บทที่ 33 อีกาดำเลือดเย็น (ต้น)
ซูอัน อ้าปากค้างทำทีหวาดกลัวสุดชีวิต “นี่ท่าน…ท่านพยายามสังหารข้างั้นเหรอ? ข้าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับท่านทำไมท่านถึงต้องมาปองร้ายข้าแบบนี้ด้วย?”
ชายตรงหน้าตอบด้วยการเยาะเย้ยอย่างเย็นชาว่า “เจ้าต้องโทษตัวเองที่ดันไปขวางทางคนที่เจ้าไม่อาจล่วงเกินได้!”
“ข้าไปขวางทางใครกัน?” ซูอันถามกลับด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
ดอกบ๊วยสิบสองเหยียบลงบนอกของซูอัน พร้อมกับใช้กริชตบเขาที่หน้าของเขาอย่างหยอกล้อ “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ แต่ถ้าเจ้าอยากรู้จริง ๆ ก็ไปถามกับยมบาลในยมโลกเอาก็แล้วกัน!”
ซูอันรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดนั้น โลกนี้มีแนวคิดเรื่องยมบาลกับยมโลกด้วยงั้นเหรอ?
“ตระกูลฉู่จะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่ถ้าเจ้ากล้าทำร้ายฆ่าแม้แต่ปลายนิ้ว!” ซูอันตวาดกลับ เขาต้องรู้ว่าคนบางการเป็นสมาชิกของตระกูลฉู่หรือไม่
“ไอ้หยา ข้ากลัวแล้ว ข้ากลัววว!” ดอกบ๊วยสิบสอง แสดงสีหน้าตกใจล้อเลียนซูอัน “เจ้าลืมไปแล้วหรือไงว่าตอนนี้พวกเราอยู่ในป่าลึกไร้ซึ่งผู้คน ต่อให้เจ้าตายไปมันก็จะไม่มีใครพบศพของเจ้า และจะไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าตายอย่างไร”
ดอกบ๊วยสิบสองหยุดนิ่งไปชั่วครู่ “แต่ว่ามันก็ดีเหมือนกันที่เจ้าเตือนข้าแบบนี้เพราะมันทำให้ข้านึกออกว่ามันจะเป็นการปลอดภัยที่สุดหากข้าไม่ลงมือด้วยตัวเอง ข้าควรจะจับเจ้าโยนให้ฝูงหมาป่ากระซวกทวารจัดการมากกว่าเพื่อความปลอดภัยของตัวข้า หากทำเช่นนั้นแม้แต่ตระกูลฉู่ก็ไม่สามารถสืบสาวการตายของเจ้ามาถึงตัวข้าได้แน่นอน!”
ซูอันรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เพราะจากคำพูดเมื่อครู่นี้ของดอกบ๊วยสิบสองมันทำให้เขารู้ได้ว่า อย่างน้อยที่สุดแล้วผู้บงการเบื้องหลังทั้งหมดไม่ได้มาจากตระกูลฉู่
“อา เจ้ารู้ไหมว่าทำไมไอ้หมาป่าพวกนั้นมันถึงถูกเรียกว่าหมาป่ากระซวกทวาร” ดอกบ๊วยสิบสองถามด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายและก่อนที่ซูอันจะได้พูดอะไร เขาก็ชิงตอบคำถามของเขาเอง
“นั่นเป็นเพราะพวกมันไม่ฆ่าเหยื่อของพวกมันในทันที พวกมันชอบที่จะฉีกกระชากก็นของเหยื่อให้เป็นแผลกว้างจากนั้นพวกมันก็จะค่อย ๆ สาวไส้ของเหยื่อออกมากินทีละน้อย ๆ ในขณะที่เหยื่อยังคงมีชีวิตอยู่ ข้าล่ะสงสัยจริง ๆ ว่ามันจะรู้สึกแบบไหนกับการที่ต้องเห็นไส้ของตัวเองถูกสาวออกไปกินเรื่อย ๆ แบบนั้น”
ซูอันรู้สึกงุนงง ไอ้โรคจิตผู้นี้มันจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังทำไมกัน? หรือว่ามันชอบทรมานคนเป็นงานอดิเรก?
ดอกบ๊วยสิบสองเข้าใจไปว่าที่ซูอันเงียบไม่ยอมพูดอะไรเลยน่าจะเป็นเพราะว่ากำลังกลัวสุดขีดอยู่ เขายิ้มร่ามากกว่าเดิมด้วยท่าทีเหนือกว่าและพูดต่อว่า “อย่างไรก็ตาม หากเจ้าตอบคำถามของข้าจนข้าพอใจได้ ข้าจะพิจารณาให้ความตายอันรวดเร็วและเจ็บปวดน้อยลงแก่เจ้า”
“เจ้าอยากรู้อะไร?” ซูอันถามกลับพร้อมกับคิดหาสาเหตุของการกระทำของชายตรงหน้า เป็นไปได้ไหมที่เจ้าของร่างคนก่อนนี้ค้นพบความลับยิ่งใหญ่อะไรบางอย่างที่น่าตกใจ จนทำให้ต้องมีคนส่งมือสังหารมาคอยตามล่าเขา?
ดอกบ๊วยสิบสอง ย่อตัวลงและมองไปที่ซูอันด้วยรอยยิ้มที่ประหลาดบนใบหน้าของเขา “หน้าอกเจ้าสาวของเจ้าใหญ่แค่ไหนกัน?”
ซูอันจ้องมองไปที่ดอกบ๊วยสิบสองด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
เขานึกถึงคำถามที่เป็นไปได้มากมายที่ดอกบ๊วยสิบสองจะถามได้ แต่ใครจะคิดล่ะว่ามันจะเป็นคำถามบ้าบอแบบนี้?
“ใหญ่ประมาณนี้” ซูอันแสดงขนาดประมาณคร่าว ๆ ด้วยมือของเขา ถึงแม้ว่าเขาไม่เคยเห็นมันมาก่อน แต่ดอกบ๊วยสิบสองก็ไม่เคยเห็นมันเหมือนกัน ดังนั้นต่อให้มันไม่ใช่เรื่องจริงดอกบ๊วยสิบสองก็ต้องเชื่อเขาอยู่ดี
“เอวนางล่ะ? เอวนางบางขนาดไหน?” หน้าตาของเขาดูกระเหี้ยนกระหือรือขึ้นเรื่อย ๆ
“ขนาดประมาณนี้มั้งข้าคิดว่า?” ซูอันเริ่มหมดความอดทน ถ้าหากเขาไม่สามารถได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากนักฆ่าคนนี้ได้ เขาก็ไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไป
“แล้วข้างล่างล่ะ? แล้วเสียงร้องล่ะ? นางร้องแบบไหนตอนสุขสม… อูยยย! แค่คิดแค่นี้ข้าก็แข็งไปหมดแล้ว!” ดอกบ๊วยสิบสองรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งตัว ทันใดนั้นนั้นจู่ ๆ เขาถอดกางเกงลงแล้วตะโกนสั่งซูอัน
“เห้ย! เข้ามาอมมันให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
ในเมื่อเขาไม่สามารถสนองตัณหาของตนเองที่มีต่อคุณหนูใหญ่ของตระกูลฉู่ได้ในชีวิตนี้ เขาก็จะสนองความปรารถนาที่เขามีต่อนางด้วยวิธีการนี้แหล่ะ
เมื่อเห็นเช่นนี้ซูอันยิ่งรู้สึกเหลือเชื่อมากกว่าเดิมจนพูดไม่ออก
เขาวางแผนที่จะล้วงข้อมูลจากดอกบ๊วยสิบสอง แต่ไหงตอนนี้เขากลับโดนไอ้โรคจิตผู้นี้ ใช้ให้อมนกเขาซะอย่างนั้น!?
ตอนนี้ความอดทนของเขาได้ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุดเรียบร้อย เมื่อซูอันคลานไปถึงหว่างขาของดอกบ๊วยสิบสอง เขาชักมีดที่ซ่อนไว้ออกมาทันทีและตวัดมันใส่ตรงกลางหว่างขาของดอกบ๊วยสิบสองอย่างรวดเร็วโดยไร้ซึ่งความลังเล
แน่นอนว่ารากเง้าแห่งความชั่วร้ายถูกตัดทิ้งจนถึงโคน!
“อ๊ากกกกกก!!” ดอกบ๊วยสิบสองกำลังฟุ้งซ่านเกินกว่าจะป้องกันได้ทันเวลา เขากรีดร้องโหยหวนพร้อมกับเอามือกุมไปที่จุดยุทธศาสตร์ของตัวเองและกระโดดไปกระโดดมาด้วยความเจ็บปวด จนสุดท้ายเขาสะดุดรากไม้ใกล้ ๆ จนล้มหัวโขกไปที่ต้นไม้ใหญ่อย่างแรงจนสลบไป
ดอกบ๊วยสิบสองอยู่ในห้วงความฝันที่ยาวนาน ในความฝันเจ้าสำนักของเขาส่งเขาไปที่วังหลวงเพื่อไปเป็นขันที เขาถูกตรึงไว้บนโต๊ะและความเป็นลูกผู้ชายของเขาถูกตัดขาด จากนั้นเขาก็ถูกโยนเข้าไปในห้องเล็ก ๆ เขาถูกขังอยู่หลายวันติดต่อกันโดยไม่มีอาหารหรือเครื่องดื่มจนลำคอแห้งผากราวกับมีเม็ดทรายในนั้น เขารู้สึกเหมือนกำลังจะตายจากความกระหายน้ำ
ราวกับว่าสวรรค์ได้ยินคำวิงวอนของเขา ฝนก็เริ่มตกลงมาจากฟ้า เม็ดฝนเหล่านั้นให้ความรู้สึกอบอุ่นบนใบหน้าของเขาแถมมันยังมีรสที่เค็มอร่อย
เขาอ้าปากกลืนกินมันอย่างตะกละตะกลาม แต่พอผ่านไปสักพักเขาก็รู้สึกได้ว่ามันมีบางอย่างที่ผิดปกติ ซึ่งท้ายที่สุดเขาก็ตื่นขึ้นและพบว่าตอนนี้ตัวเองถูกมัดติดไว้กับต้นไม้ เขาพยายามดิ้นอย่างสุดแรงเกิด
แต่มันก็ไม่มีผลใด ๆ เลย จนเขาตระหนักได้ว่าเชือกที่มัดเขาอยู่ในขณะนี้มันเป็นเชือกที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อเอาไว้ใช้จัดการกับผู้บ่มเพาะระดับต่ำเช่นเขา
เกิดอะไรขึ้นที่นี่?
ดอกบ๊วยสิบสอง พยายามทำความเข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง นี่เขาไม่ได้อยู่ในระหว่างการนำลูกเขยขยะของตระกูลฉู่ ไปที่หุบเขาหมาป่างั้นเหรอ? จากนั้นเมื่อเขารู้สึกได้ถึงของเหลวที่เปรอะเต็มใบหน้าเขาจึงใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ทำไมรสชาติมันเหมือนกับน้ำฝนในความฝันของเขาเลย?
แต่แล้วเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าซูอันอยู่ใกล้ ๆ ในสภาพที่กำลังดึงกางเกงขึ้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าของเหลวที่เปรอเต็มใบหน้าของเขาในตอนนี้มันคืออะไร!
“ฮ่า ฮ่า”
ซูอัน หัวเราะและเอ่ยขอโทษเขา “เจ้าตื่นแล้วงั้นเหรอ? เป็นความผิดข้าเองที่ไม่ได้เตรียมตัวพกน้ำมาด้วย ข้าเห็นว่าเจ้าไม่ยอมตื่นสักที และแถว ๆ นี้มันก็ไม่มีแหล่งน้ำเลยดังนั้นเพื่อให้เจ้าตื่นขึ้น ข้าเลยทำได้แค่ใช้สิ่งที่ข้ามีเท่านั้น ในช่วงสองวันที่ผ่านมาข้ากินน้ำไปไม่เยอะเท่าไหร่ ดังนั้นข้าต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ที่สีของมันอาจจะเหลืองมากไปหน่อย”
คำอธิบายของซูอันคลายความสงสัยในจิตใจของดอกบ๊วยสิบสองออกไปหมดสิ้นว่าของเหลวบนใบหน้าของเขาเป็นอะไร แถมเขาจำได้ว่าเขาดื่มไปหลายอึกเลยในความฝัน! ดอกบ๊วยสิบสองตัวสั่นไปด้วยความเดือดดาล “ไอ้สารเลวววว!!!”
———————————————————————————————
ท่านยั่วยุ ดอกบ๊วยสิบสอง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +777 แต้ม!
———————————————————————————————
ซูอัน รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อได้คะแนนเยอะขนาดนี้ ตอนนี้เขาวางแผนว่าจะยั่วโมโหดอกบ๊วยสิบสองไปจนถึงจุดสุดยอดเพื่อไม่ให้เป็นการเสียโอกาสทำคะแนน!
อีกฝ่ายคำรามด้วยโกรธสุดขีด “กล้าดียังไงมามัดข้า? ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”
ซูอัน กอดอกส่งยิ้มให้กับดอกบ๊วยสิบสองและถามกลับว่า “เจ้าลืมเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไปแล้วงั้นเหรอ?”
ดอกบ๊วยสิบสอง ขมวดคิ้วจากนั้นเมื่อเขาหวนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่เขาให้เด็กคนนี้คลานเข้ามาหาและจากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น… เมื่อคิดได้ถึงจุดนี้เขาเหลือบมองต่ำลงไป จนได้เห็นว่าจุดยุทธศาสตร์ของเขานั้นเต็มไปด้วยรอยเลือด และถึงแม้ว่าตอนนี้เลือดจะหยุดไหลแล้ว แต่สิ่งที่ควรมีมันกลับไม่มีอยู่อีกต่อไป! เขาร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร “ไม่!!!! มันอยู่ที่ไหน? !”
เสียงโหยหวนอันเกรี้ยวกราดของเขาทำให้บาดแผลของเขาปริออก ส่งผลให้เลือดไหลออกมาอีกรอบ…