หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง – ตอนที่ 144 สร้างความประทับใจ

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

“ทะ…ทำสิ่งใด ? ” หลิวเอ้อร์ล่ายถามด้วยเสียงอ่อนแรง

“เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้าให้เวลาเจ้า 10 วัน จงพรวนดินที่นา 2 หมู่ของเจ้าแล้วปลูกพวกมันฝรั่ง หัวไชเท้า ผักกาดขาวและขึ้นเขาไปเก็บผักป่ากลับมาวันละ 1 ตะกร้า ถ้าทำได้ก็จะพิสูจน์ว่าเจ้าอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองจากใจจริง แต่ถ้าทำไม่ได้…ก็ยังเป็นประโยคเดิมคืออย่าให้ข้าเห็นหน้าเจ้าอีก ! รีบเก็บข้าวของแล้วไสหัวออกไป ! ” หลินเว่ยเว่ยไม่อยากสร้างความลำบากใจให้เขานักหรอก

ทว่าหลิวเอ้อร์ล่ายเป็นใคร ? งานเกษตรกรหรืองานบ้านล้วนไม่เคยเอื้อมมือเข้าไปแตะ ดังนั้นการให้เขาไปจัดการที่นา 2 หมู่ภายใน 10 วันและต้องปลูกผักอีกก็ถือเป็นสิ่งที่พรากอายุขัยเขาไปกว่าครึ่ง !

ในขณะที่คิดจะปฏิเสธก็นึกถึงหลิวว่ายจื่อผู้ไม่เอาไหนยิ่งกว่าตนขึ้นมา หลิวว่ายจื่อได้ขับเกวียนเทียมล่อทุกวัน เดินทางไปมาระหว่างเขตเริ่นอันและหมู่บ้านจนมีรายได้เป็นเงินตำลึงทุกเดือน มีใครในหมู่บ้านไม่มองด้วยความอิจฉาว่า ‘บุตรผู้ไม่ได้ความกำลังกลับใจ’ บ้าง ?

ตัวเขาจะสู้ไม่ได้แม้แต่หลิวว่ายจื่อเลยหรือ ? ไม่ เขาทนไม่ได้หรอก ! อย่าว่าแต่ต้องเสียครึ่งชีวิตเลย แม้ต้องเสียทั้งชีวิต เขาต้องกู้ศักดิ์ศรีคืนมาและทำให้หลินเว่ยเว่ยให้อภัยจงได้ !

ทุกคนในหมู่บ้านล้วนเห็นการเปลี่ยนแปลงของหลิวเอ้อร์ล่าย ในแต่ละวันเขาจะตื่นมาพรวนดินในไร่ตั้งแต่เช้าตรู่และยังหาเวลาว่างตามพวกผู้หญิงขึ้นเขาไปเก็บผักป่าด้วย สิบวันผ่านไปตัวเขาผอมจนเห็นได้ชัด ผิวก็ดำจนลอกไปแล้วหนึ่งชั้น ในที่สุดเขาก็ทำตามความต้องการของหลินเว่ยเว่ยได้แล้ว

ภรรยาของเอ้อร์ล่ายไม่รู้จะขอบคุณหลินเว่ยเว่ยเช่นไรดี ตอนที่หลิวเอ้อร์ล่ายนำข้าวสารไม่กี่ชั่งในบ้านไปเป็นของขวัญเพื่อขอโทษตระกูลหลิน นางได้แต่เก็บซ่อนความแค้นไว้ในใจ แต่คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายไม่รับข้าวสารของบ้านตนไว้ แถมยังทำให้สามีเปลี่ยนเป็นคนขยันได้…ในช่วงสิบวันนี้นางรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน…ถ้าสามีเป็นเช่นนี้ตลอดก็คงวิเศษไปเลย

หลังจากทำงานในไร่เสร็จแล้ว หลิวเอ้อร์ล่ายก็ร้องไห้โดยไร้น้ำตา ขณะจับมือที่เต็มไปด้วยตุ่มน้ำใสของตนก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าวันเวลาต่อจากนี้เขาจะนอนอยู่ที่บ้านสักสองสามวัน…ไม่ว่าใครก็อย่าคิดจะให้เขาทำงานทั้งสิ้น !

“ท่านพี่…ผู้ใหญ่บ้านรวบรวมคนไปขุดคูน้ำ ให้คนทั้งหมู่บ้านตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไปและไม่เกิน 50 ปีไปช่วยทั้งหมด…” ภรรยาเอ้อร์ล่ายใช้เข็มลนไฟที่ตะเกียงเพื่อเจาะตุ่มน้ำบนมือให้สามี

“ขุดคูน้ำหรือ ? เกี่ยวอันใดกับข้าด้วย ? ” หลิวเอ้อร์ล่ายนอนอยู่บนเตียงราวกับสุนัขตัวหนึ่งที่ตายไปแล้ว

ภรรยาเอ้อร์ล่ายจึงพูดอย่างระมัดระวัง “หลินเว่ยเว่ยบอกว่าจะสร้างกังหันวิดน้ำเพื่อดึงน้ำลงมาจากภูเขาแล้วถ้าวันหน้าเผชิญภัยแล้งอีกจะได้ไม่ต้องไปหาบน้ำลงมาจากบนเขาแล้ว…”

“ว่าอย่างไรนะ ? กังหันวิดน้ำ ? ถ้าดึงน้ำลงมาจากบนเขาได้ คนรุ่นก่อนไม่ทำตั้งนานแล้วหรือ ? ยังต้องรอให้ถึงตอนนี้ทำไม ? ใครอยากไปก็ช่าง ! ” หลิวเอ้อร์ล่ายกำลังคิดว่าจะเอาเงินก้อนโตของที่บ้านออกมาได้หรือไม่ เพราะจะไปเล่นพนันกับพวกผู้ชายในหมู่บ้านให้สบายใจเสียหน่อย

ภรรยาเอ้อร์ล่ายมองเขาปราดหนึ่ง หลังจากนั้นก็รีบก้มหน้าทันทีแล้วกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา “แต่…ผู้ใหญ่บ้านกล่าวไว้ว่าหากบ้านไหนไม่ออกแรงช่วยขุดคูน้ำก็จะไม่ให้บ้านนั้นใช้น้ำในคู…แปลงนาบ้านเราอยู่ไกลจากเชิงเขามาก ถ้า…”

“ไม่ใช้ก็ไม่ใช้สิ ! บ้านเรามีที่ดินแค่ 2 หมู่ การหาบน้ำจะทำให้เจ้าเหนื่อยตายหรือไร ?…ช้าก่อน เมื่อครู่เจ้าพูดว่า…ใครจะสร้างกังหันวิดน้ำและขุดคูน้ำ ? ” จู่ ๆ หลิวเอ้อร์ล่ายก็ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วจ้องเขม็งมาที่ภรรยา

ภรรยาเอ้อร์ล่ายเข้าใจผิดว่าเขาจะทุบตีนางอีกจึงรีบยกมือปิดหน้าแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงของคนร้องไห้ “ไม่ไปก็ไม่ไป ข้าหาบน้ำ…ข้าหาบน้ำเองก็ได้ พอใจหรือยัง ? ”

หลิวเอ้อร์ล่ายรีบดึงมือของนางออกแล้วเขย่าไหล่ทั้งสองข้างของนาง “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าหลินเว่ยเว่ยเป็นคนออกความเห็นให้ขุดคูน้ำหรือ ? ข้าไม่ได้ฟังผิดใช่หรือไม่ ? ”

ภรรยาเอ้อร์ล่ายพยักหน้าด้วยความสั่นเทา หลังจากหดคอแล้ว นางก็ใช้หางตาแอบมองสามี

หลิวเอ้อร์ล่ายกัดฟันครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็กล่าวว่า “นางตัวแสบนั่นอยากทรมานข้าถึงตาย ! ข้าไม่ทนทำต่อแล้ว ! อยากทำสิ่งใดก็ช่างเถิด ! ” ขณะที่กล่าวเขาก็ทุบเตียงอย่างแรง

ภรรยาเอ้อร์ล่ายตัวสั่นสะท้าน นางรีบถอยออกไปหลายก้าวทันที “ข้า…ท่านหิวหรือไม่ ประเดี๋ยวข้าออกไปต้มผักให้ท่าน…”

ครอบครัวของหลิวเอ้อร์ล่ายเป็นเหมือนครอบครัวส่วนใหญ่ในหมู่บ้านคือแต่ละวันกินข้าวได้แค่สองมื้อ เจ้าผักต้มก็มีไว้ให้หลิวเอ้อร์ล่ายได้เพลิดเพลินในยามค่ำคืนเพียงคนเดียว แม้แต่เด็กสองคนที่อยู่ในบ้านก็ไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้

หลิวเอ้อร์ล่ายนอนอยู่บนเตียงราวกับแผ่นแป้งทอด เขาพลิกตัวไปมาและทันใดนั้นก็ลุกขึ้นนั่งพลางบ่นพึมพำว่า “ไม่ได้ ! ถ้าไม่ไปล่ะก็นางตัวแสบต้องมาเลาะกระดูกข้าแน่ เช่นนั้นความลำบากที่ข้าฝืนทนมาก่อนหน้านี้ก็จะสูญเปล่าไม่เหลือชิ้นดี ให้ตายเถิด ! หลินเว่ยเว่ยหาเรื่องใส่ตัว ถ้าดึงน้ำลงมาไม่ได้ ข้าจะดูว่านางยังมีหน้าไปเผชิญกับคนทั้งหมู่บ้านหรือไม่ ! ”

วันรุ่งขึ้นหลิวเอ้อร์ล่ายก็ลากสังขารอันเหนื่อยล้าของตนมารวมตัวกับพวกชาวบ้านที่จะขุดคูน้ำ เขาเพิ่งได้หยุดยืน ไหล่ก็ถูกสะกิดและเมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นหลิวว่ายจื่อที่กำลังถือพลั่วอยู่ในมือ

“เจ้า…โดนแม่บังคับมาหรือ ? ที่นาไม่กี่หมู่ของบ้านเจ้าคิดจะปลูกใหม่หรือ ? ” พอเห็นหลิวว่ายจื่อก็มาขุดคูน้ำเหมือนกัน เอ้อร์ล่ายก็รู้สึกดีขึ้นมาก

หลิวว่ายจื่อตอบพร้อมรอยยิ้ม “จะปลูกไปเพื่อสิ่งใด ? เหนื่อยจะตายไป ทำทั้งปีก็เติมท้องไม่อิ่ม ข้ามาเพื่อสร้างความประทับใจให้หลินเว่ยเว่ย ! เอ้อร์ล่าย อย่าว่าข้าเตือนเจ้าเลยนะ ทำให้ดี ๆ ทำให้ทุกคนเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเจ้า กลายเป็นบุตรไม่ได้ความผู้กลับใจ รอให้คราวหน้ามีโอกาสแล้ว ข้าจะพูดถึงเจ้าต่อหน้าหลินเว่ยเว่ยให้ ! ”

หลังได้ยินเช่นนั้นหลิวเอ้อร์ล่ายที่เดินตัวงอด้วยความเหนื่อยล้าก็ยืดอกตัวตรงแล้วถือพลั่วเข้ามาร่วมการขุดคูน้ำพร้อมพลังอันเต็มเปี่ยมทันที ทว่าหลิวว่ายจื่อก็ลากเขาออกมาเงียบ ๆ แล้วพาไปยังแปลงนาของตระกูลหลิน

หลิวเอ้อร์ล่ายทำท่าทางเข้าใจความหมายของอีกฝ่าย เจ้าใช้ได้จริง ๆ นะหลิวว่ายจื่อ เรื่องประจบสอพลอนี้เจ้ามีมากกว่าข้า ! ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลินเว่ยเว่ยจะมองข้ามคนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวแล้วแนะนำให้หลิวว่ายจื่อได้ทำงานในเมืองแทน ! สิ่งที่ข้าต้องเรียนรู้จากเจ้ายังมีอีกมาก !

หลิวเอ้อร์ล่ายถุยน้ำลายลงฝ่ามือ หลังจากนั้นก็เริ่มจับพลั่วขุดดิน

การขุดคูน้ำก็ไม่ได้ทำแบบมั่วซั่วเพราะหลินเว่ยเว่ยได้ทำตามภาพวาดของบัณฑิตหนุ่ม นางโรยขี้เถ้าเป็นเส้นไว้บนพื้นให้แต่ละบ้านเห็นว่าเริ่มขุดจากตรงไหนหรือกว้างเท่าไหร่ ต้องขุดไปทางใดล้วนถูกวางรายละเอียดไว้หมดแล้ว

หลินเว่ยเว่ยมองบัณฑิตหนุ่มด้วยสายตาเป็นประกาย…ว้าว ! เจ้าหนุ่มน้อยต้องเป็นนักประดิษฐ์แน่นอน เขาไม่เพียงหล่อเหลาเท่านั้น ยังฉลาดและมีความรู้มากด้วย ! ร้ายกาจจริง ๆ บัณฑิตน้อยของข้า !

เจียงโม่หานแสร้งทำใจเย็นอย่างเต็มที่ เขาแกล้งทำเป็นไม่เห็นแววตา ‘เลื่อมใส’ ของนาง…ฮึ ! เด็กตัวแสบ ชอบเห็นเสือร้ายเป็นแมวป่วย ตอนนี้รู้ถึงความเก่งกาจของพี่ชายแล้วหรือยัง ?

แค่กแค่ก ก็แค่ระบบชลประทานของหมู่บ้านเล็ก ๆ เท่านั้น มีสิ่งใดให้น่าโอ้อวด ! พอนึกถึงตนเองในชาติที่แล้ว แม้จะถูกฮ่องเต้มองเป็นคมดาบที่เอาไว้กำจัดเหล่าผู้ขวางทาง แต่เขาก็สร้างคุณประโยชน์แก่บ้านเมืองไว้หลายอย่าง แค่เรื่องขุดคูน้ำนี้ไม่คู่ควรให้กล่าวถึงด้วยซ้ำ !

ต่อจากนั้นผู้ใหญ่บ้านก็พาคนหนุ่มและชายวัยกลางคนทั้งหมดมาทำงานภายใต้ขอบเขตที่หลินเว่ยเว่ยวาดไว้ แน่นอนว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างขุดคูน้ำตรงที่นาของบ้านตนเองก่อนเพราะกลัวว่าหลังจากกังหันวิดน้ำสร้างเสร็จแล้ว หรือน้ำไหลมาตามท่อไม้ไผ่แล้ว คูน้ำยังขุดไม่เสร็จก็จะรดน้ำในแปลงนาล่าช้า

ตอนต่อไป

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

Status: Ongoing
นักศึกษาเรียนดีจากวิทยาลัยเกษตรทะลุมิติมาเป็นเด็กสาวชาวนาผู้โง่เขลาและมีนิสัยป่าเถื่อน บิดาก็ตาย มารดาก็อ่อนแอ น้องชายดันมาตีตัวออกห่าง ส่วนพี่สาวก็มักจะคิดว่าเธอเป็นภาระเสมอ แต่โชคดีที่เธอมีมิติน้ำพุวิญญาณอยู่ในมือ เธอทั้งกลายเป็นนักล่าหมูป่า ทำให้ฝูงหมาป่าตกใจ ใช้น้ำพุวิญญาณมาปลูกพืชพันธุ์จนได้ผลผลิตดีงาม ทำสวนก็ได้ผลผลิตดี เลี้ยงสัตว์ก็เติบโต ไหนจะเสน่ห์ปลายจวักอีก เด็กโง่เขลาคนนี้นี่แหละจะนำพาทั้งครอบครัวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองเอง ! ทว่าบัณฑิตหนุ่มหน้าหวานจอมหยิ่งคนข้างบ้านเนี่ย คิดว่าตัวเองหล่อแล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไง ? คิดว่าเป็นขุนนางแล้วใครจะทำอะไรไม่ได้หรือ ? สุดท้ายก็ถูกเด็กโง่คนนี้กำราบไม่ใช่หรือไง ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท