บทที่ 81 สิบอันดับสุดยอดสาวงาม (ต้น)
“นะ นะ นี่…มันพรสวรรค์ระดับเจียขั้นสูง!”
(เทียบเท่ากับ A)
“สวรรค์! สถาบันของเรามีนักศึกษาระดับเจีย กี่คนตั้งแต่ก่อตั้ง?”
“ไม่ใช่แค่สถาบันของเราเท่านั้น แม้แต่ในระดับของทั้งอาณาจักร
ผู้บ่มเพาะทุกคนที่มีพรสวรรค์ระดับเจียนั้นถือได้ว่าเป็นตัวตนอันล้ำค่าประเมินค่าไม่ได้!”
…
ฝูงชนที่อยู่รอบ ๆ อุทานด้วยความประหลาดใจปนตกตะลึง แม้แต่บรรดาอาจารย์ของสถาบันที่ทำการทดสอบก็เปลี่ยนทัศนคติที่เย็นชาก่อนหน้านี้ที่มีต่อ หงซิงอิง ด้วยรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของเขา พวกเขาเริ่มถามรายละเอียดส่วนตัวของ หงซิงอิง เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติม
นี่คือความเป็นจริงของโลก ตราบใดที่เจ้าแข็งแกร่งเพียงพอ ข้อบกพร่องเล็กน้อยก็ไม่มีความหมายอะไรเลย
ไม่ต้องพูดถึงว่าคำพูดของซูอันก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่การกล่าวหา
ลอย ๆ ซึ่งไม่แน่ว่ามันอาจไม่เป็นความจริงก็ได้
หงซิงอิง เดินกลับมาที่แถวด้วยรอยยิ้มอันร่าเริงบนใบหน้าของเขา
อันที่จริงเขารู้สึกเสียใจเล็กน้อย หากเพียงแต่เขารู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์ระดับนี้ตั้งแต่แรก เขาจะไม่มีวันเสียเวลาอยู่เป็นบ่าวรับใช้ในคฤหาสน์ฉู่แน่นอน
ไม่ว่าข้าจะทำดีสักแค่ไหน คุณหนูใหญ่ก็คิดว่าข้าเป็นแค่บ่าวรับใช้
ถ้าเพียงแต่ข้าเข้าสถาบันเร็วกว่านี้สักนิด บางทีข้าอาจจะมีสถานะเท่าเทียมกับนางไปแล้วในตอนนี้!
ความคิดดังกล่าวทำให้เขายิ่งรู้สึกไม่พอใจต่อ ซูอัน ที่จู่ๆก็โผล่มาแย่งนางในฝันที่เขาหมายปองไป เขาจึงเดินไปหา ซูอัน และพูดเย้ยหยันด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “เป็นไง ตอนนี้เจ้ารู้รึยังว่าเจ้ากับข้าแตกต่างกันมากแค่ไหน?”
ท่านยั่วยุ หงซิงอิง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +66!
ซูอัน รู้สึกงุนงงเล็กน้อย หงซิงอิง ไม่รู้สึกอิ่มเอมกับความสุขในตอนนี้งั้นหรือ? ไหงไอ้หมอนี่ถึงยังแจกคะแนนความโกรธให้เขาได้อยู่ล่ะ?
เป็นไปได้ไหมว่าไอ้เด็กคนนี้กำลังอยู่ในช่วงวัยเจริญพันธ์ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง อารมณ์มันเลยบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้?
“ต่อไป ซูอัน!”
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของอาจารย์ ซูอัน ก็ก้าวออกจากแถว ส่วนทางด้านของอาจารย์ผู้นั้นก็ยื่นลูกแก้วออกมาด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกับพูดว่า “ลูกผู้ชายควรพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ การเป็น
คนขี้ฟ้องแม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ไม่สมควรอย่างยิ่ง”
“ใครคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในสถาบันของเจ้า” ซูอัน ถามอย่างใจเย็น
อาจารย์อึ้งกับคำถาม เขาเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัวว่า “เป็นท่านอาจารย์ใหญ่แน่นอน”
ซูอัน ถามต่อว่า “ถ้าอาจารย์ใหญ่ตบเจ้าโดยไม่มีเหตุผลในวันหนึ่ง เจ้าจะตอบโต้อย่างไร”
“ข้า…” อาจารย์คนนั้นพูดไม่ออก เขานิ่งไปสักพักแล้วจึงพูดขึ้น “อาจารย์ใหญ่ไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่ หรือต่อให้มันจะเกิดขึ้น ข้าเชื่อว่าอาจารย์ใหญ่คงมีเหตุผลที่สมควร”
ซูอัน ยิ้มเยาะตอบกลับไป “ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะรายงานต่อหัวหน้าของเขา ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากล้ามาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นได้อย่างไร ในเมื่อแม้กระทั่งตัวเจ้าเองยังไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะรายงานเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เพื่อทวงความยุติธรรมให้ตัวเอง?”
ท่านยั่วยุ หนี่เตียน สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +233!
“ใจเย็น ๆ ใจเย็น ๆ” อาจารย์ที่อยู่ข้าง ๆ พยายามกลั้นขำอย่างสุดฤทธิ์ในขณะที่ดึงตัวอาจารย์คนนั้นที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟให้ออกมา จากนั้น
เขาก็หันไปหา ซูอัน และพูดว่า “เอาล่ะไอ้เจ้าหนุ่ม พวกเรามาเริ่มการทดสอบกันเลยดีไหม?”
เมื่อมองไปที่ลูกแก้วในระยะใกล้ ซูอัน สังเกตเห็นลวดลายบางๆที่แทบจะมองไม่เห็นบนพื้นผิวของมัน เป็นไปได้มากว่ามันน่าจะเป็นอักขระพลังอะไรสักอย่าง จากนั้นเขาใช้เข็มทิ่มนิ้วตัวเองและหยดเลือดหยดลงบนลูกแก้วทันที
“เหอะ ขยะอย่างมันจะทำให้ลูกแก้วเปล่งแสงได้หรือเปล่าก็ไม่รู้!” หงซิงอิง เยาะเย้ยด้วยสีหน้ารังเกียจ
แต่แล้วในทันทีที่เลือดของซูอันหยดลงไปบนลูกแก้ว แสงอันเจิดจ้าก็พุ่งออกจากลูกแก้วราวกับว่ามีดวงอาทิตย์อีกดวงปรากฏขึ้นบนพื้นผิวโลก!
หากใครที่ยังไม่ตาบอดเพราะแสงอันเจิดจ้าที่สว่างวาบออกมา เขาจะต้องตกใจเมื่อเห็นว่าจริง ๆแล้วความเข้มของแสงยังคงเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆไม่มีหยุดยั้ง!
“อ้ากกกก! ตาข้าบอดไปหมดแล้ว!”
เสียงร้องคล้ายกันนี้ดังระงมไปทั่วทั้งบริเวณ เหล่าผู้คนต่างเอามือปิดตาด้วยความตื่นตระหนก
ตูม!!
จากนั้นอีกเพียงชั่วอึดใจลูกแก้วก็ระเบิดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ทำให้แสงอันเจิดจ้าจางหายไปในทันที เหลือเพียงเศษแก้วและควันที่ลอยขึ้นมาจากโต๊ะให้ได้เห็น
“มันเกิดอะไรขึ้น”
“นั่นคือ… พรสวรรค์ระดับเจียขั้นสูงงั้นหรือ?”
(เทียบเท่า A+)
“เป็นไปไม่ได้! แม้แต่ผู้มีพรสวรรค์ระดับเจียขั้นสูงก็ไม่สามารถระเบิดลูกแก้วได้แบบนั้น!”
“ถ้าอย่างนั้น พรสวรรค์ของเขาคือระดับเลิศล้ำในตำนานงั้นหรือ?”
“พรสวรรค์ระดับเลิศล้ำเป็นเพียงข่าวลือ ไม่มีใครเคยเห็นมันจริง ๆ
ด้วยซ้ำในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา!”
…
ในเวลาเดียวกัน ร่างอันงดงามที่กำลังเดินอยู่บนถนนซึ่งอยู่ห่างไป
ไม่ไกลนักก็หยุดฝีเท้าลง ริมฝีปากของนางผลิยิ้มเป็นรอยยิ้มที่สวยงามพร้อมกับพึมพำว่า “ลูกเขยของตระกูลฉู่ ช่างเป็นคนที่น่าสนใจจริง ๆ ”
ในขณะที่อาจารย์ของสถาบันกำลังปรึกษากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซูอัน เดินกลับไปหา หงซิงอิง และพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย้ยหยันว่า “ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วว่าเจ้ากับข้ามันแตกต่างกันแค่ไหน”
ท่านยั่วยุ หงซิงอิง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999!
หงซิงอิง รู้สึกว่ามือและเท้าของเขาเย็นเฉียบ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน ความโกรธ และความอับอายในคราวเดียว เขาไม่เข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร วันนี้มันควรจะเป็นวันที่เขาได้เฉิดฉายและสร้างชื่อให้กับตัวเองไม่ใช่หรือ? แต่ทำไมท้ายที่สุดมันกลับกลายเป็นว่าไอ้คนที่เขาเกลียดที่สุดมันถึงได้รับความสนใจไปจนหมดแบบนี้ ทำไมโลกถึงไม่ยุติธรรมกับข้านัก!
ในขณะเดียวกัน ซูอัน ประสานมือคารวะผู้คนรอบ ๆ และพูดว่า “ขอบคุณทุกท่านที่ออมมือให้ข้า!”
ซูอัน พูดราวกับว่าคนอื่นๆที่ทดสอบไปก่อนหน้านี้จงใจลดผลลัพธ์การทดสอบของตัวเองลงเพื่อทำให้วันนี้เขากลายเป็นคนเด่นที่สุด
ท่านยั่วยุ เว่ยสั่ว สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +66!
ท่านยั่วยุ หม่าจู้ สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +66!
ท่านยั่วยุ…
ซูอัน มองไปที่ข้อความระบบคะแนนความโกรธแค้นที่เด้งรัว ๆ ซึ่งมันทำให้เขาคิดว่าการมาเรียนที่นี่มันก็ไม่เลวร้ายอะไรนัก หากเขาเอาแต่คลุกตัวอยู่ในคฤหาสน์เขาก็คงมีไม่กี่คนให้ยั่วโมโห แต่ถ้าเขาอยู่ที่นี่ เขาจะมีคนทั้งสถาบันให้ได้รีดคะแนนความโกรธแค้น!
ในขณะที่ ซูอัน รู้สึกยินดีกับสถานการณ์นี้ ทันใดนั้นเสียงที่ดูงงงวยก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “นายน้อย พรสวรรค์ของท่านอยู่ระดับติงขั้นต่ำไม่ใช่หรือ จากครั้งล่าสุดที่นายท่านทำการทดสอบ?”
(เทียบเท่ากับ D-)
ซูอัน หันขวับมาจ้องเจ้าของเสียงทันทีซึ่งก็คือ เฉิงโซวผิง ที่กำลังแสดง
สีหน้าสับสน
ไอ้เด็กเวรนี่มันเอาอีกแล้ว!
เป็นอีกครั้งที่ ซูอัน รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างแท้จริง
ที่ เฉิงโซวผิง สามารถมีชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้
เมื่อได้ยินคำพูดของ เฉิงโซวผิง หงซิงอิง รู้สึกราวกับว่าเขาได้พบดวงแสงแห่งความหวัง เขาระเบิดเสียงหัวเราะ “ข้าจำได้แล้ว ข้าจำได้แล้ว!
เขาเคยผ่านการทดสอบพรสวรรค์มาก่อนและเขาอยู่ในระดับติงขั้นต่ำเท่านั้น นี่มันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า…”