บทที่ 76
ค่าคุ้มครอง
ลั่วอู๋คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
หนึ่งวินาทีก่อนเขายังคิดอยู่เลยว่าองค์หญิงเจียโรวมีวิจารณญาณในการแยกแยะถูกและผิด ตัดสินใจได้ในประเด็นที่สำคัญ แต่วินาทีต่อมาองค์หญิงเจียโรวก็ได้แสดงด้านที่ดื้อรั้นและมีอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายออกมาให้เห็น
แต่มันก็ไม่แปลกเท่าไหร่ องค์หญิงที่มีแต่คนคอยรุมล้อมเอาอกเอาใจเป็นพัน ๆ คนตลอดเวลา ก็ไม่แปลกที่จะมีอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย
ลั่วอู๋ถูกมัดและทิ้งไว้บนพื้นพร้อมกับรอยยิ้มเจื่อน ๆ บนใบหน้าของเขา
ไร้หน้าต้องการช่วยเจ้านายออกมา แต่ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บมากเกินไปจนเคลื่อนไหวไม่ได้
“อธิบายมาซะ ว่าทำไมทั้ง ๆ ที่เจ้ารู้ว่าข้าชอบภูตดอกไม้ทำไมเจ้าไม่ให้มันกับข้าล่ะ” องค์หญิงเจียโรวถามขึ้นอย่างเป็นผู้อยู่เหนือกว่า
“ก็เจ้า ไม่มีเงินสำหรับมันนี่นา” ลั่วอู๋พึมพำ
“อะไรกัน!” องค์หญิงเจียโรวจ้องเขม็งอย่างโกรธเคือง “นี่เจ้าจะบอกว่ามิตรภาพขององค์หญิงมันไม่ดีเท่ากับเงินหินวิญญาณเล็ก ๆ น้อยงั้นเหรอ”
ลั่วอู๋แก้ไข “มันไม่ใช่แค่เล็ก ๆ น้อย ๆ มันคือ 8 ล้านหินวิญญาณ”
“ว้าว มันแพงมาก” องค์หญิงเจียโรวเองก็ตกตะลึง จนนางอดคิดในใจไม่ได้ว่า “ได้มาแล้วขายดีกว่า”
นางไม่คาดคิดว่าราคาของภูตดอกไม้นั้นจะสูงมากขนาดนี้
ลั่วอู๋กล่าวว่า “มันมีเหตุผลอยู่ เนื่องจากคนเสนอประมูลภูตน้ำถอนตัวไป คฤหาสน์ชวนเทียนเลยต้องการอะไรมาแทนที่ ซึ่งหากไม่มีภูตดอกไม้แล้ว ข้ากลัวว่ามันจะทำให้ผู้ร่วมประมูลไม่พอใจ”
ลั่วอู๋เล่าเรื่องทั้งหมดให้กับองค์หญิงเจียโรว
“สุดท้ายแล้วเดี๋ยวภูตดอกไม้ก็จะตกเป็นของท่านอยู่ดี มันจึงดีกว่าที่จะนำมันไปประมูลที่คฤหาสน์ชวนเทียน ท่านควรจะนับมันว่าเป็นของขวัญจากข้านะ” ลั่วอู๋กล่าว
องค์หญิงเจียโรวหัวเราะอย่างโกรธเคือง “เจ้าคิดว่าข้าจะดีใจงั้นสิ ข้าต้องขอบใจเจ้าที่นำภูตดอกไม้ไปให้คนอื่นใช้จ่ายเงินเพื่อประมูลงั้นเหรอ”
ลั่วอู๋หัวเราะและหยุดพูด
องค์หญิงเจียโรวยังรู้สึกอายอยู่เล็กน้อย
ข้าคิดว่าเจ้าซื้อภูตดอกไม้ให้ข้า ข้ากำลังลังเลอยู่เลยว่าจะปฏิเสธความเมตตาของเจ้ายังไงดี แต่นี่กลับกลายเป็นว่าข้าเข้าใจผิดไปเอง
เจ้ารู้ว่าข้าชอบภูตดอกไม้ แต่เจ้ากลับไม่พูดอะไรเลยแล้วเอาภูตดอกไม้ไปประมูล นี่มันเป็นการเมินความต้องการองค์หญิงชัด ๆ
องค์หญิงเจียโรวผู้นี้ไม่น่าดึงดูดในสายตาของเจ้างั้นเหรอ
ยิ่งนางคิดถึงมันมากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งรู้สึกละอายใจและโกรธมากขึ้นเท่านั้น นางกล่าวขึ้นว่า “ค้นตัวเขา แล้วเก็บเงินจากการประมูลมาหักครึ่งหนึ่งเป็นค่าคุ้มครอง”
หงเฉาและฉิงเหมยพูดไม่ออก องค์หญิงเจียโรวท่านควรใส่ใจกับภาพพจน์ตัวเองมากกว่านี้
ผู้คุมไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งและรีบไปค้นตัวลั่วอู๋
“ไม่ ไม่ต้องค้นตัวข้า ข้าจะมอบให้เจ้าเอง” ลั่วอู๋ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและพูดอย่างรีบเร่ง
เขากังวลว่าจะถูกยึดไหปีศาจไป
องค์หญิงเจียโรวพูดด้วยความพึงพอใจ “มันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ แก้มัดเขาซะ”
หลังจากที่ลั่วอู๋เป็นอิสระ เขาก็ให้องค์หญิงไป 3 ล้านหินวิญญาณ
“ทำไมแค่มีแค่ 3 ล้านเองล่ะ”
“นี่ก็เยอะมากแล้วนะ” ลั่วอู๋อธิบาย
เขาเพิ่งจ่ายฉูจงฉวนไป 1.5 ล้านหินวิญญาณและเสียเงินไป มากกว่า 1 ล้านหินวิญญาณกับสมุนไพรวิญญาณ และผลิตภัณฑ์ประมูลต่าง ๆ เหลือเพียง 5 ล้านหินวิญญาณ
อย่างไรก็ตามองค์หญิงเจียโรวก็รู้สึกว่ามันพอแล้วที่จะหยุดและไม่พูดอะไรอีก
“ตกลงก็ได้ รีบพาข้าไปที่ตระกูลฉู ข้าต้องการเห็นภูตดอกไม้เร็ว ๆ ” องค์หญิงเจียโรวเร่งเร้า
ลั่วอู๋ยิ้มเจื่อน ๆ แล้วคิดในใจว่า ยังไง ๆ เขาก็ต้องส่งให้เจ้า เจ้าจะกังวลเรื่องอะไรนักหนา
แต่แน่นอนว่าเขาไม่สามารถพูดออกไปได้ เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วองครักษ์ที่คุ้มกันองค์หญิงข้างนอกก็เดินเข้ามา
“องค์หญิง ข้างนอกมีชายในชุดดำดูลับ ๆ ล่อ ๆ กำลังมุ่งหน้ามาที่นี่ ” “ขอให้องค์หญิงตัดสินใจด้วยขอรับ” องครักษ์พูดด้วยเสียงต่ำ
“เจ้าไปมีเรื่องกับใครมาเหรอ” องค์หญิงเจียโรวถาม
“ก็ไม่มีนะ”
“เจ้าไม่ต้องกังวลไป มาลองดูกันดีกว่าเกิดอะไรขึ้น”
……
……
ขณะเดียวกันข้างนอกโรงเตี๊ยม
ชายสามคนสวมหน้ากากสีดำซ่อนตัวอยู่มุมมืด
พวกเขาเชี่ยวชาญในการซ่อนตัวในเงามืดและการลอบสังหาร หลังจากฝึกซ้อมมาเป็นเวลานานพวกเขาก็กลายเป็นนักฆ่าที่มีทักษะมาก
“เอี๊ยด”
ประตูถูกเปิดออกและลั่วอู๋ก็เดินออกมาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ชายทั้งสามคนในชุดดำมองหน้ากันยืนยันเป้าหมาย พร้อมจู่โจมจากสามทั้งทิศทาง เขาคุมตัวลั่วอู๋ไว้ในทันที
คนถือมีดสั้นสามคนพุ่งเข้าโจมตีใส่ลั่วอู๋
“พวกเจ้าเป็นใคร” เสียงของลั่วอู๋สั่นเทาด้วยความกลัว
“ โอ้ เจ้ากล้าตั้งตนเป็นศัตรูกับองค์ชายของพวกเราได้อย่างไร ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่มากเลยสินะ” ชายในชุดดำพูดด้วยเสียงต่ำ
ลั่วอู๋ตัวสั่นระริกด้วยความกลัวและพูดกลับไปว่า “ในเวลากลางวันแสก ๆ พวกเจ้ายังกล้าบุกเข้ามาในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ เจ้ารู้รึเปล่าว่าที่นี่คือที่ไหน”
“หึ แล้วมันยังไงล่ะ ต่อให้เจ้าซ่อนตัวในพระราชวัง ถ้าพวกข้าต้องการจับเจ้า พวกข้าก็จะฆ่าทุกคนที่ขวางทางให้หมด มีปัญหารึไง”
ผู้คนในห้องขององค์หญิงเริ่มหัวเราะเยาะ
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระแล้วส่งตัวภูตดอกไม้มาให้ข้าหรือจะให้ข้าฆ่าเจ้าทิ้งเสียตรงนี้” ชายชุดดำพูดต่อ
ลั่วอู๋กล่าวอย่างตะกุกตะกักว่า “ข้าให้ภูตดอกไม้คนอื่นไปแล้ว”
“อะไรนะ ให้คนอื่นไปแล้ว” ชายในชุดดำเตะลั่วอู๋ “เอาไปให้ใครกัน”
“ให้กับผู้หญิงผู้น่ารักและสวยงามเหมือนดั่งภูต”
(ผู้คนในห้ององค์หญิงต่างพากันปิดปากและกลั้นหัวเราะ)
“ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะมอบให้กับใคร” ชายในชุดดำตะโกน “ตอนนี้นางอยู่ที่ไหนบอกข้ามาซะ”
ลั่วอู๋ลังเลและพูดว่า “ไม่ นางมีอิทธิพลมาก จนเจ้าไม่สามารถชดใช้ได้ หากนางเป็นอะไรไป เจ้าต้องชดใช้ไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานของเจ้า”
“พวกข้าไม่จำเป็นต้องจ่ายชดใช้ให้ใครทั้งนั้น ถ้าเจ้าพูดเรื่องไร้สาระอีก ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งซะ ทีนี้บอกข้ามาว่าผู้หญิงโสเภณีคนนั้นอยู่ที่ไหน” ชายในชุดดำพูดด้วยความโกรธ
“อย่าฆ่าข้า อย่าฆ่าข้า ถ้าเจ้าฆ่าข้า เจ้านายของข้าต้องโกรธแน่”
ชายชุดดำทั้งสามคนกำลังได้ใจมาก
พวกเขาต่างก็คิดว่าผู้ชายคนนี้น่าจะสติไม่ดี
“ข้าจะตัดมือและเท้าของเจ้าก่อน ดูสิว่าเจ้าจะยังกล้าทำแกล้งโง่อยู่อีกไหม” ชายในชุดดำพร้อมที่จะลงมือ
ทันใดนั้นชายสามคนในชุดดำรู้สึกถึงความหนาวเย็นสันหลังที่ไม่สามารถอธิบายได้ ราวกับว่าพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยพลังอันทรงพลัง
พวกเขาหันหัวกลับไปด้วยความกลัวและพบว่าข้างหลังพวกเขาเต็มไปด้วยกองทหารองครักษ์ในชุดเกราะสีเงิน
กองทหารองครักษ์ขององค์หญิงนั้นเคลื่อนไหวได้มาล้อมพวกเขาอย่างรวดเร็ว ทุบมือปลดอาวุธของชายชุดดำทั้งสามอย่างรวดเร็ว
ผู้ที่สามารถผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมกองทหารองครักษ์องค์หญิง ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนน้อยแค่ประมาณ 20 คน แต่ทั้ง 20 คนนี้ก็สามารถสู้กับผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองได้สบาย ๆ
“อ้าก”
ชายชุดดำทั้งสามคนล้มลงกับพื้นอย่างเจ็บปวด
“อา” ลั่วอู๋ส่ายหัวอย่างสังเวช “ข้าบอกแล้วใช่ไหม ว่าหากข้าเป็นอะไรไป เจ้านายของข้าจะโกรธ ทำไมเจ้าถึงไม่ฟังกันเลยนะ”
ชายชุดดำทั้งสามคนงงงวยมาก
ชายคนนี้ควรจะเป็นเพียงแค่บุตรชายที่ถูกเนรเทศออกจากตระกูลลั่ว ทำไมถึงมีกองทหารองครักษ์เกราะเงินที่แข็งแกร่งมาคุ้มกันรอบตัวเขาได้กัน
องค์หญิงเจียโรวผู้นั่งบนรถเข็น ค่อย ๆ ออกมาจากห้องมาช้าๆ ใบหน้าของนางดูเหมือนถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็ง ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกหวั่นเกรง
“องค์หญิงเจียโรว”
ชายชุดดำทั้งสามตกใจมาก
พวกเขาคือมือสังหารที่ถูกฝึกโดยบุตรชายขององค์ชายรัชทายาทแห่งพิงหนาน พวกเขามีความเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาอย่างเงียบเชียบและรู้จักเส้นสายผู้คนจำนวนมาก
ยิ่งไปกว่านั้นนายเหนือหัวของพวกเขา ยังพร้อมที่จะไล่ตามเอาใจองค์หญิงเจียโรว พวกเขาจะไม่รู้จักกันได้อย่างไร
แต่ทำไมองค์หญิงเจียโรวถึงมาอยู่ที่นี่ได้
“องค์ชายงั้นเหรอ บุตรของใครกัน หลี่ชวนเฉิงบุตรชายขององค์ชายรัชทายาทแห่งพิงหนาน “
“นั่นคือคนที่ส่งพวกเจ้ามาบุกรุกที่พักแห่งนี้ ด้วยจิตใจที่มุ่งร้าย หวังที่จะทำร้ายข้าแล้วยังบังอาจเรียกข้าว่าเป็นโสเภณี”
“ดี ๆ”
“ดูเหมือนว่าหลี่ชวนเฉิงจะเกลียดข้าจริงๆสินะ” องค์หญิงเจียโรวกัดฟันกรอด
จบกัน
ชายสามคนในชุดดำหน้าซีดไปในทันที
มันจบแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง