ตอนที่ 163 เฟิงเทียนอวี้กระอักเลือด (2)
“นั่นเพราะพวกท่านโง่เขลาเบาปัญญาเอง พวกท่านคิดว่าฝ่าบาทในตอนนี้คือคนเดียวกับเมื่อยี่สิบปีก่อนหรืออย่างไร? คิดเพ้อเจ้อว่าจะบังคับพระองค์ได้เฉกเช่นเมื่อก่อน พวกท่านคิดมากเกินไปจริงๆ ” เสนาบดีหลิ่วหัวเราะเสียงเย็น “ข้าไม่มีทางทำเรื่องโง่เขลาเช่นพวกท่าน อีกอย่าง ถานซวงซวงถูกโบยก็เป็นความต้องการของนางเอง เกี่ยวอะไรกับลูกชายข้า?”
“หึ๊!” หลีซั่งซูสะบัดชายเสื้อ ดวงตาฉายแววโกรธแค้น “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ความคิดของท่าน ท่านยังคิดอยากจะให้องค์หญิงไปเป็นสะใภ้ล่ะสิ? ประจบสอพลอใกล้ชิดเบื้องบน? ท่านยังคิดอีกหรือว่า…องค์หญิงอยากแต่งเข้าตระกูลหลิ่วเท่านั้น?”
เสนาบดีหลิ่วหรี่ตาลง “ตอนนี้อวี้เฉินยังไม่รู้ความ ไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะรู้ว่าที่ข้าทำไปทุกอย่างก็เพื่อเขา แล้วองค์หญิงก็ย่อมเป็นสะใภ้ตระกูลหลิ่ว ข้อนี้มิจำเป็นต้องสงสัย”
ความหมายก็คือ ขอเพียงหลิ่วอวี้เฉินยินยอมที่จะหันกลับมา เฟิงหรูชิงย่อมยอมรับเขาแน่
เจ้ากรมอาญาหลินที่เมื่อครู่ตอนอยู่ในท้องพระโรงช่วยแม่ทัพน่าหลานเดินมาจากด้านข้าง ได้ยินประโยคนั้นเข้าโดยบังเอิญ เขาส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วถอนหายใจเบาๆ
เสนาบดีหลิ่วยังคิดเพ้อฝันอยู่อีก เขาดูไม่ออกหรือว่า…องค์หญิงไม่มีความรู้สึกดีอันใดเหลือให้หลิ่วอวี้เฉินแล้ว? ไม่เช่นนั้น ภายในเรื่องวุ่นๆ จะไปลงมือกับเขาหรือ?
น่าเสียดาย ความคิดของเสนาบดีหลิ่ว ถึงคราจะต้องล้มเหลวแล้ว…
…
ในท้องพระโรง ขุนนางทั้งหลายออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงแม่ทัพน่าหลานกับเฟิงหรูชิง และยังมีหลินกงกงขันทีใกล้ชิดของเฟิงเทียนอวี้
แม้แต่บรรดาสัตว์วิเศษกับคนในกองทัพเลือดเหล็กก็ถูกให้แยกย้าย…
“ฉางเฉียน” ท่าทีเฟิงเทียนอวี้กลับอ่อนลง น้ำเสียงราบเรียบ “เวลาครึ่งปี ข้าหวังว่าท่านจะสามารถคัดเลือกคนมีความสามารถมารับตำแหน่งเหล่านี้ได้”
แม่ทัพน่าหลานตกใจเล็กน้อย “ฝ่าบาทจะทรง…เปลี่ยนตำแหน่งพวกเขาทั้งหมดจริงหรือ?”
เดิมเขาคิดว่าฝ่าบาทแค่เพียงขู่พวกขุนนางเท่านั้น คิดไม่ถึง ในใจของเขาจะมีความคิดเช่นนี้จริง
“ทีแรก คนพวกนี้ก็เป็นเช่นนี้ คิดเพ้อฝันว่าสามารถบงการข้าได้ทุกเรื่อง จะทำอย่างไรได้ฮ่องเต้องค์ก่อนจากไปเร็ว ข้าก็อายุยังน้อย ความสามารถไม่เพียงพอที่จะต้านทานทุกคนได้ ได้แต่ปล่อยให้พวกเขายุยงก่อเรื่องสร้างปัญหา ตอนนี้…”
เขาหลุบตาลง นัยน์ตาแข็งกระด้าง
“ข้าไม่ใช่ข้าในตอนแรกแล้ว! ไม่มีผู้ใดสามารถบงการข้าได้! ข้าอยากจะปลดคนพวกนี้ออกตั้งนานแล้ว ขาดก็แต่เหตุผลเท่านั้น แล้วพวกนั้นก็หาเหตุผลมาให้ข้าเอง!”
เช่นนั้นเขาก็ไม่มีเหตุอันใดที่จะไม่กำจัดคนเหล่านั้น!
“ดี” แม่ทัพฉางเฉียนนัยน์ตาเป็นประกาย “กระหม่อมจะเปลี่ยนบรรดาคนในท้องพระโรงที่ไม่เชื่อฟังออกให้หมด วันหน้าจะไม่มีผู้ใดกล้าบีบบังคับฝ่าบาท!”
เฟิงเทียนอวี้เผยรอยยิ้มออกมาในที่สุด แต่ในลำคอของเขามีรสคาวเลือดตีขึ้นมาอีกครั้ง พู่! เลือดสดพุ่งออกมา
ใบหน้าหล่อเหลานั้นเปลี่ยนเป็นซีดเผือดลงในเวลานั้นเอง
“เสด็จพ่อ!”
เฟิงหรูชิงตกใจหน้าถอดสี หน้านางขาวซีด ร่างของนางทะยานไปตรงหน้าเฟิงเทียนอวี้ด้วยความรวดเร็ว พยุงร่างซวนเซของเขาไว้
“เสด็จพ่อ พระองค์เป็นอะไร? เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?” เฟิงหรูชิงร้อนรน น้ำเสียงของนางสั่นอย่างมิอาจควบคุมได้ เหมือนมีน้ำไหลคลออยู่ในดวงตาเต็มไปด้วยความกังวลใจ
ที่ผ่านมา ทุกสิ่งที่เฟิงหรูชิงได้ทำไป ก็เพราะนางได้ครอบครองร่างกายนี้จากเจ้าของเดิม นางต้องไถ่โทษแทน
แต่จนถึงตอนนี้นางถึงได้รู้ว่า นางได้…หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายนี้นานแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณ ความรู้สึก เลือดเนื้อ…นางได้ครอบครองทุกอย่างโดยสมบูรณ์
นางไม่สามารถไม่แยแสต่อญาติพี่น้องได้ และไม่สามารถ…ไม่รักคนเหล่านี้ได้
…………………………………..
ตอนที่ 164 เฟิงเทียนอวี้กระอักเลือด (3)
“แค่ก แค่ก” เฟิงเทียนอวี้ยกนิ้วขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่หัวตาของหญิงสาวออก แย้มยิ้มอ่อนโยน
“พ่อไม่เป็นอะไร ชิงเอ๋อร์ไม่ต้องเป็นห่วง นี่มันก็แค่โรคเก่า พักเสียหน่อยก็ไม่เป็นไรแล้ว”
หลินกงกงทนมองไม่ไหวในที่สุด เขาเดินมาหยุดข้างเฟิงหรูชองถอนหายใจเบาๆ
“องค์หญิง ตั้งแต่ฮองเฮาจากไปฝ่าบาทก็จิตใจห่อเหี่ยวแย่ลงทุกปี หากมิใช่เพราะองค์หญิง พระองค์คง…”
“หลินเจิ้นอวิ๋น เจ้าก้าวก่ายเกินไปแล้ว!” เฟิงเทียนอวี้ฝืนลุกขึ้นยืน ดวงตาฉายแววเคร่งขรึม
“เจ้าออกไปก่อน”
“พ่ะย่ะค่ะ”
หลินกงกงไม่กล้าพูดมาก เขาสะบัดแส้หางแม้ คำนับแล้วจากไป
ทั้งตำหนักกระดิ่งทองเงียบลง
มือของเฟิงเทียนอวี้ลูบใบหน้าหญิงสาวแผ่วเบา “ชิงเอ๋อร์ เดิมทีเรื่องนี้พ่อปิดบังเจ้ามาโดยตลอด แต่วันนี้เจ้าโตขึ้นแล้ว รู้ความแล้ว บางเรื่องก็สมควรให้เราเข้าใจไว้ มิเช่นนั้นพ่อกลัวว่าวันใดจะจากไปกะทันหัน เจ้าจะไม่ได้เตรียมตัว มัน…ไม่ดีต่อเจ้า…”
น้ำเสียงของชายหนุ่มอ่อนโยน นัยน์ตารักใคร่ ไม่มีความเย็นชาเคร่งขรึมเหมือนตอนอยู่ต่อหน้าขุนนางนับร้อยเลย
“ชิงเอ๋อร์” เฟิงเทียนอวี้ยิ้มขมขื่น “ร่างกายของพ่อ พ่อรู้ดีกว่าใคร วันนี้ได้เห็นเจ้ารับมือเผชิญหน้ากับขุนนางนับร้อยได้อย่างง่ายดาย วันหน้าหากพ่อฝากแคว้นนี้ไว้กับเจ้าจริงๆ เชื่อว่าเจ้า…ต้องจัดการได้แน่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ยังมีท่านตากับท่านลุงช่วยเจ้า พ่อก็วางใจ…”
“เสด็จพ่อ!” เสียงเฟิงหรูชิงในตอนนี้สั่นเครือ
ร่างกายของท่านพ่อต้องมีวิธีที่จะสามารถรักษาได้แน่ แต่นางกลับได้ยินเสียงความตายจากเสียงของเขา
ใช่ เฟิงเทียนอวี้เขา…ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว
“ชิงเอ๋อร์ เจ้าฟังพ่อพูด” เฟิงเทียนอวี้จับบ่าเฟิงหรูชิงแน่น สีหน้าเคร่งเครียด แววตาจริงจัง
“ตอนนั้น แม่ของเจ้าไม่ได้ตายเพราะคลอดเจ้า แต่…ถูกคนทำร้ายจนตาย…”
เรื่องนี้เฟิงหรูชิงรู้อยู่นานแล้ว แต่น่าหลานฉางเฉียนเพิ่งจะได้ยินเป็นครั้งแรก ใจของเขาสั่นกะทันหัน มองเฟิงเทียนอวี้ด้วยความไม่เชื่อสายตา
“ฝ่าบาท เยียนเอ๋อร์นาง…นางถูกคนทำร้ายจนตายงั้นหรือ?”
จะเป็นไปได้อย่างไร? พลังของเยียนเอ๋อร์แข็งแกร่งขนาดนั้น จะมีใคร…สามารถทำร้ายนางจนตายถึงในวังได้?
ย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องเมื่อสิบหกปีก่อน เฟิงเทียนอวี้ก็หลับตาลงด้วยความเจ็บปวด
“วันนั้นเดิมเราเตรียมจะอยู่กับเยียนเอ๋อร์ตอนคลอด แต่กลับมีคนมีวรยุทธ์สูงลักลอบเข้ามาในวัง เราจำต้องไปรับมือด้วยตัวเอง ตอนที่ข้ากลับมาอีกครั้ง…เยียนเอ๋อร์ก็…ตายแล้ว…”
เพราะเรื่องนี้ เฟิงเทียนอวี้โทษตัวเองมาสิบหกปี ถ้าไม่ใช่เพราะเขาออกห่างจากเยียนเอ๋อร์ เยียนเอ๋อร์ก็คงไม่ตาย
ต่อให้วันนั้น ทั้งวังถูกฆ่าจนเกลี้ยง เขาก็ควรจะอยู่ข้างเยียนเอ๋อร์ไม่ไปไหนไม่สนใจใคร ปล่อยพวกเขาก่อเรื่องกันไปไม่ควรทิ้งเยียนเอ๋อร์เอาไว้…
ทั้งหมดเป็นความผิดของเขา!
“คนมีวรยุทธ์สูงลอบเข้าวัง? เหตุใดเรื่องนี้กระหม่อมและท่านพ่อ…ไม่เคยรู้มาก่อน?”
น่าหลานฉางเฉียนหลับตาลงช้าๆ เขากำหมัดแน่นร่างทั้งร่างสั่นเทาราวกับไฟแค้นกำลังแผดเผาอยู่ในใจ
ในปีนั้น ชายแดนมีสงครามวุ่นวาย เขาและท่านพ่อต้องไปเฝ้ารักษาชายแดนกลับมาไม่ได้ ตอนพวกเขากลับมาวังหลวง สิ่งที่ได้รับก็คือข่าวการตายของนาง…
………………………..
Related