บทที่ 25 วิธีหลุดพ้น
เหยาซูส่ายหน้า “ชีวิตนางเองก็ไม่ง่ายเช่นกัน ทั้ง ๆ ที่เป็นคนรู้หนังสือและมีเหตุผล แต่นางก็ได้กลายมาเป็นเช่นนี้ ได้ยินว่านายอำเภอพาอนุภรรยาใหม่มาอีกคนแล้ว”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เถ้าแก่หลิวก็เกิดอาการตื่นตัวขึ้น “จริงหรือ! ตอนนี้เป็นคนที่หกแล้ว โธ่เอ๊ย สามัญชนอย่างพวกเราใครได้ฟังแล้วไม่รู้สึกว่าไร้สาระบ้าง? แม้แต่จวนของท่านอัครเสนาบดีก็ไม่เคยรับอนุภรรยาถึงหกคน!”
เหยาซูรู้สึกรังเกียจนายอำเภอเหยาเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังรู้สึกเสียดายฮูหยินของนายอำเภอเช่นกัน
หากจะบอกว่าสตรีขี้หึงนั้นดูร้ายกาจ บุรุษที่แอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยไม่ใช่ว่าชั่วร้ายกว่าหรอกหรือ? ฮูหยินของนายอำเภอหน้าตาไม่เลว แต่ไม่ว่าคนจะงามเพียงใด สังขารที่ดูซีดเซียวและอ้วนเผละมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ทำให้นางไม่มีความสุข
เดิมทีเหยาซูที่คิดว่าหลังจากขายชาดทาแก้มเสร็จก็จะกลับบ้าน ทว่าในใจตอนนี้มีแผนอื่น
สองวันให้หลัง เหยาซูก็นั่งรถม้ามาที่อำเภอหลิวเฉิง
นางได้สืบก่อนหน้านี้แล้วว่าหลายวันมานี้นายอำเภอไม่อยู่ในเขตอำเภอ นางจึงตรงไปที่จวนของนายอำเภออย่างวางใจ
เมื่อมาถึงประตูมุมของเรือนหลัง เหยาซูกล่าวอย่างสุภาพกับคนที่เฝ้าประตูว่า “ ข้าคือเหยาซูจากร้านผ้าตระกูลเหยาแห่งเมืองชิงถง มาหาฮูหยินของนายอำเภอ หวังว่าผู้อาวุโสจะช่วยบอกแก่ฮูหยินให้ข้า จะขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง”
หลังจากนั้นไม่นานมีดรุณีอายุราวสิบหกปีสวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบออกมาต้อนรับนาง
ดรุณีตัวน้อยไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเหยาซู เมื่อเห็นว่านางไม่ได้เกล้ามวยผมขึ้น อีกทั้งยังดูอ่อนเยาว์อย่างยิ่ง นางจึงกล่าวขึ้น “แม่นางได้โปรดตามข้ามา วันนี้ฮูหยินอยู่ในจวนพอดีเจ้าค่ะ”
อำเภอหลิวเฉิงตั้งอยู่ในเขตทางเหนือ เมื่อถึงฤดูหนาวดอกไม้เริ่มเหี่ยวเฉา ลานหลังจวนของฮูหยินที่นางอาศัยอยู่ถูกละเลยการดูแลยิ่งเผยให้เห็นความรกร้างว่างเปล่า
ก่อนเข้าลานจวน เหยาซูได้ยินเสียงหัวเราะเบิกบานออกมาจากเหล่าหญิงสาวในลานจวนที่อยู่ไม่ไกลนัก
เหยาซูถูกนำทางให้เข้าไปยังจวนหลัก เห็นกระถางถ่านที่ไม่ร้อนไม่เย็นวางอยู่ ฮูหยินนายอำเภอกำลังนั่งอยู่บนม้านั่ง กำลังปักลายผ้าอย่างเบื่อหน่าย
“ฮูหยิน ไม่ได้เจอกันสองวัน ท่านสบายดีหรือไม่”
ฮูหยินนายอำเภอลุกขึ้นทักทายและนั่งลงอีกครั้ง นางไม่ได้เอ่ยทักทายมากมายนักเพียงแค่ถามว่า “วันนี้อากาศหนาวทั้งวัน เจ้ามาได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?”
เหยาซูยิ้มและกล่าวว่า “ไหนเลยจะกล้ารบกวนฮูหยิน แต่ข้าต้องกลับไปที่หมู่บ้าน วันนี้เลยตั้งใจมาเยี่ยมเยียนท่านเท่านั้นเอง”
ฮูหยินนายอำเภอยิ้ม แม้สีหน้ายังคงดูเหนื่อยล้าแต่กลับดูดีขึ้นไม่น้อย
“ชาดทาแก้มของเจ้าไม่เลวจริง ๆ แม้แต่ข้าที่ใช้ชาดของเจ้าก็ยังดูอ่อนเยาว์ลงไปหลายปี”
นางให้คนรับใช้ยกชามาให้เหยาซู แล้ววางผ้าในมือลงก่อนที่จะนั่งข้างกายนาง
“บางครั้งข้าก็อิจฉาชีวิตของเจ้าเช่นกัน” ฮูหยินนายอำเภอลูบถ้วยชาร้อนและวางนิ้วบนขอบถ้วย “อย่างน้อยก็เป็นอิสระ ไม่ต้องกังวลอะไร”
เหยาซูส่ายหน้าเบา ๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฮูหยินท่านมองข้าราวกับว่าข้าไม่เคยเจอความยากลำบาก แต่ละคนล้วนมีความทุกข์ของตนเองทั้งนั้น ตอนนี้ข้ามีลูกถึงสามคน แต่ละวันต้องหาวิธีที่จะเลี้ยงพวกเขา ข้าจะพึ่งพาครอบครัวตลอดชีวิตได้อย่างไร? ข้ากลับอิจฉาฮูหยิน…”
ฮูหยินนายอำเภอยิ้มเยาะตัวเอง “อิจฉาข้างั้นเหรอ ข้านั้นน่าอิจฉาเรื่องอะไร”
ร้านค้าที่ขายย่อมมีข่าวสารมากมาย ร้านผ้าของเหยาซูก็เป็นร้านผ้าที่มีชื่อเสียงมากในเมืองชิงถง กระทั่งในอำเภอหลิวเฉิง มีพ่อค้าและสตรีตระกูลขุนนางเดินทางไปมา หลายวันมานี้เหยาซูได้สอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับฮูหยินของนายอำเภอจากเถ้าแก่หลิวไม่น้อย
เดิมทีนางเป็นญาติของใต้เท้าเจิ้ง นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแคว้นเหยียน สาขาตระกูลเจิ้ง มีพี่ชายเป็นขุนนาง ต่อมาได้แต่งกับบัณฑิต อาศัยความสัมพันธ์ในครอบครัวจึงซื้อตำแหน่งนายอำเภอให้สามีได้
ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปธาตุแท้ของเขาก็ค่อยปรากฏ นายอำเภอเหยาเริ่มรับอนุเข้ามาในจวน
ฮูหยินนายอำเภอหยิ่งทะนงมากเสียจนคิดมาตลอดว่าการจับใจสามีไม่ได้นั้นเป็นปัญหาของตนเอง จึงไม่ยอมให้จวนทางแม่มายุ่งเกี่ยวเรื่องครอบครัวของตนมากเกินไป เอาแต่ก่อเรื่องกับนายอำเภอเท่านั้น
หลายปีมานี้คิดดูแล้วก็เหนื่อยเหมือนกัน
เหยาซูเอ่ยกึ่งปลอบใจอย่างจริงใจว่า “จวนฮูหยินนั้นมีฐานะสูงส่ง แม้ตอนนี้จะแต่งกับผู้อื่นแล้ว หรือไม่ก็มีอะไรที่ไม่ชอบก็เถอะ สุดท้ายแล้วถึงจะกินอยู่ไม่มีความสุข แต่ลูก ๆ ล้วนเป็นคนดี จะไม่ทำให้คนอิจฉาได้อย่างไรเจ้าคะ”
ฮูหยินนายอำเภอส่ายหน้าและถอนหายใจ “จวนข้าเป็นเช่นนี้เจ้าก็อิจฉาด้วยหรือ”
เหยาซูหัวเราะ “ตอนนี้ท่านกังวลเกินไปแล้ว ในตอนที่ข้าให้กำเนิดซานเป่าก็ถูกกลั่นแกล้งจากบ้านสามี ร่างกายซีดเซียวไม่เหมือนกับตอนนี้ ต่อมาเมื่อข้าได้กลับบ้านของตัวเองก็ค่อย ๆ ฟื้นฟูขึ้นมา ที่จริงแล้วยังมีปัญหาอยู่และไม่เคยได้รับการแก้ไข ทว่าในหลายกรณีถ้าสามารถหลุดพ้นจากปัญหาได้ อนาคตย่อมสดใส”
ฮูหยินนายอำเภอใจเต้นรัวและถามว่า “ข้าจะพาตนเองออกจากสถานการณ์นี้ได้อย่างไร”
…………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ชีวิตผู้หญิงสมัยนั้นดูลำบากจังนะคะ จะหย่าก็หย่าไม่ได้ หย่าแล้วเสียชื่อเสียง ได้แต่เก็บงำความทุกข์ตรมไว้
ไหหม่า(海馬)