เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน – ตอนที่ 270 ผู้อาวุโสเย่ช่างใส่ใจยิ่งนัก

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

เมื่อ​เห็น​เย่​ฉางชิงเดิน​มา พวก​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​รีบ​สงบสติอารมณ์​ให้​เป็นปกติ​อย่าง​รวดเร็ว​

โดยเฉพาะ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ หลังจากที่​เขา​ได้ยิน​ตัวตน​ที่​แท้จริง​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​ จาก​สิ่งมีชีวิต​ต้องห้าม​ตน​นั้น​แล้ว​

เขา​ก็​มิกล้า​ที่จะ​มองข้าม​ผู้อาวุโส​เย่​อีก​

สิ่งมีชีวิต​ต้องห้าม​ตน​นั้น​เก่งกาจ​เพียงใด​ เขา​เอง​ย่อม​รู้ดี​อยู่​แก่​ใจ

ทว่า​กลับ​ยอม​ที่จะ​เป็น​ผู้ติดตาม​ แล้ว​เขา​เป็น​ใคร​ถึงจะกล้า​สงสัย​ได้​เล่า​ ?

จะกล้า​สงสัย​ได้​เยี่ยง​ไร​ !

“ปล่อย​ให้​ทั้ง​สามท่าน​ต้อง​รอ​นาน​แล้ว​”

เย่​ฉางชิงเดิน​ถือ​ภาพ​อักษร​พู่กัน​และ​ภาพวาด​มานั่งลง​หน้า​โต๊ะ​ชาอีกครั้ง​ จากนั้น​จึงเอ่ย​ขึ้น​พร้อม​รอยยิ้ม​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​จึงยิ้ม​ออกมา​ด้วย​ท่าทาง​ฝืด​เฝื่อน​

‘นี่​เป็น​วิถีชีวิต​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​สินะ​’

‘แม้ตัวเอง​จะอยู่​ใน​ระดับ​ที่​คาด​มิถึงแล้ว​ ทว่า​ยังมี​ความเกรงใจ​พวกเขา​ที่​เป็น​ผู้น้อย​ถึงเพียงนี้​’

‘ช่างทำให้​รู้สึก​ละอาย​แก่​ใจยิ่งนัก​ ! ’

ตอนนั้น​เอง​เย่​ฉางชิงก็​หยิบ​อักษร​พู่กัน​ภาพ​หนึ่ง​ส่งให้​แก่​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​

อักษร​พู่กัน​ภาพ​นี้​ได้​เขียน​บทกวี​เจ็ด​พยางค์​เอาไว้​

ปีน​ที่สูง​ !

อีก​ทั้ง​ภาพ​อักษร​พู่กัน​ภาพ​นี้​ยัง​เป็น​ภาพ​ที่​เย่​ฉางชิงเลือก​อย่าง​พิถีพิถัน​ เพื่อ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​อีกด้วย​

เย่​ฉางชิงมองว่า​แม้ช่วงนี้​เขา​จะเขียน​ภาพ​อักษร​พู่​ไป​หลาย​ภาพ​ ทว่า​องค์ประกอบ​ต่าง ๆ​ ของ​ภาพ​ก็​มิได้​ต่างกัน​มาก​นัก​

เช่นนั้น​เขา​จึงเลือก​จาก​เนื้อหา​ของ​ภาพ​อักษร​พู่กัน​แทน​

ปีน​ที่สูง​บท​นี้​ เรียก​ได้​ว่า​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​ของ​บทกวี​เจ็ด​พยางค์​ใน​โลก​นั้น​ นับตั้งแต่​อดีต​จนถึง​ปัจจุบัน​เลย​ก็​ว่า​ได้​

เมื่อ​แนวความคิด​ของ​บทกวี​เจ็ด​พยางค์​บท​นี้​ บวก​กับ​ฝีมือ​การเขียน​พู่กัน​ระดับสูง​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​แล้ว​

จึงทำให้​อักษร​พู่กัน​ภาพ​นี้​เป็น​ของ​หา​ยาก​ใน​โลก​นี้​อย่าง​แน่นอน​

“รบกวน​ท่าน​เย่​แล้ว​”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​กล่าว​ด้วย​ความเกรงใจ​กับ​เย่​ฉางชิง ก่อน​จะยื่นมือ​ทั้งสอง​ข้าง​ไป​รับ​ภาพ​อักษร​พู่กัน​อย่าง​ระมัดระวัง​

เย่​ฉางชิงจึงเอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “จริง​สิ ท่าน​อย่า​เพิ่ง​รีบร้อน​เก็บ​ไป​ ลองดู​ภาพ​ก่อน​สักหน่อย​สิ”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ จากนั้น​จึงหันไป​ส่งสายตา​ให้​แก่​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​และ​หนาน​กง​เสวียน​จี แล้วจึง​พยักหน้า​เบา​ ๆ

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​สูด​ลม​หายใจเข้า​เฮือก​ใหญ่​ ก่อน​จะค่อย ๆ​ กาง​ภาพ​ออก​

มินาน​ไอ​พลัง​มหาศาล​ก็​พวยพุ่ง​ออกมา​ ตาม​ด้วย​เจตจำนง​แห่ง​กระบี่​ และ​พลัง​กระบี่​อีก​มากมาย​

จากนั้น​สุดยอด​บทกวี​เจ็ด​พยางค์​ทั้ง​บท​ก็​ค่อย ๆ​ ปรากฏ​สู่สายตา​

นภา​สูงส่งก้อง​เสียง​วานร​โหยหวน​ วิหค​ร่อน​เหนือ​ธารา​

พฤกษา​ห่อเหี่ยว​ใบไม้​ร่วงโรย​ แม่น้ำ​แยงซี​ซัดสาด​

สารทฤดู​แสน​เศร้า​เมื่อ​ไกล​บ้าน​ โรค​รุมเร้า​ถาโถมคล้าย​ตอกย้ำ​

ผม​ขาวโพลน​ท่วมหัว​เพราะ​ช้ำใจ เลิก​ดื่มด่ำ​สุรา​ทว่า​ก็​สาย​ไป​เสียแล้ว​

ทันใดนั้น​หลังจาก​ตัวอักษร​ฉวัดเฉวียน​ และ​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พลัง​ปรากฏ​สู่สายตา​

มิเพียงแต่​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ที่​บำเพ็ญ​เพียร​วิถี​กระบี่​เท่านั้น​ที่​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ แม้แต่​หนาน​กง​เสวียน​จีและ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เอง​ก็​อด​มิได้​ที่จะ​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​ ๆ ด้วย​ความหวาดหวั่น​

เพราะ​ภายใน​อักษร​พู่กัน​ภาพ​นี้​

พวกเขา​สามารถ​สัมผัส​ได้​ว่า​

ภายใน​ภาพ​อักษร​พู่กัน​ภาพ​นี้​ มิเพียง​แฝงไว้​ด้วย​เจตนา​แท้จริง​ของ​กระบี่​เท่านั้น​ แต่​ยังมี​การ​ถ่ายทอด​วิถี​กระบี่​โบราณ​ลง​ไป​อีกด้วย​

ถูกต้อง​ !

นี่​คือ​การ​ถ่ายทอด​วิถี​กระบี่​ !

มิใช่สิ !

พูด​ให้​ถูก​ก็​คือ​ การ​ถ่ายทอด​วิถี​กระบี่​สอง​ชนิด​ที่​แตก​ต่างกัน​ !

พฤกษา​ห่อเหี่ยว​ใบไม้​ร่วงโรย​ แม่น้ำ​แยงซี​ซัดสาด​

หาก​มิมีสิ่งใด​ผิดพลาด​ล่ะ​ก็​ เจตจำนง​แห่ง​กระบี่​ที่​แฝงอยู่​ภายใน​คงจะ​มีชื่อว่า​เจตจำนง​แห่ง​กระบี่​แยงซี​

ใบไม้​ร่วงโรย​ แยงซี​ซัดสาด​

เจตจำนง​แห่ง​กระบี่​พัดผ่าน​ราวกับ​สายลม​ เพียง​พริบตา​ก็​โหมกระหน่ำ​ราวกับ​สายน้ำ​ พลัง​มหาศาล​ปะทะ​เข้ามา​

สารทฤดู​แสน​เศร้า​เมื่อ​ไกล​บ้าน​ โรค​รุมเร้า​ถาโถมคล้าย​ตอกย้ำ​ !

ส่วน​ประโยค​นี้​คำ​ว่า​สารทฤดู​แสน​เศร้า​และ​โรค​รุมเร้า​ เจตจำนง​แห่ง​กระบี่​ที่​แฝงอยู่​คงจะ​มีชื่อว่า​เจตจำนง​แห่ง​กระบี่​ปลาย​สารทฤดู​

เจตจำนง​แห่ง​กระบี่​ปลาย​สารทฤดู​ !

หนึ่ง​ความคิด​คือ​ชีวิต​ เปลี่ยนความคิด​เป็น​จุดจบ​ หนึ่ง​ความคิด​ตัด​ความเป็นความตาย​ !

แน่นอน​ว่า​ผู้​ที่​เข้าใจ​เจตจำนง​แห่ง​กระบี่​ทั้งสอง​ชนิด​นี้​ได้​ ย่อม​ต้อง​เป็น​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ที่​บำเพ็ญ​เพียร​วิถี​กระบี่​มาตลอด​นั่นเอง​

อีก​ทั้ง​ผู้​แข็งแกร่ง​เมื่อ​อยู่​ใน​ระดับสูง​อย่าง​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​และ​หนาน​กง​เสวียน​จี พวกเขา​เอง​ก็​สามารถ​สัมผัส​ได้​ถึงเจตจำนง​แห่ง​กระบี่​อัน​น่ากลัว​ ที่​แฝงอยู่​ภายใน​อักษร​พู่กัน​ด้วย​เช่นกัน​

เวลา​ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​

ทั้ง​สามคน​ก็​เริ่ม​ได้สติ​ขึ้น​มาอีกครั้ง​

ใบหน้า​ของ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​เต็มไปด้วย​ความยินดี​

เพราะ​แม้เจตนา​แท้จริง​ของ​กระบี่​ที่​แฝงอยู่​ภายใน​ภาพ​อักษร​พู่กัน​นี้​จะน่ากลัว​เพียงใด​ ทว่า​หาก​เทียบ​กับ​ภาพ​อักษร​พู่กัน​ภาพ​ก่อน​หน้าที่​ผู้อาวุโส​เย่​เคย​มอบให้​แล้ว​

อักษร​พู่กัน​ภาพ​นี้​มิว่า​จะพิจารณา​ใน​ด้าน​ใด​ก็​ดู​อบอุ่น​อ่อนโยน​ยิ่งนัก​

สำหรับ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ที่​เพิ่ง​ก้าว​สู่ระดับ​มหายาน​ได้​มินาน​ ก็​มิต่าง​อะไร​กับ​ได้รับ​โอกาส​และ​วาสนา​อัน​ยิ่งใหญ่​อีกครั้ง​

จะว่า​เยี่ยง​นั้น​ก็ได้​

เวลานี้​สำหรับ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​แล้ว​ อักษร​พู่กัน​ภาพ​นี้​เปรียบ​ได้​กับ​ชีวิตจิตใจ​ของ​เขา​เลย​ทีเดียว​

หาก​ผู้ใด​มีจิต​ละโมบ​อยากได้​ล่ะ​ก็​ เขา​พร้อม​จะสู้ตาย​ทันที​อย่าง​มิต้องสงสัย​ !

ตอนนั้น​เอง​หนาน​กง​เสวียน​จีก็​มอง​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ด้วย​ความอิจฉา​ พลาง​ส่งกระแสจิต​เอ่ย​ว่า​ “พี่​ซือ​ถูยินดี​ด้วย​”

“ได้รับ​โอกาส​และ​โชคชะตา​ที่​พลิก​ฟ้าเช่นนี้​ เชื่อ​ว่า​อีก​มินาน​พี่​ซือ​ถูมิเพียง​ตบะ​บารมี​จะก้าวหน้า​ขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​แล้ว​ พลัง​ต่อสู้​ก็​จะต้อง​แข็งแกร่ง​ขึ้น​อีก​อย่าง​แน่นอน​”

สิ้น​เสียง​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​เพ่ง​กระแสจิต​เอ่ย​ขึ้น​บ้าง​ “เจตจำนง​แห่ง​กระบี่​ที่​แฝงไว้​ภายใน​อักษร​พู่กัน​ภาพ​นี้​ช่างมหัศจรรย์​ยิ่งนัก​ หาก​ข้า​เดา​มิผิด​แล้ว​ล่ะ​ก็​ ขอ​เพียง​ท่าน​เกิด​ความเข้าใจ​แม้เพียง​เล็กน้อย​ เชื่อ​ว่า​ใช้เวลา​มินาน​ก็​คงจะ​สามารถ​ขึ้น​สรวงสวรรค์​ได้​แล้ว​”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​สงบสติอารมณ์​ของ​ตนเอง​ลง​ ก่อน​ตอบกลับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ต้อง​ขอบคุณ​ผู้อาวุโส​เย่​ มิเช่นนั้น​ด้วย​คุณสมบัติ​ของ​ข้า​ ต่อให้​บำเพ็ญ​เพียร​อีก​หมื่น​ปี​เกรง​ว่า​ก็​คง​มิสามารถ​บรรลุ​ได้​”

หนาน​กง​เสวียน​จียิ้ม​ออกมา​ พลาง​เอ่ย​อย่าง​หยอกล้อ​ว่า​ “พี่​ซือ​ถู ดูท่า​ว่า​แขน​ข้าง​หนึ่ง​แลก​กับ​โอกาส​และ​วาสนา​ที่​พลิก​ฟ้าเช่นนี้​ จะเป็น​การค้า​ที่​ได้​กำไร​มาก​ทีเดียว​ ! ”

จากนั้น​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​จึงเอ่ย​ขึ้น​บ้าง​ “หาก​สามารถ​รับ​ทัณฑ์​สวรรค์​พิฆาต​ได้​ ก็​มิต่าง​อัน​ใด​กับ​นิพพาน​แล้ว​เกิด​ใหม่​ เลือดเนื้อ​และ​จิตวิญญาณ​จะก่อ​ร่าง​สร้าง​ใหม่​ แขน​ข้าง​ที่​ขาด​ไป​แล้ว​ย่อม​งอก​ขึ้น​ใหม่​ได้​ดังเดิม​”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​และ​หนาน​กง​เสวียน​จีได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ทันที​

เพราะ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เป็น​ผู้​ที่​เคย​บั่นทอน​ตบะ​บารมี​ตนเอง​มาก่อน​ ย่อม​สามารถ​รู้​ความลับ​ของ​สวรรค์​ได้​

ใน​เมื่อ​เขา​กล่าว​เช่นนี้​ ย่อม​มิใช่คำพูด​ส่งเดช​อย่าง​แน่นอน​

ขณะเดียวกัน​ก็​อธิบาย​อ้อม​ ๆ ได้​ว่า​ แม้การ​ประสบ​กับ​ทัณฑ์​สวรรค์​พิฆาต​จะเกิด​วาสนา​มากมาย​ ทว่า​ทัณฑ์​สวรรค์​พิฆาต​นี้​ก็​มีความ​น่ากลัว​อย่าง​มาก​ด้วย​เช่นกัน​ !

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​คิด​แล้วก็​เอ่ย​ตอบ​ไป​ว่า​ “ขอบคุณ​ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน”​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ลอบ​พยักหน้า​น้อย​ ๆ “พวก​เจ้าทั้งสอง​มิต้อง​กดดัน​เกินไป​ ทัณฑ์​สวรรค์​พิฆาต​ใน​ยุค​นี้​ความจริง​แล้วก็​อ่อนแรง​ลง​ไป​มิน้อย​ ด้วย​พื้นฐาน​ของ​พวก​เจ้าทั้งสอง​การ​จะผ่านการทดสอบ​ของ​สวรรค์​คง​มิได้​ยาก​มากมาย​เท่าไร​นัก​”

ตอนนั้น​เอง​เย่​ฉางชิงที่นั่ง​อยู่​ตรงข้าม​ก็​มอง​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ ที่​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ความปิติยินดี​ จากนั้น​ก็​เบน​สายตา​ไป​ทาง​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​

“ภาพ​นี้​ของ​ข้า​มีชื่อ​ ภาพ​วสันต์​กำเนิด​ มีความหมาย​ว่า​หลัง​ผ่าน​ฤดู​เหมันต์​ สรรพสิ่ง​จะฟื้น​คืน​ มีความหมาย​ถึงความหวัง​และ​ชีวิต​ใหม่​”

เย่​ฉางชิงยื่น​ภาพ​ให้​แก่​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ พร้อมกับ​เอ่ย​สิ่งที่​เต็มไปด้วย​ความหมาย​อัน​ลึกซึ้ง​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เมื่อ​ได้ยิน​ก็​ถึงกับ​ตะลึงงัน​ ก่อน​จะลุกขึ้น​ยืน​แล้ว​โค้ง​คำนับ​ให้​แก่​เย่​ฉางชิง พร้อม​แบมือ​ทั้งสอง​ข้างออก​เพื่อ​รับ​ม้วน​ภาพ​

“ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ขอบคุณ​ผู้อาวุโส​เย่​ ! ”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เอ่ย​อย่าง​นอบน้อม​ยิ่งกว่า​เดิม​

เย่​ฉางชิงเห็นภาพ​ตรงหน้า​ก็​นิ่งอึ้ง​ไป​อย่า​งอด​มิได้​ ก่อน​จะวาง​ม้วน​ภาพ​ลง​บน​มือ​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ด้วย​รอยยิ้ม​

“ท่าน​ก็​มิต้อง​รีบ​เก็บ​ภาพ​หรอก​ ลองดู​ภาพ​ก่อน​สักหน่อย​เถอะ​”

เย่​ฉางชิงโบกมือ​เป็น​สัญญาณให้​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​นั่งลง​ จากนั้น​ก็​เอ่ย​เชื้อเชิญ​ขึ้น​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​พยักหน้า​รับ​แรง​ ๆ

ทว่า​จากนั้น​ก็​เกิด​ความลังเล​เล็กน้อย​เช่นเดียวกับ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ ก่อน​จะกาง​ม้วน​ภาพ​ออก​อย่าง​ระมัดระวัง​

ทันใดนั้น​จิต​แท้​ของ​หลักการ​เต๋า​อัน​มหาศาล​ก็​ทะลัก​ออกมา​ ให้​ความรู้สึก​สบาย​ราวกับ​สายลม​ยาม​วสันตฤดู​

ขณะเดียวกัน​เมื่อ​กาง​ม้วน​ภาพ​ออก​เรื่อย ๆ​

สีหน้า​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​เต็มไปด้วย​ความรู้สึก​หลากหลาย​ ท่าทาง​ของ​เขา​กำลัง​ตื่นตระหนก​เป็นอย่างมาก​

วิหค​ร่อน​ ภูเขา​หิมะ​ ไผ่​หยก​สีเขียวขจี​…

ตัว​ภาพวาด​ช่างเรียบง่าย​ แต่กลับ​มีความหมาย​ลึกซึ้ง​จน​ยาก​จะอธิบาย​

อีก​ทั้ง​สิ่งที่​ทำให้​คาด​มิถึงมาก​ที่สุด​ก็​คือ​

ภายใน​ภาพ​ยัง​แฝงเจตจำนง​ที่​แท้จริง​ของ​เต๋า​เอา​ไว​นับ​อนันต์​อีกด้วย​

แน่นอน​ว่าที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​ ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​มองว่า​ผู้อาวุโส​เย่​ที่​ไร้​เทียมทาน​ตรงหน้า​นี้​เหมือน​จะมอง​ปัญหา​ใน​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​เขา​ออก​ จึงได้​มอบ​ภาพ​นี้​ให้​แก่​เขา​

คิดได้​เช่นนั้น​แล้ว​

‘ผู้อาวุโส​เย่​ช่างใส่ใจยิ่งนัก​ ! ’

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ได้​แต่​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​ ๆ ก่อน​จะเอ่ย​กับ​ตัวเอง​ภายในใจ​

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

Status: Ongoing
นิยายแปลไทยเรื่อง เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน รายละเอียด เทพแห่งกระบี่ : หากผู้อาวุโสเย่มอบภาพอักษรพู่กันให้ข้าอีกสักภาพ พรุ่งนี้ข้าคงสามารถเปิดประตูสวรรค์ได้แล้ว …… ……เย่ฉางชิงรู้สึกเอือมระอายิ่งนัก ทั้งๆ ที่เขาเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง เหตุใดถึงได้มีผู้คนแวะเวียนมาหาไม่แต่ละเว้นวันเช่นนี้นะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท