ตอนที่ 227 ตระกูลถัง (4)
เวลานี้ห้องโถงใหญ่ตระกูลถัง กลุ่มผู้เฒ่านั่งล้อมวงอยู่ด้านข้าง สีหน้าพวกเขาหนักอึ้ง หว่างคิ้วขมวดปมแน่น
“มาถึงตอนนี้แล้วยังไม่มีข่าวของถังอิ่นอีกหรือ”
ยายหนูนั่นมีคุณสมบัติพิเศษ พวกเขาให้นางรักษาตัวอยู่ที่เขาด้านหลังมาตลอด คิดไม่ถึงว่าจะหายตัวไปแล้ว! กระทั่งคนที่ตระกูลถังส่งออกไปก็ยังหาเบาะแสของนางไม่พบ
“ท่านผู้เฒ่าถังอี ไม่ใช่คนตระกูลถังหาข่าวนางไม่พบ แต่ร่องรอยของนางถูกคนจงใจลบไป เพราะเหตุนี้จึงหาตัวได้ยากนัก!”
ถังอีขมวดคิ้วเบาๆ แววตาลุ่มลึก
“ใครกันแน่ที่คอยขัดขวางพวกเราตามหาถังอิ่น หรือคุณชายหนานเสียนรู้เรื่องงานแต่งงานนี้แล้ว ไม่ยอมรับถังอิ่น ถึงได้…”
สังหารนางแล้ว?
ด้วยนิสัยของคุณชายหนานเสียน เรื่องนี้ ใช่ว่าเขาจะทำไม่ได้…
สิ้นเสียงถังอี ผู้เฒ่าคนอื่นๆ ต่างพากันมองหน้ากัน
“นี่…น่าจะเป็นไปไม่ได้ คนที่กำหนดงานแต่งงานนี้คือท่านพ่อของคุณชายหนานเสียน เขาลอบสังหารถังอิ่น จะไม่กลัวว่า…ท่านผู้นั้นจะเกิดโทสะหรือ”
อ้อ…
ทุกคนพลันนึกถึงนิสัยไม่รับน้ำใจใครของหนานเสียนโดยไม่รู้ตัวก็ตัวสั่นเทิ้มอย่างอดไม่ได้
“อันที่จริง คุณชายหนานเสียนไม่ชอบถังอิ่นก็เป็นเรื่องปกติ” ผู้เฒ่าถังอู่ถอนหายใจเบาๆ ยิ้มขมขื่นเอ่ย “บิดามารดาของถังอิ่นต่างก็ตายไปหมดแล้ว พรสวรรค์ก็ค่อนข้างอ่อนด้อย พวกเจ้าบอกว่าร่างกายนางมีคุณสมบัติพิเศษ ข้าเห็นก็แต่นางป่วยกระเสาะกระแสะอยู่เรื่อย ไม่เห็นมีข้อดีอะไร ท่านผู้เฒ่าถังอี ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมปีนั้นท่านกับท่านผู้เฒ่าถังเอ้อถึงเลือกถังอิ่น”
“ถังอู่พูดถูก” ถังซานถอนหายใจ “หากถังอิ่นกลับมาไม่ได้จริงๆ ก็ไม่เป็นไร พวกเรายังเลือกคุณหนูถังอวี้ได้ อย่างไรนางก็เป็นบุตรสาวของท่านเจ้าบ้านตระกูลถัง เหมาะกับการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ยิ่งกว่า”
ถังอิ่นอยู่ในตระกูลถังหาได้มีสายเลือดตระกูลหลัก บิดาของนางคือน้องชายถังลั่วเจ้าบ้านตระกูลถัง เพียงแต่ตอนนั้น คนฝั่งนู้นมาบอกว่าต้องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลถัง ท่านผู้เฒ่าสองคนของตระกูลถังเลือกถังอิ่น
เรื่องนี้ถังลั่วไม่คัดค้านอันใด!
“ให้ถังอิ่นแต่งงานกับคุณชายหนานเสียนเป็นความคิดของข้า ท่านเจ้าบ้านก็เห็นด้วยแล้ว อีกเดี๋ยวรีบส่งคนออกไปตามหาถังอิ่น ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพานางกลับมาให้ได้!”
…
นอกห้องโถงประชุม
เด็กสาวอาภรณ์สีม่วงยืนแนบหูกับประตู ครั้นได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาทางประตู นางรีบหดหัวกลับมา เร้นกายหลบไปอยู่ด้านหลังเสา ปิดกั้นลมหายใจ
ประตูเปิดออก เหล่าผู้เฒ่าทั้งหลายที่มีถังอีเดินนำหน้าค่อยๆ ออกมาหายลับไปจากสายตานาง
นางกำหมัดแน่น แววตาโหมลุกด้วยเพลิงโทสะ
ให้ถังอิ่นแต่งงานกับคุณชายหนานเสียนคือความคิดของข้า ท่านเจ้าบ้านก็เห็นด้วยแล้ว
เรื่องนี้ท่านพ่อเห็นด้วยอย่างนั้นหรือ
ท่านพ่อถึงกับเห็นด้วย ให้นางหัวไชเท้านั่นแต่งงานกับคุณชายหนานเสียนหรือ
ถังอวี้กัดปากแน่น หลุบตาลง สกัดความไม่ยินยอมในดวงตา
ทั้งๆ ที่นางเป็นลูกสาวของท่านพ่อแท้ๆ ท่านพ่อกลับยกเรื่องดีๆ ให้กับถังอิ่น
น่าเสียดายที่นางเพียงสั่งให้คนในตระกูลลบร่องรอยของถังอิ่นเท่านั้น ก็เพื่อให้ท่านผู้เฒ่าทั้งหลายตามหาถังอิ่นได้ลำบากมากขึ้นเท่านั้นเอง หากอีกฝ่ายตายแล้ว…
หากถังอิ่นตาย ก็เหลือแต่นางที่เป็นหญิงสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานเพียงคนเดียวของตระกูลถัง
ไม่มีใครสามารถแย่งชิงกับนางอีกแล้ว!
ถังอวี้ขมวดคิ้ว ดวงตาอำมหิตแฝงไปด้วยความลุ่มลึก
หากให้คนตระกูลถังฆ่าถังอิ่น หากสืบความได้ต้องโยงมาถึงนางแน่
จริงสิ…
ดวงตาถังอวี้วาวโรจน์ เย็นเยียบเหลือประมาณ
ผู้หญิงคนนั้นกินดื่มเปล่าๆ ที่ตระกูลถังมานานแล้ว สมควรส่งออกไปเสียที
เจ้าคนที่กระทั่งตัวเองยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร หากมิใช่เพราะท่านพ่อปกป้อง นางคงถูกขับไล่ออกจากตระกูลถังไปนานแล้ว
…………………………
ตอนที่ 228 หญิงเสียสติ (1)
หลังเขา
หมอกขาวปกคลุ้มดุจแดนสวรรค์ในเมืองมนุษย์
ทั่วทุกมุมด้านหลังเขาเต็มไปด้วยดอกอวี้หลาน กระทั่งเรือนไม้หลังน้อยยังห้อมล้อมไปด้วยดอกอวี้หลานเผยถึงความวิจิตรงดงามอย่างชัดเจน
ถังอวี้เดินมาหน้าเรือนไม้ นางหยุดฝีเท้าลง เก็บแววตาอำมหิต เผยรอยยิ้มไร้เดียงสาพิมพ์ใจ นางยิ้มแย้มเดินเข้าไปด้านใน
“น้าหรง ข้ามาเยี่ยมท่านแล้ว”
สตรีนางหนึ่งนั่งสงบนิ่งตรงหน้าต่าง นิ้วนางเรียวยาวราวสลัก สวมอาภรณ์ยาวสีเหลืองอ่อน สูงสง่าใจกว้าง เรือนร่าอรชรอ้อนแอ้น
นางหลุบตาลงเล็กน้อย ขนตาเรียงเป็นแพยาว ปลายนิ้วเย็นเยียบสัมผัสเอี๊ยมในมืออย่างอ่อนโยน เป็นภาพที่สงบงดงามราวกับภาพวาดแห่งยุค
มีเพียงยามนี้เท่านั้นที่ดวงตาของนางจะมีความอ่อนโยนไม่เสื่อมคลาย
และก็มีเพียงเวลานี้เท่านั้นที่นางจะสงบเสงี่ยมราวหญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือน
แต่ถังอวี้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง สตรีนางนี้เป็นคนเสียสติตั้งแต่หัวจรดเท้า!
“ชู่!” หรงเยียนเงยหน้าขึ้น แววตาอ่อนโยน มุมปากยกยิ้ม เอ่ยเสียงเบาคล้ายกลัวว่าจะทำให้อะไรบางอย่างตื่นขึ้น “อย่าพูด เจ้าดูสิ ลูกข้ากำลังหลับอยู่ เจ้าอย่าส่งเสียงดังทำเขาตื่นเชียว ไม่เช่นนั้นข้าจะโกรธแล้ว”
ถังอวี้กลืนคำพูดไว้ในคอ กำหมัดแน่น
เจ้าคนเสียสติ!
ลูกอะไรกัน นั่นก็แค่เอี๊ยมเท่านั้น! เจ้าคนเสียสตินี่อาศัยอยู่ตระกูลถังมาสิบปีแล้ว นางอยู่กับอีกฝ่ายมาสิบปีแล้วเช่นกัน ผลก็คือตัวนางไม่สามารถแทนที่ลูกในใจของอีกฝ่ายได้
สตรีผู้นี้มีหัวจิตหัวใจหรือไม่
“จริงสิ ลูกข้าเล่า ลูกข้าไปไหนแล้ว” หรงเยียนลนลาน นางกอดเอี๊ยมในอ้อมอกลุกขึ้น ใช้มืออีกข้างหนึ่งคว้าถังอวี้แน่น แววตาแกมขอร้อง “เจ้าเห็นลูกข้าไหม ลูกข้าไปไหนแล้ว”
ถังอวี้โมโหเสียอยากผลักคนเสียสตินี่ออกไปเสีย แต่สุดท้ายนางอดทนได้ ลูบมือหรงเยียนเบาๆ ยิ้มอย่างใสซื่อ “น้าหรง ท่านอาการกำเริบอีกแล้ว ท่านลืมแล้วหรือ สามีและลูกของท่านต่างไม่ต้องการท่านแล้ว ตอนนี้ท่านมีแค่ข้ากับท่านพ่อเท่านั้น”
หรงเยียนนิ่งอึ้ง “เจ้าว่าอะไรนะ ข้ากอดลูกสาวอยู่นะ ลูกชายข้า…ลูกชายข้าออกไปเล่นด้านนอกแล้ว อีกไม่ช้าพวกเขาก็จะกลับมา”
“น้าหรง ท่านพ่อยอมให้ท่านมาตลอด ถึงไม่บอกฐานะของท่านกับท่าน” ถังอวี้ถอนใจเบาๆ แววตาสงสารจับใจ “ท่านถูกสามีหย่า ถึงมาอยู่ในตระกูลถัง ท่านดูสิ ที่อยู่ในอ้อมอกท่านคือลูกสาวท่านหรือเปล่า”
หรงเยียนก้มหน้ามอง ความเจ็บปวดปะทุขึ้นมาในห้วงสมอง เจ็บเสียจนนางหน้าซีดเซียว มือข้างหนึ่งจับหัวแน่น สายตาเลือนลางมองไม่ชัด กัดริมฝีปากจนเป็นแผล
คิดไม่ออก นางคิดอะไรไม่ออกทั้งนั้น!
นางถูกทิ้งอย่างนั้นหรือ ถูกสามีกับลูกทอดทิ้งแล้วหรือ
ไม่รู้เพราะอะไร นางมักรู้สึกว่า นางจะไม่ถูกทิ้งกัน
“น้าหรง” ถังอวี้รีบเดินไปข้างกายหรงเยียน ประคองร่างอีกฝ่ายไว้ เอ่ยเสียงอ่อนโยนและอบอุ่นราวกับสายลม “ท่านวางใจเถอะ ไม่ว่าท่านจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างไร ไม่ว่าใครจะทำอย่างไรกับท่าน ข้ากับท่านพ่อจะไม่ทอดทิ้งท่าน ในใจข้า ท่านเป็นเสมือนท่านแม่ของข้า”
‘ท่านแม่’
สองคำนี้ทำเส้นสมองของหรงเยียนขาดผึง ร่างกายนางเอนไปด้านหลัง ล้มลงในอกถังอวี้
“เจ้าอาศัยอยู่ในตระกูลถังมาสิบปีเต็มๆ ท่านพ่อเห็นว่าเจ้าชอบดอกมู่หลาน จึงปลูกดอกมู่หลานทั่วเขาด้านหลังอย่างไม่เสียดายเลยสักนิด ส่วนข้า…ข้าเอาใจเจ้ามาสิบปีแล้ว ตอนนี้นอกจากข้าแล้วใครจะเรียกเจ้าท่านแม่อีก เจ้ากลับใจคอคับแคบ ทั้งๆ ที่มียาวิเศษระดับห้า แต่กลับให้ยาวิเศษระดับสามแก่ข้าเท่านั้น!”
……………………