ตอนที่ 561 ตระกูลมู่จวนเทียนเสิน (1)
จวนใหญ่ตระกูลมู่
มู่หลิงเพิ่งจะก้าวเข้ามาในประตูบ้านก็ได้ยินเสียงตบตีดังมาจากข้างหน้า
เขาขมวดคิ้วเร่งฝีเท้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว รีบเดินไปที่ห้องโถงด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
เขาได้ยินเสียงด่าทอด้วยความโกรธของผู้เฒ่ามาแต่ไกล และยังมีเสียงสะอื้นของเหล่าสาวใช้ด้วย
ตอนที่เขาเดินไปถึงห้องโถงด้านหน้า ก็เห็นผู้เฒ่ากำลังเอาแก้วชาในมือเขวี้ยงใส่หญิงสาวคนหนึ่งเข้าพอดี
หญิงสาวคนนั้นก้มหน้าไม่ร้องสักนิด ทนรับความโกรธของผู้เฒ่า
ในตอนที่มู่หลิงก้าวเข้าไปในประตูก็ได้เห็นภาพตรงหน้า
ใจของเขาราวกับถูกเข็มทิ่มแทงอย่างไรอย่างนั้น เจ็บจนไม่อาจควบคุม
ตอนที่ผู้เฒ่ากำลังจะเอาแก้วชาเขวี้ยงออกไปอีก เขาก็รีบเข้าไปคว้าเอาแก้วที่กำลังจะโดนร่างหญิงสาวเอาไว้ อดกลั้นความโกรธไว้ในดวงตา “ท่านพ่อ นี่ท่านกำลังทำอะไร?”
“ข้าจะให้หญิงชั่วคนนี้ไสหัวออกไปจากตระกูลมู่ของข้า!”
ผู้เฒ่าโกรธจนหนวดสั่น หยิบแก้วดินเผาเคลือบขึ้นมาเขวี้ยงออกไปอีก
ครั้งนี้มู่หลิงไม่ได้รับแก้วไว้และไม่ได้หลบ ปล่อยให้แก้วนั้นกระแทกที่หน้าผากของเขา เลือดไหลลงมาจากหน้าผากยิ่งทำให้ใบหน้าของเขาเย็นชาขึ้นไปอีก
“ท่านพ่อ ท่านก่อเรื่องพอแล้วหรือยัง?” เขากำหมัดแน่น “หลายปีมานี้ทุกครั้งที่ท่านอาการกำเริบก็มักทำร้ายชิงเยียนซ้ำๆ นางเคยพูดอะไรสักคำหรือไม่? หลายปีมานี้ความอดทนของนางยังไม่เพียงพอให้ท่านวางความแค้นที่ผ่านมาหรือ? อีกอย่าง ที่ผิดล้วนแต่เป็นแม่ของชิงเยียน นางไม่รู้เรื่องด้วย!”
เขาไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจจริง ๆ
เหตุใดทุกคนล้วนตำหนิชิงเยียน
“ท่านพี่หลิง” ชิงเยียนตื่นตกใจ นางดึงแขนเสื้อมู่หลิงน้ำตาคลอโศกเศร้ายิ่งนัก “ช่วงนี้สุขภาพท่านพ่อไม่สู้ดี ท่านพูดน้อยหน่อยจะดีกว่า อย่างไรเสียข้าถูกขว้างปาใส่ไม่กี่ทีก็ไม่เป็นไร ท่านพี่หลิงยอมให้ท่านผู้เฒ่าหน่อยจะดีกว่า”
มู่หลิงย่อมรู้ว่าช่วงนี้สุขภาพของท่านผู้เฒ่านับวันจะแย่ลงเรื่อยๆ ตอนอาการกำเริบยังทุบตีคน ตอนที่มีสติครบถ้วนดี…กลับเป็นแม้แต่แรงจะตีคนยังไม่มี
ดังนั้น ต่อหน้าผู้เฒ่าเช่นนี้นอกจากอดทนแล้วก็ไม่มีวิธีอื่น
“ไสหัวไป พวกเจ้าล้วนไสหัวออกไป ข้าไม่อยากพบใครทั้งนั้น!”
ผู้เฒ่าโกรธจัดถีบโต๊ะตรงหน้าล้มหงาย
เขาหันกลับไปมองพ่อบ้านเก่าแก่ที่รอรับใช้อยู่เงียบๆ ด้านข้าง “ข้าหิวแล้ว ข้าอยากดื่มซุปไก่ที่ซู่อีต้ม เหตุใดซู่อีไปตั้งนานแล้วยังต้มซุปไก่ให้ข้าไม่เสร็จอีก?”
พ่อบ้านขยับปากถอนหายใจ “นายท่าน ท่านลืมแล้วหรือ? ฮูหยินนายท่านรองออกจากตระกูลมู่ไปยังไม่กลับมา”
“เช่นนั้นนางไปที่ไหน?” ครั้งนี้ผู้เฒ่าไม่ได้โมโหเขาขมวดคิ้ว ในตอนที่หันไปมองมู่หลิงนัยน์ตาแฝงด้วยความโกรธ “ภรรยาของเจ้าออกไปข้างนอกแล้วเหตุใดเจ้าไม่ไปด้วยกัน? ใครอนุญาตให้เจ้าอยู่กับผู้หญิงคนนี้? รีบไปตามลูกสะใภ้ข้ากลับมา ข้าจะดื่มซุปไก่”
เฉินชิงเยียนสีหน้าแข็งทื่อ นางกำหมัดแน่นแม้แต่ลมหายใจยังหอบหนัก
นางอยู่กับท่านผู้เฒ่ามาหลายปีแล้วแท้ๆ แต่ลูกสะใภ้ที่ท่านผู้เฒ่ายอมรับกลับมีเพียงแค่ซู่อีคนเดียว!
ซู่อีต่างหากที่เป็นคนมาทีหลัง มีสิทธิอะไรมาครอบครองตำแหน่งของนาง ในเมื่อคนไปแล้วก็ยังไม่เอาตำแหน่งคืนให้นางอีก
“ท่านพ่อ” ท่าทีมู่หลิงค่อนข้างสับสน “ข้าไม่ได้ไปกับซู่อีด้วยแต่ข้าก็หานางพบแล้ว ไม่นานนางก็จะกลับมา”
“จริงหรือ?” ใบหน้าแก่ชราของผู้เฒ่าปรากฏรอยยิ้มขึ้นทันที ดีใจราวกับเด็กน้อยอย่างไรอย่างนั้น “ซู่อีจะกลับมาแล้ว ในที่สุดหญิงชั่วนี่ก็จะไปได้เสียที เจ้าต้องทำดีกับซู่อี เมื่อก่อนเพื่อช่วยเจ้าแม้แต่พลังนางก็…”
……………………
ตอนที่ 562 ตระกูลมู่จวนเทียนเสิน (2)
ประโยคสุดท้ายของท่านผู้เฒ่ายังไม่ทันได้เอ่ยออกมาจู่ๆ เฉินชิงเยียนก็เวียนหัวร่างของนางล้มไปทางมู่หลิง
เดิมหลังจากมู่หลิงได้ยินคำพูดของท่านผู้เฒ่าก็เกิดความสงสัยในใจ
ซู่อีเคยช่วยเขา มันเรื่องเมื่อใดกัน? เหตุใดเขาไม่รู้?
แต่ไม่ปล่อยให้เขาได้คิดอะไรมากนักเฉินชิงเยียนก็ล้มมาใส่ เขาตกใจรีบรับร่างเฉินชิงเยียนเอาไว้ ตกใจจนหน้าซีด
“ชิงเยียนเป็นอะไรไป? เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”
นิ้วของเฉินชิงเยียนนวดที่ขมับเบาๆ น้ำเสียงอ่อนแรงแต่กลับมีรอยยิ้มบางเบา “ข้าไม่เป็นไร อาจเป็นเพราะเมื่อครู่เสียเลือดมากไปทำให้ข้าเวียนหัวเล็กน้อย เดี๋ยวข้าไปพักผ่อนสักพักก็ดีขึ้นแล้ว”
มู่หลิงชะงัก สายตาของเขาจับจ้องที่แผลบนหน้าผากของเฉินชิงเยียนอีกครั้งใจก็เจ็บปวด “ชิงเยียน ขอโทษ ข้ากลับมาช้าไป…”
เฉินชิงเยียนกุมมือมู่หลิงแผ่วเบา “ข้าไม่เป็นไรท่าน ไม่ต้องโทษท่านพ่อ เป็นข้าที่ทำไม่ดีท่านพ่อจึงโกรธ ข้าสู่ท่านพี่ซู่อีไม่ได้สักอย่าง ท่านพ่อชอบท่านพี่ซู่อีก็เป็นเรื่องธรรมดา สำหรับข้าแล้วขอเพียงแค่ได้อยู่กับท่านก็เพียงพอแล้ว ข้าไม่ขออะไรอีก”
ตอนอายุยังน้อยนางเสียท่านแม่ไป มู่หลิงเป็นความอบอุ่นเดียวของนาง เขารับนางเอาไว้ในตอนที่นางยากจนท้อแท้ไม่มีที่ไป นางอาจหลงรักเขาตั้งแต่ตอนนั้น ชีวิตนี้ไม่อาจถอนตัวได้
“ไป ข้าพาเจ้าไปพักก่อน”
มู่หลิงจดจำคำพูดของท่านผู้เฒ่าไว้ในใจเงียบๆ เขาพยุงร่างกายที่อ่อนแอของเฉินชิงเยียนเดินออกไปนอกห้องโถง
…
ท่านผู้เฒ่าเห็นมู่หลิงประคองเฉินชิงเยียนออกไปก็ส่ายศีรษะถอนหายใจ “แม่ฆ่าคนลูกไร้ความผิด ดังนั้นตระกูลมู่จึงไม่ได้สอบสวนเฉินชิงเยียน แต่อย่างไรคนที่แม่ของเฉินชิงเยียนทำร้ายจนตายก็เป็นฮูหยิน เหตุใดนายท่านรองเขา…”
เหตุใดนายท่านรองจึงได้รักลูกสาวของศัตรูที่ฆ่าแม่
“นายท่าน” ท่านผู้เฒ่านึกอะไรขึ้นมาได้จึงเอ่ยถาม “ท่านว่าฮูหยินนายท่านรองเคยช่วยนายท่านรอง นี่…”
“เอ๊ะ เมื่อครู่ข้าพูดไปหรือ?” ท่านผู้เฒ่าชะงักไป เขาวางนิ้วบนริมฝีปากส่งเสียง “ชู่ว ชู่ว เรื่องนี้ห้ามพูดออกไปเด็ดขาดข้ารับปากซู่อีไว้ หากถูกมู่หลิงรู้เข้าซู่อีจะหนีออกจากบ้านไม่กลับมาอีกเลย”
ปากของท่านผู้เฒ่ากระตุกยิกๆ เขาอยากจะบอกนายท่านเหลือเกินว่าฮูหยินซูอีอาจจะไม่กลับมาอีกแล้วจริงๆ ก็ได้…
“พ่อบ้าน” ท่านผู้เฒ่าแสดงสีหน้าท่าทางน่าสงสาร “ข้าอยากดื่มซุปไก่งวงที่ซู่อีทำ อีกนานเท่าไรนางจึงจะกลับมากันแน่ ยาที่หญิงชั่วยกมาทั้งขมทั้งกินยาก เมื่อก่อนตอนที่ซู่อีอยู่จะเตรียมผลไม้คลุกน้ำตาลให้ข้า ข้าไม่อยากดื่มยาขม”
พ่อบ้านเฒ่าถอนหายใจอย่างจนใจ
ตอนที่ท่านผู้เฒ่าดีๆ ยังสามารถตัดสินใจในตระกูลมู่ได้
ตอนนี้ตระกูลมู่นี้ท่านผู้เฒ่าตัดสินใจไม่ได้แล้ว
ร่างกายของเขานับวันจะยิ่งแย่ สติปัญญาไม่ครบสมบูรณ์ ตอนนี้…เขาไม่สามารถจัดการนายท่านรองได้แล้ว
ยังดีที่นายท่านรองยังนับว่ากตัญญูต่อนายท่าน รักและให้เกียรติน้องชาย ไม่เช่นนั้นตระกูลมู่นี้เกรงว่าจะไม่ใช่ตระกูลมู่ในตอนนี้…
“นายท่าน ยาดีขมปาก...”
“ข้าไม่ดื่มก็คือไม่ดื่ม!”
“นายท่าน ผลไม้คลุกน้ำตาลข้าน้อยได้เตรียมไว้ให้แล้ว บางทีตอนนี้หากนายท่านดื่มยาไปซู่อีฮูหยินอาจดีใจยกซุปไก่งวงมาให้นายท่านก็ได้”
ท่านผู้เฒ่าชะงัก เขารู้สึกว่าคำพูดของพ่อบ้านมีเหตุผลมากจึงรับยาจากสาวใช้ที่อยู่ด้านข้างมาดื่มหมดในทีเดียว
“พ่อบ้าน ข้าเวียนหัวพยุงข้าไปพักที”
…………….