เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 455 ขับเรือฝ่าใจกลางพายุ

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 455 ขับเรือฝ่าใจกลางพายุ

บทที่ 455 ขับเรือฝ่าใจกลางพายุ

ซูอันไม่สนใจท่าทีที่แข็งกร้าวของโฮ่วอวิ๋น เขาหันไปชี้เจิ้งตานซึ่งอยู่ข้าง ๆ แทน

“นางเป็นคุณหนูของเจ้าไม่ใช่เหรอ? นางควรเป็นคนที่เอ่ยปากเถียงเรื่องนี้มากกว่าเจ้าไม่ใช่เหรอไง ถ้านางต้องการให้ข้ารับผิดชอบ ข้าก็จะรับผิดชอบ แต่ถ้านางไม่พูดอะไร ข้าก็ไม่! แม่นางเจิ้ง เจ้ามีอะไรจะพูดหรือเปล่า?” ซูอันพูดก่อนที่จะหัวเราะคิกคัก

เจิ้งตานหน้าแดง ผู้ชายคนนี้จงใจพยายามใช้ประโยชน์จากนางชัด ๆ เลย ทว่านางก็ยังตอบกลับไปว่า “ทุกสิ่งที่นายน้อยทำล้วนเพื่อราชสำนัก ข้าจะให้ท่านรับผิดชอบได้ยังไง?”

ซูอันหัวเราะอย่างเต็มที่ “ข้าซาบซึ้งจริง ๆ ที่แม่นางเจิ้งไม่ต้องการให้ข้ารับผิดชอบ ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราค่อนข้างไปได้สวยจริง ๆ!”

ที่ด้านข้าง ซ่างเชียนกลับขมวดคิ้วแน่น เขาขยับหมวกเกราะที่สวมอยู่ของตัวเองโดยไม่รู้ตัว เขาค่อนข้างรู้สึกอึดอัดกับหมวกของตัวเองในวันนี้อย่างบอกไม่ถูก

“ในเมื่อคุณหนูอนุญาตเช่นนี้แล้ว ผู้น้อยก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก!” โฮ่วอวิ๋น กล่าว “มา!” เขาหันกลับไปและโบกมือให้ลูกน้องของเขาเปิดท้องเรือซึ่งเป็นส่วนที่เอาไว้เก็บสินค้า

ถัดจากนั้น ซ่างเชียนก็โบกมือสั่งทหารของเขาให้ลงด้านล่างท้องเรือแล้วเริ่มทำการค้นหา

ซูอันโบกมือให้คนของเขาทำตามเช่นกัน และเหล่าทหารคุ้มกันของตระกูลฉู่ต่างก็เดินตามคนอื่น ๆ ลงไปด้านล่างท้องเรือ เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มไม่ไว้วางใจคนของซ่างเชียน

ซ่างเชียนและเจิ้งตานได้แลกเปลี่ยนสายตากัน จากนั้นก็เดินลงไปด้านล่างท้องเรือด้วย

ภายในท้องเรือ กระสอบซ้อนกันเป็นชั้น ๆ สูงเกือบจรดเพดาน บรรดาทหารใช้ความพยายามอย่างมากในการค้นหา พวกเขาสุ่มแทงมีดเข้าไปในกระสอบโดยตรงและปล่อยให้สินค้าด้านในล้นทะลักออกมา

โฮ่วอวิ๋นทนไม่ได้กับการเห็นฝ้ายร่วงหล่นจากกระสอบที่พังยับเยินเช่นนี้ เขาตะโกนร้องออกมาทันที “พวกท่านได้โปรดระมัดระวังหน่อยจะได้ไหม! แค่บอกข้ามาว่าพวกท่านต้องการตรวจสอบกระสอบใบไหน แล้วข้าจะเปิดให้เอง!”

อย่างไรก็ตาม คำพูดของโฮ่วอวิ๋นนั้นก็ไม่ได้ผลเลย เหล่าทหารทั้งหลายทำเหมือนหูหนวก ดังนั้นโฮ่วอวิ๋นจึงทำได้เพียงอ้อนวอนกับซูอันเท่านั้น “นายน้อยซู! ในเมื่อท่านได้ตรวจสอบตามที่ท่านต้องการแล้ว ท่านก็ควรมีมารยาทในการค้นตรวจสอบสักหน่อยจริงไหม?”

ซูอันไม่ตอบคำถาม เขาผลักโฮ่วอวิ๋นออกไป และเดินเข้าไปยังส่วนมุมที่ลึกที่สุด ซึ่งชายหนุ่มได้เห็นว่าจุดนี้มีกระสอบถูกวางอัดทับกันหนาแน่นที่สุด ซึ่งถ้าหากเขาต้องการที่จะตรวจสอบพวกกระสอบที่อยู่ด้านในที่ถูกทับจากรอบด้าน จะต้องขนถ่ายกระสอบสินค้าจำนวนมากออกไปเพื่อปูทางเข้าให้ตัวเองสามารถเข้าไปตรวจสอบกระสอบที่อยู่ด้านสุดได้

การที่จะขนกระสอบหนักหลาย ๆ ชั่งเป็นสิบ ๆ กระสอบเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทำได้คนเดียวแน่ ๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อชายหนุ่มคิดดูอีกที ก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่ากระบวนความคิดของเขาผิดพลาดอย่างมหันต์ ตอนนี้เขาอยู่ในโลกแห่งการบ่มเพาะ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปอิงหลักเกณฑ์ของโลกก่อนหน้านี้ ในโลกแห่งการบ่มเพาะนี้ ความแข็งแกร่งของผู้บ่มเพาะนั้นมากกว่าคนธรรมดาทั่วไปหลายเท่า

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาจึงเริ่มย้ายกระสอบออกไปด้วยตัวเอง เพื่อเปิดดูกระสอบที่อยู่ด้านในล่างสุด

ทหารคุ้มกันตระกูลฉู่ต่างก็รีบเข้ามาช่วยเช่นกัน และในเวลาไม่นาน พวกเขาก็ได้เปิดพื้นที่ทางเดินเข้าไปถึงยังมุมลึกสุด…

“นายน้อยซู ท่านกำลังทำอะไรน่ะ?!” โฮ่วอวิ๋นแสดงสีหน้าตื่นตระหนกอย่างชัดเจน เขาจึงรีบวิ่งเข้ามาหยุดทันที แต่เฟิงต้าหนิวและคนอื่น ๆ กันเขาเอาไว้

ซูอันหากระสอบที่อยู่ลึกที่สุด

“ทำไมพ่อบ้านโฮ่วถึงประหม่านัก?” ซูอันถามพลางโยนกระสอบลงแทบเท้าของเขา

“ประหม่า? ข…ข้าไม่ได้ประหม่าเลย ฮ่า ๆ”

โฮ่วอวิ๋นหัวเราะสองสามครั้ง แต่ที่หน้าผากของเขากลับมีเหงื่อผุดออกมาเป็นจำนวนมากจนไหลลงมาอาบแก้มของเขา

ซูอันมองเจิ้งตานและซ่างเชียนพลางนึกเยาะเย้ยทั้งคู่ในใจ เมื่อเห็นว่าทั้งคู่ก็แสดงสีหน้ามืดมนเช่นกัน

เขาแทงกระบี่เข้าไปในกระสอบ

ทุกคนรอบ ๆ ชะเง้อดู แต่สิ่งที่ทะลักออกมาไม่ใช่ผ้าฝ้าย

ซูอันรู้สึกผิดหวัง ไม่มีเกลือขาวไหลออกมา แต่มันกลับกลายเป็นเม็ดทรายสีเหลืองจำนวนมหาศาลไหลออกมาแทน

ซูอันขมวดคิ้ว “ทำไมเจ้าถึงเก็บทรายพวกนี้มาปะปนกับสินค้า?” ลางสังหรณ์ที่เขามีก่อนหน้านี้กลายเป็นความจริงในที่สุด เขาไม่แปลกใจเลยกับผลลัพธ์ที่ออกมา

โฮ่วอวิ๋นหัวเราะคิกคัก “นายน้อยไม่เคยทำธุรกิจเดินเรือ ดังนั้นจึงไม่เข้าใจความยากลำบากของเรา! กระสอบทรายเหล่านี้ใช้ถ่วงน้ำหนักเรือ เพื่อทำให้เรือมั่นคงเมื่อเผชิญกับคลื่นลมแรง”

ทุกคนรู้ว่าซูอันเป็นเพียงเด็กยากจนก่อนที่เขาจะกลายเป็นนายน้อยของตระกูลฉู่ ส่วนโฮ่วอวิ๋นได้รับหน้าที่ดูแลธุรกิจของตระกูลเจิ้งมานานแล้ว ดังนั้นคำพูดของเขาจึงฟังดูเหมือนตบหน้าซูอันอย่างแรงต่อหน้าทุกคน

ดวงตาของซูอันหรี่ลง ผู้ชายคนนี้ต้องการจะเล่นเกมกับข้า! ได้เลย!

เขาไม่สนใจที่จะต่อล้อต่อเถียงกลับในเวลานี้ เขาตรวจสอบกระสอบอื่น ๆ ต่อไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทรายเช่นกัน เขาเยาะเย้ย “เจ้าต้องใช้ทรายเยอะขนาดนี้เพื่อถ่วงเรืองั้นเหรอ? เจ้าวางแผนจะขับเรือฝ่าเข้าไปใจกลางพายุหรือไง?”

โฮ่วอวิ๋นเริ่มเช็ดเหงื่อที่เย็นเยียบซึ่งปกคลุมหน้าผากของเขา “การนำทรายขึ้นมาบนเรือไม่ผิดกฎหมายสักหน่อย ไม่ใช่เหรอไงนายน้อยซู!”

ซูอันชี้ไปที่สินค้าในเรือลำนี้ “ถ้าข้าคิดไม่ผิด สินค้าส่วนใหญ่บนเรือลำนี้ก็คงน่าจะเป็นทราย หึหึ ข้าเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเดี๋ยวนี้ตระกูลเจิ้งทำธุรกิจขนทรายซะแล้ว!”

เขามองเจิ้งตานขณะที่พูด

เจิ้งตานขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำประชดประชันของซูอัน

“นี่…นี่…” โฮ่วอวิ๋นเช็ดเหงื่อของเขาอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถหาข้อแก้ตัวใด ๆ ขึ้นมาได้เพื่อทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้

“พาเขาออกไปสอบปากคำ!” ซูอันสั่งทันที

ซ่างเชียนก้าวมาข้างหน้า “ข้าเกรงว่าการทำเช่นนั้นคงไม่เหมาะสม ตระกูลฉู่ไม่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายในสถานการณ์นี้ งานนี้ควรส่งมอบให้กับพวกเรา!”

ซูอันกล่าวอย่างเย็นชาว่า “การจับกุมครั้งนี้ควรจะราบรื่น แต่หลังจากที่ข้าไปแจ้งข่าวกับเจ้า ผู้ลักลอบขนเกลือกลับได้รับข่าวล่วงหน้าและสับเปลี่ยนสินค้าได้อย่างทันท่วงที ข้ามีความเห็นว่านับจากนี้ข้าจะไม่ปล่อยให้กองทหารลาดตระเวนลำน้ำของเจ้ามีส่วนยุ่งเกี่ยวอีกต่อไปแล้ว!”

ซ่างเชียนโกรธทันที “เจ้ากำลังพูดว่าข้อมูลรั่วไหลออกไปเพราะข้างั้นเหรอ!”

ท่านยั่วยุซ่างเชียนสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 213!

ซูอันตอบอย่างเย้ยหยัน “ข้าไม่ได้พูดสักหน่อยว่าผู้บัญชาการซ่างผู้รักความยุติธรรมเป็นคนเผยข้อมูล แต่เราทุกคนรู้ดีว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีสายลับอยู่ภายในกองทหารลาดตระเวนลำน้ำหรือหน่วยงานอื่น ๆ ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระมัดระวังไว้ก่อน!”

“สามหาว! เจ้าไม่เพียงแต่ใส่ร้ายข้า แต่ยังกล้าใส่ร้ายทหารที่ทำหน้าที่อย่างสุจริตของกองทหารลาดตระเวนลำน้ำด้วย!” สายตาของซ่างเชียน เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

ทหารกองร้อยลาดตระเวนแม่น้ำคนอื่น ๆ ต่างก็มองซูอันอย่างไม่เป็นมิตรเช่นกัน มือของพวกเขาค่อย ๆ เคลื่อนไปที่ด้ามจับกระบี่

ท่านยั่วยุทหาร A ของกองทหารลาดตระเวนลำน้ำสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 66!

ท่านยั่วยุทหาร B ของกองทหารลาดตระเวนลำน้ำสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 66!

ท่านยั่วยุทหาร C ของกองทหารลาดตระเวนแม่น้ำสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 66!

เมื่อเห็นเช่นนี้ทหารคุ้มกันของตระกูลฉู่ก็รีบวิ่งกรูกันเข้ามาปกป้องซูอัน แต่ซูอันมั่นใจว่าซ่างหงต้องการจัดการกับตระกูลฉู่อย่างลับ ๆ มากกว่า ดังนั้นซ่างเชียนจึงไม่มีทางเป็นฝ่ายใช้กำลังก่อนอย่างแน่นอน

หลายคนรู้อยู่แล้วว่าข้ามาที่ท่าเรือ และยังมีทหารคุ้มกันตระกูลฉู่อยู่ด้วย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ แผนการทั้งหมดของตระกูลซ่างจะพังพินาศ

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท