ตอนที่ 596 ฮ่าฮ่า ได้เข้าห้องนอนแล้ว !
แม่ทัพหลินกำหมัดคารวะ “ถ้าเช่นนั้น ข้าก็ไม่เกรงใจสหายทั้งหลายแล้ว ! ข้านำของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเมืองหลวงมาฝากทุกท่าน เพื่อขอบคุณที่พวกท่านช่วยเหลือภรรยาของข้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ! ”
ผู้ใหญ่บ้านพูดด้วยความละอายใจ “ไม่กล้ารับ ไม่กล้ารับหรอก ! พูดแล้วก็ละอาย นางหนูรองของบ้านเจ้าเป็นคนช่วยเหลือหมู่บ้านเราไว้มากกว่า หากไม่มีนางแล้ว พวกเราก็ไม่รู้ว่าจะผ่านพ้นปีแห่งภัยพิบัตินั้นมาได้หรือไม่ ! ”
พ่อซัวถัวพุ่งเข้ามา ก่อนจะมองความเปล่งประกายที่ไม่เหมือนคนปกติของแม่ทัพหลินแล้วถามด้วยความตื่นเต้นว่า “พ่อเอ้อร์ฮว๋า ได้ยินซัวถัวบอกว่าหลายปีนี้ท่านไปเข้าร่วมกับกองทัพและได้เป็นถึงแม่ทัพ แม่ทัพคงเป็นตำแหน่งที่ใหญ่มากใช่หรือไม่ ? ”
คราวก่อนแม่ทัพกัวเป็นคนนำทัพมาช่วยพวกตนไว้ ชาวบ้านในฉือหลี่โกวจึงรู้สึกชื่นชมคนในตำแหน่งแม่ทัพอย่างอธิบายไม่ถูก พอได้ยินว่าหลินหย่งอวี้เป็นแม่ทัพ แต่ละคนก็แห่เข้ามาแสดงความดีใจ มีท่านป้าบางคนรู้สึกว่าในที่สุดนางหวงก็ได้หลุดจากความทุกข์ บุตรชายบุตรสาวก็รักดีกันทั้งนั้น แม้แต่สามีที่หายตัวไปหลายปีก็ยังได้เป็นขุนนางใหญ่ !
หลิวต้าซวนมองไปยังหลินเว่ยเว่ยที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้หญิงในหมู่บ้าน แล้วอดไม่ได้ที่จะถามว่า “หย่ง…แม่ทัพหลิน เหตุใดเสี่ยวเว่ยจึงกลายเป็นบุตรสาวของตำหนักหมินอ๋องไปได้ ? ”
แม่ทัพหลินหันไปมองสหายเก่าแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่ใหญ่หลิว ท่านเรียกหย่งอวี้เถิด ! เจ้ารอง นาง…” ต่อจากนั้นแม่ทัพหลินก็นำเรื่องที่ฮ่องเต้และเจียงโม่หานแต่งขึ้นมาอธิบายให้ทุกคนฟัง
พ่อซัวถัวตกใจจนอ้าปากค้างทันที “บุตรสาวของท่านอ๋อง อย่างนั้นก็ไม่ใช่จวิ้นจู่หรอกหรือ ? ”
“ท่านพ่อ เป็นองค์หญิงต่างหาก ! นายหญิงช่วยชีวิตฝ่าบาทและองค์รัชทายาทจึงถูกแต่งตั้งเป็น ‘องค์หญิงเว่ยเว่ย’ และยังมีที่ดินศักดินาด้วย ! ” ซัวถัวกำลังย้ายสัมภาระลงจากรถม้า ขณะเดินผ่านบิดาตัวเอง เขาก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือน
สวรรค์…หมู่บ้านฉือหลี่โกวที่อยู่ในหุบเขาเล็ก ๆ ของพวกตน ถึงขั้นมีหงส์บินออกมาจากต้นอู๋ถง ! องค์หญิง…พวกเขาต้องไปคุกเข่าทำความเคารพองค์หญิงเว่ยเว่ยหรือเปล่า ?
ทางฝั่งหลินเว่ยเว่ยกำลังสนทนากับพี่สะใภ้ ป้า ๆ น้า ๆ และผู้หญิงคนอื่นในหมู่บ้าน “องค์หญิงอะไรกัน ? อย่างไรข้าก็ยังเป็นนางหนูรองที่พวกท่านเห็นมาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนเรียกกันอย่างไร ตอนนี้ก็เรียกกันอย่างนั้น ใครกล้าแบ่งชนชั้นกับข้า ข้าจะโกรธ ! มา ข้าจะแนะนำให้พวกท่านรู้จักสักหน่อย ท่านนี้คือหมู่เฟยของข้า พระองค์ร่างกายอ่อนแอและเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ข้าขอพาเข้าไปพักให้ห้องก่อน…”
“พระชายา ? ” องค์หญิงสามัญชนอย่างหลินเว่ยเว่ยก็เป็นเหมือนที่พูด คือเติบโตขึ้นมาภายใต้เปลือกตาของทุกคน พวกนางจึงไม่ได้กลัวอะไรมาก แต่ฝูเหรินที่ดูสูงส่งตรงเบื้องหน้าท่านนี้กลับทำให้พวกนางรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
ป้ากุ้ยฮวาพูดติดขัด “ระ…รีบพาแม่…หมู่เฟยของเจ้าเข้าไปเถิด พวกเรา…หม่อมฉันขอทูลลาเพคะ ! ”
“พวกท่านกลับบ้านกันดี ๆ หากมีเวลาว่างแล้วข้าจะไปเยี่ยมพวกท่านที่บ้าน เราจะได้มาคุยกันต่อ ! ” หลังส่งพวกนางออกไปแล้ว หลินเว่ยเว่ยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ราวกับว่าเหนื่อยมากอย่างไรอย่างนั้น
ต่อจากนั้นหมินหวางเฟยก็ถูกนางประคองเข้าไปในห้อง เมื่อเห็นท่าทางดังกล่าวของลูกสะใภ้แล้ว พระนางก็อดแย้มโอษฐ์ออกมาไม่ได้ “ด้วยฐานะในเวลานี้ของเจ้า ไม่จำเป็นต้องไปสนทนากับพวกนางเลย ? ดูเถิดว่ามันยากขนาดไหนสำหรับเจ้า ! ”
หลินเว่ยเว่ยหัวเราะฮ่าฮ่า “ป้า ๆ พี่ ๆ พวกนี้ เมื่อก่อนคอยให้ความช่วยเหลือครอบครัวลูกเสมอเพคะ โดยเฉพาะป้ากุ้ยฮวา นางเป็นคนมีน้ำใจมาก ! ใครต่างก็บอกว่าญาติที่อยู่ห่างไกล อย่างไรก็สู้เพื่อนบ้านชิดใกล้ไม่ได้ ต่อไปพี่ใหญ่ยังต้องดูแลโรงงานทอผ้าที่นี่ต่อ แล้วยังมีกิจการเนื้อแผ่นในบ้านที่ยังต้องให้พวกนางช่วยเหลือ การพูดคุยเช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เลี่ยงได้ยากเพคะ”
หมินหวางเฟยพยักดวงพักตร์แล้วหันไปสนใจบ้านที่เว่ยเอ๋อร์อยู่มาสิบกว่าปี บ้านหลังนี้ก่อด้วยดินและไม้ ปีกทั้งสองฝั่งมีสองห้องเล็ก นอกจากหลังคาจะปูกระเบื้องแล้วกำแพงทั้งหมดก็ถูกก่อขึ้นมาด้วยดิน…เมื่อหันไปมองบ้านหลังข้าง ๆ ก็สร้างจากดินเหมือนกัน นางจึงรู้สึกปวดหทัยขึ้นมาทันที ‘ลูกชายคนเล็กและลูกสะใภ้ต้องเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ขนาดนี้ ! เรือนของนางกำนัลยังดีกว่าหลายเท่า ! ’
ก่อนออกเรือน หมินหวางเฟยเป็นบุตรของครอบครัวใหญ่ทางตอนเหนือ เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีฐานะคู่ควรกับหมินอ๋อง หลังจากสามีและฮ่องเต้หยวนชิงสถาปนาราชวงศ์สำเร็จแล้วก็ถูกแต่งตั้งเป็นอ๋องและได้จวนขุนนางเก่าที่ดีที่สุดในเมืองหลวงเป็นของรางวัลพระราชทาน ไฉนเลยจะเคยเห็นบ้านเช่นนี้มาก่อน ?
แต่ภายในห้องเก็บกวาดไว้อย่างสะอาดสะอ้าน ทว่าผ้านวมและเสื่อบนเตียงเตาถูกนางหวงใช้จนเก่าแล้ว สาวใช้และนางกำนัลตำหนักหมินอ๋องจึงนำผ้าห่มและผ้าปูใหม่เอี่ยมมาปูแทนของเดิม โต๊ะที่เป็นสีเทาก็ถูกปูด้วยผ้าปูโต๊ะผืนใหม่เช่นกัน
หมินหวางเฟยประทับบนเตียงเตาที่ไม่ได้ใช้งานมานานพลางตรัสกับพวกนางกำนัลว่า “พอแล้ว ไม่ต้องจุกจิกจู้จี้ แค่นี้ก็ดีมากแล้ว ! หลานเอ๋อร์ เจี๋ยเอ๋อร์ พวกเจ้าก็หยุดทำงานกันได้แล้ว มานั่งพักเถิด”
หลินเว่ยเว่ยชงน้ำชามาให้พวกนางและหยิบเนื้อหมูป่าแผ่นกับกระต่ายเส้นจากห้องครัวมาด้วยอีกเล็กน้อย “หมู่เฟย ท่านแม่ ท่านแม่สามี พวกท่านพักกันอยู่ที่เตียงเตา ประเดี๋ยวลูกจะออกไปทำอาหารให้ ! ”
“ให้เหมยหยิงกับพวกสาวใช้ทำกันเถิด เจ้าเองก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว…” หมินหวางเฟยเห็นนางหนูคนนี้ไม่ยอมพักเลยตลอดทาง ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ นางก็เป็นคนจัดการทั้งหมด แค่มองก็รู้สึกเป็นห่วงแล้ว !
หลินเว่ยเว่ยพูดด้วยรอยยิ้ม “ฝีมือของเหมยหยิงจะสู้ลูกได้อย่างไรเพคะ ? ”
เหมยหยิงยืนยิ้มอยู่ด้านข้าง “ใช่ ใช่เพคะ ! แต่ถึงแม้ฝีมือของหม่อมฉันจะไม่ดี ทว่าก็พอจะมีคุณสมบัติเป็นลูกมือองค์หญิงได้อยู่กระมัง ? ”
หลังจากเจ้าหนูน้อยไปทักทายเสี่ยวร่างแล้ว เด็กทั้งสองก็เลือกกระต่ายตัวอ้วนที่สุดของคอกหลังบ้านมาให้พวกนาง คนในหมู่บ้านยังเอาผักตามฤดูกาลมาให้อีก เมื่อรวมกับเนื้อหมูและซี่โครงหมูที่เก็บไว้ในห้องใต้ดินแล้วหลินเว่ยเว่ยก็สามารถทำอาหารเย็นที่อุดมสมบูรณ์โต๊ะหนึ่งออกมาได้
เดิมทีหลินเว่ยเว่ยจะให้หมู่เฟยไปอยู่ที่บ้านหลังใหม่ของตระกูลหลิน ทว่าหมินหวางเฟยยืนกรานจะอยู่บ้านหลังข้าง ๆ กับนางเฝิง…พระนางอยากสัมผัสบรรยากาศที่บุตรชายเติบโตมาและฟังนางเฝิงพูดถึงเรื่องของบุตรชายด้วย
หลินเว่ยเว่ยจึงให้สาวใช้และนางกำนัลของตำหนักหมินอ๋อง รวมถึงลูกน้องแม่ทัพหลินกับองครักษ์ตำหนักหมินอ๋องไปพักอยู่ที่บ้านหลังใหม่ของผู้ใหญ่บ้าน แม้ว่าจะเบียดกันหน่อยแต่ก็พออยู่กันได้ !
หลังดูแลเรื่องของหมินหวางเฟยเสร็จแล้ว หลินเว่ยเว่ยก็เดินกลับมาพักบ้านสกุลหลินหลังข้าง ๆ ด้วยความเคยชิน แต่โดนเจียงโม่หานจับไว้ก่อน “จะไปไหน ? เจ้าคงไม่ได้ลืมหรอกว่าตัวเองแต่งงานแล้ว ? แต่งตามสามี เจ้าพูดมาสิว่าควรจะอยู่บ้านไหน ? ”
หลินเว่ยเว่ยแสร้งดึงใบหูตัวเอง “บัณฑิตน้อย เจ้าว่าอะไรนะ ? ใครตามใคร ? ”
“ข้าตามเจ้า พอใจหรือยัง ? ” เจียงโม่หานใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากของนาง “น้ำต้มเสร็จแล้ว เจ้าไปอาบน้ำเถิด ! ”
มีสาวใช้ตามมาด้วยก็ดีแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องลงมือทำเองทุกอย่าง หลังอาบน้ำเสร็จแล้ว หลินเว่ยเว่ยก็มานอนกลิ้งไปมาบนเตียงของเจียงโม่หาน…เมื่อก่อนตอนมาที่ห้องของบัณฑิตน้อย นางแค่ยกชาหรือไม่ก็ยกอาหารมาให้เท่านั้น เหมือนว่าการมาพักในห้องแบบนี้เพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก ฮ่าฮ่า ! ต่อไปที่นี่ก็จะเป็นรังของนางแล้ว ! !
เจียงโม่หานบีบจมูกน้อย ๆ ของนาง “รู้ไหมว่าท่าทางซุกซนของเจ้าเหมือนใครกัน ? เหมือนเจ้าดำไม่มีผิด ! จริงสิ เจ้าคิดจะจัดการพวกสัตว์เลี้ยงไม่กี่ตัวนั้นอย่างไร ? ”
หลินเว่ยเว่ยครุ่นคิด แม้จะทำใจไม่ได้สักเท่าไร แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจได้ “เจ้าดำเป็นหมาป่าไม่ใช่หมาบ้าน ข้าอยากให้มันกลับเข้าฝูงหมาป่าเหมือนเดิม ส่วนต้าจิน ข้าเห็นมันใช้ชีวิตอยู่ในหุบเขาอย่างมีความสุขดีและยังขู่ไม่ให้พวกนกประเภทต่าง ๆ ออกมาทำลายพืชผลและหนอนไหมของพี่ใหญ่ จึงจะให้มันอยู่ที่นี่ตามเดิม ส่วนเจ้าหงส์แดงไปกับข้า เวลาเบื่อก็เอามาเป็นเพื่อนแก้เหงาได้ ! เจ้าคิดว่าอย่างไร ? ”