ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘] – บทที่ 77 ราคาสูงหรือไม่

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

บทที่ 77 ราคาสูงหรือไม่

“เอาละ ท่านนั่งลงก่อน” เหยาซูตั้งสติ ผละมือออกจากมือของหลินเหรา จากนั้นพูดกับเขาว่า “วันนี้ข้ายังมีเรื่องที่ต้องทำอีก ประเดี๋ยวข้าจะพันแผลให้ท่าน เมื่อทำเสร็จแล้วท่านไปเดินเล่นคนเดียวก่อนเถอะ”

หลินเหราไม่ได้พูดอะไร

นางรู้ว่าเขาไม่พอใจ ทว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะสามารถทำตามความคิดของเขาได้ตลอดเวลา

ทั้งสองนิ่งเงียบจนกระทั่งเถ้าแก่หลิวมาเคาะประตู “คุณหนู น้ำร้อนตระเตรียมเสร็จแล้ว ตอนนี้สะดวกหรือไม่ขอรับ”

เหยาซูลุกขึ้นทันทีแล้วเดินไปเปิดประตู

ระหว่างนั้นเถ้าแก่หลิวก็ถืออ่างไม้ใบใหญ่อยู่มือหนึ่ง ในขณะที่ใช้อีกมือเคาะประตู ไอร้อนจากอ่างน้ำร้อนทําให้เคราแพะของเขาเปียกชุ่ม ส่งผลให้ใบหน้าดำคล้ำของเขาของเขายิ่งดูดำคล้ำและแดง

เหยาซูอดหัวเราะไม่ได้ นางรีบรับอ่างน้ำในอ้อมกอดของเขามาและถามว่า “เหตุใดท่านไม่เรียกคนงานมาช่วยยกน้ำเล่า”

เถ้าแก่หลิวยิ้มแห้ง ๆ ในใจคิดว่า ‘ก็กลัวว่าลูกจ้างจะเห็นพวกท่านสองคนอย่างไรเล่า?’

เขาตั้งใจจะปิดบังเรื่องของทั้งสองคน ทว่าเหยาซูไม่เข้าใจความหมายของเขา เถ้าแก่หลิวจึงต้องเตือนความจำอ้อม ๆ ว่า “คุณหนู แม้ว่าร้านขายผ้านี้เป็นของเราเองแต่ …อะแฮ่ม คนงานก็ยังถือว่าเป็นคนอื่น เขาอาจจะไปพูดเรื่องนี้อย่างไม่น่าฟัง”

เหยาซูพูดไม่ออกแต่ไม่ได้โต้แย้ง “ข้าเข้าใจน้ำใจของเถ้าแก่หลิวดี”

ระหว่างที่พวกเขาพูดจบ พวกเขาก็เดินเข้ามาในห้อง เถ้าแก่หลิวจึงมีโอกาสได้สำรวจชายที่อยู่ข้าง ๆ เหยาซู

หลินเหราเป็นคนที่สามารถข่มขู่ผู้อื่นได้ดีแม้มองแค่เพียงภายนอก เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพียงแค่นั่งหลังตรงอยู่บนเก้าอี้ก็ทำให้รู้สึกราวกับไม่อยากเข้าใกล้ ใบหน้าไม่จำเป็นต้องแสดงอารมณ์ใด ๆ เพียงแค่ใช้สายตามองกวาดไปมาก็สามารทำให้ผู้คนเงียบลง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ๆ

บางทีอาจเป็นเพราะเห็นหลินเหราและเหยาซูอยู่ด้วยกัน เถ้าแก่หลิวจึงมีภูมิคุ้มกันต่อเขา พลางลอบสังเกตเห็นใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของหลินเหรา

เขายิ้มตาหยีแล้วเอ่ยขึ้น “คุณชายท่านนี้องอาจและไม่ธรรมดา ไม่ทราบว่าจะเรียกท่านว่าอย่างไรดี”

เถ้าแก่หลิวมีสีหน้าสุภาพแต่ในใจกลับสงสัยแทบตาย เขาเปิดร้านมาหลายสิบปีมีลูกค้าเข้ามานับไม่ถ้วน ทว่าไม่เคยเจอมีชายหนุ่มหน้าตาเช่นนี้ หนำซ้ำอายุยังน้อยแต่กลับมีบุคลิกที่สง่างามยิ่งนัก

ยิ่งกว่านั้น…รูปร่างหน้าตาเช่นนี้เกรงว่านี่คือสิ่งที่ทำให้คุณหนูของตนถูกใจ

เหยาซูใช้สายตามองเถ้าแก่หลิวอย่างช่วยไม่ได้ ทว่าดวงตาของเขายังคงจดจ้องไปที่หลินเหรา แววตาของเขาฉายแววตื่นเต้นและ ‘นินทา’ เผยออกมา

หลินเหราพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ผู้แซ่หลิน”

เหยาซูใช้ผ้าชุบน้ำร้อนบิดให้หมาด เดินมาหาหลินเหราแล้วปลดผ้าที่พันแผลเอาไว้อย่างระมัดระวัง

เถ้าแก่หลิวพยักหน้า ในใจคิดอย่างรวดเร็วว่าบุรุษแซ่หลินเหมาะสมกับสตรีแซ่เหยานัก หลังจากได้ผลลัพธ์ที่ต้องการเขาก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

“มีพี่น้องกี่คนในตระกูลคุณชายหลินหรือขอรับ?”

ผ้าเปื้อนเลือดถูกเหยาซูถอดออกมาแล้ววางไว้ด้านข้าง เผยให้เห็นรอยแผลบาดลึกบนฝ่ามือของหลินเหรา

หลินเหรายังตอบด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ “สาม”

เถ้าแก่หลิวคิดในใจ พี่น้องสามคนก็ดี หากบ้านเกิดปัญหาอะไรพี่น้องก็ยังสามารถช่วยเหลือกันได้

“คุณชายหลินมีบุคลิกที่สุขุม คิดว่าคงเป็นลูกคนโตใช่หรือไม่ขอรับ?”

เหยาซูฟังเถ้าแก่หลินตรวจสอบสํามะโนครัวของหลินเหรา นางจึงรู้ว่าเขากำลังสนใจชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านาง ส่วนนางนั้นหาได้สนใจไม่ เพียงใช้น้ำอุ่นเช็ดคราบเลือดบนแผลของหลินเหรา

หลินเหราพูดขึ้นเสียงจมูกออกมาว่า “อืม”

เถ้าแก่หลิวดีใจอีกครั้ง ลูกชายคนโตของครอบครัวคิดว่าวันหน้าคงมีสิทธิ์มีเสียงมากยิ่งขึ้น ต่อไปจึงเปลี่ยนหัวข้อมาเป็นเรื่องจริงจัง…

“คุณชายหลินยังไม่ได้แต่งงานใช่หรือไม่ขอรับ? ไม่ทราบว่าท่านชอบผู้หญิงประเภทใด?”

เหยาซูเกือบหลุดหัวเราะออกมา แต่หลินเหรากลับพูดขึ้นว่า “มีภรรยาแล้ว”

เถ้าแก่หลิวกำลังยิ้มตาหยีพลางพยักหน้า “ไม่เลว อืม….หืม?..ว่าอย่างไรนะ?”

หลินเหรายังไม่ทันตอบคำถามของเขา เขาก็หันไปมองเหยาซู

“ข้าชอบสตรีเช่นอาซู”

มือของเหยาซูสั่นเทาจนเกือบเทยารักษาแผลจนหมดขวดลงบนฝ่ามือของหลินเหรา

นางไม่ได้เงยหน้าขึ้นและแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน

เถ้าแก่หลิวถึงกับโกรธจนเคราแพะกระตุก ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “ท่านพูดว่าอะไรนะ พูดออกมาอีกครั้งซิ”

ที่บ้านมีภรรยาอยู่แล้ว แต่ยังบอกว่าชอบคุณหนูของเขาต่อหน้าต่อตา แล้วเมื่อครู่ยังหยอกล้อกับคุณหนูอีก?

ช่างน่าละอายเสียจริง

“คุณหนู! โปรดฟังข้า…” เถ้าแก่หลิวเหมือนถูกคนยัดไข่ใส่คอ เขากระอักกระอ่วนแทบจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “คนเช่นนี้ทำไมคุณหนูยังชื่นชอบเขาอีกขอรับ!”

เขาเกือบจะชี้หน้าด่าชายคนนี้แล้ว หากไม่ใช่เพราะหลินเหราเกิดมาแข็งแรงน่าเกรงขาม เถ้าแก่หลิวคงเป็นคนแรกที่เข้าไปชกต่อยเขาอย่างปล่อยเอาไว้ไม่ได้

เหยาซูเห็นเถ้าแก่หลิวกำลังถลึงตาใส่เขา นางจึงหันหน้าไปมองหลินเหรา ดูเหมือนว่าเขายังคงราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขา

นางจึงสัมผัสแขนของหลินเหรา พูดอย่างเหนื่อยใจว่า “หยุดสร้างปัญหาได้แล้ว”

เถ้าแก่หลิวเห็นทั้งสองคนสนิทสนมกันราวกับว่าไม่สนใจผู้คน จึงอยากจะคว้าตัวเหยาซูมาเขย่าไหล่แรง ๆ เพื่อปลุกให้นางตื่น

“คุณหนู เหตุใดท่านจึงถูกเจ้าหน้าขาวผู้นี้ทำให้หลงใหล จิตใจของท่านไม่ได้สติอย่างนั้นหรือขอรับ?”

ในที่สุดหลินเหราก็เล่นจนพอใจแล้วเลิกคิ้วขึ้น “อาซูเป็นภรรยาของข้า ข้าบอกว่าชอบแบบอาซู ก็แสดงว่าข้ารักภรรยาของข้า หาใช่คนนอกใจภรรยาไม่”

ข้อความประโยคดังกล่าว ทำให้เถ้าแก่หลิวเข้าใจโดยพลัน ใบหน้าเหี่ยวย่นของเขาแสดงออกถึงความกระอักกระอ่วนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขารู้สึกแค่ว่าวันนี้เขาเสียหน้าแก่ ๆ ของเขาไปจนหมดสิ้น

“ฮ่า ๆ ๆ ที่แท้ก็ท่านเขยนี่เอง” เขาหัวเราะแห้ง ๆ “เหตุใดคุณหนูไม่บอกข้าก่อนหน้านี้เล่าขอรับ”

เหยาซูพึมพำ “ท่านเองต่างหากเป็นฝ่ายคาดเดามั่ว ๆ..”

นางทำแผลขั้นตอนสุดท้ายเสร็จแล้วจึงพูดกับหลินเหราว่า “พันแผลเสร็จแล้ว ลองขยับดูสิว่ามันแน่นเกินไปหรือไม่?”

หลินเหราดึงมือขวากลับมา “ไม่เป็นไร พันแผลได้ดีมาก”

ตอนนี้เถ้าแก่หลิวมองทั้งสองคนอีกครั้งเห็นได้ชัดว่า นี่เป็นรูปแบบของการอยู่ร่วมกันของสามีภรรยาทั้งใกล้ชิดและเป็นธรรมชาติ…

เขาควรคิดออกนานแล้ว ใครกันที่บอกว่าสามีของคุณหนูตาย? นี่ไม่ใช่ชีวิตที่ดีหรอกหรือ?!

คนนอกนั้นไม่รู้ถึงการหยั่งเชิงและความห่างเหินระหว่างพวกเขา เพียงคิดว่าระหว่างสามีภรรยาคู่นี้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

ในที่สุดเหยาซูก็ทำแผลเสร็จ กำลังจะไล่ให้หลินเหราไปเดินเล่นในตลาด แต่ชายหนุ่มกลับชี้ไปที่แขนเสื้อเปื้อนเลือดของนาง กล่าวออกว่า “อาซู แขนเสื้อของเจ้าสกปรกแล้ว เหตุใดเราไม่ไปซื้อเสื้อผ้าด้วยกัน…”

เถ้าแก่หลิวได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่าตนเองคงต้องพูดอะไรบางอย่างจึงพูดแทรกขึ้นมาว่า “ท่านเขยคงไม่รู้กระมัง ฤดูใบไม้ผลิที่หมู่บ้านของเราจะใส่ชุดเสื้อผ้าตัด แน่นอนว่าจะต้องเป็นขนาดเดียวกันกับร่างกายของคุณหนู ที่ร้านของเราเองก็มีเสื้อผ้าของคุณหนู เหตุใดจะต้องออกไปซื้อที่อื่นเล่าขอรับ”

ร้านขายเสื้อผ้านี้ก็เป็นกิจการส่วนหนึ่งของตระกูลเหยา

ทว่าที่หลินเหราพูดแบบนี้เพราะต้องการจะออกไปพร้อมกับเหยาซู เขาชำเลืองมองเถ้าแก่หลิวอย่างเย็นชา ไม่พูดอะไรอีก

เถ้าแก่หลิวคนนี้เป็นเถ้าแก่มาหลายปี เขาเข้าใจคนรอบข้างเป็นอย่างดี ทว่าเขามักจะขาดความเข้าใจในอารมณ์ของคนที่อยู่รอบตัวเขา

ในขณะเดียวกันเขายังภาคภูมิใจว่าการที่เขาพูดนั้นเป็นความคิดที่ดี เขามองไปที่เหยาซูด้วยความพึงพอใจ แต่กลับรู้สึกหนาวเยือกที่ด้านหลังคออย่างไรชอบกล

เหยาซูรู้สึกว่าเรื่องนี้ช่างน่าขันยิ่งนัก ทว่านางไม่ได้วางแผนที่จะยอมแพ้หลินเหรา นางจึงพูดกับเขาเพียงว่า “ท่านรีบไปรีบกลับเถอะ”

ในขณะที่นางพูดเช่นนั้น นางอยากไปที่ร้านกับเถ้าแก่หลิวจริง ๆ เพื่อดูเสื้อผ้าชุดใหม่ของนาง

หลินเหราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปเดินตลาดเพียงลำพังด้วยสีหน้าเย็นชา

เมื่อเห็นว่าเทพมารจากไป ในที่สุดเถ้าแก่หลิวถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วกระซิบบอกเหยาซูว่า “รังสีของท่านเขยช่างน่ากลัวจริง ๆ ขอรับ”

เหยาซูยิ้ม

นางไม่ได้ตอบโต้ปัญหาหัวข้อนี้ ทว่าพูดถึงจุดประสงค์การมาในเมืองแทน “เถ้าแก่หลิว ข้าได้ทำของเล่นชิ้นเล็ก ๆ เมื่อฤดูหนาวที่ผ่านมา ลองดูสิ”

เมื่อเห็นว่านางพูดถึงการค้า เถ้าแก่หลิวก็รีบพูดขึ้นทัน “ดี ๆ ๆ ใช่สีชาดทาหน้ารอบใหม่หรือไม่ขอรับ?

“ไม่ใช่ นี่เป็นเครื่องประทินผิวทามือทำให้ผิวนิ่มนวล”

เถ้าแก่รู้สึกประหลาดใจครู่หนึ่ง “ข้ารู้จักสีผึ้งทาปาก แต่เครื่องประทินผิวทามือคืออะไรขอรับ?”

เหยาซูไม่รอช้า นางหยิบกล่องขนาดเล็กสองกล่องออกมาและเปิดกล่องที่ใหญ่กว่าเล็กน้อยจากนั้นกล่าวว่า

“นี่คือเครื่องประทินผิวมือสำหรับผู้หญิง ไว้ใช้ในฤดูหนาวหรือฤดูใบไม้ผลิเนื่องจากอากาศแห้งนัก มือของหญิงสาวมักจะไม่ชุ่มชื้นพอ หลังจากล้างมือเสร็จแล้วสามารถทาสิ่งนี้เพื่อป้องกันผิวแตกได้”

เถ้าแก่หลิวฟังแล้วรู้สึกแปลกใจ เขาหยิบเครื่องประทินผิวทามือสีขาวออกมาจากกล่องอย่างระมัดระวัง จากนั้นทาลงไปที่มือ

หลังมือที่หยาบกร้านและแห้งอยู่แล้วกลับกลายเป็นชุ่มชื้นขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ไม่เลวเลยขอรับ!” ดวงตาของเขาเป็นประกาย “ไขทามือนี้มีผลทันทีแล้วยังมีกลิ่นหอมของดอกกุ้ยฮวาด้วย จะต้องขายดีเหมือนสีชาดทาหน้าแน่ ๆ ทำกล่องแบบนี้ออกมาค่าใช้จ่ายสูงหรือไม่ขอรับ?”

………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เถ้าแก่หลิวนี่ตัวฮาตัวขายขำหรือเปล่าคะเนี่ย 555

มีบลัชออนแล้วก็ออกแฮนด์ครีมมาอีก สาว ๆ ในอำเภอเตรียมกระเป๋าฉีกแล้ว

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

Status: Ongoing
เหยาซูเสียชีวิตเนื่องจากเครื่องบินตก ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตนเองได้มาอยู่ในร่างตัวละครหนึ่งในนิยายที่ตัวเองกำลังอ่าน!หญิงสาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกและมาเกิดใหม่ในนิยายยุคโบราณที่ตนเองกำลังอ่าน หลังฟื้นขึ้นมาจึงพบว่าตนเองอยู่ในร่างของ เหยาซู มารดาของวายร้ายทั้งสามในเรื่อง กลายเป็นแม่ม่ายลูกติดโฉมสะคราญที่ผู้คนต่างชี้หน้าบอกว่าเป็นตัวซวยทำให้สามีต้องตาย เมื่อได้ทราบว่าชีวิตของลูก ๆ ต้องเผชิญกับการดูถูก นางจึงทนไม่ไหวเก็บข้าวของหอบลูกกลับบ้านเก่า เริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกและครอบครัวทางแม่ของตน ด้วยคิดว่าหากสั่งสอนลูกดี ๆ พวกเขาคงไม่กลายเป็นตัวร้าย จนกระทั่งวันหนึ่งสามีของนางได้กลับมา พวกเขาจึงได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง แต่แล้วนางก็นึกขึ้นมาได้ว่าตามนิยายต้นฉบับสามีของตนจะตกหลุมรักสตรีอื่น จึงคิดหาวิธีที่จะหย่าขาดกับเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท