ตอนที่ 437 ไปรับน่าหลานเยียนที่ตระกูลถัง (9)
เว่ยฝ่างพูดได้ย่อมทำได้!
“เอาล่ะ นี่ก็สายแล้ว เจ้ากลับไปก่อนเถอะ รอพวกหนอนแมลงเหล่านั้นออกจากตระกูลเว่ย พวกเรายังเป็นสหายกันเหมือนเดิม หากไม่ ไม่ว่าเว่ยฝ่างเจ้าจะภักดีขนาดนี้ พวกเราก็จะกลายเป็นศัตรู!”
น่าหลานหูยิ้มแต่เปลือกเอ่ย
เว่ยฝ่างมุมปากกระตุก แม่ทัพเฒ่าเอ่ยถึงขั้นนี้แล้ว เขาคงเก็บคนพวกนั้นไว้ไม่ได้อีก
“แม่ทัพเฒ่า เจ้าบ้านฉิน เจ้าบ้านเจี่ยง ข้าขอตัวก่อนแล้ว”
เว่ยฝ่างประสานมือคารวะ แล้วจากไป
เขาต้องรีบกลับบ้านไปคลี่คลายปัญหาเหล่านี้
ครั้นคิดถึงการกระทำของคนพวกนั้น สีหน้าเว่ยฝ่างก็เคร่งขรึม อึมครึมจนแทบกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำได้…
“เจ้าบ้านฉิน เจ้าเห็นว่าอย่างไร”
หลังจากเว่ยฝ่างกลับไป น่าหลานหูหรี่ตาหันมองฉินเฟยหยาง
“ในยามปกติข้าก็ไม่สนใจแล้ว แต่ลูกสาวข้าปกป้องตระกูลเว่ย เมื่อพวกเขาประสบอันตรายกลับคิดผลักไสนางออกมา การกระทำเช่นนี้ ข้าไม่อาจทนได้จริงๆ” ฉินเฟยหยางหัวเราะเสียงเย็นเยียบ “รอคนพวกนั้นออกจากตระกูลเว่ยไปแล้ว ข้าจะทำให้พวกมัน…ทรมานไปชั่วชีวิต!”
น่าหลานหูยิ้มจางๆ พยักหน้า “ข้าก็คิดเช่นเดียวกัน”
เจ้าบ้านเจี่ยงที่อยู่ด้านข้าง “…”
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่า ตาแก่สองคนด้านข้างน่ากลัวอยู่บ้าง
เคราะห์ดีที่ตระกูลเจี่ยงของเขาไม่มีใครทำเรื่องพรรค์นี้ มิฉะนั้นเขาจะตีพวกมันให้ตาย!
น่าหลานหูขมวดคิ้ว จมดิ่งในห้วงความคิด
“เป็นอะไรไป” ฉินเฟยหยางเห็นถึงความผิดปกติ ถามขึ้น
น่าหลานหูส่ายหน้า “ไม่มีอะไร ข้ารู้สึกคล้ายจะลืมอะไรบางอย่าง แต่คิดไม่ออกว่าข้าลืมอะไรกันแน่…”
เขาลืม…ใครกันแน่นะ
…
เช้ามืดวันถัดมา
ตำหนักลึกในวังหลวง พลังแข็งกล้าสายหนึ่งพุ่งขึ้นแผ่ออกมาจากตำหนัก มุ่งทะยานทะลุผ่านชั้นเมฆบนฟ้าจนแตกตัวออก
หลินกงกงมองตำหนักบรรทมของเฟิงเทียนอวี้ด้วยความตกตะลึง พูดจาตะกุกตะกัก
“นี่…นี่เกิดอะไรขึ้น ฝ่าบาทกำลังถอนพิษมิใช่หรือ ถอนพิษจะมีการตอบสนองรุนแรงถึงเพียงนี้เชียวหรือ”
เฟิงหรูชิงเดินเข้ามาช้าๆ แย้มยิ้มจางๆ “เสด็จพ่อทะลวงระดับสำเร็จแล้ว”
“อ้อ…” หลินกงกงอึ้งงัน
ฝ่าบาทมิได้ฝึกปรือมานานนี่…จู่ๆ ทำไมถึงทะลวงระดับได้
พลังแห่งการทะลวงระดับเกิดขึ้นอยู่นานไม่สลายตัว ยังม้วนตัวอยู่กลางอากาศ
“ข้าบอกแล้วว่า พรสวรรค์ของเสด็จพ่อมิได้อ่อนด้อย เพราะเวลาฝึกปรือน้อยเกินไป ทั้งถูกพิษอีกจึงไม่ได้ฝึกฝนต่อ” เฟิงหรูชิงมองบนฟ้า “แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ เวลาผ่านไปพลังวิเศษก็ชำแรกเข้าสู่ร่างกายก็จะถูกพิษสกัดไว้ ชักนำให้ไม่อาจดูดซับพลังวิเศษได้”
“ดังนั้น..” เฟิงหรูชิงชะงักเล็กหน้อย “ข้าฉวยโอกาสตอนถอนพิษ ช่วยเสด็จพ่อทะลวงเส้นชีพจร ทำให้พลังมุ่งสู่จุดตานเถียน”
นางไม่ได้บอกว่า ใช้อาหารบำรุงสุขภาพครั้งนี้ นางได้เพิ่มน้ำพิสุทธิ์ลงไปด้วย ทำให้สรรพคุณยาเพิ่มขึ้นมาก ครั้งเดียวจึงช่วยให้เขากำจัดอุปสรรคขัดขวางทั้งหมดได้
เพียงแต่ไม่รู้ว่า ครั้งนี้เขาจะทะลวงไปสู่ระดับใด
อย่างต่ำ…ก็น่าจะเป็นหลิงอู่ขั้นสูง!
ประตูตำหนักบรรทมค่อยๆ แง้มออก
แสงอาทิตย์สาดส่องลงมายังร่างสีเหลืองอร่ามตา สะท้อนอยู่ในดวงตาของเฟิงหรูชิง
บุรุษไม่มีความอ่อนแอในยามปกติอีกแล้ว สายตาเขาแฝงด้วยความองอาจ แววตมคมกริบ ดั่งราชาจุติมายังโลก
ครั้นเห็นท่าทางเข้มแข็งเสมือนมหาสมุทรของเฟิงเทียนอวี้ สีหน้าเฟิงหรูชิงสงบลงมาก “เสด็จพ่อ ยินดีด้วยเพคะ พระองค์ทะลวงถึงระดับเสวียนอู่ในครั้งเดียว”
สะ…เสวียนอู่หรือ
หลินกงกงอึ้งงันเบิกตาค้าง
……………………
ตอนที่ 438 ไปรับน่าหลานเยียนที่ตระกูลถัง (10)
ฝ่าบาทบรรลุระดับเสวียนอู่ได้ในครั้งเดียวหรือ เช่นนั้นก็…มีพลังเหนือกว่าหกแคว้นแล้ว
หลังจากความตกตะลึงผ่านไป ก็ติดตามมาความยินดีเต็มเปี่ยม
ฝ่าบาททรงบรรลุระดับเสวียนอู่! ภายหน้าแคว้นหลิวอวิ๋น จะไม่มีใครรังแกได้อีก!
“ชิงเอ๋อร์ พวกเราไปรับเสด็จแม่เจ้ากลับบ้านกัน”
เมื่อพิษถูกขจัด ร่างกายเฟิงเทียนอวี้ก็ผ่อนคลายอย่างไม่เคยมีมาก่อน คล้ายตัวเบาขึ้น ยามเดินเหินก่อเป็นกระแสลม
“จริงสิ…” เฟิงเทียนอวี้หยุดเล็กน้อย เอ่ยว่า “จะไปบอกท่านตาเจ้าสัก…”
เฟิงหรูชิงส่ายหน้า “ไม่ต้อง เสด็จแม่น่าจะไม่ค่อยดีอยู่บ้าง ข้าเกรงว่าจะกระเทือนใจท่านตา รอรับนางกลับมาแล้ว พวกเราค่อยไปพบเขากัน”
ถังอิ่นเคยบอกว่า นางไม่เหลือความทรงจำใดๆ นอกจากจำได้ว่ามีลูกชายหญิงคู่หนึ่ง ก็จำใครไม่ได้อีกเลย นางไม่อาจให้ท่านตาเห็นท่านแม่ในสภาพแบบนี้ รอนางรับท่านแม่กลับมาฟื้นฟูความทรงจำ ค่อยพาท่านแม่ไปพบเขา
“ข้ากลับตระกูลถังยังมีบุญคุณความแค้นอื่นที่ต้องสะสางอีก” สีหน้าเฟิงหรูชิงเย็นชา “ปีนั้นตระกูลถังทำร้ายถังจือ ข้าสนองคืนกลับไปพร้อมกันด้วย!”
เมื่อคืนคนของทัพเลือดเหล็กกลับถึงวังหลวง เฟิงหรูชิงเรียกตัวถังจือเข้าพบ แล้วเล่าทุกอย่างออกไป
ดังนั้นเช้าตรู่วันนี้คนของทัพเลือดเหล็กกำลังคอยท่ารออยู่แล้ว
พวกนางรอรับฮองเฮากลับวังหลวง! ยิ่งไปกว่านั้นคือ…รอดูจุดจบของตระกูลถัง
ถังจือกำด้ามกระบี่ในมือ ความคั่งแค้นอัดแน่น “สิ่งที่ตระกูลถังติดค้างข้า ติดค้างฮองเฮา ต้องทวงคืนกลับมาให้หมด!”
นับตั้งแต่วันนั้น นางหาใช่คนของตระกูลถังอีกต่อไปแล้ว!
วันนี้ ไม่เพียงนางไม่ใช่คนของตระกูลถังเท่านั้น ซ้ำยัง…มิอาจอยู่ร่วมฟ้าดินกับตระกูลถังด้วย!
‘เช่อ…’เฟิงหรูชิงมองใบหน้าอันคุ้นเคยของฉินเฉิน ขณะที่นางคิดเรียกชื่อนี้ออกมา คำพูดมาหยุดที่ปากก็เปลี่ยนคำ “เฉินเอ๋อร์ เจ้ากลับไปรอข้าที่จวนองค์หญิง”
ใบหน้าอ่อนเยาว์ของฉินเฉินแต้มรอยยิ้ม “ข้าไปกับเจ้า”
คนที่ทำให้นางเสียใจ เขาไม่มีวันปล่อยไป!
ชายหนุ่มแววตาคมกริบ ดวงตาใสกระจ่างเผยไอสังหาร
“ชายโฉด” เสี่ยวชิงยื่นหัวเล็กๆ ออกมา ยิ้มร่าเอ่ยว่า “คุณชายข้าติดตามอยู่ข้างกายองค์หญิงอยู่แล้ว เจ้ากลับไปรอนางซะเถอะ”
เฟิงหรูชิงหน้าคล้ำ “ไม่ใช่! อย่าพูดเหลวไหล! เขาคือน้องชายข้า!”
หนานเสียนเห็นว่าเฟิงหรูชิงปฏิเสธ มุมปากแย้มยิ้มลุ่มลึกจางๆ “เสี่ยวชิงชอบเอ่ยเหลวไหล ไม่สู้จับมันตุ๋นน้ำแกงงู ให้มันสงบเสงี่ยมเสียหน่อย”
“…”
นายท่าน ข้ากำลังช่วยท่าน ท่านยังรังแกข้าอีก!
ข้าจะหนีออกจากบ้านแบบไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว!
ฉินเฉินไม่มีปฏิกิริยาตอนสนองใดๆ ยืนสงบนิ่งอยู่ข้างเฟิงหรูชิงดังเดิม
คล้ายกับขอเพียงมีนางอยู่ เขาถึงวางใจได้
“เสด็จพ่อ พวกเราไปกันเถอะ ข้าเพิ่งบอกเสี่ยวอิ่นไป นางน่าจะรอพวกเราอยู่แล้ว!”
เฟิงหรูชิงปิดงำประกายดวงตา ก้นบึ้งในตายังมีแววคลุ้มคลั่งยากหลบซ่อนได้
…
หลังเขาตระกูลถัง กระท่อมไม้
หรงเยียนนอนอยู่บนเตียง กระบอกตานางเหม่อมองคานไม้ ริมฝีปากแตกแห้งมีเลือดไหล ใบหน้าขาวซีดราวกระดาษ ดูอ่อนระโหยโรยแรงอย่างยิ่งยวด ไร้ซึ่งงดงามดังกาลก่อนอีก
ถังลั่วไม่อยากเชื่อว่า เขาไม่มาหลังเขาเพียงไม่กี่วัน หรงเยียนจะอยู่ในสภาพเช่นนี้แล้ว
ครั้นเห็นหญิงในดวงใจดูน่าอนาถขึ้นเพียงนี้ มือเขาสั่นเทิ้ม ลูบใบหน้าขาวซีดนั้น
ในดวงตาแฝงไปด้วยความเจ็บปวด
“อวี้เอ๋อร์ เยียนเอ๋อร์เป็นอะไรไปแล้ว”
แววตาถังอวี้สงบนิ่ง “ท่านพ่อ ข้าตั้งใจดูแลน้าหรงตามคำสั่งท่าน แต่น้าหรง…นางไม่ยอมอยู่ในตระกูลถัง จงใจอดอาหารบีบคั้นข้า กระทั่งน้ำสักหยดก็ไม่ดื่มมาหลายวันแล้ว ดังนั้นจึงขาดน้ำแล้วอยู่ในสภาพนี้”