ตอนที่ 219 ถานซวงซวงริษยา (2)
หากกั๋วซือนึกว่านางยังชอบหลิ่วอวี้เฉินเหมือนเดิม ไม่ยอมแต่งงานกับนาง อย่างนั้นใครจะชดใช้คนงามแห่งยุคเฉกเช่นเดียวกับกั๋วซือให้กับนางกันเล่า
เสียเปรียบเกินไปแล้ว!
“ชิงหลิง หลิวลี่ ในร้านหอแห่งแรกนี้พวกเจ้าสั่งอาหารได้ตามสบาย ข้าเลี้ยงเอง” เฟิงหรูชิงคร้านจะสนใจสองคนที่คุกเข่าอยู่ โบกมือคราหนึ่ง เอ่ยวาจาโอ่อ่า
อย่างไรเสียอาหารบำรุงก็เป็นของนาง ร้านหอแห่งแรกแบ่งส่วนแบ่งให้นางครึ่งหนึ่ง นางแค่สั่งอาหารเท่านั้น สุดท้ายครึ่งหนึ่งก็เข้ากระเป๋านางอยู่ดี
สำหรับความใจกว้างของเฟิงหรูชิง หลิวลี่ก็ไม่ขัดข้อง
ในระยะเวลาสองเดือนนี้ นางติดต่อกับหอแห่งแรกอยู่ตลอด ตำรับอาหารบำรุงสุขภาพที่องค์หญิงส่งมอบให้นั้นล้วนเป็นนางนำมาให้ ถึงได้รู้ว่าความสัมพันธ์ขององค์หญิงและหอแห่งแรกหาได้ตื้นเขิน
“ขอบพระทัยองค์หญิงที่ประทานอาหารบำรุงสุขภาพให้เพคะ” หลิวลี่เอ่ยอย่างมีมารยาท
ถานซวงซวงมองตาม ได้ยินน้ำเสียงของเฟิงหรูชิงองอาจผ่าเผย พลันยิ้มเย็นชา
อาหารบำรุงสุขภาพของหอแห่งแรกราคาแพงอย่างถึงที่สุด เฟิงหรูชิงมีเงินมากมายขนาดไหนก็ไม่มีทางรับได้
ที่นางกล้าเอ่ยเช่นนี้ ก็เพราะไม่รู้ราคาค่าอาหารบำรุงสุขภาพ
ยิ่งไปกว่านั้น…
นางไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ร้านหอแห่งแรกยังรังเกียจนางถึงขั้นนี้ สตรีที่ชั่วร้ายอย่างเฟิงหรูชิง ไร้คุณธรรมไม่สนใจอำนาจของร้านหอแห่งแรก เกรงว่าจะถูกอีกฝ่ายไล่ออกไปทันทีแน่
ครั้นเห็นเฟิงหรูชิงเดินเข้าหาเสี่ยวเอ้อร์ ถานซวงซวงคิดถึงชะตากรรมที่ตนประสบเมื่อครู่ แววตาเผยแววอำมหิตเย็นชาออกมา
“พวกเจ้ามีห้องรับรองหรือไม่” เฟิงหรูชิงเดินไปเบื้องหน้าเสี่ยวเอ้อร์
เสี่ยวเอ้อร์ขมวดคิ้ว เมื่อครู่เพิ่งบอกว่าห้องรับรองจำเป็นต้องจอง จากนั้น…เขาเบือนสายตาไปเห็นป้ายหยกที่เอวเฟิงหรูชิงอย่างไม่ตั้งใจ พลันถลึงตาเบิกกว้าง
ป้ายหยกนั่น…ป้ายหยกนั่นของคุณชายมิใช่หรือไร ฉะ…ไฉนไปอยู่กับองค์หญิงเสียได้
นั่นก็หมายความว่า…องค์หญิงคือสตรีที่คุณชายรักและปกป้องหรือ
เสี่ยวเอ้อร์ตัวสั่นเทิ้ม รู้สึกโชคดีเหลือประมาณ ดีที่เมื่อครู่เขายังไม่ทันพูดอะไรออกไป ไม่อย่างนั้นอย่าคิดว่าจะได้อยู่ในหอแห่งแรกอีกต่อไปเลย
“คือว่า ห้องรับรองถูกจองจนหมดแล้ว หากองค์หญิงต้องการ อีกประเดี๋ยวข้าจะไปดูสักหน่อย หาห้องให้องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ”
“อ้อ” เฟิงหรูชิงพยักหน้าเบาๆ “ราคาอาหารบำรุงสุขภาพของหอแห่งแรกนี้ตั้งไว้ที่เท่าไหร่”
นางเพิ่งออกจากการเก็บตัว หลิวลี่ยังไม่ทันเล่าเรื่องอะไรให้นางฟัง
แต่หอแห่งแรกแขกเหรื่อล้นหลาม คิดว่าอาหารบำรุงสุขภาพคงเป็นที่นิยมมาก
“ราคาไม่แพง ก็แค่หนึ่งเหวินเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ” เสี่ยวเอ้อร์ยิ้มประจบ
น่าขันนัก องค์หญิงแห่งแคว้นหลิวอวิ๋นนี้ถึงชื่อเสียงจะไม่ดีนัก แต่เป็นสตรีที่คุณชายรัก เขาจะกล้าเก็บเงินอีกฝ่ายหรือ
เฟิงหรูชิงอึ้งไป นางหันกลับไปมองเสี่ยวเอ้อร์อย่างไม่เข้าใจ
เสี่ยวเอ้อร์กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ชี้นิ้วออกมา “มิเช่นนั้น ไม่ว่าองค์หญิงสั่งอาหารบำรุงสุขภาพอะไร ล้วนมีราคาหนึ่งเหวินได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“…” เฟิงหรูชิงหน้าบึ้ง
นางมอบอาหารบำรุงสุขภาพให้เจ้าจิ่วหมิงนั่น เขากลับนำไปขายหนึ่งเหวิน แล้วนางจะหาเงินได้อย่างไร
เสี่ยวเอ้อร์เห็นเฟิงหรูชิงนิ่งเงียบไม่พูดจา ดวงตาดำขลับแฝงแววขบคิด เขาตกใจจนเกือบร้องไห้ออกมาแล้ว
“ไม่ต้องจ่าย องค์หญิงกินอาหารไม่ต้องจ่ายเงิน ขอให้องค์หญิงโปรดละเว้นผู้น้อยด้วย ผู้น้อยจะกล้ารับเงินจากองค์หญิงได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”
หวังว่าองค์หญิงจะไม่ไปฟ้องคุณชาย ไม่อย่างนั้นชีวิตน้อยๆ นี่คงจบสิ้นแล้ว…
“ไม่คิดเงินหรือ” เฟิงหรูชิงมอง ถามด้วยเสียงเข้มว่า “ร้านหอแห่งแรกของพวกเจ้านี่คิดหาเงินหรือว่าเปิดโรงทานกัน”
……………………….
ตอนที่ 220 หญิงที่ตามเย้ากั๋วซือ (1)
ตอนแรกเสี่ยวเอ้อร์งุนงง ไม่เข้าใจว่าเฟิงหรูชิงโมโหอะไร แต่เมื่อได้ฟังคำพูดต่อมาของนาง ค่อยตระหนักได้ รีบคลี่ยิ้มอย่างเอาใจ
“องค์หญิงเป็นแขกสำคัญของหอแห่งแรกเราย่อมเป็นข้อยกเว้น มีแต่องค์หญิงเท่านั้นที่ได้รับการดูแลเยี่ยงนี้คนอื่นๆ นั้นไม่มีทางเด็ดขาด”
สีหน้าเฟิงหรูชิงค่อยดีขึ้นมา “อืม ข้าเฟิงหรูชิงหาใช่คนที่จ่ายเงินไม่ได้ อะไรที่ควรรับก็รับ ไม่ต้องผิดกฎเพราะข้า”
อย่างไรเสีย รับเงินไว้ ครึ่งหนึ่งก็เข้ากระเป๋านางอยู่ดี
อ้อ จริงสิ จิ่วหมิงรับปากแล้ว ต่อไปไม่ว่าจะเป็นการค้าของหอแห่งแรกหรือว่าโรงค้าสัตว์วิเศษล้วนแบ่งเงินให้นางครึ่งหนึ่ง! คิดไปคิดมานางไม่เสียเปรียบสักหน่อย
เสี่ยวเอ้อร์ยักหน้าค้อมเอว “องค์หญิงใจกว้างเช่นนี้ ผู้น้อยก็ไม่เกรงใจแล้ว ไม่เหมือนบางคน เมื่อครู่คิดจะกินดื่มเปล่าๆ ไม่จ่ายเงิน ความสามารถเช่นนี้ยังล่อลวงสตรี ไร้ยางอายนัก”
หลิ่วอวี้เฉินที่กินดื่มเปล่าไม่จ่ายเงิน “…”
“ชิงหลิง หลิวลี่ พวกเราไป” เฟิงหรูชิงไม่มองหลิ่วอวี้เฉินและถานซวงซวงอีก
สองคนนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับนางอีกแล้ว กระมั่งไม่มีทางดึงดูดความสนใจนางได้
หลิ่วอวี้เฉินมองทิศทางที่เฟิงหรูชิงอย่างตะลึง หัวใจเขาเกิดความสับสน บางทีนับตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักเฟิงหรูชิง เขาไม่เคยคิดฝันเลยว่านางจะเปลี่ยนไปเพียบพร้อมเช่นนี้
สีหน้าถานซวงซวงตึงเครียด นางกำหมัดแน่น กระทั่งหายใจยังรู้สึกเจ็บปวด นางคิดมาตลอดว่าฐานะของหอแห่งแรกไม่ธรรมดา มิกริ่งเกรงต่ออำนาจ ไม่คิดเลยว่าหอแห่งแรกนี้…ก็ไม่เท่าไรนัก เพราะเฟิงหรูชิงเป็นองค์หญิง ถึงได้ปฏิบัติต่อนางต่างออกไป
หากว่า…หากว่านางเป็นลูกสาวของเฟิงเทียนอวี้เช่นกัน…หอแห่งแรกนี้จะกล้าปฏิบัติต่อนางเช่นนี้หรือทุกอย่างเป็นเพราะชาติกำเนิด ไม่ยุติธรรม สุดท้ายนางก็ยังถูกกดเอาไว้!
…
“ผู้หญิงที่จวงหลวนเคยพูดถึงก็คือองค์หญิงแคว้นหลิวอวิ๋น ชื่อว่าเฟิงหรูชิงอะไรนั่น”
บนถนนสายหนึ่งในแคว้นหลิวอวิ๋น
เสี่ยวหลัวลี่ผมเผ้ายุ่งเหยิงรูปร่างเล็กกำลังสาดส่องสายตาไปทั่ว นางเม้มปากแน่น ดวงตากลมโตราวกับอัญมณีแฝงไปด้วยโทสะไม่สงบ
“เหอะ ข้าอยากจะรู้นักเชียว ผู้หญิงที่กล้ามาล่อลวงท่านหนานเสียน”
ครั้งก่อนจวงหลวนกลับมาบอกนางว่า ท่านหนานเสียนถูกนางจิ้งจอกแคว้นหลิวอวิ๋นล่อลวง นางอยากรู้เสียเหลือเกินว่า นางจิ้งจอกตัวนั้นหน้าตาเป็นอย่างใด! นางมีส่วนไหนที่เทียบนางจิ้งจอกนั่นไม่ได้ ทำไมพี่หนานเสียนถึงถูกนางจิ้งจอกดึงดูดได้!
ด้านหลังเสี่ยวหลัวลี่เป็นสาวใช้ที่ทึ่มบื้อนางหนึ่ง อยู่ในสภาพผมเผ้ากระเซอะกระเซิงเปรียบเหมือนเป็นขอทานเช่นเดียวกัน
“แต่ว่าคุณหนู ท่านอยากมาหาคุณชายหนานเสียนกับนางจิ้งจอก แล้วทำไมพวกเราต้องแต่งตัวเช่นนี้ด้วย เสื้อผ้าน่าเกลียดเหลือเกิน”
เสี่ยวหลัวลี่มองด้วยความโมโห “เจ้าโง่หรือเปล่า พวกเขาไม่ให้ข้าออกจากบ้าน หากข้าไม่ปลอมตัว ถูกจับกลับไปจะทำอย่างไร”
สาวใช้ “…”
คุณหนูพูดมีเหตุผล นางหมดคำจะเถียง
“เชียนหนิง” เสี่ยวหลัวลี่แววตาวาวโรจน์ “เจ้าว่าถ้าข้าหานางจิ้งจอกนั่นพบ ก็จะได้เจอท่านหนานเสียนหรือเปล่า”
เชียนหนิงรู้สึกว่าคุณหนูของนางมีเหตุผล “ก็อาจจะใช่ คุณชายหนานเสียนไม่ยอมพบคุณหนู อีกอย่างคุณหนูก็ไม่รู้ว่าคุณชายหนานเสียนหน้าตาเป็นอย่างไร คิดจะหาเขาก็ต้องผ่านนางจิ้งจอกนี่”
………………