ตอนที่ 117 สัตว์วิเศษบุกตีเมืองหลวง? (2)
คงเป็นเพราะผิดหวัง เจาหยางจึงไม่สนใจแม้แต่ฐานะของเฟิงหรูซวง น้ำเสียงของเขามีท่าทีของการเหน็บแนม
แต่เรื่องที่ฮ่องเต้ไม่ให้ความสำคัญเฟิงหรูซวง ผู้คนทั้งหลายต่างรู้ดี หากฮ่องเต้รู้ว่าเฟิงหรูซวงออกมาพูดจาแบบนี้ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางลงโทษเขา
แล้วเขาจะกังวลไปทำไม
พวกมู่ชิงเอ๋อร์กับหลินเยว่อิ่งยังคงนิ่งเงียบ
ใช่ๆ ท่านเป็นห่วงนางไม่ใช่หรือ ตอนนี้นางหายตัวไป จะเสียเวลาพูดเรื่องไร้สาระอยู่ทำไม ไม่รีบไป
ตามหานางล่ะ อยู่ตรงนี้ไปจะได้อะไร
ความเป็นห่วงแบบนี้มันจอมปลอมชัดๆ
เฟิงหรูซวงสีหน้าเปลี่ยนไป นางใช้เวลาหลายปีกว่าจะดึงพวกลูกหลานขุนนางใหญ่พวกนี้มาเป็นพวกได้ เฟิงหรูชิงเจอพวกเขาแค่ไม่กี่ครั้งก็ทำให้ความพยายามตลอดหลายปีของนางต้องสูญเปล่าได้แล้วหรือ
“เจาหยาง!” นางเลิกทำท่าทางกังวล แววตาดูร้ายกาจ นางหัวเราะหึ “เจ้าลืมแล้วหรือว่าสมัยก่อนเฟิงหรูชิงทำอย่างไรกับพวกเจ้า แค่อาหารบำรุงสุขภาพก็ชนะใจพวกเจ้าได้แล้วเหรอ”
เจาหยางอึ้ง เขามองดูเฟิงหรูซวงแบบงงๆ มองอยู่สักพักหนึ่ง แววตาก็เปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์
“องค์หญิงรอง นี่ท่าน…อิจฉานางจริงๆ ด้วย”
ผ่านมานานหลายปี พวกเขาไม่รู้เลยสักนิด จึงทำให้…ถูกหลอกมานานขนาดนี้
เมื่อก่อนพวกเขานับถือองค์หญิงรองมาก หลายๆ เรื่องเลยคิดไม่ได้
“ข้านึกออกแล้ว” หลิวเยว่อิ่งกัดริมฝีปาก เดินไปข้างหน้า “ทุกครั้งเวลาเฟิงหรูชิงรังแกพวกเรา ท่านก็จะปรากฏตัวเพื่อช่วยพวกเรา การปรากฏตัวของท่านมันช่างบังเอิญเสียเหลือเกิน แถมทุกครั้งเฟิงหรูชิงก็ปล่อยพวกเราไปตามที่ท่านบอก”
“ดูท่าเมื่อก่อนองค์หญิงใหญ่นี่โง่จริงๆ ถึงถูกท่านหลอกใช้ องค์หญิงรอง ท่านทำแบบนี้ไม่กลัวฝ่าบาทรู้เหรอ”
มู่ชิงเอ๋อร์เป็นคนปอดแหกมาแต่ไหนแต่ไร แต่ในเวลานี้ นางยืนอยู่เคียงข้างหลินเยว่อิ่งด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว มองดูเฟิงหรูซวงด้วยอาการโกรธเคือง
อันที่จริง คนโง่มีเพียงเฟิงหรูชิงคนเดียวที่ไหนกันล่ะ?
พวกเขาเองก็ถูกเฟิงหรูซวงปั่นหัวไม่ต่างกัน!
ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุการณ์เฟิงหรูชิงหายตัวไปในวันนี้ ทำให้พวกเขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนาง พวกเขาจะต้องถูกนางหลอกไปอีกนานแค่ไหน
เฟิงหรูซวงรู้สึกตะขิดตะขวงใจ
ข่าวเฟิงหรูชิงหายตัวไปในวันนี้ ทำให้นางดีใจออกหน้าออกตา แต่ฝ่าบาทกำลังร้อนพระทัยจึงไม่มีเวลามาสนใจอะไรนาง นางจึงหนีออกมาจากวังหลวงเพื่อหาสถานที่ที่ไม่มีคน ฉลองสักหน่อย
คิดไม่ถึงว่าระหว่างทางจะเจอกับคนพวกนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะแสดงอาการ
“ไม่ว่าพวกเจ้าจะพูดอย่างไรก็ไร้ประโยชน์” เฟิงหรูซวงอารมณ์ดี จึงไม่ได้ตำหนิคนพวกนี้ที่ต่อปากต่อคำกับนาง นางถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย “เพราะอย่างไรข้าก็เตือนนางตอนที่นางคิดจะซื้อหมาป่าสีขาวระดับสามแล้ว กำลังความสามารถของนางยังน้อย ไม่มีทางกำราบหมาป่าสีขาวได้ ถ้านางซื้อก็ต้องเจอกับความหายนะเพียงอย่างเดียว!”
“แต่นางไม่ฟัง ข้าก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ตอนนี้นางกล้าที่จะอยู่กับหมาป่าสีขาวเพียงลำพัง นี่ไม่ต่างกับการเอาตัวเองไปเป็นอาหารให้หมาป่าสีขาวหรอกหรือ นางรนหาที่ตายเอง ข้าร้อนใจไปจะมีประโยชน์อะไร”
การที่หลิ่วอวี้เฉินถูกหมาป่าสีขาวจัดการตอนมาที่จวนองค์หญิงเป็นเรื่องที่น่าอับอาย ดังนั้นเมื่อเขาออกไปได้จึงไม่พูดถึงเรื่องนี้ ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าหมาป่าสีขาวระดับสามได้กลายเป็นหมาป่าเฝ้าบ้านของจวนองค์หญิงไปเสียแล้ว
“องค์หญิงรอง!” หลินเยว่อิ่งกำหมัดบีบข้อดังกรอบแกรบ “องค์หญิงใหญ่ก็แค่หายตัวไป ท่านรู้ได้อย่างไรว่านางต้องตายแน่ๆ ”
ตอนที่ 118 สัตว์วิเศษบุกตีเมืองหลวง? (3)
เฟิงหรูซวงยิ้มเยาะในใจไม่ปรากฏบนใบหน้า “คนหนึ่งอยู่แค่ระดับชูอู่ขั้นล่าง อีกตัวหนึ่งเป็นสัตว์วิเศษระดับสามเทียบเท่าเจินอู่ เจ้าคิดว่า…ท่านพี่ข้าจะชนะได้อย่างไร อย่างมากก็แค่หลอกตัวเองเท่านั้น”
“ท่าน…”
หลินเยว่อิ่งโมโหมาก ในขณะนั้นเองนางเห็นร่างเล็กๆ เดินผ่านข้างตัวนางไป หลินเยว่อิ่งตกใจ รีบเอื้อมมือดึงตัวไต้เอ๋อร์ที่กำลังมุ่งหน้าไปที่ประตูเมืองเอาไว้
“ไต้เอ๋อร์ เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
ไต้เอ๋อร์ออกมาจากจวนแม่ทัพได้อย่างไร คนในจวนรู้เรื่องหรือไม่
น่าหลานไต้เอ๋อร์อึ้ง ขณะที่นางหันหน้ามาก็เห็นเฟิงหรูซวง นางตกใจจนตัวสั่น รีบไปซุกตัวอยู่ในด้านหลังของหลินเยว่อิ่ง
“คนเลว คนเลว!” พวกหลินเยว่อิ่งสับสนไปตามๆ กัน
ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น น่าหลานไต้เอ๋อร์ก็ถูกกักอยู่ในจวน อีกอย่างเฟิงหรูชิงไม่เคยปรากฏตัวต่อสายตาผู้คนพร้อมกับน่าหลานไต้เอ๋อร์ ดังนั้นพวกหลินเยว่อิ่งจึงไม่รู้ว่าน่าหลานไต้เอ๋อร์กลัวเฟิงหรูซวงขนาดนี้
“ไต้เอ๋อร์ เจ้ากลับจวนแม่ทัพเถอะ ไม่อย่างนั้นท่านปู่เจ้าจะยิ่งร้อนใจ” หลิ่นเยว่อิ่งมองเฟิงหรูซวงแล้วหันมามองน่าหลานไต้เอ๋อร์พร้อมเอ่ยถาม
น่าหลานไต้เอ๋อร์ยังคงตัวสั่นไม่หยุด ดวงตาทั้งสองของนางรื้นด้วยน้ำตา ดูน่าสงสาร “ท่านพี่บอกว่า พี่สาวไปที่ป่าสัตว์วิเศษ…ท่านพี่ไปตามหานาง ไต้เอ๋อร์จะไปด้วย”
“ไต้เอ๋อร์ เจ้า…ไม่กลัวท่านพี่ข้าแล้วหรือ”
“พี่สาวเป็นคนดี ไม่ใช่คนเลว ไต้เอ๋อร์ไม่กลัว” น่าหลานไต้เอ๋อร์ส่ายหน้าอย่างมั่นใจ
พี่สาวไม่รังแกนางอีกแล้ว นางไม่กลัวอีกแล้ว!
ทันใดนั้นเจาหยางก็เดินไปข้างหน้าแล้วเอามือจับที่ไหล่ของไต้เอ๋อร์ “ไต้เอ๋อร์ เจ้าพูดว่าองค์หญิงใหญ่ไปป่าสัตว์วิเศษใช่หรือไม่”
ป่าสัตว์วิเศษเป็นสถานที่แบบไหน ข้างกายองค์หญิงมีหมาป่าสีขาวระดับสามนิสัยดุร้ายอยู่แล้วหนึ่งตัว ยังจะไปป่าสัตว์วิเศษอีกหรือ
ไต้เอ๋อร์พยักหน้า “ไต้เอ๋อร์จะไปตามหาพี่สาว”
นางแอบฟังพ่อคุยกับพี่ชายจึงรู้ว่ามีคนพบพี่สาวพาหมาป่าสีขาวมุ่งหน้าไปป่าสัตว์วิเศษ ท่านปู่ร้อนใจจนแทบบ้าแล้ว นางจึงฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีคนสังเกตหนีออกมาจากจวน
“แต่…ไต้เอ๋อร์ไม่รู้ทาง” ไต้เอ๋อร์ก้มหน้าท่าทีจ๋อยๆ นางไม่รู้ว่าป่าสัตว์วิเศษต้องมุ่งหน้าไปทางไหน
จู่ๆ เฟิงหรูซวงก็หัวเราะหึออกมา “ดูท่า ท่านพี่ของข้าคงไม่รอดแน่ ยังไม่ต้องพูดถึงหมาป่าสีขาวระดับสามกับป่าสัตว์วิเศษ แค่สัตว์วิเศษที่อยู่รอบนอกของป่า ไม่ว่าจะเป็นตัวอะไรก็ปลิดชีพของนางได้ทั้งนั้น น่าเสียดาย น่าเสียดายจริงๆ”
เสด็จพ่อมีธิดาอยู่สองคนคือเฟิงหรูชิงและนาง ขอเพียงท่านพี่นางตาย ไม่ว่าเสด็จพ่อหรือแผ่นดินนี้ยอมตกเป็นของนางผู้เดียว!
ไม่มีใครมาแย่งนางได้อีก!
ฮ่าๆ !
เฟิงหรูซวงอยากจะหัวเราะออกมา พอเสียงกำลังจะออกจากคอ จู่ๆ มันก็จุกอยู่ตรงนั้น
เสียงอึกทึกครึกโครมดังมาจากนอกประตูเมืองทำให้พวกทหารเฝ้ากำแพงเมืองตกใจจนต้องหยิบอาวุธขึ้นมาตั้งรับและมองออกไปด้านนอก
ฝุ่นตลบฟุ้งกระจายไปทั่ว เปรียบได้กับคลื่นยักษ์ ฝุ่นดินฟุ้งไปทั่วฟ้า ในม่านฝุ่น มีเงาของหมาป่าปรากฏอยู่รางๆ บนตัวของหมาป่าเหมือนจะมีคนอ้วนนั่งอยู่
พวกทหารขยี้ตาและเห็นว่าเงาที่อยู่ในฝุ่นดินไม่ได้มีแค่…
“เร็ว รีบไปเรียนท่านแม่ทัพ พวกสัตว์วิเศษบุกตีเมืองแล้ว! รีบไปเร็ว!”
ทหารนายหนึ่งตั้งสติได้เร็วกว่าใคร เขารีบวิ่งเข้าไปในตัวเมือง