได้
แต่ทว่า หลังบ่มเพาะมาเดือนเต็ม เขาก็รู้ว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายเขาสูงเกินมาตรฐานจริง แต่มันน่าเสียดายที่การสะสมพลังของเขายังสั้น เขาเป็นแค่ผู้บ่มเพาะหลอมกระดูกขั้นหนึ่งและพลังปราณของเขาจะหมดตอนใช้วิชายุทธ์ระดับนภา
โดยเฉพาะกระบวนท่าสุดท้าย มังกรปีศาจคำราม ซึ่งเป็นการโจมตีด้วยเสียงใส่ดวงวิญญาณ มันเป็นวิชาที่สามารถฝึกได้ตอนไปถึงอาณาจักรเซียนเท่านั้น
แต่ทว่า เขาสามารถใช้มันได้เพราะพลังที่เพิ่มขึ้นหลังกลั่นร่างกายกับวิญญาณ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังรู้ตาลายจนแทบล้ม
“บัดซบ!กระบวนท่าเหล่านี้จะทำให้ข้าตาย ถ้าข้าฆ่าศัตรูไม่ได้ มันก็เป็นข้าเองที่จะตาย”
จั่วฝานถอนหายใจและนั่งสมาธิเพื่อฟื้นลมปราณ
การฆ่าโหยวกุ่ยฉีเหมือนการแหย่รังแตน เขาจะต้องพบศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นและต้องการปกป้องตัวเองด้วยการฝึกวิชายุทธ์ที่ทรงพลัง
ดังนั้น เขาจึงไม่รู้สถานการณ์ภายนอกเลย
ครึ่งวันต่อมา จั๋วฝานยืนขึ้นด้วยใบหน้าที่กลับมามีสีสัน
มือของเขาขยับและตอนนี้กำลังถือไข่ใบใหญ่ เขามองรอยไหม้บนไข่อย่างกังวล
ไข่วิหคสายฟ้ายังมีชีวิตเพราะพลังปราณของแม่มัน แต่สิ่งนี้จะทำได้แค่ชะลอเวลา ถ้าเขาอยากฟักมัน เขาต้องฟื้นพลังชีวิตมันก่อน
โลกกว้างใหญ่มาก ข้าจะไปหายาแบบนี้มาให้มันได้จากไหน?
ไข่นกตัวนี้ไม่ธรรมดาและสมุนไพรธรรมดาก็รักษามันไม่ได้ เขาต้องการสมบัติหายากที่สามารถช่วงชิงชีวิตคนที่ใกล้ตายให้กลับมาได้
จั๋วฝานอดขมวดคิ้วไม่ได้
“ซ่งอวี่ จงส่งเม็ดยาหลอมกายามาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นอย่าตำหนิเราที่ทำรุนแรง”
ทันใดนั้น เสียงตะโกนก็ดังเข้าหูจั๋วฝาน คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย และสีหน้าก็ดูอึมครึม เขาเดินไปทางเสียง
บัดซบ สารเลวน้อยตัวไหนที่ไม่อยากมีชีวิต ถึงกล้ามารบกวนความคิดของบิดาผู้นี้/
เขาเดินผ่านทุ่งหญ้า ผลักพุ่มไม้ออกไปอย่างเบามือและมองไป เห็นแค่ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งบนรถม้า ส่วนถนนด้านหน้าภูเขาโดนปิดไว้ ชายคนนั้นอยู่ในวัย 20 มีหน้าตาหล่อเหลาและพลังบ่มเพาะแข็งแกร่ง ผู้หญิงเองก็อยู่ในวัยเดียวกับเขา นางดูสวยสง่า และเป็นผู้บ่มเพาะหลอมกระดูกขั้นสอง
ฝั่งตรงข้ามพวกเขามีกันหก ห้าคนคือผู้บ่มเพาะหลอมลมปราณขั้นแปดหรือเก้า และคนหนึ่งคือชายชรา แต่เป็นผู้บ่มเพาะหลอมกระดูกขั้นหก
ตอนนี้ หนึ่งชายหนึ่งหญิงกำลังจ้องชายชรา กัดฟันแน่น
“หึ เม็ดยาหลอมกายานี้คือสูตรลับของตระกูลซ่งเราที่ไม่อาจส่งมอบให้ใครได้ เราต้องใช้มันเพื่อเข้าร่วมงานชุมนุมไป่ตาน(ร้อยเม็ดยา) พวกเราจะมอบให้เจ้าได้เยี่ยงไร?”ชายคนนั้นแค่นเสียงด้วยความโกรธ เขาหยิบเอาอาวุธจิตวิญญาณระดับหนึ่งขึ้นมา
จั๋วฝานยิ้มอย่างดูถูก
เม็ดยาหลอมกายาคือเม็ดยาระดับสี่ เหมาะกับการหลอมกระดูกคน และยังเป็นประโยชน์ในการช่วยให้ผู้บ่มเพาะหลอมกระดูกขั้นเก้าทะลวงผ่านอาณาจักรหลอมกระดูก ข้อเสียคือมันใช้ได้แค่ครั้งเดียว
สำหรับผู้บ่มเพาะอัจฉริยะอย่างจั๋วฝานที่ไม่ต้องกังวลถึงการไม่สามารถผ่านอาณาจักรหลอมกระดูก นี่เป็นแค่เม็ดยาขยะ แต่ของบัดซบแบบนี้กลับเป็นสมบัติลับของตระกูล
แต่ทว่า จั๋วฝานคือคนที่ไม่รู้ว่าความหิวของคนอื่นนั้นต่างจากตน เขาไม่สนใจเม็ดยานี้ แต่ชายชราฝั่งตรงข้ามกลับจ้องด้วยดวงตาแดงก่ำ
“ฮ่า ฮ่า…ซ่งอวี่ ซ่งเฉียน ไม่ใช่เพราะประสิทธิภาพของเม็ดยานี้หรือที่ทำให้เจ้าสองพี่น้องสามารถเข้าสู่อาณาจักรหลอมกระดูกได้ด้วยวัยเช่นนี้?แต่ทว่า แค่ตระกูลระดับสามอย่างเจ้าไม่สมควรครอบครองเม็ดยาระดับสี่แบบนี้ สูตรลับของเม็ดยานี้ดีเกินไป จงส่งมอบมันมาเสียดีกว่า”
“ฮึ่ม เราจะไม่มีวันส่งให้ต่อให้ต้องตาย!’
ซ่งเฉียนขมวดคิ้ว และหลังเหลือบมองซ่งอวี่ ทั้งคู่ก็พุ่งใส่ชายชรา ชายชราหัวเราะ จากนั้นก็สวนกลับ
ปัง!
แค่ฝ่ามือเดียว ทั้งสองก็โดนตบกระเด็นออกไปพร้อมกัน และเลือดสีแดงก็ไหลหยดจากมุมปากทั้งคู่ แม้มันจะยังเป็นอาณาจักรหลอมกระดูก ก็ยังมีช่องว่างของขั้น ทำให้ทั้งคู่ไม่ใช่ศัตรูของชายชราเลย
“ฮี่ๆๆ…คุณหนูซ่งเฉียน ทำไมถึงทำแบบนี้ละ?แค่ส่งมอบเม็ดยากับสูตรมาอย่างเชื่อฟังก็พอแล้ว หรือต้องให้ตาแก่ผู้นี้ค้นตัวพวกเจ้า?”
ชายชรามองเรือนร่างเย้ายวนของซ่งเฉียนและอดหัวเราะแห้งไม่ได้
แก้มของซ่งเฉียนแดงผ่า และนางก็อดจ้องชายชราไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจ มองซ่งอวี่”น้องข้า เจ้ากลัวไหม?”
“พี่ ข้าไม่กลัว!”ซ่งอวี่ส่ายหัว
“ดี งั้นมาตายด้วยกัน ต่อให้เราตาย สูตรลับของตระกูลเราก็ต้องไม่ตกในมือของตาแก่นี่”ซ่งเฉียนยิ้ม และยื่นมือออกไปจับมือซ่งอวี่ที่ถืออาวุธจิตวิญญาณระดับหนึ่ง
ตราบเท่าที่มือของทั้งคู่ขยับ ทั้งคู่จะตายภายใต้อาวุธจิตวิญญาณนี้พร้อมกัน
พอเห็นฉากนี้ จั๋วฝานก็อดคิดถึงสองพี่น้องตระกูลลั่วไม่ได้ ถ้ามันไม่ใช่ความจริงที่ว่าข้าโดนบังคับด้วยหัวใจมาร ชะตากรรมของทั้งคู่คงเป็นเยี่ยงนี้
จั๋วฝานส่ายหัว ถอนหายใจ เด็ดใบไม้และดีดใส่ทั้งคู่
พรึ่บ!
เสียงบางอย่างพุ่งผ่านอากาศ และทั้งสองที่กำลังจะฆ่าตัวตายก็โดนผลักล้ม
“ใคร?”
สองพี่น้องตระกูลซ่งกับชายชรากรีดร้องอุทานพร้อมกัน
“มันก็แค่เม็ดยาระดับสี่ ใยพวกเจ้าต้องฆ่าคนด้วย?”ตอนนี้เอง จั๋วฝานเดินออกมาช้า ๆ ตอนชายชราเห็น เขาก็อดหัวเราะไม่ได้”ฮ่าๆๆ…ข้าก็คิดว่าจะเป็นใคร ที่แท้ก็แค่ไอเด็กที่เพิ่งก้าวสู่อาณาจักรหลอมกระดูก”
ชายชรายิ้มเหยียด”เจ้าหนู เจ้าเป็นผุ้บ่มเพาะปีศาจ ใครก็รู้ว่าคนอย่างพวกเจ้าอำมหิตมาก แต่เจ้ายังมีหน้าออกมาคุยกับบิดาถึงความเมตตาอีก?”
“ข้าไม่ได้พูดถึงความเมตตา แค่พลัง”
จั๋วฝานยิ้มเย็น”ในเมื่อข้าบังเอิญมาที่นี่วันนี้ เจ้าก็ไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้”
“หึ เจ้าจะไปทำอะไรได้?”
ชายชราแค่นเสียง ระเบิดจิตสังหารออกมา
ซ่งเฉียนรีบพูดอย่างกังวล”น้องชาย รีบหนีไป เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาหรอก อย่าตายเพราะเราสองพี่น้องเลย”
“หนี?ไม่มีวัน”
แต่ทว่า ทันทีที่สิ้นเสียงของซ่งเฉียน ชายชราก็แสยะยิ้มและกระโจนใส่จั๋วฝาน”ฮี่ๆๆ เจ้าหนู ถ้าเจ้าอยากโทษใคร ก็โทษเจ้าที่แส่หาเรื่องเถอะ”
พอเห็น ซ่งเฉียนกับซ่งอวี่ก็อดถอนหายใจและหลับตาไม่ได้
แต่ทว่า เสียงแหลมกลับดัง จั๋วฝานยังยืนนิ่ง แต่ชายชราล้มลงจมกองเลือดโดยที่หัวหายไปแล้ว
หัวชายชราที่ยังหัวเราะอยู่เมื่อครู่กลับขยับไม่ได้ในชั่วพริบตา รอยยิ้มยังฉายชัดบนหน้า แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความกลัว
พวกเขาเห็นชัด จั๋วฝานแค่สะบัดมือเบาๆ ชายชราก็โดนตบจนตาย นั่นคือปรมาจารย์หลอมกระดูกขั้นหก และเขาก็ตายง่ายถึงเพียงนั้น!
“สัตว์ประหลาด!’
ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่พอเสียงกรีดร้องดัง คนอื่นก็ตัวสั่นตอนได้ยิน พวกเขารีบวิ่งหนีไปไม่ทิ้งฝุ่น แต่จั๋วฝานกลับไม่ไล่ตามและอยากเดินหนีไป
“รอก่อน!”
ทันใดนั้น ซ่งเฉียนก็ตะโกนขึ้น ตอนนี้ ดวงตานางยังเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ จั๋วฝานมีฐานบ่มเพาะเดียวกับพวกนาง แต่ความแตกต่างด้านพลังนั้นสูงเกินไป
มันต่างกันประดุจฟ้ากับเหว..