บทที่ 561 แสดงให้แนบเนียน
บทที่ 561 แสดงให้แนบเนียน
ซูอันเห็นกลุ่มคนเดินเข้ามา คนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำกลุ่มคือชายสูงอายุที่มีผมสีเทา กลิ่นอายดูน่าเกรงขาม ดวงตาของเขาดูราวกับสามารถมองทะลุจิตวิญญาณของผู้คนได้
แค่สบตากันก็อึดอัดมากแล้ว นี่น่าจะเป็นผู้บ่มเพาะระดับเจ็ดที่ฉินหว่านหรูพูดถึง
“ท่านรู้ได้ยังไงว่าพวกเขาอยู่ฝ่ายเดียวกับชายชุดดำพวกนั้น?” ซูอันรู้สึกงงงวย พวกเขาทั้งหมดแต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดา แทนที่จะเป็นสีดำล้วนเหมือนกับกลุ่มชายชุดดำ
นางสามารถบอกได้อย่างไรว่าพวกเขาเป็นกลุ่มเดียวกัน?
ฉินหว่านหรูขยับเข้ามาใกล้และพูดเบา ๆ “เจ้าสังเกตดูที่ลายปักบนแขนเสื้อของเขาสิ มันเหมือนกับของพวกกลุ่มคนชุดดำไม่มีผิดเพี้ยน!”
ซูอันตั้งใจมองมากขึ้น มีภาพปักเป็นรูปคล้ายก้อนเมฆอยู่บนแขนเสื้อ
พวกกลุ่มคนชุดดำก่อนหน้าก็มีสัญลักษณ์นี้อยู่ด้วยจริง ๆ!
เขาคงไม่สังเกตเห็นมันถ้าฉินหว่านหรูไม่ได้บอก
เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชม แม้ว่านางจะเป็นคนอารมณ์ร้อนและเอาแต่ใจอยู่ตลอดเวลา แต่จริง ๆ แล้วนางกลับมีด้านที่ละเอียดรอบคอบเช่นกัน
จู่ ๆ ชายหนุ่มก็คิดขึ้นได้ ทำให้เขาตกตะลึงเล็กน้อย ถ้าผสมชูเหยียนและฮวนเจาเข้าด้วยกัน ผลที่ออกมามันก็เหมือนกับฉินหว่านหรูเลยนี่นา?
แต่ฮวนเจาช่างโชคร้ายจริง ๆ ที่จับได้ปลายไม้สั้น นางสืบทอดเอาไปแต่คุณสมบัติที่ไม่ดีของฉินหว่านหรูเท่านั้น เฮ้อ…ต่อไปข้าคงต้องดูแลนางให้ดีกว่านี้…
ซูอันนำความคิดของตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบัน การรับมือกับสถานการณ์ในมือยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด “ท่านเอาชนะเขาได้ไหม?”
ฉินหว่านหรูหน้าแดง นางส่ายหัวเล็กน้อยและพูดเบา ๆ “ข้าทำไม่ได้”
ซูอันกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ “เมื่อกี้ ชิว…อะแฮ่ม ผู้หญิงคนนั้นยังสามารถเอาชนะท่านได้เลยแม้จะอยู่ต่ำกว่าท่านหนึ่งระดับ ท่านเองก็ห่างจากชายชราคนนั้นหนึ่งระดับด้วยไม่ใช่เหรอ?”
ฉินหว่านหรูพยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้ตบเขา
เจ้าเด็กนี่จะพูดอะไรดี ๆ สักครั้งไม่ได้เหรอ!
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนั้นเก่งกว่านางจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่า นางจึงไม่สามารถโต้แย้งข้อเท็จจริงนี้ได้
นี่ยิ่งทำให้นางยิ่งหงุดหงิด!
ซูอันอดไม่ได้ที่จะมองนาง หากท่านไม่สามารถเอาชนะชายชราคนนั้นได้ ก็ต้องโทษตัวเองสิ ทำไมถึงหันมาโกรธข้าล่ะ?
ถึงเวลานี้ ชายชราพร้อมกับผู้ติดตามอีกนับสิบคนก็เดินมาถึงพวกเขาทั้งสองแล้ว
“ช้าก่อน!”
ฉินหว่านหรูตั้งท่า นางกำลังจะโจมตี แต่ซูอันหยุดนางเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสู้ไม่ได้ ดังนั้นการต่อสู้จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดนัก…
“พวกท่านต้องการอะไร?” ซูอันเอ่ยถามไปยังกลุ่มของชายชรา
“กลางดึกอย่างนี้ เจ้าสองคนมาทำอะไรที่นี่?” ชายชราถาม
“ข้ากำลังเดินเล่นกับภรรยาของข้า มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหรือเปล่าท่านผู้อาวุโส?” ซูอันแกล้งตอบ
ฉินหว่านหรูโกรธจนควันแทบออกจากหู เจ้าคนพาลนี้กล้าดียังไงมาแอบอ้างว่าเป็นสามีของนาง?!
ซูอันเพียงแตะมือของนางเบา ๆ ให้สงบสติอารมณ์
ฉินหว่านหรูลังเล พวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคนเหล่านี้ที่มีระดับการบ่มเพาะที่น่าเกรงขาม หากทุกอย่างลงเอยไปที่การต่อสู้ ผลลัพธ์คงไม่จบลงด้วยดี
คนเหล่านี้กล้าแม้กระทั่งต่อสู้กับกองทหารลาดตระเวนลำน้ำ นางคงหนีไม่พ้นแม้ว่านางจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา
ยิ่งไปกว่านั้น นางยังเป็นผู้หญิง และเป็นผู้หญิงที่งดงามอีกด้วย เป็นไปได้อย่างยิ่งที่นางจะต้องเผชิญกับความอัปยศในรูปแบบอื่นหากพ่ายแพ้กลุ่มคนเหล่านี้
ดังนั้นแทนที่จะเสี่ยงกับชะตากรรมเช่นนั้น นางควรจะรอดูว่าซูอันมีความคิดอื่นที่จะนำพวกเขาออกจากสถานการณ์นี้ก่อนหรือไม่
“เดินเล่น?” ชายชรามีท่าทีสงสัย “เดินในความมืดมิด?”
“ท่านไม่มีประสบการณ์ในเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เลยเหรอ? นี่เรียกว่าการสร้างอารมณ์” ซูอันพูดพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
ฉินหว่านหรูพยายามอย่างดีที่สุดที่จะไม่กลอกตา
ชายชรามองไปรอบ ๆ พวกเขา แล้วถามด้วยท่าทีที่ดูสบาย ๆ ว่า “ในเมื่อพวกเจ้าสองคนออกมาเดินเล่น เจ้าสองคนเห็นหรือได้ยินอะไรแปลก ๆ บ้างไหม?”
ซูอันทำทีเป็นเพื่อนบ้านที่อบอุ่นและกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือ “ได้ยินท่านถามเช่นนี้ ข้าก็นึกขึ้นได้พอดี! เมื่อครู่ข้าได้ยินเสียงใครบางคนกำลังต่อสู้อยู่แถว ๆ ตรงนั้น มันช่างน่ากลัวจริง ๆ! จากนั้นเราก็วิ่งหนีมาทันทีที่คิดว่าอาจจะถูกลูกหลง ท่านต้องระวัง และอยู่ให้ห่างจากบริเวณนั้น ท่านอาจจะเจอพวกคนเลวก็ได้ถ้าท่านเดินไปแถวนั้น!”
ฉินหว่านหรูรู้สึกประทับใจ แม้ว่าไอ้เด็กคนนี้จะกวนประสาท แต่ทักษะการปั้นเรื่องจัดได้ว่ายอดเยี่ยม แถมยังสวมบทบาทเป็นเด็กหนุ่มที่ใสซื่อบริสุทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์
“คนเลว เจ้าว่าอย่างนั้นเหรอ? ว่าแต่ เจ้ารู้ไหมว่ากลุ่มคนเลวเหล่านั้นเป็นใคร?” หลังจากถามจบ มือของชายชราที่เคยไพล่หลังตลอดเวลาก็เลื่อนมาอยู่ข้างกายเผยเล็บยาวที่ดูแหลมคมอย่างเหลือเชื่อ ราวกับว่าสามารถเจาะทะลุแผ่นเหล็กได้อย่างง่ายดาย
ซูอันแสร้งทำเป็นไม่สังเกตเห็นเจตนาฆ่าของอีกฝ่าย “ข้าเองก็ไม่รู้” เขาตอบ “ข้าเป็นแค่คนธรรมดา ข้าจะกล้าพอไปดูใกล้ ๆ ได้ยังไงว่าคนพวกนั้นเป็นใคร ว่าแต่พวกท่านเถอะ พวกท่านทุกคนควรออกไปจากแถวนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าเจอพวกคนไม่ดีนั่นเข้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้”
“ก็จริง ๆ ถ้างั้นข้าไหว้วานเจ้าช่วยไปรายงานเรื่องนี้ต่อเจ้าหน้าที่ทางการสักหน่อย เพื่อที่พวกเขาจะได้รีบมาตรวจสอบกลุ่มคนเลวที่เจ้าว่าด้วยเช่นกัน” ชายชรากล่าวพร้อมกับแค่นเสียงหัวเราะ
ฉินหว่านหรูเครียดขึ้นทันทีเมื่อนางสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าของอีกฝ่าย หากผู้บ่มเพาะระดับเจ็ดตัดสินใจโจมตีในระยะประชิด นางไม่รู้ว่าตัวเองจะป้องกันตัวเองได้หรือไม่ นับประสาอะไรกับการปกป้องซูอัน
ชายชรามองนางด้วยความสงสัย ราวกับรู้ว่านางกำลังประหม่า
ซูอันยืนอยู่ข้างหน้านางและพูดด้วยเสียงหัวเราะเขินอายว่า “ผู้อาวุโส ผู้หญิงของข้ามีนิสัยหวาดกลัวคนแปลกหน้า นางจึงรู้สึกกลัวท่านนิดหน่อยน่ะ”
ชายชราหัวเราะ “หนุ่มน้อย ภรรยาของเจ้ามีรูปร่างที่ดี แต่เจ้าสองคนดูไม่เหมือนสามีภรรยากันเลย อันที่จริงเจ้าดูไม่ค่อยคุ้นเคยกันเท่าไหร่”
ซูอันโอบแขนรอบเอวของฉินหว่านหรูทันที “ฮ่า ๆ ภรรยาของข้าค่อนข้างขี้อาย ท่านผู้อาวุโส ตอนนี้ข้าคงไม่สามารถอยู่สนทนากับท่านต่อได้แล้ว พวกเราจะเสร็จกันหมดถ้าพวกคนเลวเหล่านั้นบังเอิญมาเจอเราที่นี่!”
ฉินหว่านหรูไม่สามารถระงับความตกใจหรือความโกรธของนางได้ขณะที่นางรู้สึกว่าแขนของเขาโอบรอบเอวนาง ใบหน้าของนางก็แดงก่ำในทันที แต่สิ่งนี้กลับทำให้นางดูเหมือนภรรยาสาวขี้อายมากขึ้นในสายตาของคนอื่น
—
ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 813!
—
“ท่านแม่ยาย ได้โปรดใจเย็น ๆ! กรุณาใจเย็น ๆ! ทั้งหมดนี้เพื่อประโยชน์ของตระกูลฉู่! ตอนนี้เรากำลังพยายามช่วยท่านพ่อตา!” ซูอันพูดรัว ๆ ผ่านพลังชี่อย่างร้อนรน
หน้าอกของฉินหว่านหรูยุบพองเป็นจังหวะเพราะความโกรธ อย่างไรก็ตาม หลังจากหายใจเข้าลึกสองสามครั้ง นางก็สามารถปรับอารมณ์ให้เย็นลงได้