บทที่ 188 อำนาจของอาจารย์
สีหน้าของผานหลงและฝูเฟิงเปลี่ยนเป็นตกตะลึง
หะ ! นี่เจ้ากำลังจะใช้อำนาจในทางที่ผิดงั้นเหรอ?
กลับกัน อู๋ฉิงค่อนข้างสับสนกับคำพูดของซูอัน นางมองไปยังชายสองคนข้างนางที่ตัวแข็งค้างไปเรียบร้อยแล้วพร้อมกับขมวดคิ้วถาม “พวกเจ้าสองคนกลัวอะไร? เขามีอำนาจตัดสินคะแนนวิชาคณิตศาสตร์ของเราซะเมื่อไหร่กัน?”
ทั้งสองหันไปหาอู๋ฉิงทั้ง ๆ ที่น้ำตาคลอเบ้า “ค…คุณหนูอันที่จริงเขามีอำนาจ ! เขาเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์คนใหม่ของเรา!”
อู๋ฉิงอึ้งจนพูดไม่ออก
ไอ้โง่เอ๊ย ! ทำไมเจ้าถึงไม่บอกข้าก่อนล่วงหน้า!
ซูอันยิ้มอย่างชั่วร้ายและพูดว่า “คุณหนูอู๋ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำให้คนที่เจ้าไม่ควรทำให้ขุ่นเคืองกำลังขุ่นเคือง ? ถ้าเจ้าขอโทษข้าตอนนี้ ข้าอาจจะยอมคิดว่าเจ้าปรับปรุงตัวเป็นคนดีขึ้นบ้างแล้วและให้อภัยในความผิดที่เจ้าก่อ แต่ถ้าไม่ล่ะก็….หึหึหึ”
อู๋ฉิงกัดฟันด้วยความโกรธ “เจ้ามันก็แค่อาจารย์สอนคณิตศาสตร์ ! เจ้าคิดว่าคนอย่างข้าต้องกลัวเจ้างั้นเหรอ ? อย่างแรกเลย วิชาคณิตศาสตร์ไม่สำคัญสำหรับนักศึกษาจากชั้นเรียนนภาอย่างข้าแม้แต่น้อย!”
ท่านยั่วยุ อู๋ฉิง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น 233 คะแนน!
ซูอันยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “จุ๊จุ๊ ถึงแม้จะมีความสำคัญน้อยกว่า แต่ถ้าหากคุณหนูแห่งตระกูลอ๋องเช่นเจ้ากลับสอบไม่ผ่าน เจ้าคิดว่าคนอื่น ๆ จะคิดยังกับเจ้าบ้างล่ะ ? แต่ถ้าถามข้า ข้าคิดว่าคนทั้งสถาบันคงหัวเราะเยาะเจ้าจนท้องขดท้องแข็งแน่นอน!”
อู๋ฉิงกลืนน้ำลายดังเอื้อกเมื่อได้ยินคำพูดของซูอัน เพราะฝั่งตรงข้ามพูดถูกทุกประการ ! และยิ่งไปกว่านั้นนางยังพยายามแข่งขันกับฉู่ชูเหยียนในทุกสิ่งมาตลอด หากนางสอบตกแม้เพียงวิชาเดียวมันก็ย่อมจะทำให้ฉู่ชูเหยียนยิ่งกลายเป็นเหนือนางมากกว่าเดิม!
“เอาเลย ! ข้าขอท้าให้เจ้าลองดู ! พ่อของข้าคืออ๋องแห่งเมืองตะวันจรัส หากเจ้ากล้ารังแกข้า ข้าจะให้พ่อของข้ายื่นเรื่องกับสถาบันให้ไล่เจ้าออก !” หลังจากสงบสติอารมณ์ได้เรียบร้อย อู๋ฉิงก็คิดได้ว่าจริง ๆ แล้วมันไม่มีเหตุผลใดที่นางต้องกลัวซูอัน
“คำขู่นี้อาจใช้ได้ผลกับอาจารย์คนอื่น ๆ เนื่องจากปากท้องของพวกเขาแขวนอยู่กับอาชีพนี้ อย่างไรก็ตาม ข้าเป็นเพียงอาจารย์ชั่วคราว เมื่อไหร่ที่ราชสำนักส่งตัวอาจารย์คนใหม่มา ข้าก็จะต้องถูกถอดออกจากตำแหน่งอาจารย์อยู่ดี ข้าไม่มีอนาคตที่นี่อยู่แล้ว ดังนั้นข้าไม่เห็นต้องกลัวว่าจะโดนไล่ออกเลย!”
ซูอันเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับระบบการเมืองในที่ทำงานเป็นอย่างดีจากโลกก่อนหน้านี้ของเขา ตราบใดที่ไม่จำเป็นต้องคาดหวังกับความก้าวหน้าในอาชีพการงาน มันก็ไม่จำเป็นต้องกลัวพวกคนที่มีตำแหน่งสูงกว่า
อู๋ฉิงตกตะลึง ถ้าซูอันไม่สนใจอนาคตของตัวเองในการเป็นอาจารย์ที่สถาบันจริง ๆ นางก็ไม่สามารถทำอะไรได้กับเขา ! อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางที่นางจะก้มศีรษะลงเพื่อขอโทษเขาเช่นกัน นางเบือนหน้าหนีอย่างฉุนเฉียว “ฮึ่ม ! วันนี้ข้าไม่ได้มาหาเจ้า!”
จากนั้นนางหันความสนใจไปที่ซางหลิวอวี้ “ซางหลิวอวี้ ได้เวลาคิดบัญชีของเราแล้ว!”
ซางหลิวอวี้หัวเราะเบา ๆ ในขณะที่มองอู๋ฉิงและถามว่า “เจ้าลืมไปแล้วเหรอว่าข้าเองก็เป็นอาจารย์ด้วย ? เจ้าไม่กลัวว่าจะสอบตกวิชาของข้าด้วยเหรอ?”
อู๋ฉิงพูดไม่ออก นางใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบโต้กลับ “เจ้าไม่ได้ไร้ยางอายเหมือนตานั่น และยิ่งไปกว่านั้นเจ้าไม่สามารถที่จะไม่สนใจอนาคตการเป็นอาจารย์ของตัวเจ้าเองได้!”
“นั่นเป็นความจริง ดูเหมือนว่าข้าคงไม่สามารถใช้อุบายเดียวกับของเขาได้” ซางหลิวอวี้เหลือบมองซูอันและยิ้มเล็กน้อย จากนั้นนางหันกลับมาหาอู๋ฉิงและถามว่า “แล้วเจ้ามีธุระอะไรกับข้า?”
“ยังจะกล้าถามอีกงั้นเหรอนังจิ้งจอก ! เจ้าทำหน้าตาไร้เดียงสาขนาดนี้ได้ยังไงทั้ง ๆ ที่เจ้าเพิ่งขโมยคนรักของข้าไป !” อู๋ฉิงคำราม
“จิ้งจอก ?” นี่เป็นครั้งแรกที่ซางหลิวอวี้ได้ยินใครเรียกนางแบบนี้ ซึ่งมันทำให้นางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ใครคือคนรักของเจ้า?”
“นี่เจ้าขโมยผู้ชายไปเยอะจนไม่รู้ว่าคนไหนที่เป็นคนล่าสุดเลยงั้นเหรอ !!” อู๋ฉิงตวาดลั่น “คนรักของข้าที่เจ้าเพิ่งขโมยไปก็คือนายน้อยเซี่ยซิวยังไงล่ะนังจิ้งจอก!”
เมื่อได้ยินอู๋ฉิงเอ่ยว่าเซี่ยซิวเป็นคนรักของนาง ทั้งผานหลงและฝูเฟิงก็พากันก้มหน้าด้วยความผิดหวัง
“เซี่ยซิว ?” ซางหลิวอวี้ทวนซ้ำด้วยสีหน้าสงบ “ข้าว่าเจ้าคงเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับเขา อันที่จริงตอนนี้ข้าไม่ได้มีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหนเลย”
“แต่เขาบอกข้าว่าเขาตกหลุมรักเจ้า ! เขาจะทิ้งข้าไปได้อย่างไรถ้าเจ้าไม่ได้ล่อลวงเขา” อู๋ฉิงคำราม
“คุณหนู ท่านยังไม่ได้อนุญาตจากท่านอ๋องให้คบกับเซี่ยซิวอย่างเป็นทางการ คุณหนูควรพูดเบา ๆ ลง…” ผานหลงและฝูเฟิงเลือกช่วงเวลานี้เพื่อเตือนนางเบาๆ
อู๋ฉิงจ้องไปที่ทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว “หุบปาก!”
ผานหลงและฝูเฟิงปิดปากอย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น
ซูอันส่ายหัวและพูดว่า “เจ้าและเจ้ามาหาข้าตรงนี้”
“หะ ?” ผานหลงและฝูเฟิงรู้สึกระแวงกับท่าทีของซูอัน แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินไปหา
“ในฐานะอาจารย์ของเจ้า ข้ารู้สึกจำเป็นต้องให้ความรู้เจ้าเกี่ยวกับบทเรียนชีวิตบางอย่าง เจ้าเคยได้ยินวลีที่ว่า ‘ท้ายที่สุด พวกชอบชะเลียเท้าคนอื่นมักจะถูกเหยียบย่ำโดยรองเท้าที่พวกเขากำลังเลีย’ หรือไม่?” ซูอันเอ่ยถาม
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินวลีนี้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดไม่เข้าใจความหมายของมัน ใบหน้าของพวกเขาแดงก่ำ แต่พวกเขารู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะเถียงกลับอาจารย์ของพวกเขาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แต่สาปแช่งในใจ
ท่านยั่วยุ ผานหลง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น 444!
ท่านยั่วยุ ฝูเฟิง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น 444!
หลังจากจัดการกับตัวประกอบทั้งสองที่น่ารำคาญเรียบร้อย ซูอันก็รู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องช่วยซางหลิวอวี้ ดังนั้นเขาจึงหันไปหาอู๋ฉิงและพูดว่า “ข้าคุ้นเคยกับเซี่ยซิว และข้าเห็นเขาเลิกกับผู้หญิงคนอื่นมาแล้วหลายรอบ ซึ่งทุกครั้งที่เขาบอกเลิกผู้หญิง เขามักจะมีเหตุผลที่หลากหลายอยู่เสมอ เจ้าเองก็ดูไม่น่าจะใช่คนโง่… ทำไมเจ้าถึงคิดไม่ออกว่าเขาแค่หาข้ออ้างมาพูดเพื่อทิ้งเจ้าก็แค่นั้น”
อู๋ฉิงตกตะลึง แต่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ก็มีความเป็นไปได้เช่นนั้นจริง ๆ ทำให้นางหน้าแดงทันทีด้วยความอับอาย
“พวกเจ้าที่เหลือออกไปได้แล้ว” ซางหลิวอวี้พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ถึงแม้ว่านางจะเป็นคนที่ใจเย็นอยู่เสมอ แต่การถูกเด็กเหล่านี้เรียกว่า ‘นังจิ้งจอก’ มันก็ทำให้นางเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเหมือนกัน
“ข้าจะไปสืบเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อน !” อู๋ฉิงพ่นลมหายใจก่อนจะกระทืบเท้าเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
แต่แล้วหลังจากเดินออกมาได้ครู่หนึ่ง จู่ ๆ อู๋ฉิงก็หยุดฝีเท้าและหันกลับมาจ้องผานหลงและฝูเฟิง “บอกความจริงกับข้า ใครสวยกว่ากัน ข้าหรือซางหลิวอวี้?”
“แน่นอน ท่านสวยกว่า !” ผานหลงและฝูเฟิงตอบโดยไม่ลังเล แม้ว่าในใจของพวกเขายังคงตราตรึงกับภาพใบหน้าที่งดงามของซางหลิวอวี้ แถมคอเสื้อที่เปิดกว้างจนเห็นไหปลาร้าอันเรียบเนียนอันนั้นก็ตามที…
“ฮึ่ม ไร้ประโยชน์ !” ผู้หญิงมักจะอ่อนไหวต่อคำพูดที่ไม่จริงใจของผู้ชายเสมอ ดังนั้นอู๋ฉิงจึงสัมผัสได้ถึงความคิดที่แท้จริงของพวกเขาในทันที “นังซางหลิวอวี้ช่างสมกับเป็นจิ้งจอกจริง ! นางใส่เสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสมแบบนั้นตอนอยู่กับผู้ชายได้ยังไง ? ฟังนะ ข้ามีภารกิจให้เจ้าสองคน!”
ผานหลงและฝูเฟิงยืดตัวตรงทันที “คุณหนู โปรดส่งต่อคำแนะนำที่มีได้ตามสบาย!”
ริมฝีปากของอู๋ฉิงโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย “ข้าต้องการให้พวกเจ้ากระจายข่าว ว่าซางหลิวอวี้อยู่กับซูอันในบ้านพักของนางในขณะที่นางแต่งตัวล่อแหลม”
ฮึ่ม ! มาดูกันว่าคราวนี้เซี่ยซิวจะยังคงชอบนางต่อไปหรือไม่เมื่อชื่อเสียงของนังจิ้งจอกนั่นด่างพร้อย นอกจากนี้ ถ้าทุกคนรู้ว่าสามีของฉู่ชูเหยียนนอกใจนาง มันจะเป็นเรื่องเสียหายครั้งใหญ่ของนางอย่างแน่นอน!
หึหึ ทำไมข้าถึงฉลาดขนาดนี้เนี่ย ? แผนนี้มันช่างสมบูรณ์แบบ ! มันเป็นการเขวี้ยงหินเพียงครั้งเดียวแต่ฆ่านกได้ถึงสองตัวพร้อม ๆ กัน!
“หา ? คุณหนู นี่มันจะดีงั้นเหรอ ?” ผานหลงและฝูเฟิงเหลือบมองกันและกันอย่างลังเล ทั้งซางหลิวอวี้และซูอันต่างเป็นอาจารย์ แถมพวกเขายังคงมีความประทับใจที่ดีต่อซางหลิวอวี้
“ข้าไม่เห็นว่ามันจะแย่ตรงไหน ? ใช่ว่าพวกเราโกหกซะเมื่อไหร่ ? นังจิ้งจอกนั่นแต่งตัวไม่เหมาะสมจริง ๆ ไม่ใช่เหรอไง ?” อู๋ฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “นี่ข้าแค่ขอให้พวกเจ้าพูดความจริงออกไป แต่พวกเจ้ากลับไม่กล้าทำ เหอะ พวกเจ้านี่มันน่าผิดหวังจริงๆ!”
เมื่อเห็นสีหน้าที่ผิดหวังของอู๋ฉิง ผานหลงและฝูเฟิงก็รีบตอบกลับอย่างร้อนรน “ด…ด…ได้เลยคุณหนู โปรดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเรา ! เราจะทำภารกิจให้สำเร็จจนคุณหนูพึงพอใจอย่างแน่นอน!”
อู๋ฉิงหัวเราะพร้อมกับพยักหน้า “ให้มันได้แบบนี้สิ!”