บทที่ 335 ความมุ่งมั่นที่แรงกล้า
บทที่ 335 ความมุ่งมั่นที่แรงกล้า
หลังจากหัวเราะอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าของหมี่ลี่ก็เปลี่ยนไป “ข้าจะไม่เสียเวลาดูเจ้าเล่นตลกอีกแล้ว!”
คราวนี้นางเดินเข้ามาหาซูอันด้วยตัวเอง หลังจากที่กระบี่พลังชี่ของนางล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า
ซูอันตกตะลึงกับภาพที่เห็น เขารีบหลบไปด้านข้างพร้อมกับก่นด่า “ไท่เอ๋อร์ ไอ้กระบี่เส็งเคร็ง! ข้าสาบานว่าถ้าแกไม่มาหาข้าตอนนี้แกตายแน่!”
หลังจากซูอันตะโกนจบประโยคล่าสุด กระบี่ไท่เอ๋อร์ก็เริ่มสั่นจนเสียงโลหะสะท้อนอยู่ในอากาศ แค่เพียงชั่วอึดใจเดียวมันก็ตกลงมาจากผนังและพุ่งตรงไปหามือของซูอัน
ซูอันหันกระบี่ไปทางหมี่ลี่ที่กำลังเดินเข้ามาทันที
หมี่ลี่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากร่างกายนางสมบูรณ์พร้อมดี นางคงไม่กลัวซูอันและกระบี่ไท่เอ๋อร์เลย แต่ตอนนี้นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับพวกเขาโดยตรง
ในที่สุดซูอันก็มีโอกาสตรวจสอบกระบี่ในมือของเขาอย่างใกล้ชิด เขาสะบัดมันขณะที่กล่าวว่า “เจ้านี่มันช่างเป็นกระบี่ที่เลวทรามจริง ๆ พอข้าพูดดีกับเจ้า เจ้าไม่มาหาข้า แต่พอข้าขึ้นเสียงใส่เจ้า เจ้ากลับยอมมาหาข้าซะงั้น!”
วิ้ง…วิ้ง…วิ้ง…
กระบี่สั่นเล็กน้อยเป็นการประท้วง มันไม่พอใจคำพูดของซูอัน
หมี่ลี่เหลือบมองกระบี่ไท่เอ๋อร์ นางตัดสินใจที่จะไม่เผชิญหน้ากับมันแบบตรง ๆ “มันก็เหมือนกับเจ้าไม่ใช่เหรอ? ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงเข้ากับเจ้าได้ดี”
“เฮ้! การที่ท่านจะยัดอะไรก็ได้เข้าปากตัวเองไม่ได้หมายความว่าท่านจะสามารถพ่นมันออกมาจากปากได้!” ซูอันคำราม “หมายความว่ายังไงที่เหมือนข้า? ข้ากับมันเลวทรามเหมือนกันงั้นเหรอไง?”
“ก็แล้วมันไม่ใช่แบบนั้นหรอกเหรอ?” หมี่ลี่เยาะเย้ย
แม้แต่เฉียวเสวี่ยอิงที่ยังจมอยู่ในกองเลือดเองก็พยักหน้าเห็นด้วย
ซูอันกระแอมเบา ๆ เพื่อปกปิดความขัดเขินของตัวเอง ก่อนที่จะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว “พูดมากไปจะมีประโยชน์อะไร? ตอนนี้ข้ามีกระบี่ในตำนานอยู่ในมือแล้ว ข้าจะแสดงให้ท่านเห็นว่าทำไมดอกไม้ถึงเป็นสีแดง!”
“จะสอนบทเรียนให้ข้าเหรอ?” หมี่ลี่หัวเราะราวกับได้ยินเรื่องตลกที่เฮฮาที่สุดในโลก “ถ้ากระบี่ไท่เอ๋อร์อยู่ในมือคนอื่นข้าอาจจะลังเลเล็กน้อย แต่ตอนนี้? เฮอะ!”
หลังจากพูดจบ ร่าของนางก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าซูอันอย่างฉับพลัน
ซูอันขนหัวลุกทันทีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายประชิดตัวเขาได้รวดเร็วขนาดนี้ ชายหนุ่มรีบฟันกระบี่ไปที่หมี่ลี่อย่างรวดเร็วส่งการโจมตีที่ดุเดือดไปหานาง เขาเลือกที่จะละทิ้งการป้องกันทั้งหมดและทุ่มสุดตัวเพื่อล้มหมี่ลี่ ให้ได้ เขายังคงอุ่นใจอยู่เล็กน้อยเพราะเขามีเส้นใยสุขสันต์และวิชาปฐมบทแรกเริ่มที่คอยรักษาระดับพลังชีวิตเอาไว้และฟื้นฟูให้เขาอย่างต่อเนื่อง
หมี่ลี่ขมวดคิ้ว นางเริ่มล่าถอยเพราะทนไม่ได้ที่จะรับบาดแผลจากมดแม้เพียงเล็กน้อย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ซูอันฮึกเหิมขึ้น
น่าเสียดายที่ช่องว่างระหว่างระดับการบ่มเพาะของทั้งสองคนมีมากเกินไป ไม่นานนักหมี่ลี่ก็เจอช่องโหว่และส่งร่างของเขากระเด็นลอยไปเป็นแนวโค้งก่อนที่จะตกลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง
“อาซู!” เฉียวเสวี่ยอิงร้องตะโกนด้วยความกังวล
นางอยากจะวิ่งไปหาเขา แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่รุนแรง
“ในเมื่อเจ้าเป็นห่วงมันมากขนาดนี้ ถ้างั้นข้าจะส่งเจ้าตามไปเป็นคู่รักกับมันในยมโลกก็แล้วกัน!” หมี่ลี่เยาะเย้ย
นางยกมือขึ้นเพื่อจบชีวิตของเฉียวเสวี่ยอิง แต่เสียงของซูอันก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “ข้ายังไม่ตายโว้ย!”
ผู้หญิงทั้งสองคนหันกลับมาทันที เฉียวเสวี่ยอิงดีใจมากที่เห็นว่าซูอันยังคงหายใจอยู่ในขณะที่หมี่ลี่ตกตะลึง พลังที่นางใช้ไปเพียงพอที่จะฆ่าได้แม้กระทั่งผู้บ่มเพาะระดับห้า นับประสาอะไรกับผู้บ่มเพาะระดับสามอย่างเขา!
ซูอันพยายามลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ในตอนแรกมันต้องใช้กำลังอย่างมาก แต่ท่าทางของชายหนุ่มกลับแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ วิชาปฐมบทแรกเริ่มพยายามดึงพลังปฐมบทจากบริเวณโดยรอบสุสานมาซ่อมแซมร่างกาย โชคดีที่เขาใช้เส้นใยสุขสันต์ซึ่งทำให้ซูอันยังไม่ตาย
ดังนั้นชายหนุ่มจึงยังมีชีวิตอยู่ได้แม้ว่าสภาพร่างกายของเขาในตอนนี้จะบาดเจ็บสาหัสอย่างมากก็ตามที
หมี่ลี่เริ่มอารมณ์เสีย เจ้านี่มันตายยากเหมือนแมลงสาบไม่มีผิด! น่ารำคาญ!
—
ท่านยั่วยุหมี่ลี่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 444!
—
ซูอันไม่ได้ดีใจกับคะแนนความโกรธแค้นที่ได้รับ เพราะก่อนหน้านี้ชายหนุ่มได้อธิษฐานว่าเขาจะไม่ได้อะไรดี ๆ ในการสุ่มสามรอบต่อมา ดังนั้นไม่ว่าจะได้คะแนนความโกรธแค้นมากแค่ไหนมันก็ไม่มีความหมายอะไร
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เผลอคิดถึงเรื่องสุ่มรางวัล จู่ ๆ ซูอันก็รู้สึกประทับใจในตัวเองอย่างมากว่าใกล้จะตายอยู่แล้วยังมานั่งคิดคำนวณอะไรได้ขนาดนี้?
หมี่ลี่พุ่งเข้าหาเขารวดเร็วราวกับสายฟ้า ซูอันรวบรวมกำลังยกกระบี่ไท่เอ๋อร์ขึ้นตอบโต้
ตู้ม!
แรงมหาศาลพุ่งเข้าใส่ซูอันจนกระเด็นไปอีกครั้ง ถ้าไม่มีเส้นใยสุขสันต์เขาคงตายไปแล้ว…
อย่างไรก็ตาม หมี่ลี่ก็เฝ้ามองเขาอย่างจดจ่อ
ความระมัดระวังของนางไม่ได้ไร้เหตุผล เพราะซูอันลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
“พี่หญิงใหญ่ เอาให้แรงกว่านี้!”
หมี่ลี่กระโจนไปข้างหน้าอีกครั้งและแทงกระบี่พลังชี่เข้าใส่ร่างของซูอัน
ทว่าครู่ต่อมา ซูอันก็ลุกขึ้นได้อีกครั้งและตะโกนว่า “แรงกว่านี้!”
ตู้ม!
เขาถูกโจมตีอย่างรุนแรงอีกครั้ง
“พี่หญิงใหญ่ ท่านไม่ได้กินข้าวเช้ามาเหรอ? เรี่ยวแรงของท่านหายไปไหนหมด อา โทษที ๆ ข้าลืมคิดไปว่าท่านติดอยู่ในโลงศพมานับพันปีดังนั้นท่านคงไม่ได้กินข้าวแน่นอนจริงไหม?”
ตู้ม!
“แรงกว่านี้!”
ตู้ม!
…
ในขณะเดียวกันดวงตาของเฉียวเสวี่ยอิงก็เต็มไปด้วยน้ำตา นางพยายามตะโกนร้องขอให้ซูอันหยุดยั่วยุนางปีศาจตนนี้ แต่เขาก็ไม่ฟังนางเลย
การยั่วยุที่ตอบสนองด้วยการโจมตีเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน จนเมื่อผ่านไปได้พักใหญ่ ๆ หมี่ลี่ก็หยุดโจมตีในที่สุด นางมองซูอันด้วยแววตาซับซ้อน “ข้าขอยอมรับเลยว่าถึงแม้เจ้าจะอ่อนแอ แต่ข้าไม่เคยเห็นใครที่มีความมุ่งมั่นมากเท่ากับเจ้า ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงสามารถสยบกระบี่ไท่เอ๋อร์ได้”
“แต่น่าเสียดายที่ข้ายังไม่ใช่คู่มือของท่าน” ซูอันถอนหายใจ แม้ว่าเขาจะยังไม่ตายเนื่องจากผลของเส้นใยสุขสันต์ แต่ความแตกต่างของความแข็งแกร่งทำให้เขาไม่มีโอกาสทำอะไรนางได้เลย
“ลืมมันไปเถอะ ข้าชื่นชมในความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของเจ้า ถ้าเป็นคนอย่างเจ้า…” หมี่ลี่หน้าแดง “ข้ามาคิดดูแล้ว มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ยอมรับไม่ได้เอาซะเลย เอาล่ะ ข้าจะปล่อยเจ้าไป”
หลังจากพูดจบแล้ว นางก็หันหลังเดินจากไป อย่างไรก็ตามซูอันตะโกนหยุดนางทันที “เดี๋ยวก่อน! ท่านอาจปล่อยข้า แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าจะปล่อยท่านไป คืนภรรยาของข้ามาให้ข้า!”
เขารู้ว่าการที่หมี่ลี่จะทำลายดวงวิญญาณของฉู่ชูเหยียนโดยสิ้นเชิงนั้นมันเป็นเพียงเรื่องของเวลา
หมี่ลี่หันกลับมาด้วยใบหน้าที่มุ่งร้าย “อย่าทดสอบความอดทนของข้า!”
กฎหมายของราชวงศ์ฉินเป็นที่รู้จักในด้านความเข้มงวด และนางเป็นถึงจักรพรรดินี แม้ว่าจะไม่ใช่เผด็จการเหมือนอิ่งเจิ้ง แต่นางก็ไม่ใช่คนประเภทที่ให้ความสำคัญกับชีวิตผู้อื่นเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นผู้ที่รับใช้ใกล้ชิดนางมาหลายปี แต่หากทำไม่ดีต่อนาง นางก็ไม่ลังเลที่จะฆ่าเขา
หากเป็นปกติ นางจะตัดสินให้ซูอัน ‘ตายด้วยบาดแผลนับพัน’ อย่างไม่ลังเลใด ๆ เพราะเขากล้าที่จะทำร้ายนาง นางแค่ชื่นชมความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของเขาจึงละเว้นโทษตายให้ แต่อีกฝ่ายกลับเป็นพวกไม่รู้จักบุญคุณคน ซ้ำยังมาลามปามนางอีก!
เฉียวเสวี่ยอิงพยายามเกลี้ยกล่อมซูอันให้ยอมเลิกราแต่โดยดี “อาซู เจ้าพยายามที่สุดแล้ว ข้าเชื่อว่าคุณหนูฉู่ได้เห็นความพยายามของเจ้าแล้ว และต้องรู้สึกขอบคุณอย่างแน่นอน เจ้าอย่าฝืนไปเลย เจ้าเอาชนะนางไม่ได้หรอก”
นางคิดว่าการที่ซูอันรอดมาได้จนถึงตอนนี้เป็นเรื่องที่ปาฏิหาริย์มาก ๆ แต่ถึงแม้ชายหนุ่มจะรับการโจมตีจากหมี่ลี่ได้ เขาก็ไม่สามารถเอาชนะ หมี่ลี่ได้แน่นอน นี่เป็นการต่อสู้ที่มองไม่เห็นทางชนะ และไม่มีประโยชน์ที่จะยืดเยื้อออกไป
อย่างไรก็ตามซูอันก็ส่ายหัวและพูดว่า “นางคือภรรยาของข้า และการแต่งงานของเราสมบูรณ์แล้ว ไม่มีทางที่ข้าจะดูนางตายไปต่อหน้าเฉย ๆ ได้!”
“ก็ได้ งั้นข้าจะทำตามความปรารถนาของเจ้า!” ตอนนี้หมี่ลี่รู้สึกรำคาญเป็นอย่างมาก นางเกิดในราชวงศ์ และความสัมพันธ์เดียวที่นางมีในชีวิตคือเป็นภรรยาของอิ่งเจิ้ง นางจึงไม่เชื่อถือในความรัก อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นของซูอันกำลังสั่นคลอนความคิดนั้นของนาง
ผู้หญิงคนนี้ได้รับในสิ่งที่ข้าไม่เคยได้ง่ายขนาดนี้ได้ยังไง? ไม่ มันไม่สำคัญ ข้าจะต้องตัดความผูกพันของพวกเขาทิ้งซะ!
นางกระโจนไปด้านหน้าของซูอัน และในเวลาเดียวกัน ซูอันก็ยกกระบี่ของเขาขึ้นเพื่อปกป้องตัวเองในทันที แต่ชายหนุ่มได้รับบาดเจ็บสาหัสมากจนถึงแม้วิชาปฐมบทแรกเริ่มจะคอยช่วยฟื้นฟูอยู่ตลอดเวลา เขาก็แทบไม่เหลือแรงจะทนยืนไหว ดังนั้นเขาจะมีปัญญาต้านทานการโจมตีด้วยกระบี่ได้ยังไง?