บทที่ 130 ความโกรธ
“แก๊งง!”
ขวานเหล็กฟาดลงบนเกล็ดสีดำของงู ทำให้เกิดเสียงของการกระทบกันของโลหะซึ่งรุนแรงมาก
หยู่เฮายกขวานเหล็กขึ้นและมองดูที่เกล็ดสีดำ มันไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย มันเป็นความแข็งที่น่าอัศจรรย์มาก
“แข็งมาก?” หยู่เฮาอุทาน
จากนั้นพื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือนราวกับมีแผ่นดินไหว
“ รีบไปกันเถอะมันตื่นแล้ว” ใบหน้าของลั่วอู๋เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาร้องออกมาอย่างรีบร้อน
ด้วยความช่วยเหลือของภูตทะเลทรายทั้งสองจึงหนีไปได้ในทันที หลังจากหลบหนีห่างออกไปได้ 2-3 ลี้ พวกเขาก็มองกลับไปที่สถานที่ที่งูหลับอยู่ แต่มันก็ยังคงเงียบสงบ
พื้นดินสั่นสะเทือนสักครู่แล้วสงบลง
หยู่เฮาถามอย่างระมัดระวัง “มันยังไม่ตื่นงั้นเหรอ”
“ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้น” ลั่วอู๋รู้สึกทำอะไรไม่ถูก
เห็นได้ชัดว่าการตีแบบสุดแรงของหยู่เฮา นั้นแทบจะเหมือนกับอาการคันเล็กน้อย ซึ่งไม่น่าจะเพียงพอที่จะทำให้งูตื่นได้
ใช่แล้วมันไม่ได้ผล
เมื่อนอนหลับสนิทและรู้สึกคันเล็กน้อย ปฏิกิริยาปกติของทุกคนก็คือเกาพลิกตัวและกลับไปนอนต่อ
ซึ่งแผนของลั่วอู๋ไม่เพียงคิดที่จะแค่ปลุกงูขึ้นมา แต่เขาต้องการยั่วยุให้มันเข้าไปพัวพันกับลิงยักษ์ด้วย
นี่เลยเป็นปัญหามาก
“ลองอีกครั้ง” ลั่วอู๋กล่าว
หยู่เฮาพยักหน้า เขาหยิบขวานขึ้นมาและฟันลงไปที่เกล็ดของงูอีกครั้ง
“แกร๊งงง!”
เกล็ดสีดำใหญ่เท่าโล่เริ่มมีรอยปริแตก สมแล้วที่เป็นขวานที่ทำมาจากเหล็กแห่งความยุ่งเหยิง เกล็ดงูเองนั้นยังคงติดอยู่กับร่างของมันอย่างสมบูรณ์แม้จะถูกตัด
มีการสั่นสะเทือนอีกครั้งที่พื้นทราย
แต่ในไม่ช้ามันก็กลับสู่ความสงบ ทว่าแรงสั่นสะเทือนครั้งนี้นานกว่าครั้งแรกเล็กน้อยและดูเหมือนว่างูตัวใหญ่นั้นเริ่มจะได้สติแล้ว
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่างูตัวใหญ่ยังขี้เกียจเกินกว่าที่จะเคลื่อนไหว
“ยังไม่ยอมตื่นอีกเหรอ?” ลั่วอู๋เรียกต้าหวงออกมา “ต้าหวงกัดมันสิ”
ต้าหวงเปลี่ยนเข้าสู่สถานะการต่อสู้ ที่เป็นร่างของหมาป่ายักษ์
หยู่เฮาประหลาดใจ “เจ้าคิดอะไรอยู่ แม้แต่ขวานของข้าก็ไม่สามารถปลุกงูให้ตื่นได้ แล้วเจ้าต้องการจะใช้ให้สัตว์วิญญาณระดับเงินกัดมันงั้นเหรอ?”
“ลองดูก็ไม่เสียหายนะ ต้าหวงใช้กลืนกินสิ” ลั่วอู๋กล่าว
ต้าหวงพยักหน้าจากนั้นก็กัดไปที่เกล็ดของงูและเปิดใช้งานทักษะกลืนกิน
เกล็ดงูนั้นยังคงอยู่ในสภาพเดิม แต่ก็มีกลิ่นเลือดจาง ๆ ฟุ้งออกมาพลังวิญญาณมหาศาลเติมเต็มร่างกายของต้าหวงในทันที
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” หยู่เฮากำลังงง
ลั่วอู๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม “มันได้ผลจริง ๆ ด้วย หากใช้ทักษะกลืนกินกับมันตรง ๆ มันจะย่อยเนื้อและเปลี่ยนเป็นพลังงาน หรือก็คือเนื้องูที่ปกคลุมด้วยเกล็ดของงูจะถูกกลืนโดยต้าหวง”
ขนาดของงูยังใหญ่เท่าเดิม
แต่ก็มีเนื้อชิ้นเล็ก ๆ หายไปจริง ๆ
ถ้ามันกำลังนอนหลับสบายอยู่ แต่ทันใดนั้นก็มีหนูมาแทะร่างของมัน กัดกินเนื้อของมันไป มันจะยังสามารถนอนหลับได้อีกหรือ? มันจะไม่โกรธเหรอ? ถ้าเป็นเขา เขามั่นใจว่าเขาโกรธแน่
“ตูม!”
โลกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและผืนทรายสีเหลืองรอบ ๆ ก็พังทลายลงในทันที ลมหายใจอันรุนแรงถูกปล่อยออกมา ทำให้สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนในระยะทางหลายร้อยลี้
หัวของงูตัวใหญ่ค่อยๆยกขึ้น โดยรู้สึกได้ถึงดวงตาของสัตว์เลือดเย็นที่กำลังสั่นคลอน
มันไม่ใช่งูธรรมดา มันมีเขามังกรอันสมบูรณ์บนหัวของมันด้วยสายเลือดของมังกรอันแข็งแกร่งในตัว
“ฟ่อ!”
งูตัวใหญ่กวัดแกว่งหางไปมา
พื้นที่ทั้งหมดดูเหมือนจะพังทลายลง
“รีบไปกันเร็ว” ร่างกายของลั่วอู๋แข็งทื่อและหนาวสั่น เพียงแค่รู้สึกถึงลมหายใจของงูตัวใหญ่ก็ทำให้เขารู้สึกว่าการหายใจของเขาไม่ราบรื่น
ภูตทะเลทรายโอบทั้งสองคนอย่างรวดเร็วและพาพวกเขาหนีไป
งูตัวใหญ่มองมาที่ภูตทะเลทรายจากนั้นก็เริ่มไล่ตาม ร่างกายที่ใหญ่โตของมันไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างเทอะทะ แต่พุ่งออกไปเหมือนลูกศรอันแหลมคม
“ว้าว…”
ราวกับมันบินผ่านผืนทรายสีเหลือง
เพียงชั่วพริบตางูตัวใหญ่ก็มาปรากฏตัวต่อหน้าภูตทะเลทราย ดวงตาของงูตัวใหญ่จับจ้องไปที่ลั่วอู๋และต้าหวง
“โอ้พระเจ้า” ขาและท้องของลั่วอู๋อ่อนแรงในทันที
ใครจะไปคิดว่างูจะมีความเร็วที่น่ากลัวได้ขนาดนี้
แต่ยังโชคดี
ที่พวกเขานำเสี่ยวไป่มาด้วย
“เสี่ยวไป่พาเราหนีไปเร็ว!”
ทักษะ [ทะลวงมิติ] เริ่มทำงานและแสงสีขาวเปล่งสว่างออกมา
ลั่วอู๋และหยู่เฮาหายตัวไปในทันที
ในที่สุดดวงตาของงูก็โอนเอนเล็กน้อย มันมองออกไปในระยะไกล ส่งเสียงฟ่อด้วยเสียงต่ำและปล่อยลมปราณออกมาอย่างน่ากลัว
“ตูมมมม”
พื้นที่ขนาดใหญ่เบื้องหน้ากลายเป็นความว่างเปล่าในทันทีราวกับว่ามันถูกระเหยออกไป เผยให้เห็นหลุมลึกซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวไปทั้งสันหลัง
ลั่วอู๋มองไปที่ความว่างเปล่านั้นจากระยะไกล เขากลัวจนต้องเช็ดเหงื่อ “งูตัวใหญ่ตัวนี้เร็วและมีแรงมหาศาลมากจริง ๆ แหละ”
“ แหงสิ ก็เจ้าให้สัตว์วิญญาณไปกัดมัน ตอนนี้มันเลยยัวะและพร้อมจะเป็นเทพผู้ทำลาย” หยู่เฮาเองก็กลัวเช่นกัน
งูตัวใหญ่ดูเหมือนจะยังต้องการที่จะไล่ล่า แต่มันสัมผัสได้ถึงลมหายใจของลิงยักษ์ที่อยู่ตรงหน้า มันจึงหยุดลงในทันทีและพร้อมที่จะเปลี่ยนเป้าหมาย
สัตว์วิญญาณระดับสูง แต่ละตัวมีอาณาเขตของพวกมันเองและจะไม่รุกรานซึ่งกันและกัน ในสถานการณ์ปกติ
แต่เห็นได้ชัดว่าการบุกรุกของลิงยักษ์รอบนี้ถือได้ว่าเป็นการยั่วยุ หากไม่ใช่เพราะมันยังไม่แน่ใจว่าจะชนะเหนือลิงยักษ์อย่างแน่นอน ตอนนี้มันคงพุ่งใส่งับคอไปแล้ว
“ฟ่อ…”
ลิงยักษ์ได้ยินเสียงของงู มันจึงส่งเสียงดังและหยุด แม้มันจะกลัวงูแต่มันก็ยังไม่อยากจากไป
“ฟ่อ…”
“กรร!”
“ฟ่อ…”
ลิงและงูกำลังส่งเสียงใส่กันอยู่ห่าง ๆ ราวกับว่าพวกมันกำลังคุยกัน
เหล่าผีเสื้อปีกมายาแถวนั้นจึงเลิกที่จะรุดเข้าใส่ลิงยักษ์ และค่อย ๆ ถอยออกไป
ลั่วอู๋มองไปในระยะไกลหัวใจของเขาผ่อนคลาย
แม้ว่ามันจะยังไม่ได้ต่อสู้กัน แต่ก็สามารถถ่วงเวลาไว้ได้นานมากและแผนก็ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
หลังจากนั้นประมาณ15 นาที งูก็คำรามแล้วปลดปล่อยพลังมังกรของมันออกมาจากหัวใจของมัน พร้อมตั้งท่าที่จะโจมตี
ดูเหมือนว่ามันจะพูดแนว ๆ ให้ลิงยักษ์ออกไปจากที่ของมัน
ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่าการเจรจาของพวกมันล้มเหลว
“กรร”
หมัดของลิงยักษ์กระแทกพื้นอย่างรุนแรงและพื้นโลกก็เริ่มสั่นสะเทือน เปลวสีดำทั่วร่างกายของมันลุกโชนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับจะเผาผลาญทุกสิ่ง
จากนั้นงูก็พุ่งเข้ามาและอ้าปากปล่อยลมปราณอันน่ากลัวของ พลังสายเลือดมังกรควบแน่นอีกครั้งและพ่นลมปราณไปที่ลิงยักษ์
ทว่ามันไม่ได้กลัว ลิงยักษ์ยืดหมัดออกไปและทุบงูด้วยหมัดใหญ่เท่าภูเขาของมัน
มันเขย่างูสายเลือดมังกรด้วยกำปั้นของมัน
ช่างเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัว
“ตูมมม”
แผ่นดินก็สั่นสะเทือน
คลื่นอากาศอันรุนแรงทำให้ผืนทรายสีเหลืองจำนวนนับไม่ถ้วน ผีเสื้อปีกมายาจำนวนมากก็ถูกคลื่นซัดจนตายไปพร้อม ๆ กัน
ลั่วอู๋และคนอื่น ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในระยะไกลนั้นเต็มไปด้วยความตกใจในดวงตาของพวกเขา
นี่หรือคือพลังของสัตว์วิญญาณระดับเพชรที่ใคร ๆ ต่างก็ใฝ่หา!
แน่นอนว่ามันเทียบได้ถึงขั้นที่จะอธิบายว่าเป็นการทำลายสวรรค์และปฐพี ไม่น่าแปลกใจเลยที่ ไม่มีผู้ใช้พลังวิญญาณจากภายนอกคิดจะรุกรานราชวงศ์ที่มีสัตว์วิญญาณระดับเพชร เพียงแค่การต่อสู้ระดับนี้ก็สามารถทำลายประเทศทั้งประเทศได้อย่างง่ายดาย
สัตว์ประหลาดทั้งสองกำลังทำสงครามกัน
พื้นที่ภูมิประเทศเปลี่ยนไปในทันที
“ ครึก คราก … ”
ไม่นานนักเสียงเนื้อถูกฉีกขาดก็ดังขึ้น
เลือดไหลทะลักไหลออกมาดั่งแม่น้ำ
ลิงยักษ์ฉีกหนังงูส่วนท้องของงูออกมา งูตัวใหญ่เลือดไหลออกมาและร้องเสียงหลง
แต่ทางลิงยักษ์สภาพก็ไม่ได้ดีมากนัก หน้าอกของมันไหม้เป็นแผลและเห็นได้ชัดว่ามันได้รับบาดเจ็บจากลมปราณของงูตัวใหญ่
ลิงหนึ่งตัวและงูหนึ่งตัวมีพละกำลังที่ใกล้เคียงกัน
ไม่มีใครได้เปรียบใครในการต่อสู้ครั้งนี้