บทที่ 129 ความสิ้นหวัง(ต้น)
สีหน้าอันเบิกบานของ ซูอัน ทำให้ เหมยเชาฟง กัดฟันกรอดด้วยความโกรธ
เมื่อเดือนที่แล้ว ไอ้ขยะผู้นี้ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะยืนต่อหน้าเขาด้วยซ้ำ หรือแม้กระทั่งลูกน้อง ของเขายังสามารถทำให้ไอ้คนผู้นี้หมอบกราบได้อย่างง่ายดาย
ทว่าในเวลาเพียงไม่กี่วัน ไอ้คนผู้นี้กลับมายืนต่อหน้าเขาอย่างเท่าเทียม และนี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องที่มันกล้าข่มขู่เขาอย่างเปิดเผยอีกต่างหาก?
บัดซบเอ๊ย! ทำไมตอนที่ข้าเป็นเด็กข้าถึงไม่เลือกเส้นทางการเป็นแมงดาแทนหะ?
ท่านยั่วยุ เหมยเชาฟง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +666!
เหมยเชาฟงสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะกวักมือเรียกลูกน้องของเขา “เด็ก ๆ ไปพาตัวดอกบ๊วยเจ็ดมา!”
ในไม่ช้า บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาก็นำดอกบ๊วยเจ็ดซึ่งกำลังแสดงสีหน้าหวาดกลัว สุดขีดมา ทันทีที่ดอกบ๊วยเจ็ดเห็นเหมยเชาฟง เขาก็รีบคุกเข่าลงทันทีและกอดขาอ้อนวอน เหมยเชาฟงด้วยน้ำตา “ท่านพ่อ ข้าทำให้ท่านผิดหวัง! ข้า ข้า ไม่ได้ตั้งใจสร้างปัญหาใหญ่โตให้กับท่านเช่นนี้!”
อย่างไรเสีย เหมายเชาฟง ไม่แม้จะเสียเวลาเหลือบมอง ลูกบุญธรรมของตนเลยด้วยซ้ำ เขาใช้เท้าถีบอีกฝ่ายออกไปและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชากับ ซูอัน ว่า “การพนันก่อนหน้านี้อยู่ภายใต้การดูแลของ ดอกบ๊วยเจ็ด ซึ่งมันไม่ได้เป็นตัวแทนของบ่อนข้า ถ้าอยากได้เงินนายน้อยซูก็ไปเอาจากมันเอง และเพราะดอกบ๊วยเจ็ดได้ละเมิดกฎของสำนักของเราซึ่งเป็นผลทำให้สำนักดอกบ๊วยเสื่อมเสียชื่อเสียง ดังนั้นข้าจึงขอประกาศว่านับจากนี้เขาไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ อีกกับสำนักดอกบ๊วย!”
“ท่านพ่อ! เจ้าสำนัก! ท่านอย่าทำแบบนี้กับข้าเลย ข้าขอร้อง! ข้าอุตส่าห์ทำงานหนักเพื่อท่านมาตลอดหลายปี…” ดอกบ๊วยเจ็ด เข้าใจทันทีว่าเขากำลังจะถูกตัดหางปล่อยวัด และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังจนถึงขีดสุด อย่าว่าแต่เงิน 7,500,000 ตำลึงเงินเลย แค่ 10,000 ตำลึงเงินเขาก็ ไม่สามารถหามาจ่ายได้แล้ว แล้วเขาจะไปเอาจากที่ไหนมาจ่ายให้ซูอัน!
ดอกบ๊วยเจ็ด ยังคงประท้วงต่อการตัดสินใจของ เหมยเชาฟง ต่อ แต่น่าเสียดายที่เขา ไม่โชคดีขนาดนั้น จู่ ๆ หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของเหมยเชาฟงก็กระแทกหมัดเข้าใส่กรามของเขาอย่างจังจนกรามหลุด เป็นผลให้เขาไม่สามารถพูดอะไรได้อีกต่อไป
สภาพที่น่าสมเพชของ ดอกบ๊วยเจ็ด ได้ทำให้ความโกลาหลในบ่อนหยุดลงทันที ตอนนี้เอง ที่ทุกคนเริ่มสำนึกได้ว่าเจ้าของ บ่อนโกยเงิน นั้นไม่ใช่ตาลุงใจดีผู้ที่ชอบให้ทานผู้อื่นแต่เป็นฆาตกรเลือดเย็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในโลกใต้ดินของเมืองจันทร์กระจ่างแห่งนี้ต่างหาก
ดวงตาของ ซูอัน หรี่ลง
ดูเหมือนว่าไอ้คนคนนี้จะค่อนข้างมีทักษะในการสะสางปัญหา? แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ง่ายนักหรอกที่เจ้าจะเบี้ยวหนี้ของข้า!
“เจ้าสำนักเหมย เจ้าคิดว่าทุกคนที่นี่เป็นคนโง่กันงั้นเหรอ?” ซูอัน เอ่ยขึ้น “ดอกบ๊วยเจ็ด เป็นลูกบุญธรรมของเจ้ารวมไปถึงเขายังเป็นผู้ดูแลบ่อนแห่งนี้ซึ่งบ่อนแห่งนี้ก็เป็นกิจการของ สำนักดอกบ๊วยของเจ้าด้วย แต่พอถึงเวลาที่เจ้าเสียเงินก้อนโตเจ้ากลับปฏิเสธที่จะไม่จ่ายโดยการโยนความผิดให้กับลูกบุญธรรมของตัวเอง การที่เจ้าทำแบบนี้ใครกันจะกล้าเข้าเล่นพนันในบ่อนของเจ้าอีกนับจากนี้?”
“นั่นสิ ใช่ ใช่~”
ฝูงชนรอบ ๆ เริ่มกระซิบกระซาบกันหนาหูขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับบ่อนคือความน่าเชื่อถือ ซึ่งหากบ่อนไหนไม่มีความน่าเชื่อถือ บ่อนนั้นก็จะต้องปิดตัวลงไปในที่สุด
หากสำนักดอกบ๊วย กล้าที่จะเบี้ยวเงินได้แม้กระทั่งคนของตระกูลฉู่ มันก็หมายความว่าคนธรรมดาอย่างพวกเขาก็สามารถถูกเบี้ยวได้เหมือนกัน
เหมยเชาฟง หัวเราะเยาะชายหนุ่มตรงหน้า “แล้วยังไง? ให้ข้าพูดแบบนี้กับเจ้าตรง ๆ เลยจะดีกว่า ข้าขอบอกตรงนี้เลยว่าวันนี้ข้าจะไม่จ่ายเงินให้เจ้าแม้แต่แดงเดียวแน่นอน! แต่สำหรับลูกค้ารายอื่นข้าจะจ่ายให้ทั้งหมดตามปกติ ฮึ่ม! ข้าอยากรู้เหมือนกันว่าถ้าข้าไม่จ่ายให้เจ้า เจ้าจะทำอะไรข้าได้?”
หึ ไอ้สวะอย่างแกอยากจะสู้กับข้าเหรอ? ไม่ว่านกจะพยายามบินไปยังกิ่งไม้สูงแค่ไหน นกก็ไม่มีวันกลายร่างเป็นหงส์ไปได้! ข้าผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายปีแล้ว เด็กเหลือขออย่างเจ้าจะมาทำอะไรคนอย่างข้าได้!
เจ้าคิดว่าโลกนี้หมุนไปได้ด้วยเหตุและผลทั้งหมดงั้นเหรอ? เหอะ วันนี้ข้าจะแสดงด้านมืดของโลกให้เจ้าเห็น!
“เจ้าสำนักเหมย ท่านจะไร้ยางอายเกินไปหน่อยแล้ว” สีหน้าของ ฉู่ชูเหยียน เปลี่ยนเป็น เย็นชาทันทีพร้อมกับก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อปกป้อง ซูอัน
ชายหนุ่ม มองไปที่ เหมยเชาฟง ด้วยรอยยิ้มพร้อมกล่าวว่า “เจ้าสำนักเหมย เจ้าคิดว่าข้าทำอะไรเจ้าไม่ได้จริงๆงั้นเหรอ?”
“ถุย! เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเจ้าเนี่ยนะจะทำอะไรข้าได้!” เหมยเชาฟง เอ่ยขึ้นด้วย สีหน้าเย็นชา
เจ้าเป็นเพียงขยะไร้ค่าที่โชคดีได้ภรรยาที่มีพ่อแม่เป็นคนใหญ่คนโตก็เท่านั้น ตัวเจ้าเองจะ ไปมีน้ำยาแค่ไหนกัน!
ซูอันที่ได้ยินแบบนั้นก็ยักไหล่อย่างไม่แยแสและพูดว่า “‘งั้นก็ไม่เป็นไรถ้าเจ้าไม่เต็มใจที่ จะจ่ายเงินให้ข้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะไปที่บ่อนทุกแห่งที่เจ้าเป็นเจ้าของ และสอนลูกค้าของเจ้าทุกคนให้รู้จักวิธีการวางเดิมพันอย่างชาญฉลาด ข้าจะทำให้แน่ใจว่าลูกค้าของเจ้าทุกคนจะชนะเจ้าทุกรอบ ทีนี้พวกเราค่อยมาดูกันว่าข้ายังทำอะไรเจ้าได้อีกไหม?”
คำพูดเหล่านั้นทำให้เหล่านักพนันและผู้ชมภายนอกรู้สึกพึงพอใจในทันที
“ฟังดูเข้าท่า!”
“นายน้อยซู จงเจริญ!”
“นายน้อยซู ท่านหล่อที่สุดเลย!”
“นายน้อยซู ท่านเหมือนพ่อแม่คนที่สองของข้าเลย!”
“นายน้อยซู มีใครบอกรึยังว่าท่านกับคุณหนูฉู่เหมาะสมกันจริงๆ!”
“ไอ้คนตอแหล เจ้าพูดโกหกหน้าตายถึงขนาดนี้ได้ยังไงกัน!?”
“เจ้าเองก็ทำเหมือนกันไม่ใช่เหรอไง!”
…
ดังที่ปราชญ์โบราณผู้หนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า 50% ของผลกำไร มนุษย์จะเลือกที่จะเสี่ยง สำหรับผลกำไร 100% มนุษย์ยินดีที่จะเหยียบย่ำกฎหมายทั้งหมด และถ้าเป็นผลกำไร 300% มนุษย์ยินดี ที่จะก่ออาชญากรรมใด ๆ ก็ตามรวมถึงการฆาตกรรม!
แต่เมื่อครู่ผลกำไรที่ ซูอัน เพิ่งทำไปมันคือ 15,000%!
ใครกันจะสงบสติอารมณ์ได้? นักพนันจำนวนมากเหล่านี้เป็นคนที่ยอมตายเพื่อเงิน ดังนั้นไม่ว่าสำนักดอกบ๊วยจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่ถ้าสำนักดอกบ๊วยคิดจะเบี้ยวหนี้พวกเขาทั้งหมด พร้อม ๆ กัน พวกเขาก็จะไม่ลังเลที่จะรวมตัวกันเพื่อล้มล้างสำนักดอกบ๊วยแน่นอน!
เหมยเชาฟง เข้าใจถึงภัยคุกคามนี้เช่นกัน สีหน้าของเขาตอนนี้จึงเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว จนน่าเกลียด “เจ้าสามารถชนะทุกรอบได้จริงงั้นเหรอไง?”
ซูอัน ยักไหล่ตอบกลับ “วันนี้ข้าชนะจนได้เงินเจ้า 7,500,000 ตำลึงเงินเจ้าคิดว่าไงล่ะ? อ้อ หลังจากนี้ได้โปรดให้เกียรติข้าโดยการเรียกข้าว่าโคตรเซียนด้วยล่ะ!”
ฝูงชนรอบข้างเริ่มประจบประแจงอย่างไร้ยางอายเมื่อได้ยินว่า ซูอัน เต็มใจที่จะชี้แนะช่องทางเอาชนะบ่อนให้กับพวกเขา
“โคตรเซียน~”
“โคตรเซียน~”
“โคตรเซียน~”
…