บทที่ 290 ดอกบัว!
“เจ้าจะมาทำมึนงงตอนนี้ทำไม? ฉายแสงไปที่พวกมันเร็วเข้า!” เสียงกระซิบเร่งร้อน เสียงปริศนาไม่พอใจที่เขาเสียสมาธิในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้
ในที่สุดซูอันก็ได้สติจากความงุนงง ยกไฟฉายวิเศษขึ้นอย่างรวดเร็วและส่องแสงไปที่ทหารดินเผาที่อยู่ข้างหน้าเขา
ภายใต้แสงจ้าจากไฟฉายวิเศษ แสงสีสันที่สดใสบนร่างทหารดินเผาเริ่มจางหายไปอย่างเห็นได้ชัด จากตอนแรกที่พวกมันกำลังเดินแถวมาทางเขาด้วยท่าทางเข้มแข็ง แต่เมื่อโดนแสงจากไฟฉายวิเศษพวกมันทั้งหมดก็หันหลังหนีกลับ บางตัวถึงกับสะดุดล้มวุ่นวายไปทั่วบริเวณ
ท่าทางที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างก่อนและหลังโดนแสง ทำให้ภาพที่เห็นดูน่าหัวเราะเป็นอย่างยิ่ง พวกมันรีบกลับไปยืนเรียงแถวที่ตำแหน่งเดิมอย่างรวดเร็วและหันศีรษะหนีไปทางอื่น ราวกับว่าพวกมันไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับซูอันอีกต่อไป
จากนั้นแสงสีฟ้าในดวงตาของพวกมันก็ค่อย ๆ หายไป ก่อนจะกลับคืนสู่สภาพการเป็นประติมากรรมที่ไร้ชีวิตเช่นเดิม
“ดูเหมือนว่าจะเป็นไปตามสัญชาตญาณของทุกรูปแบบชีวิตที่จะกดขี่ผู้อ่อนแอและหวาดเกรงผู้แข็งแกร่ง” ซูอันยังคงส่องไฟฉายไปที่ทหารดินเผาแต่ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ จากพวกมัน
อย่างไรก็ตาม คะแนนความโกรธแค้นยังคงหลั่งไหลเข้าสู่ระบบของเขาอย่างต่อเนื่อง
—
ท่านยั่วยุทหารดินเผาสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +6 +6 +6 +6…
—
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉู่ชูเหยียนอาการไม่ค่อยดี ข้าจะยืนมันตรงนี้แหละ และดูดคะแนนความโกรธของพวกเจ้าให้แห้งตายไปเลย!
เมื่อเห็นว่าทหารดินเผาไม่แสดงท่าทีคุกคามอีกต่อไปแล้ว เขาจึงรีบเดินไปที่ทะเลสาบ เมื่อเข้าไปในระยะใกล้จึงเห็นว่าพืชสีเขียวที่ลอยอยู่นั้นเป็นใบบัวที่เกือบครอบคลุมทั้งทะเลสาบ พวกมันส่องแสงสีเขียวจาง ๆ
ใบบัวเหล่านี้แตกต่างจากใบบัวปกติคือใบของมันดูเขียวชอุ่มเป็นประกายคล้ายกับหยกเนื้อดี ที่น่าสนใจคือมีใบบัวขนาดใหญ่ล้อมรอบดอกบัวขนาดย่อมอยู่ที่กลางทะเลสาบ
แม้ว่าภายในจะมืดครึ้ม ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์อันสวยงามก็เบ่งบานเต็มที่ กลีบของมันเป็นสีเหมือนหิมะ ที่ใจกลางกลีบดอกมีเกสรสีเหลืองที่เปล่งแสงสกาวราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า
ซูอันดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้เห็น นี่คงเป็นสมุนไพรวิเศษที่เสียงกระซิบลึกลับพูดถึงใช่ไหม? ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะมุ่งหน้าไปเก็บมัน จู่ ๆ ดอกบัวก็หายไปในทันที เหลือเพียงใบบัวที่เขียวขจีอยู่รอบ ๆ
ห๊ะ? มีคนอื่นเก็บไปงั้นเหรอ? ระดับการบ่มเพาะของบุคคลผู้นั้นสูงมากจนข้ามองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของเขาเลยงั้นเหรอ?
ซูอันตรวจดูบริเวณโดยรอบอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่เห็นคนอื่นนอกจากกองทหารดินเผา ในขณะนั้นเขารู้สึกเหมือนร่างกายถูกแช่ในน้ำเย็นจัด ข้ากระเสือกกระสนมาไกลถึงที่นี่แล้วต้องมาแพ้ในนาทีสุดท้ายเนี่ยเหรอ? ข้าจะต้องทนดูชูเหยียนตายไปต่อหน้าต่อตางั้นเหรอ?!
“เจ้ากำลังทำอะไรอยู่? ทำไมยังไม่เข้าไปเก็บอีก? มันอยู่ตรงหน้าเจ้าไม่ใช่หรือไง?” เมื่อสังเกตเห็นท่าทีมึนงงของซูอัน เสียงกระซิบนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ซูอันตกตะลึงจึงรีบเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพบว่าดอกบัวได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งที่จุดเดิมจากที่เขาเห็นครั้งสุดท้าย
“ห๊ะ? เกิดอะไรขึ้น?” ซูอันขยี้ตาด้วยความสับสนและเห็นว่าดอกบัวหายไปอีกครั้ง คราวนี้แทนที่มองหาไปรอบ ๆ เขาเลือกที่จะจ้องไปที่จุดเดิมอย่างตั้งใจ
ตามที่เขาคาดไว้ ดอกบัวปรากฏขึ้นอีกครั้งตรงจุดเดิมในไม่กี่วินาทีต่อมา!
ดูเหมือนว่าดอกบัวลึกลับนี่จะหายตัวได้!
ทันใดนั้น เขาจำสิ่งที่จี้เติ้งถูเคยพูดกับเขาได้ ตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงขมขื่นเล็กน้อยว่า “ไม่ใช่ว่า ดอกบัวนี้คือ…”
“ที่จริงแล้ว มันถูกเรียกว่า ดอกบัวเร้นลักษณ์” เสียงกระซิบตอบ
ลมหายใจของ ซูอันกระชั้นถี่ขึ้น ในที่สุดเขาก็พบสิ่งที่เขาตามหามาตลอด! แต่เขายังคงถามอย่างไม่เชื่อในโชคของตัวเอง “ข้าได้ยินมาว่าดอกบัวเร้นลักษณ์จะบานเพียงครั้งเดียวในทุก ๆ พันปี และดอกของมันจะคงอยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ดอกบัวนี้บานนานแค่ไหนแล้ว?”
เสียงของเขาสั่นเทา ด้วยความกลัวว่าดอกบัวจะเหี่ยวเฉาไปในทุกขณะ
“ถึงแม้ดอกบัวเร้นลักษณ์จะใช้เวลานานกว่าจะผลิบาน แต่ก็ใช้เวลาไม่ถึงพันปีหรอก นอกจากนี้ ดอกบัวนี้มีความพิเศษเล็กน้อย เจ้าไม่ต้องกลัวเลยว่ามันจะเหี่ยวเฉา” เสียงกระซิบตอบ
“ไม่เหี่ยว? เป็นไปได้ยังไง?” ซูอันตกตะลึง นั่นแตกต่างจากที่เขาได้ยินมา
“เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ดอกบัวนี้เติบโตขึ้นและปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายอย่าง มันจึงแตกต่างจาก ‘ดอกบัวเร้นลักษณ์’ ทั่วไป”
“เจ้าต้องการค่อย ๆ พูดคุยเรื่องนี้กับข้าหรือช่วยผู้หญิงของเจ้าก่อน? ข้าสัมผัสได้ว่าพลังชีวิตของนางค่อย ๆ ดับลง หากสายไปกว่านี้อีกสัก 1 ก้านธูป นางจะต้องตายแน่นอน”
“ยังมีดอกบัวเร้นลักษณ์ดอกอื่น ๆ อีกมั้ย?” ซูอันรีบถาม
“ดอกบัวเร้นลักษณ์ดอกอื่น ๆ? ฮ่า ๆ แค่เจ้าเจอดอกนี้ก็ถือว่าบุญพาวาสนาส่งแล้ว เจ้ายังหวังว่าจะเจอดอกอื่นอีกเหรอ?” เสียงกระซิบย้อนถาม “เจ้าไม่ต้องกังวลไป เพียงดอกเดียวนี้ก็มากเกินพอที่จะช่วยชีวิตนาง แต่ถ้าคาดหวังว่ามันจะสามารถซ่อมแซมเส้นลมปราณของนางได้ ข้าก็คงต้องบอกว่าเจ้าหวังมากเกินไป!”
“ดอกบัวเร้นลักษณ์ไม่สามารถซ่อมแซมเส้นลมปราณของนางได้?” ซูอันตกตะลึง เขาไม่คิดว่าแค่รักษาชีวิตของนางได้ก็เพียงพอ เพราะสำหรับคนที่ภาคภูมิใจในตัวเองอย่างฉู่ชูเหยียน ไม่มีทางที่นางจะใช้ชีวิตเป็นคนพิการได้ตลอดชีวิต
“ผู้หญิงคนนี้คงเคยใช้วิชาต้องห้ามมามาก นางจึงลงเอยในสภาพเช่นนี้ ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าวิชาต้องห้าม เมื่อใช้มันนางก็ต้องจ่ายราคาเสมอ” เสียงกระซิบพูดราวกับเป็นเรื่องธรรมดา
ใบหน้าของซูอันมืดลง หากมันเป็นสมบัติอื่น ไม่ว่าจะล้ำค่าเพียงใด เขาจะใช้มันเพื่อช่วยฉู่ชูเหยียนอย่างไม่ลังเล
แต่นี่คือดอกบัวเร้นลักษณ์…สิ่งที่เขาเสาะหามาโดยตลอด!
การถูกผนึก ‘ซูอันน้อย’ ได้ทำลายความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของเขาเป็นอย่างมาก เขาทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสภาพนี้ตลอดไป ซูอันรู้ว่ามันเป็นโชควาสนาอันยิ่งใหญ่ที่สามารถหาดอกบัวเร้นลักษณ์พบ และหากพลาดโอกาสนี้ มันคงเป็นไปไม่ได้ที่ชายหนุ่มจะได้พบดอกบัวเร้นลักษณ์อีกรอบในชีวิตนี้
หากเป็นเช่นนั้น เขาก็ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งเขาจะไปถึงระดับปรมาจารย์และขจัดผนึกด้วยพลังของตนเอง ตอนนี้เขาเป็นผู้บ่มเพาะ และรู้ดีว่ามันยากแค่ไหนที่จะเลื่อนระดับไปสักขั้นหนึ่ง ชายหนุ่มรู้สึกว่าต้องใช้เวลาห้าสิบปีเป็นอย่างน้อยกว่าจะถึงระดับปรมาจารย์ได้
ถึงตอนนั้นเขาคงกลายเป็นชายชราไปแล้ว! จะมีประโยชน์อะไรกับการการปลดผนึก ‘ซูอันน้อย’ เมื่อขาข้างหนึ่งของเขาเกือบจะก้าวไปถึงประตูสุสานแล้ว?
นอกจากนี้ ไม่มีการรับประกันว่าเขาจะไปถึงระดับปรมาจารย์ได้ และที่สำคัญที่สุด ดอกบัวเร้นลักษณ์ไม่สามารถซ่อมแซมเส้นลมปราณของฉู่ชูเหยียนได้ แม้ว่าเขาจะช่วยชีวิตนาง นางก็ต้องใช้ชีวิตอย่างคนพิการ นางอาจจะขอบคุณเขาในตอนแรก แต่ความซาบซึ้งใจของนางจะอยู่ได้นานแค่ไหน?
ถ้าในอนาคตนางไปเจอผู้ชายที่โดดเด่นกว่า แล้วเขาจะเป็นยังไง?
ถึงตอนนั้นแล้วเขาคงไม่สามารถพูดอะไรได้เลย เพราะตนไม่สามารถบรรลุหน้าที่พื้นฐานในฐานะสามีได้ ผู้หญิงมีความต้องการทางร่างกายที่จำเป็นต้องได้รับความพึงพอใจเช่นกัน เมื่อได้อ่านคดีล่วงประเวณีทุกประเภทในชีวิตก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่สามารถละเลยความเป็นไปได้ที่ฉู่ชูเหยียนจะทิ้งเขาไปหาชายอื่น
เขาอาจจะเป็นคนดีพอที่จะช่วยชีวิตนางไว้ แต่ตัวเองก็ไม่อยากที่จะเสียใจภายหลังในตอนที่ถูกนางดูถูกในความไร้สมรรถภาพของเขาและจบลงด้วยการไปหาชายอื่น
ชายหนุ่มก้มลงมองฉู่ชูเหยียนที่ชีวิตใกล้จะดับลงทุกขณะ จากนั้นเขาก็กำหมัดแน่น ค่อย ๆ วางนางลงก่อนจะรีบกระโดดข้ามทะเลสาบเพื่อเก็บดอกบัวเร้นลักษณ์มา