บทที่ 536 เจตนาดี
บทที่ 536 เจตนาดี
ซูอันถึงกับตื่นตระหนกกับท่าทางที่จริงจังของฉู่ชูเหยียน “มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?”
“รีบตามข้าไปที่ห้องโถง ส่วนเกิดอะไรขึ้นนั้นข้าจะเล่าให้ฟังระหว่างเดินไป” ฉู่ชูเหยียนจูงมือเขาเดินไปยังโถงหลักของคฤหาสน์
“พ่อของข้าถูกซ่างหงควบคุมตัวไว้ในเมืองตะวันจรัส!” หลังจากก้าวไปได้ไม่กี่ก้าว ฉู่ชูเหยียนก็เอ่ยขึ้น
ซูอันตกใจมาก “ห๊ะ?! ท่านพ่อตาเป็นถึงอ๋องแถมระดับการบ่มเพาะก็สูงส่ง ซ่างหงกล้าที่จะจับเขาไว้ได้ยังไง? หรือต่อให้เขาจะกล้า เขาก็ต้องหาเหตุผลที่สมควรมาก่อน!”
“บังเอิญว่าเขามีเหตุผล!” ฉู่ชูเหยียนอธิบาย “มันเป็นเรื่องของใบอนุญาตค้าเกลือ”
ในที่สุดซูอันก็ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดหลังจากที่ฉู่ชูเหยียนถ่ายทอดให้เขาฟัง
ภายใต้การทรมานของเฉินเซวียน หวางหยวนหลงได้เปิดเผยเส้นทางที่ใช้ขนส่งใบอนุญาตค้าเกลือของตระกูลหวาง และระยะเวลาการเดินทางของขบวนส่งสินค้า
เมื่อขบวนส่งใบอนุญาตค้าเกลืออยู่ห่างจากเมืองจันทร์กระจ่างราวสองวัน เฉินเซวียนได้ส่งคนไปชิงใบอนุญาตค้าเกลือทันที
ตระกูลหวางอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่อยู่แล้วจากเรื่องที่สถานีการค้าของพวกเขาถูกปล้นสะดม ดังนั้นเมื่อโดนปล้นขบวนส่งใบอนุญาตค้าเกลือซ้ำเช่นนี้ตระกูลหวางจึงสั่นคลอนทันที ต้องรู้ว่าใบอนุญาตค้าเกลือชุดนี้กว่าพวกเขาจะรวบรวมเงินซื้อมันมาได้ก็เลือดตาแทบกระเด็น
ดังนั้นเมื่อโดนปล้นใบอนุญาตค้าเกลือไปเช่นนี้ ตระกูลหวางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขอความช่วยเหลือจากฉู่จงเทียน
ด้วยความเห็นอกเห็นใจต่อพันธมิตรของตนเอง และเมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ของตระกูลฉู่แล้ว ฉู่จงเทียนก็ตัดสินใจที่จะใช้ใบอนุญาตค้าเกลือล่วงหน้าของปีถัดไปมาสวมรอยแทนที่ใบอนุญาตค้าเกลือชุดที่ถูกขโมยไป ซึ่งทำให้ตระกูลหวางผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ กลับพลิกผันอย่างไม่คาดคิด ความลับเรื่องใบอนุญาตค้าเกลือที่ถูกแทนที่ซึ่งควรจะเป็นความลับกลับไม่เป็นเช่นนั้น มีการสอบสวนเกี่ยวกับใบอนุญาตค้าเกลือชุดล่าสุดของตระกูลฉู่อย่างกะทันหัน เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าใบอนุญาตค้าเกลือเหล่านั้นไม่ถูกต้อง ซ่างหงจึงใช้มันเป็นเหตุผลในการกักตัวฉู่จงเทียนไว้
ซูอันถอนหายใจ “ดูเหมือนว่าซ่างหงจะเตรียมตัวมาอย่างดี นี่อาจเป็นกับดักที่เขาสร้างขึ้นเอง”
ฉู่ชูเหยียนพยักหน้า “พวกเราประมาทกันเอง”
มีสิ่งหนึ่งที่ซูอันไม่เข้าใจ “เดี๋ยวนะ ไม่ใช่ว่าเจ้าเคยบอกว่าพวกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทั้งหมดอยู่ข้างเราเหรอ? ทำไมจู่ ๆ ซ่างหงรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”
ฉู่ชูเหยียนส่ายหัว “นี่เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดที่สุดของเรื่องทั้งหมด บางทีพวกเจ้าหน้าที่บางส่วนน่าจะถูกซื้อตัวไป”
ซูอันจับมือนางซึ่งเย็นเล็กน้อย “ที่รัก ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ ข้าจะช่วยให้ตระกูลฉู่ผ่านเรื่องนี้ไปได้”
“ขอบคุณ…” ฉู่ชูเหยียนฝืนยิ้ม ในใจของนางคิดว่าซูอันคงช่วยนางไม่ได้มากนัก อย่างไรก็ตามคำพูดของเขายังคงทำให้นางรู้สึกอบอุ่น
“บ้าเอ๊ย เฉินเซวียน! ตายไปแล้วก็ยังสร้างความวายป่วงให้เราได้อีก” ซูอันพึมพำกับตัวเอง เรื่องทั้งหมดนี้เริ่มต้นขึ้นโดยการที่เฉินเซวียนขโมยใบอนุญาตค้าเกลือไป ไม่อย่างนั้นทุกอย่างคงไม่เป็นปัญหาแบบนี้
ไม่นานต่อมา ทั้งสองคนก็มาถึงห้องโถงหลักของคฤหาสน์แล้ว
“ข้าต้องการคำอธิบายสำหรับเรื่องนี้ พี่สะใภ้!” เสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวของฉู่เยว่พั่วดังมาถึงพวกเขาทันทีที่พวกเขาเดินผ่านประตู
ซูอันรู้สึกประหลาดใจ ฉู่เยว่พั่วที่เคยทำให้เขาประทับใจในภาพลักษณ์ของลุงอ้วนที่เป็นมิตร ชายหนุ่มไม่เคยเห็นอีกฝ่ายโกรธขนาดนี้มาก่อน
“ถูกต้อง! ข้าถูกปิดหูปิดตาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ข้ากลับต้องคอยมาปัดกวาดเช็ดถู! ครั้งนี้พวกท่านทำเกินไปแล้ว!” เสียงของฉู่เทียนเซิงเย็นยะเยือก
ฉินหว่านหรูถูกฉู่เทียนเซิงและฉู่เยว่พั่วคุกคาม ใบหน้าของนางซีดเผือด แต่ไม่มีอะไรที่นางพูดได้ นางรู้ว่าตัวเองมีส่วนผิด
ฉู่ชูเหยียนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว “อารองและอาสาม ขณะนี้เรายังไม่ควรสนใจว่าใครควรถูกตำหนิ สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือหาวิธีจัดการกับปัญหา!”
“คำพูดของเจ้าฟังดูดี! แต่เจ้าไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเจ้าปิดบังทุกอย่างจากเรา พอเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นก็เพิ่งจะมาเห็นหัวกัน!” ฉู่เทียนเซิงเย้ยหยัน
ฉู่ชูเหยียนขมวดคิ้ว “เราปิดบัง เพราะนี่เป็นเรื่องที่สำคัญและละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง เราต้องรักษาความลับ ยิ่งมีคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี”
“และดูสิว่าพวกเจ้าเก็บความลับนี้ได้ดีแค่ไหน! สุดท้ายมันก็รั่วไหลออกไปจนได้” ฉู่เยว่พั่วกล่าว “ถ้าพวกเจ้าเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ แล้วใครเป็นคนคาบข่าวไปบอกซ่างหงล่ะ?”
ฉู่เยว่พั่วมองสลับไปมาระหว่างฉู่ชูเหยียนและฉินหว่านหรู ความหมายของเขาชัดเจนว่าหนึ่งในสองคนเป็นเปิดเผยความลับออกไป
สองแม่ลูกต่างก็โกรธมากจนใบหน้าของพวกนางเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด อย่างไรก็ตาม พวกนางทั้งสองไม่สามารถคิดหาข้อโต้แย้งที่เหมาะสมได้
ซูอันก้าวไปข้างหน้าทั้งสองคน “พวกท่านสองคนเป็นอะไรกัน! กล้าดียังไงใช้โอกาสนี้รังแกหญิงหม้ายและลูกกำพร้าพ่อ!”
ฉินหว่านหรูและฉู่ชูเหยียนจ้องมองแผ่นหลังซูอันด้วยความตกตะลึงและขุ่นเคือง
—
ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 666!
—
—
ท่านยั่วยุฉู่ชูเหยียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 233!
—
ซูอันขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นคะแนนความโกรธที่หลั่งไหลเข้ามา ข้ากำลังพูดเพื่อพวกเจ้าสองคน! ทำไมถึงมาโกรธข้า?
อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าชายหนุ่มก็ตระหนักถึงปัญหานี้ เขาพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างเคอะเขิน “แค่ก ๆๆ ขออภัย ๆ ข้าพูดผิดไป ท่านไม่ใช่แม่หม้าย และเจ้าก็ไม่ใช่ลูกกำพร้าพ่อด้วย”
อันที่จริง ต่อให้เป็นฉู่จงเทียนที่ใจเย็นอยู่เสมอ หากมาได้ยินประโยคนี้ของซูอัน ก็คงจะระเบิดอารมณ์อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม คำแก้ตัวของซูอันก็ทำให้สีหน้าของพวกนางดูดีขึ้น
“อะไรทำให้เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์พูดที่นี่!” ฉู่เทียนเซิงกล่าวอย่างเย็นชา
ซูอันรักษาความสงบภายในใจไว้ “ข้าแค่อยากจะพูดแทนภรรยาของข้าเพราะข้าทนการกล่าวโทษไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว นอกจากนี้ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ตัวข้าถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของสายหลักของตระกูล แต่พวกท่านเป็นเพียงสมาชิกตระกูลสายรอง หากพวกท่านสามารถพูดในที่แห่งนี้ได้ ถ้างั้นก็สามารถพูดได้เช่นกัน!”
“ไร้สาระ!” ฉู่เทียนเซิงกระทืบเท้าด้วยความโกรธ แม้แต่ฉู่เยว่พั่วก็จ้องเขม็งไปที่ซูอัน สถานะของพวกเขาในฐานะตระกูลสายรองเป็นสิ่งที่มักจะทิ่มแทงใจของพวกเขาเสมอ
—
ท่านยั่วยุฉู่เทียนเซิงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 886!
—
—
ท่านยั่วยุฉู่เยว่พั่วสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 668!
—
“พอได้แล้ว พอ!” ในที่สุดฉินหว่านหรูก็พูดขึ้น “เราจะเสียเวลาเถียงกันไปอีกนานแค่ไหน?”
ฉู่เทียนเซิงพ่นลมหายใจ “ไม่ใช่ว่าเราต้องการโต้เถียง แต่ตระกูลสายหลักมักจะควบคุมไปทุกสิ่ง แม้ว่าข้าและน้องสามจะได้ชื่อว่าควบคุมธุรกิจเหล็กและเกลือ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่ามันเป็นเพียงแค่ในนามเท่านั้น!”
ฉู่เยว่พั่วสนับสนุน “ถูกต้อง! เรื่องราวจะไม่มีวันพลาดขนาดนี้ ถ้าพวกท่านปรึกษากับพวกเราที่เหลือก่อน!”
ซูอันกล่าวว่า “มันง่ายที่จะพูดว่าตัวเองทำได้อย่างนั้นอย่างนี้หลังจากเรื่องทุกอย่างถูกเฉลยแล้ว อย่างไรก็ตาม พ่อตาไม่ได้ยอมเสี่ยงเพราะคิดถึงสวัสดิภาพโดยรวมของตระกูลฉู่หรือยังไง? ถึงแม้ตอนนี้ผลลัพธ์จะไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่ก็ไม่ควรโทษผู้ที่มีเจตนาดี!”
แม้ว่าฉู่ชูเหยียนจะไม่ได้บอกสิ่งเหล่านี้แก่เขา แต่เขาก็สามารถเติมช่องว่างเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง
การแสดงออกของฉินหว่านหรูผ่อนคลายลงเล็กน้อย นางไม่เคยชอบปากกรรไกรของซูอัน แต่ตอนนี้เมื่อเขาพูดแทนพวกนาง นางก็พบว่าเขาน่ามองมากขึ้น
การมีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าช่วยคลายความกังวลได้เสมอ
ความคิดของฉินหว่านหรูล่องลอยไปที่ฉู่จงเทียน นางไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สามีของนางจะกลับมาอย่างปลอดภัย
“เจตนาดี? คิดว่ามีเจตนาดีก็ทำให้รอดตัวงั้นเหรอ!? แล้วเจตนาดีบ้าอะไร ทำให้ทั้งตระกูลฉู่ต้องพลอยฉิบหายไปด้วย! เงินสิบหกล้าน! ตระกูลฉู่จะสามารถรวบรวมเงินมากขนาดนั้นได้ยังไง?!” ฉู่เทียนเซิง กล่าวอย่างโกรธจัด
—
ท่านยั่วยุฉู่เทียนเซิงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 358!
—