ตอนที่ 498 พี่ใหญ่คนนี้ยังสู้ขนมของเจ้าไม่ได้
หลินเว่ยเว่ยครุ่นคิด “พวกเราไปซื้อฝูหลิง1 ที่ร้านยาหน่อยก็แล้วกัน จะได้เอาไปทำ ‘ขนมซานเย่าฝูหลิง2’ ! ซานเย่า (กลอยจีน) มีฤทธิ์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในม้ามและช่วยย่อยอาหาร ถ้ากินคู่กับฝูหลิงเป็นประจำจะส่งผลดีต่อม้ามและกระเพาะอาหาร ช่วยทำให้จิตใจสงบ บำรุงเลือดลม บำรุงม้ามและกระเพาะอาหาร เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีม้ามและกระเพาะอ่อนแอที่สุด ! ”
“เยี่ยมไปเลย ! พี่หลิน ท่านสอนข้าทำเจ้านี่เถิด ! ” ติงหลิงเอ๋อร์ยิ้มสดใสกว่าเดิม นางรู้ว่าไม่มีขนมใดที่พี่หลินทำไม่ได้ ! การเกาะพี่ใหญ่ออกมาจากบ้านวันนี้ เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดมาก !
ตอนซื้อวัตถุดิบและสมุนไพร ติงหลิงเอ๋อร์เลือกตามหลินเว่ยเว่ยและซื้อแต่ละอย่างเพิ่มอีกสองสามชุด นางไม่ได้มีพรสวรรค์เหมือนพี่หลิน แต่พอลองทำหลายครั้งเข้าหน่อย นางจะต้องทำสำเร็จแน่นอน ! ‘ซูเฟล’ ที่นางทำเมื่อคราวก่อน ท่านแม่ก็ชมตั้งหลายประโยค !
เด็กสาวทั้งสองเลือกซื้อวัตถุดิบกันอย่างสนุกสนานและกลับมายังบ้านเช่าของหลินเว่ยเว่ยด้วยความสุข ตอนผลักประตูบ้านให้เปิดออกแล้วเห็นลานบ้านที่เงียบสงบ หลินเว่ยเว่ยก็บ่นพึมพำขึ้นว่า “เราลืมอะไรไปหรือเปล่า ? ”
ติงหลิงเอ๋อร์เริ่มตรวจสอบวัตถุดิบที่สาวใช้ถือไว้ข้างหลังอย่างระมัดระวัง หลังยืนยันเรียบร้อยแล้วนางก็ส่ายหน้า “ไม่ลืม ! ที่พี่หลินบอก พวกเราก็ซื้อกันมาหมดแล้ว ไม่ได้ลืมอะไร…กระมัง ? ”
หลินเว่ยเว่ยมองพุทราแดงในมือ ทันใดนั้นนางก็นึกถึงบัณฑิตน้อยที่ชอบกินของหวาน นางตบหน้าผากตัวเอง แล้วพูดกับติงหลิงเอ๋อร์ว่า “เหมือนเราจะลืมพี่ชายของเจ้า แล้วก็บัณฑิตน้อยกับน้องชายของข้าไว้ที่ร้านหนังสือ ! ”
ในที่สุดติงหลิงเอ๋อร์ก็สังเกตเห็นว่าข้างกายขาดใครบางคนไป ทว่าเด็กคนนี้พูดจาอย่างไร้หัวใจ “ไม่เป็นไรหรอก พวกเขามีขา จะหาทางกลับบ้านไม่เจอหรือ ? พี่หลิน เราอย่าสนใจพวกเขาเลย มาทำขนมกันเถิด ! ”
ติงหยูเจินที่เพิ่งก้าวเข้ามาในลานบ้านก็ถึงขั้นพูดไม่ออก “…”
เพิ่งทราบว่าพี่ใหญ่คนนี้ยังสู้ขนมของเจ้าไม่ได้ ! ไม่น่าเป็นห่วงเด็กตัวแสบผู้ไร้มโนธรรมคนนี้เลย !
“ข้าสอนเจ้าทำเค้กพุทราแดงก่อนแล้วกัน ! เค้กพุทราแดงช่วยบำรุงม้ามและกระเพาะอาหาร ทั้งยังช่วยบำรุงเลือดลม นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอยก่อนวัยอันควร ! ผู้สูงอายุที่มีม้ามและกระเพาะอาหารอ่อนแอหรือสตรีที่ชอบความงาม พอกินแล้วจะมีผลที่คาดไม่ถึงรออยู่ ! ”
“ว้าว ! พี่หลินมีความรู้กว้างขวาง เวลาพูดอะไรมีเหตุมีผลตลอด ! ” ติงหลิงเอ๋อร์มองหลินเว่ยเว่ยด้วยดวงตาเป็นประกาย ท่าทางรักและเคารพไม่ปิดบังแต่อย่างใด
หลินเว่ยเว่ยมอง ‘แฟนคลับ’ ตัวน้อยด้วยรอยยิ้ม “ยาบำรุงไม่สู้อาหารบำรุง เมื่อก่อนท่านแม่ของข้าก็สุขภาพย่ำแย่ แต่ตอนนี้เป็นเหมือนคนปกติไม่ผิดเพี้ยน ต้องยกความดีความชอบให้อาหารที่มีสรรพคุณทางยาและขนมที่เหมาะสมกับตัวนางซึ่งข้าทำให้กินเป็นประจำ”
ติงหลิงเอ๋อร์พยักหน้า “ตอนท่านแม่ให้กำเนิดข้าก็มีสุขภาพย่ำแย่ ต้องกินยานานหลายปี แม้จะดีขึ้นแล้ว แต่หากข้ารู้จักพี่หลินเร็วกว่านี้ก็คงจะดี ท่านแม่จะได้ไม่ต้องทนกินยาขม…”
“เจ้าเรียนทำอาหารที่มีสรรพคุณทางยากับขนมไปสักสองสามชนิด แสดงความกตัญญูตอนนี้ก็ยังไม่สาย ! ” หลินเว่ยเว่ยชอบเด็กสาวที่ทั้งกตัญญูและไร้เดียงสาคนนี้มาก “มาเถิด เจ้าเอาเมล็ดพุทราออกก่อน ล้างให้สะอาด แล้วนำไปนึ่ง หลังนึ่งจนสุกแล้วก็เอาเปลือกพุทราออกให้หมด ไม่อย่างนั้นจะส่งผลต่อรสชาติ ! ”
ติงหลิงเอ๋อร์ให้สาวใช้พับแขนเสื้อของตนขึ้น จากนั้นก็ทำตามที่หลินเว่ยเว่ยบอก พอเจอเรื่องที่ไม่เข้าใจ นางก็หยุดและถามจนกระจ่าง
หลินเว่ยเว่ยยังโบกมือเรียกหลินจื่อเหยียน “มานี่ มาบดฝูหลิงให้เป็นผง…”
พอหยาเอ๋อร์เห็นแบบนั้นก็รีบพูดว่า “นายหญิงรอง ให้ข้าน้อยทำดีกว่า…”
หลินเว่ยเว่ยห้ามอีกฝ่าย “เจ้าไปล้างซานเย่าให้สะอาด หลังนึ่งเสร็จแล้วก็เอามาปอกเปลือก จากนั้นก็บดจนได้เนื้อเนียน…”
ติงหยูเจินไปบ้านสกุลหลินหลายรอบ จึงรู้ว่าเวลาพวกนางทำขนมแล้วทุกคนในบ้านจะมาช่วยกันทำ เขาจึงไม่อยากนั่งรอขนมอยู่ข้างเตาเฉย ๆ “มีอะไรให้ข้าทำหรือเปล่า ? ”
หลินเว่ยเว่ยครุ่นคิด “บ้านของพวกท่านมีนมวัวหรือไม่ ? ท่านรู้ว่าจะหาซื้อนมวัวได้จากที่ไหนหรือเปล่า ? ”
ติงหยูเจินพยักหน้า “ตั้งแต่น้องเล็กหลงใหลในการทำขนม บ้านเราก็จะฝากฝังให้คนซื้อนมวัวกลับมาเสมอ แต่เด็กคนนี้ทำอะไรไม่ได้นานก็ล้มเลิก ทำขนมไปแค่สองครั้ง นมวัวที่ได้มาในแต่ละวันจึงต้องเอาไปต้มเพื่อดื่มแทน ! ”
“ใครบอกว่าข้าทำอะไรได้ไม่นานก็ล้มเลิก ? เป็นเพราะขนมที่ข้าสามารถทำได้ คนในบ้านก็กินจนเบื่อแล้วต่างหาก คราวนี้ข้าจะเรียนกับพี่หลินสักสองสามชนิด จะได้สลับกันทำ ! อีกอย่างคือนมวัวก็ไม่ได้เททิ้ง พี่หลินบอกว่าดื่มนมช่วยเพิ่ม ‘แคลเซียม’ ได้ และยังทำให้ตัวสูงด้วย ! ” ติงหลิงเอ๋อร์มุ่ยปากพลางหันไปมองพี่ชายด้วยความไม่พอใจ…ท่านทำให้ข้าเสียภาพลักษณ์ต่อหน้าผู้เป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิตของข้าได้อย่างไร ?
หลินเว่ยเว่ยเห็นด้วย “ใช่แล้ว ดื่มนมวันละแก้ว ส่งผลดีต่อสุขภาพ ! รบกวนคุณชายใหญ่ติงช่วยกลับไปหยิบนมวัวมาให้ข้า อีกประเดี๋ยวจะต้องได้ใช้”
“ไม่รบกวนเลย ! ” ติงหยูเจินขึ้นไปนั่งบนรถม้าของบ้านตนแล้วกลับไปเอานมวัวตามคำสั่ง
ภายใต้การช่วยเหลือของหลินเว่ยเว่ย ติงหลิงเอ๋อร์ก็นึ่งพุทราแดงให้สุกได้อย่างรวดเร็ว หลินเว่ยเว่ยให้นางใช้ช้อนบดเนื้อพุทรา ผ่านไปไม่นานนมวัวก็มาถึง พุทราบดผสมเข้ากับนมวัวและน้ำผึ้งในปริมาณที่เหมาะสม หลังผสมให้เข้ากันแล้วก็ยังเติมน้ำตาล แป้งสาลีสำหรับทำขนมแล้วคนให้เข้ากัน
ทาน้ำมันลงด้านในถาดหนึ่งชั้น จากนั้นค่อยเทแป้งที่ผสมแล้วลงในถาด ปิดทับด้านบนด้วยกระดาษน้ำมันเจาะรูสองสามรูแล้วนึ่งทิ้งไว้ประมาณ 2 เค่อ
หลังจากครบเวลา 2 เค่อ แล้วเค้กพุทราแดงกลิ่นหอมหวานก็ออกจากหม้อนึ่ง หลินเว่ยเว่ยเป็นคนนำเค้กพุทราแดงออกจากถาดแล้วพักให้เย็นบนเขียงไม้ นางตัดแบ่งและหยิบขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วยื่นให้ติงหลิงเอ๋อร์ “รีบชิมว่ารสชาติเป็นอย่างไร ? ”
ติงหลิงเอ๋อร์กัดชิมหนึ่งคำ หลังชิมรสจนละเอียดแล้วนางก็พยักหน้ารัว ๆ ทันที “เนื้อนุ่ม หวานหอม รสสัมผัสนุ่มลิ้น หวานกำลังพอดี ฝีมือพี่หลินยังจะออกมาแย่ได้อย่างไร ? พี่หลิน ท่านก็ชิมสิ”
ขณะพูด นางก็บิเค้กพุทราแดงในมือเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วยื่นให้พี่ชายคนโต ส่วนชิ้นใหญ่เก็บไว้กินเอง
ติงหยูเจิน “…” เจ้าช่างเป็นน้องสาวที่แสนดีเหลือเกิน !
หลินเว่ยเว่ยก็ยื่นให้บัณฑิตน้อยหนึ่งชิ้น บัณฑิตน้อยดูท่าทางเย็นชาแต่ชอบกินขนมหวานและอาหารรสเผ็ด โดยเฉพาะขนมหวาน ตั้งแต่ลงจากเรือก็มีข้อจำกัดมากมาย นางจึงไม่ได้ทำขนมหวานให้เขากินหลายวันแล้ว
เจียงโม่หานปัดฝุ่นในมือ จากนั้นยื่นแม่พิมพ์ที่เพิ่งแกะสลักเสร็จแล้วให้นาง หลังจากล้างมือให้สะอาดก็รับเค้กพุทราแดงมาถือไว้แล้วเริ่มกัดกินอย่างสง่างาม
ในเวลานี้ ณ ต้นไม้ที่มีกิ่งก้านและใบหนาแน่นต้นหนึ่งของละแวกใกล้เคียงก็เหมือนจะสั่นไหวเพราะแรงลม จนส่งเสียงของกิ่งที่เสียดสีกันไปมา เขาเงยหน้ามองต้นไม้ต้นนั้น แต่แล้วก็กลับมาก้มหน้าก้มตากินเค้กพุทราแดงต่อ แม้ว่าเค้กพุทราแดงจะมีรสชาติไม่เลว แต่ก็สู้กลิ่นหอมของขนมที่อบจากเตาอบไม่ได้อยู่ดี
หมินอ๋องที่ซ่อนอยู่บนต้นไม้ก็เผลอทอดถอนพระทัยเฮือกใหญ่…คงไม่โดนจับได้หรอกกระมัง ? เป็นไปไม่ได้ ! เมื่อก่อนเวลาสอดแนมอยู่ในสนามรบ ศัตรูที่มีประสบการณ์มากมายขนาดนั้นยังไม่เห็นพระองค์เลย แล้วบัณฑิตหน้าขาวที่ไร้วรยุทธคนหนึ่งจะสังเกตเห็นการมีอยู่ของพระองค์ได้อย่างไร ? จังหวะที่บัณฑิตหน้าอ่อนมองมาก็จะต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่นอน !
เค้กพุทราแดงส่งกลิ่นหอมหวานลอยมาตามสายลม หมินอ๋องสูดหายใจเข้า…เพื่อจะได้มาเห็น ‘บุตรสาว’ ได้มากขึ้นอีกหน่อย พระองค์ถึงขั้นต้องอดทนต่ออาหารเลิศรสชนิดต่าง ๆ ทุกครั้ง เป็นอ๋องก็ลำบากเช่นกัน !
[i]
1 ฝูหลิง เป็นสมุนไพรรสจืด สรรพคุณช่วยขับน้ำและความชื้น ช่วยส่งเสริมการทำงานของม้าม
2 ขนมซานเย่าฝูหลิง คือ ขนมที่ทำจากซานเย่า (กลอยจีน) บดผสมผงฝูหลิงและน้ำตาล นวดด้วยน้ำหรือนมสดจนเข้ากัน จากนั้นนำไปนึ่งสุก จะสอดไส้ถั่วแดงก็ได้