หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง – ตอนที่ 613 เด็กน้อย ดูสิว่าเจ้าจะหาข้ออ้างอย่างไร

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่​ 613 เด็กน้อย​ ดู​สิว่า​เจ้าจะหา​ข้ออ้าง​อย่างไร​

“หยาง​จือ​โจว​ ท่าน​เอง​ก็​พูดว่า​นั่น​เป็น​ที่ดิน​ซึ่งภรรยา​ของ​ข้าน้อย​บุกเบิก​เพื่อ​หาเงิน​เล็ก​ ๆ น้อย​ ๆ แม้ข้าน้อย​จะมีชาติกำเนิด​ต่ำต้อย​ แต่​ไม่ได้​แปล​ว่า​ต้อง​เอา​ทรัพย์สิน​ภรรยา​มาเป็น​ของ​ตัวเอง​…” ความหมาย​ของ​เจียง​โม่หา​น​ก็​ประมาณ​ว่า​เมล็ด​ข้าวโพด​นี้​ได้​มาจาก​งานอดิเรก​ของ​ภรรยา​ ดังนั้น​จึงไม่ได้​เกี่ยวข้อง​กับ​เขา​เลย​สักนิด​

หยาง​จือ​โจว​พูด​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ “นายอำเภอ​เจียง​ ผู้มีอำนาจ​ไม่พูดเป็นนัย​ ! ข้า​จะขอ​ซื้อ​เมล็ด​ข้าวโพด​เหล่านี้​ ! ”

“ท่าน​อยาก​ซื้อ​ ข้า​ก็​ต้อง​ขาย​ให้​งั้น​หรือ​ ! ใน​ฐานะ​ขุนนาง​ของ​ราชสำนัก​แล้ว​ หยาง​จือ​โจว​คง​ไม่อยาก​ฝ่าฝืนกฎหมาย​ ทำ​เรื่อง​บีบบังคับ​ให้​ค้าขาย​หรอก​กระมัง​ ? ” หลิน​เว่ยเว่ย​ถือ​ขนม​ที่​เพิ่ง​อบ​ใหม่​เข้ามา​ เดิมที​ขนม​พวก​นี้​จะใช้ต้อน​รับแขก​ แต่​ดู​จาก​สถานการณ์​ตอนนี้​แล้ว​ แม้จะต้อง​เอา​ไป​ให้​เจ้าดำ​ นาง​ก็​ไม่มีทาง​ยก​ให้​ขุนนาง​ปาก​สุนัข​กิน​แน่นอน​ !

หยาง​จือ​โจว​พูด​ด้วย​ท่าทาง​สง่างาม “ข้า​เหมา​ซื้อ​เมล็ดพันธุ์​พวก​นี้​ไป​ก็​ไม่ได้​ทำ​เพื่อ​ตัวเอง​ แต่​ทำ​เพื่อ​ราษฎร​ใน​หย่ง​โจว​…”

“บังเอิญ​เสีย​จริง​ ! เมล็ด​ข้าวโพด​พวก​นี้​ข้า​ก็​ไม่ได้คิด​จะเก็บ​ไว้​ใช้เอง​ ทั้งหมด​นี้​จะถูก​ยก​ให้​ราษฎร​ใน​อำเภอ​หนิง​ซี ผู้ดูแล​หลิว​ เอา​บัญชี​จอง​เมล็ดพันธุ์​ของ​พวกเรา​ให้​หยาง​จือ​โจว​ดู​…” หาง​ตา​ของ​หลิน​เว่ยเว่ย​เห็น​หลิว​ว่าย​จื่อ​เดิน​เข้า​มาจาก​ข้างนอก​พอดี​ นาง​จึงออกคำสั่ง​กับ​เขา​ทันที​

เจียง​โม่หา​น​เห็น​หยาง​จือ​โจว​ดู​อารมณ์เสีย​ จึงพูดว่า​ “ภายใน​อำเภอ​หนิง​ซีกำลัง​แผ้วถาง​ที่ดิน​เพาะปลูก​ ข้าน้อย​ได้​ส่งม้าเร็ว​ไป​ถึงเมืองหลวง​แล้ว​ เชื่อ​ว่า​ภายใน​อีก​ไม่กี่​วัน​ต้อง​มีพระ​ราชโองการ​ลงมา​แน่​”

“ถ้าเช่นนั้น​…ก็ดี​ ! ” หยาง​จือ​โจว​แอบ​กัดฟัน​แล้ว​สะบัด​แขน​เสื้อ​เดิน​ออก​ไป​ทันที​

หลิน​เว่ยเว่ย​พูด​กับ​เจียง​โม่หา​น​ว่า​ “หยาง​จือ​โจว​มีเบื้องลึก​เบื้องหลัง​อย่างไร​ เหตุใด​จึงกล้า​พุ่ง​เป้า​มาที่​ข้า​ ! ”

เจียง​โม่หา​น​หัวเราะ​อย่าง​เย็นชา​ “ตั๊กแตน​ใน​ฤดูใบไม้ร่วง​ กระโดด​ได้​อีก​ไม่กี่​วัน​หรอก​ ! เว่ยเอ๋อร์​ ไม่ต้อง​โมโห​ การ​มาอารมณ์เสีย​เพราะ​คน​แบบนี้​ช่างไม่คุ้มค่า​เลย​ ! ”

ชาติก่อน​ เขา​ดึง​ขุนนาง​ระดับสูง​ลง​สู่ดิน​ด้วยมือ​ตัวเอง​ ใน​บรรดา​ผู้​ที่​โดน​หางเลข​ก็​มีหยาง​จื้อปิน​อยู่​ด้วย​ หยาง​จื้อปิน​คือ​ชื่อ​ของ​หยาง​จือ​โจว​ ในเวลานั้น​หยาง​จื้อปิน​ได้​เป็น​เจ้าเมือง​ (ขุนนาง​ขั้น​ 4) แล้ว​

สำหรับ​คน​ผู้​นี้​ ฮ่องเต้​ไม่พอ​พระทัย​มานาน​แล้ว​เช่นกัน​ ดังนั้น​ก็​เอา​หยาง​จื้อปิน​ผู้​นี้​มาเป็น​ของขวัญ​ชิ้น​ใหญ่​ถวาย​แด่​ฮ่องเต้​ดีกว่า​ !

ขณะ​มอง​หลิน​เว่ยเว่ย​ที่​กำลัง​ก้ม​ดู​บัญชี​ด้วย​ความ​ปวดใจ​ เจียง​โม่หา​น​ก็​ยิ้ม​ออก​…นับตั้งแต่​มาที่​หนิง​ซี แผ้วถาง​ที่ดิน​ หว่าน​เมล็ดพันธุ์​ เก็บเกี่ยว​หรือ​จะเป็นการ​สร้าง​คอก​วัว​ คอก​หมู​ คอก​กระต่าย​…เงิน​ไหล​ออก​เป็น​สายน้ำ​ เมล็ด​ข้าวโพด​ให้​ผลผลิต​สูง สามารถ​ขาย​ออก​ได้​ใน​ราคา​สูง แต่​นาง​เลือก​เก็บ​ไว้​ให้​ราษฎร​ใน​อำเภอ​หนิง​ซี สามารถ​พูด​ได้​ว่า​นับตั้งแต่​มาถึงหนิง​ซี นาง​ไม่มีรายได้​เข้า​เลย​สัก​อีแปะ​ เด็ก​หน้า​เงิน​ตัว​น้อย​จะไม่ปวดใจ​ก็​คง​แปลก​

พูดถึง​ข้าวโพด​ให้​ผลผลิต​สูง เจียง​โม่หา​น​ก็​นึกถึง​ข้าวสาลี​ฤดูหนาว​หลัก​ร้อย​กว่า​หมู่​ของ​ภรรยา​ จึงอด​ไม่ได้​ที่จะ​ถามว่า​ “ฝูเห​ริน​ ข้าวสาลี​ที่​เจ้าปลูก​นั้น​คง​ไม่ได้​เป็น​เมล็ดพันธุ์​ให้​ผลผลิต​สูงเหมือนกัน​หรอก​กระมัง​ ? ”

“ไม่ใช่หรอก​ ! ก็​แค่​เมล็ด​ข้าวสาลี​ที่​ซื้อ​ได้​ตาม​ตัวเมือง​ ถ้าดูแล​ดี ๆ​ ก็​น่าจะ​ได้​ผลผลิต​หมู่​ละ​ 200-300 ชั่งได้​กระมัง​ ? เพราะ​บุกเบิก​ที่ดิน​เป็น​ปี​แรก​ สารอาหาร​ใน​ดิน​ก็​ยัง​ไม่อุดมสมบูรณ์​…” หลิน​เว่ยเว่ย​พูด​ด้วย​ความ​เศร้าใจ​เล็กน้อย​ นาง​ไม่ได้​ไร้​สมอง​เสียหน่อย​ สิ่งที่​ทำ​อยู่​ก็​สะดุดตา​มาก​แล้ว​ ถ้ายัง​เอา​เมล็ด​ข้าวสาลี​จาก​มิติ​น้ำพุ​วิญญาณ​มาปลูก​อีก​…คนอื่น​คง​มอง​นาง​เป็น​ปิศาจ​แน่​ !

ข้าวสาลี​ฤดูหนาว​ร้อย​กว่า​หมู่นี้​ นาง​แค่​รด​น้ำพุ​วิญญาณ​ลง​ไป​ครั้ง​เดียว​เท่านั้น​ เพื่อ​ปรับ​ให้​เมล็ด​ข้าวสาลี​ต้าน​โรค​และ​ศัตรูพืช​ได้​ ส่วน​ด้าน​ปริมาณ​ของ​ผลผลิต​ อย่า​ไป​พูดถึง​จะดีกว่า​ !

เจียง​โม่หา​น​ “…”

นาง​เข้าใจ​ใน​ปริมาณ​ผลผลิต​ ‘ทั่วไป​’ ผิด​หรือเปล่า​ ? ข้าวสาลี​ที่​ไม่เคย​ได้​ผลผลิต​เกิน​ 200 ชั่งของ​ภาค​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ แต่​นาง​ปลูก​ออกมา​ได้​ 200-300 ชั่ง แล้ว​ยัง​พูดว่า​ไม่สูงอีก​ ? เอาเถิด​ รอ​ให้​ฤดูร้อน​ของ​ปีหน้า​มาถึงแล้ว​ เขา​ค่อย​คิด​หา​วิธี​ปกปิด​ให้​นาง​แล้วกัน​ ผู้​ที่​มีเจตนาร้าย​จะได้​ไม่พุ่ง​เป้า​มาที่​นาง​

หลัง​เข้าสู่​ฤดูหนาว​ ในที่สุด​หลิน​เว่ยเว่ย​ก็ได้​พัก​สักที​ แม้คอก​เลี้ยงสัตว์​จะสร้าง​เสร็จ​แล้วแต่​ตอนนี้​ยังมี​เพียง​วัว​ 20 ตัว​และ​ลูก​วัว​น้อย​ 3 ตัว​ที่​เพิ่ง​คลอด​ออกมา​เท่านั้น​ แต่​คอก​กระต่าย​ของ​เจ้าหนู​น้อย​กลับ​มีลูก​กระต่าย​หลาย​ครอก​แล้ว​ ทำให้​นาง​ต้อง​จับ​กระต่าย​ที่​โต​เต็ม​วัย​แล้ว​มาทำเป็น​กระต่าย​เส้น​ !

ห​ยา​เอ๋อร์​ฝึกงาน​กับ​นาง​ได้​สอง​สามเดือน​แล้วจึง​มีคุณสมบัติ​ของ​หลงจู๊​หญิง​ ห​ยา​เอ๋อร์​เข้า​ไปหา​หลิน​เว่ยเว่ย​เพื่อ​บอ​กว่า​ตน​อยาก​เปิดร้าน​ขาย​เมล็ด​คั่ว​ ยัง​เหลือ​เวลา​อีก​สอง​เดือน​ก็​จะปีใหม่​แล้วจึง​เป็นเวลา​ที่จะ​ขาย​เมล็ด​คั่ว​ได้​ปริมาณ​สูงพอดี​จึงไม่อยาก​พลาดโอกาส​ดี ๆ​ เช่นนี้​ไป​ !

หลิน​เว่ยเว่ย​นึกถึง​กระเป๋า​เงิน​ที่​แห้งเหี่ยว​ของ​ตน​ คิด​ว่า​จะปล่อย​ให้​เป็น​แบบนี้​ต่อ​ไม่ได้​แล้ว​ ! นาง​ส่งจดหมาย​ถึงหลิว​เอ้อร์​ล่า​ย​เพื่อให้​เขา​หา​ซื้อ​เมล็ด​ทานตะวัน​ เมล็ด​แตง​ ถั่วลิสง​และ​เมล็ด​สน​ จากนั้น​ก็​ขนส่ง​มาทางเรือ​ ส่วน​คอก​เลี้ยงสัตว์​ที่​สร้าง​เสร็จ​แล้วก็​ถูก​นาง​ยืม​มาใช้ชั่วคราว​เพื่อ​ทำเป็น​สถานที่​แปรรูป​พวก​เมล็ด​คั่ว​ต่าง ๆ​

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ทำเล​ดี​ที่สุด​ใน​อำเภอ​หนิง​ซีก็​มีร้าน​เมล็ด​คั่ว​เปิด​ขึ้น​ นาม​ว่า​ ‘ร้าน​เมล็ด​คั่ว​หนิง​ซี’ ด้านใน​มีเมล็ด​แตง​หลาก​รสชาติ​ ไม่ว่า​จะเป็น​รส​ห้า​เครื่องเทศ​ รส​นม​ รส​สมุนไพร​ทั้ง​สิบ​สามชนิด​ รส​ถั่ว​สมอง​ รส​คาราเมล​…นอกจาก​ถั่วลิสง​คั่ว​ธรรมดา​แล้วก็​ยังมี​ถั่วลิสง​ห้า​เครื่องเทศ​ ถั่วลิสง​ชุบ​แป้ง​ทอด​ ถั่วลิสง​รส​ประหลาด​และ​อื่น​ ๆ อีก​มากมาย​

สิ่งที่​ทำให้​ผู้คน​ประหลาดใจ​ที่สุด​คือ​เมล็ด​สน​คั่ว​ใน​ร้าน​นี้​เพราะ​มัน​เป็น​แบบ​ปาก​อ้า​ แค่​บิ​เล็กน้อย​ก็ได้​กิน​เมล็ด​สน​อัน​หอมหวน​แล้ว​…พูด​กัน​ว่า​วิธี​คั่ว​แบบนี้​มาจาก​เขต​เริ่น​อัน​ !

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ร้าน​เมล็ด​คั่ว​ก็​มีสินค้า​ใหม่​เข้ามา​…กระต่าย​เส้น​รส​ห้า​เครื่องเทศ​หรือ​รส​หม่า​ล่า​ก็​มีทั้งสิ้น​ เนื่องจาก​รสชาติ​ดีมาก​จึงเป็นที่นิยม​ของ​ชนชั้นกลาง​และ​ชนชั้นสูง​ใน​อำเภอ​หนิง​ซี ก่อน​วัน​ปีใหม่​ก็​ถึงขั้น​มี ‘ภาพ​’ คน​มาเข้าแถว​ซื้อ​เนื้อ​กระต่าย​เส้น​ที่​หน้า​ร้าน​เมล็ด​คั่ว​ตั้งแต่​ฟ้ายัง​ไม่สาง

เจ้าหนู​น้อย​ที่​กลับ​มาจาก​สำนักศึกษา​แล้ว​หยิบ​สมุดบัญชี​เล่ม​เล็ก​ของ​ตน​ขึ้น​มาดู​ และ​นับ​ราย​ได้ที่​เข้ามา​ใน​เดือน​นี้​กับ​เสี่ยว​ร่าง​อย่าง​มีความสุข​…ได้​ถึง 500 ตำลึง​ !

แม่ทัพ​หลิน​มอง​บุตรชาย​คน​เล็ก​นับ​ตั๋วแลกเงิน​รอบ​แล้ว​รอบ​เล่า​ หน้าตา​มีความสุข​นั้น​เหมือน​หนู​ที่​ไป​ขโมย​น้ำมัน​มาไม่มีผิด​ บุตรชายคนโต​พูด​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​อยู่​ด้าน​ข้าง​ “น้อง​สี่กลายเป็น​คน​หน้า​เงิน​อันดับ​สอง​ของ​บ้าน​เรา​แล้ว​ ! ”

“แล้ว​อันดับ​หนึ่ง​คือ​ใคร​ ? ” แม่ทัพ​หลิน​ได้​หยุดพัก​สอง​วัน​ สนามรบ​ครั้งนี้​เทพ​สงคราม​เป็น​ผู้นำ​ทัพ​ ตอนนี้​เขา​จึงกำลัง​นั่งไขว่ห้าง​อยู่​ตรงข้าม​ภรรยา​พลาง​คอย​จับเส้น​ไหมพรม​ให้​และ​มอง​นาง​พัน​เก็บ​เส้น​ไหมพรม​

หลิน​จื่อเหยียน​หันไป​มอง​ทาง​ห้อง​นายอำเภอ​ “ยัง​จะเป็น​ใคร​ได้​อีก​ ? พี่​รอง​ไงเล่า​ขอรับ​ ! ”

“เจ้าตัวแสบ​ นินทา​อะไร​ข้า​ ? ใน​ปาก​เจ้าจะต้อง​ไม่มีคำพูด​ดี ๆ​ ออกมา​แน่นอน​ ! ระวัง​ข้า​จะฟ้อง​พี่เขย​รอง​ให้​เขา​เพิ่ม​การบ้าน​เจ้าเยอะ​ ๆ เลย​ ! ” หลิน​เว่ยเว่ยยก​ขนม​ที่​เพิ่ง​อบ​ใหม่​เข้ามา​ หลัง​ย่อ​ตัว​ลงนั่ง​บน​เตียง​เตา​แล้ว​นาง​ก็​หยิบ​กางเกง​ไหมพรม​ที่​นาง​หวง​ถัก​ได้​ครึ่งหนึ่ง​ขึ้น​มาถัก​ต่อ​อย่าง​รวดเร็ว​

“พี่​รอง​ พี่​สามบอ​กว่า​ท่าน​หน้า​เงิน​ ! ” ตัว​ขี้​ฟ้อง​อย่าง​เจ้าหนู​น้อย​รีบ​ทำหน้าที่​ทันที​ เขา​หันไป​แลบลิ้น​ใส่พี่​สาม จากนั้น​ก็​กลับมา​ยัด​ตั๋วแลกเงิน​ของ​ตน​ใส่อ้อมแขน​ของ​หลิน​เว่ยเว่ย​ “พี่​รอง​ เงิน​พวก​นี้​ให้​ท่าน​ ! ”

หลิน​เว่ยเว่ย​ถามด้วย​ความประหลาดใจ​ “เหตุใด​ให้เงิน​ข้า​ ? ให้​ข้า​เก็บ​แทน​เจ้าเพื่อ​เอาไว้​แต่ง​ภรรยา​ในวันหน้า​หรอก​หรือ​ ? ”

แม่ทัพ​หลิน​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ “เงิน​แต่ง​ภรรยา​ของ​เจ้าสามกับ​เจ้าสี่ พ่อ​เก็บ​ให้​พวกเขา​แล้ว​ ! เงิน​ที่​พวก​เจ้าหา​มาก็​เก็บ​ไว้​ให้​ตัวเอง​ใช้เถิด​ ไม่ต้อง​ประหยัด​หรอก​ ! ”

เจ้าหนู​น้อย​ส่ายหน้า​ “แต่ง​ภรรยา​ยัง​เป็นเรื่อง​ไกล​ตัว​สำหรับ​ข้า​ขอรับ​ ! พี่​รอง​ ช่วง​หลาย​เดือน​มานี้​ ท่าน​ไม่ได้​ใช้เงิน​เป็น​เทน้ำเทท่า​หรอก​หรือ​ เมล็ด​ข้าวโพด​ที่​เก็บเกี่ยว​มาได้​ก็​ให้​พวก​ชาวบ้าน​ไป​หมด​…เงิน​ใน​มือ​ยังมี​พอใช้​อยู่​หรือไม่​ ? ถ้าไม่พอ​ ข้า​มี ! ”

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

Status: Ongoing
นักศึกษาเรียนดีจากวิทยาลัยเกษตรทะลุมิติมาเป็นเด็กสาวชาวนาผู้โง่เขลาและมีนิสัยป่าเถื่อน บิดาก็ตาย มารดาก็อ่อนแอ น้องชายดันมาตีตัวออกห่าง ส่วนพี่สาวก็มักจะคิดว่าเธอเป็นภาระเสมอ แต่โชคดีที่เธอมีมิติน้ำพุวิญญาณอยู่ในมือ เธอทั้งกลายเป็นนักล่าหมูป่า ทำให้ฝูงหมาป่าตกใจ ใช้น้ำพุวิญญาณมาปลูกพืชพันธุ์จนได้ผลผลิตดีงาม ทำสวนก็ได้ผลผลิตดี เลี้ยงสัตว์ก็เติบโต ไหนจะเสน่ห์ปลายจวักอีก เด็กโง่เขลาคนนี้นี่แหละจะนำพาทั้งครอบครัวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองเอง ! ทว่าบัณฑิตหนุ่มหน้าหวานจอมหยิ่งคนข้างบ้านเนี่ย คิดว่าตัวเองหล่อแล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไง ? คิดว่าเป็นขุนนางแล้วใครจะทำอะไรไม่ได้หรือ ? สุดท้ายก็ถูกเด็กโง่คนนี้กำราบไม่ใช่หรือไง ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท