บทที่ 72 การแลกเปลี่ยน(ปลาย)
เพ่ยเหมียนหมาน จ้องเขม็งไปที่ซูอันด้วยสายตาเย็นชา “และอีกอย่างเจ้าห้ามพูดเรื่องที่เรา…ที่เราสู้กันวันนี้ออกมาให้ข้าได้ยินอีกเป็นอันขาด จงจำ
ใส่หัวเอาไว้!”
หลังจากนั้นนางก็กระโดดขึ้นไปเหยียบบนขอบหน้าต่างเตรียมพร้อมจะจากไป แต่แล้วก่อนที่นางจะจากไปนางก็หันกลับมาและถามเขาต่ออีกประโยค “จริงสิเมื่อกี้เจ้าใช้ทักษะอะไรน่ะ? ทำไมความแข็งแกร่งของเจ้าถึงจู่ ๆ
ก็เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน?”
ซูอัน ก็สับสนเช่นเดียวกัน “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีมันอาจเป็นพรสวรรค์ลับของข้าเมื่อเผชิญกับวิกฤตล่ะมั้ง?”
“เหอะ! ถ้าไม่อยากพูดก็บอกมาตรง ๆ ก็ได้ไอ้คนขี้เหนียว!”
เพ่ยเหมียนหมาน บ่นด้วยความไม่พอใจก่อนที่ร่างอันเย้ายวนของนาง
จะหายไปกับความมืดของยามราตรี
ซูอัน ยิ้มอย่างขมขื่นกับตัวเอง เขาไม่รู้จริง ๆ ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีที่เขาจะครุ่นคิดเรื่องนี้ เขาต้องรีบออกไปจากที่นี่ทันทีไม่งั้นมันอาจจะมีคนของตระกูลฉู่บังเอิญมาเจอเขาก็ได้
ไม่นานต่อมาในที่สุด ซูอัน ก็วิ่งกลับมาถึงห้องของเขาและเมื่อเขาคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว เขารีบหยิบขวดโอสถที่ จี้เติ้งถู เคยมอบเอาไว้ให้ก่อนเดินไปที่หุบเขาหมาป่าออกมาจากนั้นเขากลืนเม็ดโอสถที่อยู่ข้างในขวดทันที
เขาได้เรียนรู้จากบทเรียนที่แล้ว ซึ่งเขาจะไม่พลาดแบบเดิมอีก ระยะเวลาการแสดงผลของเส้นใยสุขสันต์นั้นมีจำกัด และเมื่อไหร่ที่ระยะเวลาการแสดงผลมันสิ้นสุดเมื่อนั้นความเจ็บปวดจากบาดแผลและความเสียหาย
จะจู่โจมเขาอย่างกะทันหันจนมันอาจคร่าชีวิตเขาได้จริง ๆ
“หวังว่ายานี่มันน่าจะได้ผลนะ ไม่งั้นข้าต้องตายแน่ ๆ !” ซูอัน รู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่เมื่อพิจารณาว่าผู้ให้เป็นถึงหมอเทวะหรือจี้เติ้งถู ผู้โด่งดัง ดังนั้น
ยานี้มันก็น่าจะได้ผล
แต่แค่เพียงไม่นานหลังจากกลืนเม็ดโอสถไป ความกังวลใจของ ซูอัน ก็เริ่มคลายลงเพราะเขาเริ่มรู้สึกได้เรื่อย ๆ ถึงพลังงานบางอย่างที่อบอุ่นไหลเวียนไปตามร่างกายของเขามุ่งตรงไปหล่อเลี้ยงจุดที่เขาถูกโจมตี
เมื่อสัมผัสความรู้สึกนี้ในที่สุด ซูอัน ก็โล่งใจ เขายอมรับว่ายาของ จี้เติ้งถู สมคำร่ำลือจริง ๆ แม้ว่ามันจะไม่ได้น่าเหลือเชื่อเท่า น้ำยาศรัทธาพี่น้องที่เขา
ได้มาจากการสุ่มรางวัลซึ่งสามารถรักษาคนๆ หนึ่งให้กลับสู่สภาวะปกติ
ได้ภายในพริบตา แต่ประสิทธิภาพของมันก็ดูเหมือนจะพอ ๆ กัน เพียงแต่ว่าอัตราการฟื้นตัวของยา จี้เติ้งถู นั้นช้ากว่าสักหน่อย
ตอนนั้นเองที่ระยะเวลาการแสดงผลของ เส้นใยสุขสันต์เริ่มเสื่อมลง และเนื่องจากโอสถออกฤทธิ์ได้ไม่เร็วพอ ซูอันจึงเริ่มรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว
“เจ้าสิ่งนี้มันเป็นของวิเศษที่อัศจรรย์จริง ๆ ” โดยไม่สนใจความเจ็บปวด ซูอัน จ้องไปที่ ‘เส้นใยสุขสันต์’ ในมือของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งของชิ้นนี้
เขาคงตายไปเกิดใหม่อีกหลายรอบ
เขาไม่คิดว่ามันน่าประทับใจขนาดนี้เมื่อตอนที่เขาใช้มันเพื่อรับมือ
กับแส้คร่ำครวญ เพราะตอนนั้นการโจมตีของ ฉู่ฮวนเจา เป็นแค่ทำให้
บาดเจ็บเฉย ๆ ไม่ได้หวังผลถึงตาย แต่เมื่อครู่นี้มันเป็นครั้งแรกที่เขาทดสอบคุณสมบัติภูมิคุ้มกันการตายที่น่าขันของมันอย่างแท้จริง และมันก็ทรงพลังอย่างที่ระบบอธิบายไว้แบบไม่มีผิดเพี้ยน
เมื่อตอนนี้เขารู้ซึ้งถึงความวิเศษของมัน ซูอัน ก็เริ่มปวดใจในทันทีเพราะของชิ้นนี้ใช้ได้แค่ 3 ครั้งเท่านั้นซึ่งตอนนี้ เขาใช้ไปแล้วถึง 2 เหลืออีกเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่เขาจะใช้มันได้ เขาอยากประณามตัวเอง
เป็นอย่างมาก ที่ไม่คิดแผนใช้งานมันให้คุ้มค่ากว่านี้! ไม่รู้เลยว่าในอนาคต
มันจะมีโอกาสอีกไหมที่เขาจะได้ของแบบนี้อีก?
ตอนนั้นเองที่ ซูอัน นึกขึ้นได้ถึงข้อกำหนดสำหรับการเปิดใช้งานของวิเศษชิ้นนี้ อีกฝ่ายจะต้องเป็นผู้หญิงที่รวยกว่าเขาจึงจะมีผล ด้วยความคิดนี้
เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโล่งใจที่วันนี้ อวี๋เหยียนลั่ว ไม่อยู่ ถ้าเขาได้รับ 10,000 ตำลึงทองจากนาง คงจะมีผู้หญิงเพียงไม่กี่คนในโลกที่ร่ำรวยกว่าเขา ซึ่งมันจะทำให้เขาประสบปัญหาอย่างหนักในการใช้เส้นใยสุขสันต์ในอนาคต
ดูเหมือนว่าข้าไม่ควรไปเอาค่าตอบแทนจาก อวี๋เหยียนลั่ว ในเร็ว ๆ นี้
ซูอัน อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขัดแย้งภายใน สรุปแล้วเขาจะต้องจนไปอีกนานแค่ไหนกันเนี่ย!?
ท่านยั่วยุ ฉินว่านหรู สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +3 +3 +3…
ซูอัน รู้สึกงุนงง นี่เขาไปทำบ้าอะไรให้ แม่เสือดุคนนั้นโกรธ
เข้าอีกล่ะเนี่ย? นี่นางโกรธเขาบ่อยเกินไปรึเปล่า? หรือช่วงนี้เป็นช่วงประจำเดือนของนางกันแน่?
ในเวลาเดียวกัน ภายในห้องนอนของ ฉู่จงเทียน เขากำลังรินชา
ให้ภรรยาของเขาก่อนจะถามว่า “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าลงโทษ ซูอัน ให้คัดลอก
กฎของตระกูล 100 จบ เจ้าไม่คิดว่ามันโหดร้ายไปหน่อยงั้นเหรอ?”
ฉินว่านหรู พ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิดก่อนที่จะพูดว่า “ไอ้เด็กนั่นจะไม่มีวันกลายเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้ ถ้าเราไม่ผลักดันเขาด้วยไม้แข็ง!
ท่านรู้ไหมว่าวันนี้เขาทำอะไร วันนี้เขาหนีออกจากสำนักเชียวนะ! ข้าได้รับข่าวจากสำนักว่าเขาไม่แม้แต่จะก้าวผ่านประตูของสถานศึกษาด้วยซ้ำ!
นี่มันเป็นเรื่องที่เราควรรับได้งั้นเหรอ?”
ฉู่จงเทียน พยักหน้าเห็นด้วย “เด็กคนนั้นเหลวไหลเกินไปหน่อยก็จริง อย่างไรก็ตาม เจ้าต้องคำนึงถึงสถานการณ์ของเขาด้วย เขาเป็นคนที่ไม่เคยมีความมั่นใจในตัวเองอยู่แล้วแถมการต้องมาแต่งงานเข้าตระกูลฉู่ มันยิ่งสร้างแรงกดดันต่อเขาอย่างมหาศาล และอีกอย่างข้าได้ยินมาว่ามีคนมากมายในคฤหาสน์รังแกเขา ถ้าเจ้าทำโทษเขาแรงขนาดนี้ คนอื่น ๆ จะยิ่งรุมรังแกเขามากกว่าเดิมไม่ใช่รึไง? เจ้าไม่กลัวว่าในอนาคตลำดับสถานะชั้นของตระกูลเราจะมีปัญหาหรือยังไง?”
ฉินว่านหรู จ้องไปที่สามีของนางอย่างไม่เต็มใจ “ทั้งหมดเป็นความผิดของท่านนั่นแหละ! หากไม่เป็นเพราะท่าน ชูเหยียนก็คงไม่ต้องเลือกผู้ชายที่
ไร้ความสามารถเช่นนั้นมาเป็นสามีของนาง ข้าไม่สามารถทำอะไรได้มากสำหรับนางในฐานะแม่ของนาง แต่อย่างน้อยสิ่งที่ข้าทำได้ในตอนนี้ก็คือช่วยให้สามีของนางเข้ารูปเข้ารอยพอให้นางไม่ต้องปวดหัวกับเขามากกว่าเดิม แม้ว่า ซูอัน ไม่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะ แต่อย่างน้อย ๆ ถ้าเขาพอจะมีความรู้ในเรื่องอื่น ๆ บ้าง ผู้คนก็จะไม่มอง ชูเหยียน ของเราเป็นหัวข้อสนทนาที่น่าขำขันเหมือนตอนนี้”
“ว่านหรู นี่หมายความว่าเจ้ายอมรับเขาเป็นสามีของชูเหยียนแล้วอย่างนั้นเหรอ?” ฉู่จงเทียน อดไม่ได้ที่จะถาม
“ถุย!” ฉินว่านหรู ถ่มน้ำลายออกมาอย่างเย็นชา “ถ้าท่านอนุญาตให้ข้า
ทำตามใจได้ทุกอย่าง ข้าจะขับไล่ไอ้เด็กเหลือขอนั่นออกจากตระกูลของเราภายในชั่วอึดใจนี้ทันที!”