หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง – ตอนที่ 654 เจ้านายทั้งสองรักกันเหลือเกิน

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่​ 654 เจ้านาย​ทั้งสอง​รัก​กัน​เหลือเกิน​

เจียง​โม่หา​น​หัวเราะ​ลั่น​ทันที​ “เจ้าพูด​เกินไป​หน่อย​หรือไม่​ ? แต่​ข้า​ยอมรับ​ว่า​นิสัย​ใน​อดีต​ของ​ข้า​ไม่น่ารัก​สัก​เท่าไร​” ที่แท้​นาง​ก็​สังเกตเห็น​ความผิดปกติ​ใน​ตัว​เขา​นาน​แล้ว​ เป็น​เด็กน้อย​ที่​ฉลาด​อย่าง​ที่​คิด​จริง ๆ​

“การค้า​ของ​สกุล​อู๋​ เจ้าเป็น​คน​ทำลาย​ใช่หรือไม่​ ? แล้ว​ยังมี​การ​ทุจริต​ข้อสอบ​ของ​คน​แซ่อู๋​ เจ้าก็​มีส่วน​ด้วย​กระมัง​ ? ชาติก่อน​เขา​เคย​รังแก​เจ้าใช่หรือไม่​ ? พอ​กลับชาติมาเกิด​แล้ว​ต้อง​ตบหน้า​เขา​สินะ​ ! ” หลิน​เว่ยเว่ย​พูด​ไม่หยุด​เหมือน​นก​กระจิบ​ตัว​น้อย​ ราวกับ​คน​ที่​เซื่องซึม​เมื่อ​ครู่​ไม่ใช่นาง​ !

ถ้ารู้​ก่อน​ว่า​ผลลัพธ์​จะเป็น​เช่นนี้​ เขา​คง​สารภาพ​กับ​นาง​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ปล่อย​ให้​นาง​อารมณ์ไม่ดี​มานาน​ขนาด​นั้น​ เป็น​เขา​ที่​ผิด​เอง​ !

เจียง​โม่หา​น​ปอกเปลือก​ไข่ต้ม​แล้ว​ยื่น​ให้​นาง​ “เจ้า…ไม่คิด​ว่า​มัน​น่า​เหลือเชื่อ​เลย​หรือ​ ? ”

“ไม่ ! ข้า​เห็น​มัน​ใน​ละครโทรทัศน์​และ​หนังสือ​นิยาย​ของ​ชาติก่อน​ถมเถไป​…คิด​ว่า​มัน​เจ๋งดี​ ! ” หลิน​เว่ยเว่ย​กิน​ไข่ต้ม​ที่​สามีป้อน​พร้อม​ดวงตา​เป็นประกาย​

“หืม​ ? โทรทัศน์​ ? เจ๋ง ? ” เจียง​โม่หา​น​จับ​คำศัพท์​ใหม่​ ๆ ได้​จาก​ปาก​นาง​อีกแล้ว​

“ใช่! ละครโทรทัศน์​…ก็​เหมือน​เอา​เนื้อเรื่อง​จาก​ใน​หนังสือ​หรือ​นิยาย​มาแสดง​แล้ว​ออกอากาศ​ผ่าน​สถานีโทรทัศน์​และ​อินเทอร์เน็ต​ ทำให้​ผู้คน​เห็น​ละคร​เรื่อง​นั้น​ได้​นับ​แสน​นับ​ล้าน​คน​ ! ” หลังจาก​กิน​ไข่ต้ม​หมด​แล้ว​หลิน​เว่ยเว่ย​ก็​ดื่ม​นม​ใน​แก้ว​จน​หมด​ภายใน​ชั่ว​อึดใจ​ ทำให้​ปาก​เลอะ​คราบ​นม​เหมือน​เด็ก​

เจียง​โม่หา​น​ใช้มือ​เช็ด​ปาก​ให้​นาง​จน​สะอาด​ ก่อน​จะพูด​เบา​ๆ ว่า​ “นั่น​ไม่เหมือน​คณะ​ละคร​งิ้ว​ของ​พวกเรา​ที่นี่​หรือ​ มัน​ก็​สร้าง​มาเพื่อ​จุดประสงค์​เดียวกัน​ใช่หรือไม่​ ? ”

“อือ​…จะพูดว่า​คล้าย​ก็ได้​กระมัง​ ? ” หลิน​เว่ยเว่ย​ค่อย ๆ​ ยื่นมือ​ไปหา​สตรอเบอร์รี่​…อื้อ​! หวาน​มาก​ !

ตอนนี้​ไม่ว่า​อะไร​ก็ดี​ทั้งนั้น​ ติด​ตรง​ที่​สาวใช้​ข้าง​กาย​มีมาก​ไป​หน่อย​ คอย​จับจ้อง​นาง​อยู่​ได้​ อยาก​ขโมย​กิน​ผลไม้​ใน​ห้วง​มิติ​น้ำพุ​วิญญาณ​หน่อย​ก็​ต้อง​เปลือง​แรง​สุด​ ๆ…หรือ​จะบอก​เรื่อง​มิติ​น้ำพุ​วิญญาณ​ของ​ตน​ให้​บัณฑิต​น้อย​รู้ดี​ ?

“เล่าเรื่อง​ฝั่งนั้น​ของ​พวก​เจ้าให้​ข้า​ฟังได้​หรือไม่​ ? ” หลังจาก​นาง​กิน​ไป​ 5 ลูก​แล้ว​ เจียง​โม่หา​น​ก็​หยิบ​จาน​สตรอเบอร์รี่​ไป​วาง​อีก​ด้าน​หนึ่ง​แล้ว​ยื่น​ขนม​ให้​นาง​หนึ่ง​ชิ้น​

หลิน​เว่ยเว่ย​เหมือน​กระรอก​ตัว​น้อย​ที่​คว้า​จับ​ขนม​มาแทะ​ด้วยมือ​ทั้งสอง​ข้าง​ “ฝั่งของ​ข้า​ ? ก็​มีเครื่องมือ​ไถพรวน​แบบ​อัตโนมัติ​ ข้าวสาร​ให้​ผลผลิต​สูง เดินทาง​จาก​เมืองหลวง​ไป​ถึงเมือง​จงโจว​โดย​การ​บิน​แค่​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​กว่า​ ๆ เท่านั้น​…”

“บิน​ ? ” เจียง​โม่หา​น​ตกตะลึง​ทันที​ หรือว่า​ภรรยา​ของ​ตน​จะเป็น​เทพธิดา​ลงมา​จุติ​จริง​ ?

ราวกับ​หลิน​เว่ยเว่ย​อ่าน​ความคิด​ของ​เขา​ออก​ นาง​หัวเราะ​เสียง​ดังลั่น​ “ไม่ใช่บิน​แบบ​นั้น​ แต่​หมายถึง​นั่ง​เครื่องบิน​ซึ่งเป็น​ยานพาหนะ​ที่​มนุษย์​สร้าง​ขึ้น​แล้ว​ใช้บรรทุก​คน​ให้​สามารถ​เดินทาง​บน​ท้องฟ้า​ได้​ เวลา​เดินทาง​บน​บก​ก็​ไม่ต้อง​ใช้ม้า แต่​เร็ว​กว่า​รถม้า​ถึงสี่ห้า​เท่า​ มัน​เรียก​ว่า​ ‘รถยนต์​’ นอกจากนี้​ยังมี​รถไฟ​ รถไฟฟ้า​ความเร็ว​สูง…เวลา​จะออก​ไป​ไหน​คือ​สะดวกสบาย​มาก​เลย​ ! ”

ดวงตา​ของ​เจียง​โม่หา​น​ค่อย ๆ​ เบิก​โต​ขึ้น​เรื่อย ๆ​ ราวกับ​ได้ยิน​นิทาน​พัน​หนึ่ง​ราตรี​ หลังจาก​เงียบ​ไป​สอง​สามช่วง​ลมหายใจ​เข้าออก​แล้ว​เขา​ก็​ถามขึ้น​มาอีกครั้ง​ว่า​ “เครื่องมือ​ไถพรวน​แบบ​อัตโนมัติ​คือ​อะไร​ ? ”

“ก็​คือ​…เวลา​ไถดิน​ไม่ต้อง​ใช้วัว​เทียม​คันไถ​ สามารถ​สตาร์ท​เครื่อง​แล้ว​ขับ​ผ่าน​แป​ลงนา​ ดิน​ที่​ไถได้​ก็​ทั้ง​ลึก​และ​สม่ำเสมอ​ ตอน​หว่าน​เมล็ด​ก็​มีเครื่อง​หว่าน​ เวลา​ฉีด​พ่น​ยาฆ่าแมลง​มีโดรน​บิน​บน​ท้องฟ้า​โดย​ไม่ต้อง​ใช้แรง​คน​ สามารถ​เกี่ยวข้าว​และ​สีข้าว​ได้​ใน​เครื่องยนต์​ตัว​เดียวกัน​ ข้าวสาลี​ ข้าวโพด​แค่​ใช้กระสอบ​ใส่ก็​เก็บ​เข้า​โกดัง​ได้​แล้ว​…ผลผลิต​ของ​เรา​ที่นั่น​สูงกว่า​ที่นี่​มาก​ ข้าว​ขาว​ให้​ผลผลิต​ประมาณ​ 1,500 ชั่ง สูงสุด​ได้​ถึง 2,000 ชั่งต่อ​หมู่​ ข้าวสาลี​ก็ได้​ประมาณ​หนึ่ง​พัน​กว่า​ช่าง ข้าวโพด​ก็​ไม่ต่าง​อะไร​กัน​มาก​…”

หลิน​เว่ยเว่ย​พูด​แบบ​ไม่ค่อย​ปะติดปะต่อ​ คิด​อะไร​ได้​ก็​พูด​ ส่วน​ศัพท์​เฉพาะทาง​เหล่านั้น​ นาง​ก็​พยายาม​เลี่ยง​ที่จะ​พูด​ออกมา​ตรง ๆ​ เพราะ​กลัว​บัณฑิต​น้อย​ไม่เข้าใจ​

เจียง​โม่หา​น​ฟังด้วย​ความตื่นเต้น​จน​อด​ไม่ได้​ที่จะ​บ่น​ขึ้น​มาว่า​ “ผลผลิต​สูงถึงขนาด​นั้น​…ราษฎร​ของ​ฝั่งพวก​เจ้าคง​ไม่มีใคร​อดอยาก​…เกิด​ที่​โลก​ของ​เจ้าจะต้อง​มีความสุข​มาก​แน่นอน​ ! ”

หลิน​เว่ยเว่ย​พยักหน้า​ ไม่เพียง​กิน​อิ่ม​ แต่​ยัง​กินดีอยู่ดี​อีกด้วย​ ! เหมือนกับ​ว่า​นาง​อดทน​มานาน​และ​ในที่สุด​ก็​มีคน​ให้​คุย​ได้​สักที​ หลิน​เว่ยเว่ย​เล่า​ไม่หยุด​อยู่​นาน​ เล่า​ถึงตึกสูง​ 30 กว่า​ชั้น​ ห้างสรรพสินค้า​ที่​หา​ซื้อ​ของ​ได้​อย่าง​สะดวกสบาย​ พูดถึง​ประชากร​ที่​แออัด​ใน​เมือง​ใหญ่​และ​รถติด​ที่​นาง​เกลียด​ที่สุด​ พูดถึง​วิชาเอก​ที่​นาง​ศึกษา​…

ผ่าน​ไป​ไม่ทัน​รู้ตัว​ เวลา​ยาม​สาย​ของ​วัน​ก็​ผ่าน​พ้นไป​แล้ว​ เจียง​โม่หา​น​หยุด​คำ​พูดพล่าม​ของ​นาง​แล้ว​ประคอง​นาง​ออก​ไป​เดินเล่น​ที่​ระเบียง​โดย​มีพรม​ปู​รองพื้น​สอง​สามชั้น​ เขา​ยัง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถามว่า​ “เว่ยเอ๋อร์​ เจ้าบอ​กว่า​ตัวเอง​เรียน​ด้าน​เกษตร​มา เช่นนั้น​…แผ่นดิน​ต้าเซี่ย​ของ​พวกเรา​พอ​จะสร้าง​เมล็ดพันธุ์​ที่​ให้​ผลผลิต​สูงถึงพัน​ชั่งได้​หรือไม่​ ? ”

หลิน​เว่ยเว่ย​ครุ่นคิด​ ก่อน​จะพูดว่า​ “ถ้าได้รับ​ปุ๋ย​มาก​พอ​และ​กำจัด​ศัตรูพืช​กับ​โรค​ได้​…มัน​ก็​อาจจะ​เป็นไปได้​ บัณฑิต​น้อย​ ข้า​จะนำ​การปรับปรุง​พันธุ์พืช​มาเป็น​งานวิจัย​ตลอดชีวิต​ของ​ข้า​ ! ”

นาง​ไม่เชื่อ​ว่าด้วย​ความ​เป็น​มืออาชีพ​ของ​ตน​และ​ห้วง​มิติ​น้ำพุ​วิญญาณ​รวมถึง​สูตร​โกง​อย่าง​น้ำพุ​วิญญาณ​ นาง​จะสร้าง​เมล็ดพันธุ์​ให้​ผลผลิต​ถึงพัน​ชั่งออกมา​ไม่ได้​

เจียง​โม่หา​นม​อง​นาง​ด้วย​สายตา​อ่อนโยน​และ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ไม่ต้อง​รีบร้อน​ พวกเรา​มีเวลา​ทั้ง​ชีวิต​ อย่า​ให้​ตัวเอง​เหนื่อย​เกินไป​เพราะ​สุขภาพ​สำคัญ​ที่สุด​ ข้า​จะยืน​อยู่​ข้างหลัง​เจ้าเสมอ​ เมื่อ​เจ้าหันมา​ก็​จะเห็น​ข้า​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ ! ”

“แต่​ตอนนี้​เจ้าเดิน​ไป​ข้างหน้า​สัก​สอง​ก้าว​แล้ว​ช่วย​ประคอง​ข้า​หน่อย​ได้​หรือไม่​ ? ” หลิน​เว่ยเว่ย​ยื่นมือ​ตัวเอง​ออก​ไป​…ไม่มีตา​หรือ​ไร​ ไม่เห็น​ระเบียง​ตรงหน้า​ดู​ลื่น​หรอก​หรือ​ ? อย่า​ให้​ข้า​กับ​ลูก​ใน​ครรภ์​ล้ม​ลง​ไป​เชียว​ !

วันแล้ววันเล่า​ผ่าน​พ้นไป​ สอง​สามีภรรยา​ที่​ยอม​เปิด​เผยความลับ​ของ​ตน​ออกมา​แล้ว​ยิ่ง​สนิท​กัน​มากกว่า​เดิม​ ใน​สายตา​ของ​พวก​สาวใช้​คือ​เจ้านาย​ทั้งสอง​รัก​กัน​เหลือเกิน​ สายตา​แทบจะ​ตรึง​กัน​ไว้​ คำพูด​ที่​ออกมา​ก็​ทำให้​คนอื่น​ได้​ฟังแล้ว​หน้าแดง​ไม่หยุด​

ใน​ระหว่าง​ที่ว่าง​จาก​งาน​ เจียง​โม่หา​น​ทำ​ตามที่​หลิน​เว่ยเว่ย​เอ่ย​ขอ​คือ​ปรับปรุง​เรือนกระจก​โดย​เสริม​ชั้น​วาง​ขนาด​สามชั้น​เข้าไป​ ผัก​ตามฤดูกาล​ล้วน​ถูก​ปลูก​อยู่​บน​ชั้น​วาง​ ลัง​ไม้ใบ​แล้ว​ใบ​เล่า​เต็มไปด้วย​ผักกาด​ขาว​ ปวยเล้ง​ ผักกาด​หอม​ โหย​ว​ม่าย​ฉ้าย​1…

บน​พื้น​เรือนกระจก​ปลูก​แตงกวา​ มะเขือ​ มะเขือเทศ​และ​ผัก​อื่น​ ๆ ครึ่งหนึ่ง​ อีก​ครึ่ง​ปลูก​เซียง​กวา​ แตงโม​ เฉ่าเหมย​และ​ผลไม้​ต่าง ๆ​…

ไม่รู้​ว่า​เพราะ​เขา​มอง​ผิด​ไป​ไหม​ แต่​ผัก​และ​ผลไม้​ใน​เรือนกระจก​ดู​ต่าง​ออก​ไป​ใน​แต่ละวัน​ ผักกาด​ขาว​และ​ปวยเล้ง​รอ​แค่​ครึ่ง​เดือน​ก็​กิน​ได้​แล้ว​ ส่วน​เฉ่าเหมย​ก็​โต​ขึ้น​จน​เห็น​ได้​ด้วย​ตา​…เจียง​โม่หา​น​เริ่ม​สงสัย​ว่า​ภรรยา​ใช้พลัง​วิเศษ​กับ​ผัก​และ​ผลไม้​เหล่านี้​

ฤดูหนาว​ผ่าน​ไป​ ฤดูใบไม้ผลิ​มาเยือน​ ตอน​ถอด​เสื้อกันหนาว​ออก​ ครรภ์​ของ​หลิน​เว่ยเว่ย​ก็​โต​ไป​ถึง 5 เดือน​แล้ว​ ใน​วัน​ไถพรวน​ดิน​ช่วง​ฤดูใบไม้ผลิ​ที่​สำคัญ​เช่นนี้​ นาง​ไม่มีทาง​นั่ง​อยู่​ใน​ตำหนัก​ได้​แน่นอน​ ท่าน​หมอ​เหลียง​บอ​กว่า​ขอ​แค่​นาง​ไม่ทำงานหนัก​จน​เกินไป​ก็ได้​ หลิน​เว่ยเว่ย​จึงออก​ไป​เหมือน​พยัคฆ์​กลับ​เข้า​ป่า​โดย​นั่ง​รถม้า​จาก​ตำหนัก​ห​มิน​อ๋อง​ไป​ที่​ไร่​ทุกวัน​…อันที่จริง​นาง​ไม่ได้​ทำ​อะไร​มาก​เป็นพิเศษ​ แต่​นาง​กลับ​หวงแหน​ช่วงเวลา​ที่​ได้​ไป​ ‘ปลดปล่อย​’ จิตวิญญาณ​นี้​มาก​เหลือเกิน​

เจียง​โม่หา​น​ตาม​ไป​สอง​รอบ​เพราะ​ไม่วางใจ​ หลัง​พบ​ว่า​ภรรยา​แค่​ย้าย​เก้าอี้​ของ​เรือน​ไป​ไว้​ที่​ไร่​แล้ว​งาน​ต่าง ๆ​ ก็​แค่​ขยับ​ปาก​พลาง​ชี้นิ้ว​สั่งเท่านั้น​ เขา​จึงเริ่ม​วางใจ​

เมื่อ​ฤดู​เก็บเกี่ยว​ข้าวสาลี​เริ่มต้น​ขึ้น​ หลาย​หมู่บ้าน​แถบ​ชาน​เมืองหลวง​ส่งคน​ไม่น้อย​มา ‘สังเกตการณ์​’ และ​ยังมี​เศรษฐี​ใน​ชนบท​ที่​มีค่อน​ข้างมาก​ รวมถึง​พวก​พ่อบ้าน​ของ​ตระกูล​ชนชั้นสูง​…คาดไม่ถึง​ว่า​องค์​รัชทายาท​ก็​เสด็จ​มาด้วย​ ทรง​อยาก​เห็น​การ​เก็บเกี่ยว​ข้าวสาลี​ฤดูหนาว​ครั้งแรก​ของ​เมืองหลวง​…เนื่องจาก​ที่ผ่านมา​มีไม่กี่​คน​ปลูก​ข้าวสาลี​ฤดูหนาว​ใน​พื้น​ที่ทาง​ตอนเหนือ​ของ​เมืองหลวง​ เนื่องจาก​หนึ่ง​ ใช้เวลา​ปลูก​นาน​และ​สอง​ เพราะ​กลัว​ไม่ได้​เก็บเกี่ยว​ผลผลิต​เนื่องด้วย​อากาศ​ที่​เหน็บ​หนาว​เกินไป​

[i]

1 โหย​ว​ม่าย​ฉ้าย​ คือ​ ผัก​ใบ​เขียว​สด​ อวบน้ำ​ ชาว​จีน​นิยม​ผัด​หรือ​ลวก​กิน​กับ​หม้อไฟ​

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

Status: Ongoing
นักศึกษาเรียนดีจากวิทยาลัยเกษตรทะลุมิติมาเป็นเด็กสาวชาวนาผู้โง่เขลาและมีนิสัยป่าเถื่อน บิดาก็ตาย มารดาก็อ่อนแอ น้องชายดันมาตีตัวออกห่าง ส่วนพี่สาวก็มักจะคิดว่าเธอเป็นภาระเสมอ แต่โชคดีที่เธอมีมิติน้ำพุวิญญาณอยู่ในมือ เธอทั้งกลายเป็นนักล่าหมูป่า ทำให้ฝูงหมาป่าตกใจ ใช้น้ำพุวิญญาณมาปลูกพืชพันธุ์จนได้ผลผลิตดีงาม ทำสวนก็ได้ผลผลิตดี เลี้ยงสัตว์ก็เติบโต ไหนจะเสน่ห์ปลายจวักอีก เด็กโง่เขลาคนนี้นี่แหละจะนำพาทั้งครอบครัวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองเอง ! ทว่าบัณฑิตหนุ่มหน้าหวานจอมหยิ่งคนข้างบ้านเนี่ย คิดว่าตัวเองหล่อแล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไง ? คิดว่าเป็นขุนนางแล้วใครจะทำอะไรไม่ได้หรือ ? สุดท้ายก็ถูกเด็กโง่คนนี้กำราบไม่ใช่หรือไง ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท