ตอนที่ 566 จิวยี่ทำอุบายเฆี่ยนอุยกาย คนหนึ่งยินดีลงแส้ คนหนึ่งยินดีรับ
โม่ชิงหลีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ตอนนี้ไม่มีคนมาคอยขัดแล้ว ! ” หลังจากพูดจบ เด็กสาวทั้งสองก็หันมามองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม
องค์หญิงเจียวเจียวลงมือทำแผ่นแป้งเครปก่อน ตอนที่มองหลินเว่ยเว่ยทำ ท่าทางเหมือนจะง่ายมาก แต่เมื่อมาถึงสิบนิ้วที่ไม่เคยสัมผัสกับความยากลำบากมาก่อนของตน กลับไม่อาจทำภารกิจให้สำเร็จได้…ถ้าแผ่นแป้งเครปไม่หนาจนน่าตกใจ ก็บางจนแทบจะโปร่งแสง หลังฝืนทำอยู่ครึ่งวัน ท้ายที่สุดนางก็ทำแบบที่ใช้งานจริงไม่ได้เลยสักแผ่น !
โม่ชิงหลีก็ลองทำอยู่พักหนึ่ง นิ้วก็โดนลวกและทำไม่สำเร็จเช่นกัน หลินเว่ยเว่ยอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า “ไม่เป็นไร งานนี้ให้สาวใช้ทำก็ได้ พอถึงขั้นตอนสุดท้ายพวกเจ้าคอยอยู่คุมก็พอ ! แยมหลานเหมย (บลูเบอร์รี่) นี้สามารถแทนที่ด้วยแยมเฉ่าเหมย (สตรอเบอร์รี่) ลูกท้อเชื่อมน้ำผึ้ง…องค์หญิงเจียวเจียว แดนใต้เคยส่งผลไม้บรรณาการรูปร่างเหมือนหยกรูปลูกน้ำ (มากาทามะ) และเปลือกมีสีเหลืองมาบ้างหรือเปล่า ? ”
“มีสิ ! ทำไมหรือ ? ” องค์หญิงเจียวเจียวเอียงศีรษะมองนาง
หลินเว่ยเว่ยพูดต่อ “เจ้านั่นเรียกว่ามะม่วงใช่หรือเปล่า ? หากใส่เนื้อของมันลงไปก็จะกลายเป็นเครปเย็นไส้มะม่วง ส่วนของที่เราทำตอนนี้สามารถตั้งชื่อว่า ‘เครปเย็นไส้หลานเหมย’ ถ้ามีทุเรียนก็คงดี เครปเย็นไส้ทุเรียนจึงจะเป็นรสที่ข้าชอบที่สุด ! ”
“ทุเรียน ? ทุเรียนคืออะไร ? เป็นผลไม้หรือ ? ผลไม้ที่มีอยู่ทางภาคเหนือ ? อร่อยหรือเปล่า ? ” องค์หญิงเจียวเจียวคิดว่าตนต่างหากที่เป็นเด็กบ้านนอกเข้าเมืองหลวง วันทั้งวันต้องโดนกำแพงสี่เหลี่ยมรอบทิศของวังหลวงกักขังไว้ นางอยากออกไปดูโลกกว้างสุด ๆ หรือแม้จะเหมือนจวิ้นจู่ตำหนักหนิงอ๋องที่ต้องทนลำบากนั่งเรือจากเหนือลงใต้ อย่างน้อยนางก็ได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์สองฟากฝั่ง !
หลินเว่ยเว่ยหัวเราะ “ทุเรียนน่ะหรือ มันก็เป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง…ข้าก็ได้ชิมโดยบังเอิญเท่านั้น แต่ข้าชอบหรือรักมันเลยก็ว่าได้ ส่วนคนที่ไม่ชอบก็แทบจะวิ่งหนีเชียวล่ะ…เครปเย็นไส้หลานเหมยของข้าเสร็จแล้ว ใครจะลองชิมก่อน ? ”
เด็กสาวทั้งสองยกมือพร้อมกัน “ข้า ! ”
“ไม่ต้องรีบ มีให้ทุกคน ! ” หลินเว่ยเว่ยหยิบจานใบน้อยมาแบ่งใส่เครปให้พวกนางคนละชิ้น ก่อนจะยื่นช้อนคันเล็กให้พวกนางต่อ หลังลองครุ่นคิดแล้วนางก็ยังตัดแบ่งให้เป็นสองชิ้นเล็กและเรียกชุนซิ่งเข้ามา “เอาไปให้ท่านย่ากับหมู่เฟยคนละชิ้น ! ”
“อร่อย ! ” องค์หญิงเจียวเจียวและโม่ชิงหลีใช้ช้อนคันเล็กตักขนมเข้าปาก ว้าว ! วิปครีมมีรสสัมผัสนุ่มเนียน แป้งเครปมีกลิ่นของนม แยมหลานเหมยก็หอมมาก การแทรกหลานเหมยอบแห้งยังช่วยเพิ่มรสสัมผัสเคี้ยวหนึบสู้ฟันได้มากกว่าเดิม รสชาติดีมาก !
หลินเว่ยเว่ยเห็นว่ายังมีวิปครีมเหลืออยู่ จึงทำเค้กครีมสี่เหลี่ยมอีกสองสามชั้น เค้กไข่รสนุ่มลิ้น ด้านบนทาด้วยวิปครีมหวานหอมและในชั้นเค้กแต่ละชั้นจะปาดแยมหลานเหมยลงไปด้วย ด้านบนสุดประดับประดาไปด้วยบุปผาสีม่วงอ่อน…นี่ยังใช่ขนมที่ไหนกัน เป็นงานศิลปะชั้นยอดชัด ๆ องค์หญิงเจียวเจียวและโม่ชิงหลีตาค้างในทันที
หลินเว่ยเว่ยไม่เพียงสอนเด็กสาวทั้งสองทำขนมเท่านั้น นางยังชี้แนะให้พวกนางเรียนทำอาหารคนละอย่างด้วย องค์หญิงเจียวเจียวเรียนทำไข่ตุ๋นกุ้ง ส่วนโม่ชิงหลีเรียนทำเนื้อสันในทอด พวกนางอยู่รับประทานอาหารเที่ยงต่อที่ตำหนักหมินอ๋อง กินอาหารที่ตัวเองทำจนหมด หรือแม้แต่โม่ชิงหลียังคิดจะห่อเนื้อสันในที่ทอดเองกลับไปให้บิดามารดาได้ชิมด้วย !
แม่นมหนิงและจื่อเซียงมองหน้ากันไปมา นิ้วขององค์หญิงและจวิ้นจู่ของตัวเองไม่เคยผ่านความลำบากมาก่อน ตอนอยู่ในบ้านแม้แต่ผลไม้ก็ยังมีสาวใช้ป้อนถึงปาก ไฉนเลยจะเคยทำตัวติดดินเช่นนี้ ? ลงมือทำขนมด้วยตัวเองและสัมผัสกับความสุขจากอาหารที่ทำเอง ทว่าแม้จะโดนองค์หญิงเว่ยเว่ยสั่งให้ทำโน้นทำนี่ แต่เด็กสาวทั้งสองก็ดูมีความสุข นี่ไม่ได้เรียกว่า จิวยี่ทำอุบายเฆี่ยนอุยกาย1…คนหนึ่งยินดีลงแส้ คนหนึ่งยินดีรับหรอกหรือ ?
ช่วงหัวค่ำ องค์หญิงเจียวเจียวและจวิ้นจู่แห่งตำหนักหนิงอ๋องยังไม่หายอาลัยอาวรณ์ ยังอยากอยู่ตำหนักหมินอ๋องต่อ ในมือของพวกนางมีกล่องอาหารใบเล็กอยู่ ด้านในใส่เครปเย็นไส้หลานเหมยที่ทำเองแล้วก็ยังมีเค้กครีมแต่งดอกไม้จากวิปครีมที่ลองบีบเป็นครั้งแรกอีกด้วย…ถึงแม้ดอกไม้จะบิดเบี้ยวไปหน่อยก็เถิด…
“หมู่โฮ่วเพคะ ! ” เมื่อกลับถึงวังหลวง องค์หญิงเจียวเจียวก็ปฏิเสธนางกำนัลที่จะเข้ามาช่วยถือกล่องอาหาร นางปกป้องขนมของตัวเองอย่างระมัดระวังขณะวิ่งตรงไปที่ตำหนักคุนหนิง
ฮองเฮาและฮ่องเต้หยวนชิงกำลังสนทนากันอยู่ องค์รัชทายาทก็อยู่ด้วย เมื่อเห็นนางวิ่งเข้ามาด้วยความดีใจก็มีเสียงพูดขึ้นว่า “ช้าหน่อย ระวังจะล้มเอาได้ ทำไม ? ไปเล่นที่ตำหนักหมินอ๋องมีความสุขมากเลยหรือ ? ”
“มีความสุข มีความสุขมากเลยเพคะ ! ลูกเรียนทำเครปเย็นไส้หลานเหมยแล้วก็ยังทำไข่ตุ๋นกุ้งเองด้วยเพคะ…วันหลังลูกจะไปที่ห้องเครื่องแล้วทำให้พวกพระองค์เสวย ! ทอดพระเนตรสิเพคะ นี่คือเครปเค้กไส้หลานเหมยที่ลูกทำเอง ! แม้หน้าตาจะไม่งดงามแต่อร่อยมากเลย ! ฟู่หวง หมู่โฮ่ว ท่านพี่รัชทายาท ลูกจะตัดแบ่งให้พวกพระองค์ลองชิมเพคะ ! ” โอษฐ์น้อย ๆ ขององค์หญิงเจียวเจียวขยับไม่หยุด นางมีความสุขเหมือนนกน้อยที่ได้โบยบิน
องค์รัชทายาทแย้มพระโอษฐ์ “เหตุใดต้องให้เจ้าทำ ให้นางกำนัลไปตัดก็ได้แล้ว ? ”
“ไม่ได้เพคะ ! หากนางกำนัลทำเครปเย็นที่หม่อมฉันทำด้วยความยากลำบากเละขึ้นมาล่ะเพคะ ? ” องค์หญิงเจียวเจียวไม่ยืมมือผู้ใด นางตัดเครปเย็นไส้หลานเหมยเป็นหกชิ้นขนาดเล็ก ๆ และไม่ค่อยงดงาม จากนั้นก็สั่งให้ขันทีน้อยไปหยิบชุดรับประทานอาหารว่างเข้ามา
ขณะที่ขันทีน้อยวิ่งไปหยิบชุดรับประทานอาหารว่างที่ห้องเครื่อง นางก็มองเค้กครีมชิ้นน้อยในกล่องอาหารด้วยความภาคภูมิใจ “หมู่โฮ่วทอดพระเนตรสิเพคะ ดอกไม้น้อย ๆ นี้งดงามหรือไม่เพคะ ? ”
ฮองเฮาหันไปทอดพระเนตร ทันใดนั้นก็ต้องอุทานด้วยความตกพระทัย “ในฤดูหนาวเช่นนี้กลับมีดอกไม้ที่บานได้งามถึงเพียงนี้เชียวหรือ ? พี่เว่ยเว่ยของเจ้าคงไม่ได้ทำลายดอกไม้ในเรือนกระจกที่หมินอ๋องปลูกให้เสวี่ยเอ๋อร์ไปแล้วกระมัง ? แต่จะว่าไปแล้วการใช้ดอกไม้สีม่วงเล็ก ๆ นี้ตกแต่งก็งดงามมาก ! ”
องค์รัชทายาทถามด้วยความกังวล “เว่ยเว่ยคงไม่ได้ถูกเสด็จอาหมินอ๋องลงโทษหรอกกระมัง ? ”
ฮ่องเต้หยวนชิงแค่นสุรเสียงฮึฮึ “เขามีบุตรสาวคนเก่ง ชอบมาโอ้อวดกับเจิ้นว่าบุตรสาวดีอย่างโน้นอย่างนี้ตลอด ! ราวกับว่าบนโลกใบนี้เขามีบุตรสาวได้คนเดียว ! เจ้าหยูอันรักบุตรสาวจะตายไป แล้วจะทำใจลงโทษนางได้อย่างไร ? ”
องค์หญิงเจียวเจียวหัวเราะคิกคัก “หมู่โฮ่ว เจ้านี่ไม่ใช่ดอกไม้จริงหรอกเพคะ มันทำจากวิปครีมผสมแยมหลานเหมย จากนั้นก็บีบออกมาเป็นรูปดอกไม้เพคะ ทรงทอดพระเนตรสิ ตรงกลีบดอกไม้นี้เป็นของที่พี่เว่ยเว่ยทำออกมาด้วยมือทั้งหมดเลยเพคะ ! ”
ขณะพูดก็ใช้ช้อนคันเล็กตักดอกไม้เข้าปาก หลังลิ้มรสจนละเอียดแล้ว นางก็กลืนลงคอพร้อมรอยยิ้ม
ในเวลานี้ชุดรับประทานอาหารว่างถูกวางจนพร้อมแล้ว องค์หญิงเจียวเจียวจึงเริ่มแบ่งขนมให้เจ้านายสูงสุดของวังหลวงทั้งสามพระองค์อย่างระมัดระวัง หลังได้ลองชิมเครปเย็นไส้หลานเหมยแล้ว ฮ่องเต้หยวนชิงก็ตรัสชมทันที “ไม่เลว ! แม้หน้าตาจะไม่งดงามสักเท่าไร แต่รสชาติพิเศษมาก ไม่หวานเกินไปและไม่เลี่ยนด้วย ! ”
องค์หญิงเจียวเจียวพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่เว่ยเว่ยบอกว่ารอให้มีลูกท้อแล้วสามารถนำมาเชื่อมกับน้ำผึ้งและใช้แทนหลานเหมยอบแห้งได้ จะทำให้รสชาติต่างไปอีกแบบเพคะ ! ”
องค์รัชทายาทลุกขึ้นมาที่ข้างกล่องอาหาร ขณะทอดพระเนตรก้อนขนมน่ากลัวท่ามกลางบุปผาอันงดงามเหล่านั้น พระองค์ก็อดไม่ได้ที่จะแย้มโอษฐ์ “ดอกไม้ดอกนี้ช่างบานได้…ไม่เหมือนพวกพ้องดี ! ”
องค์หญิงเจียวเจียวรู้ว่าพระเชษฐาหมายความอย่างไร จึงพูดด้วยความเขินอายเล็กน้อย “พี่เว่ยเว่ยบอกว่าครั้งแรกหม่อมฉันทำออกมาได้เท่านี้ก็ถือว่ามีพรสวรรค์มากแล้วเพคะ ! น้องหลีเอ๋อร์ยังทำไม่งามเท่าหม่อมฉันเลย ! ฮึ ! พี่ชายรัชทายาทอย่าเพิ่งหัวเราะเยาะ วันหน้าไปตำหนักหมินอ๋องกับหม่อมฉันแล้ว พระองค์ก็อาจทำออกมาไม่ได้เท่าหม่อมฉันด้วยซ้ำ ! อย่างน้อย…อย่างน้อยมันก็ยังมองออกว่าเป็นดอกไม้นะเพคะ ! ”
[i]
1 จิวยี่ทำอุบายเฆี่ยนอุยกาย เป็นอุบายในเรื่องสามก๊กที่จิวยี่สั่งให้เฆี่ยนอุยกาย ( หวงไก้ ) เพื่อทำอุบายเป็นไส้ศึกไปอยู่ในกองทัพโจโฉ