ข้า อ๋าวอี่ องค์ชายรองแห่งวังมังกรทะเลบูรพา ข้าต้องทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้
อ๋าวอี่ยืนอยู่ข้างหลังกองทหารมังกรวารีสองสามกองอย่างสงบ ขณะรอให้เสนาบดีเต่าแนะนำเขาแล้วค่อยก้าวขึ้นไปบนเวทีเท่านั้น
ขณะนี้ร่างของเขาสวมเกราะเซียนที่เปล่งประกายออกมาเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าของเขาดูบอบบางและอ่อนโยนราวกับหยก
อ๋าวอี่ตระหนักดีว่าเขาจัดว่าเป็นผู้โดดเด่นเป็นเอกอยู่ในงานชุมนุมกวาดล้างปีศาจในวันนี้
นี่เป็นวันเกิดครบรอบปีที่สิบของเขา
แต่อย่าเข้าใจผิด เพราะความจริงแล้วนี่เป็นวันเกิดปีที่สิบของเขาหลังจากที่เขาออกมาจากการอยู่ในไข่มาเป็นเวลาสองร้อยสามสิบปี เมื่อสองร้อยสามสิบปีที่แล้ว เขามีสติสัมปชัญญะในไข่มังกรและสามารถเคลื่อนไหวในไข่มังกรได้ราวสามชั่วยามต่อวัน
ปรากฏการณ์เช่นนี้เรียกว่าตันตง ซึ่งเป็นคำที่เผ่าพันธุ์มังกรใช้เรียกโดยเฉพาะ
จากนั้นเป็นต้นมาก็มี ‘อาจารย์’ หลายคนจะใช้เวลาสามชั่วยามนี้เพื่อสอนมารยาท ศิลปะ บทกวี ดนตรี เคล็ดวิชาเซียน และอื่นๆ ให้แก่เขาอย่างต่อเนื่อง
เหตุผลน่ะหรือ ก็เพราะเขาเป็นองค์ชายรอง โอรสของราชามังกรทะเลบูรพาองค์ปัจจุบัน และสายเลือดสืบทอดของเขานั้นบริสุทธิ์กว่าเสด็จพี่ของเขาด้วยซ้ำ ซึ่งในอนาคตเขาน่าจะสามารถบรรลุไปถึงขอบเขตเซียนต้าหลัวจิน และกลายเป็นเสาหลักในการสนับสนุนเผ่าพันธุ์มังกรได้
ในช่วงสองสามทศวรรษแรก สิ่งที่อ๋าวอี่ได้เรียนรู้มานั้น ทำให้เขารู้สึกว่าเผ่าพันธุ์มังกรเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในพิภพ พวกเขาล้วนเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์โดยกำเนิดและเป็นราชาที่แท้จริงแห่งโลกบรรพกาล
แต่อ๋าวอี่ก็จำได้แม่นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเช้าตรู่วันหนึ่งในทะเลบูรพาเมื่อหนึ่งร้อยหกสิบสามปีก่อน ซึ่งในช่วงเวลานั้นเขาสามารถตื่นอยู่ในไข่มังกรได้ถึงครั้งละห้าชั่วยามทุกวัน
ดูเหมือนว่าอาจารย์สอนดนตรีจะเมามากเกินไปในขณะที่สอนเขา โดยเล่าข้อเท็จจริงมากมายเกี่ยวกับสถานการณ์ที่น่าสังเวชของเผ่ามังกรให้อ๋าวอี่ฟัง
เขาบอกว่าเผ่าพันธุ์มังกรไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แท้จริงแล้วมีเซียนอยู่บนฟ้าและมนุษย์อยู่บนดิน…
ในช่วงระหว่างสงครามโบราณ เผ่ามังกร หงส์ และกิเลนได้ทำลายโลกบรรพกาลอันไร้ขอบเขตสิ้นสุดเป็นชิ้นๆ ทำให้สิ่งมีชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนล้วนถูกทำลาย และนับแต่นั้นมาเผ่าพันธุ์มังกรก็ต้องแบกความรับผิดชอบ แบกรับบาปที่ไม่อาจแก้ไขได้ไปตลอด เผ่าพันธุ์มังกรจึงไม่เป็นที่ยอมรับแห่งสวรรค์และปฐพี และเต๋าสวรรค์ก็ปิดผนึกโชควาสนาของพวกเขาเอาไว้
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงทำได้แค่ตั้งรกรากอยู่ในทะเลทั้งสี่คาบสมุทร และใช้ร่างของปรมาจารย์มังกรอย่างต่อเนื่อง เพื่อซ่อมแซมดวงตามหาสมุทรที่ไม่เสถียรของทะเลทั้งสี่ ในการชดเชยความผิดและล้างบาปไปอย่างช้าๆ
แล้วดวงตามหาสมุทรคืออันใดกัน…
นั่นคือน้ำพุพิษแห่งสวรรค์และปฐพี เป็นแดนนรกชำระล้างบาปที่อันตรายที่สุด!
เมื่อได้รู้เรื่องนี้แล้ว หลังจากนั้นอ๋าวอี่ก็เริ่มกังวลและคิดถึงเรื่องนี้ทุกวัน
ในฐานะโอรสของราชามังกรและผู้สืบทอดสายเลือดของบรรพบุรุษมังกร เขาควรจะทำอะไรเพื่อเผ่าพันธุ์มังกรบ้าง
เขาค่อยๆ ค้นพบความจริงที่น่าสมเพชทีละน้อย เผ่าพันธุ์มังกรส่วนใหญ่ยังคงเชื่อว่าพวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุด หลายคนถึงกับมองว่าการลงโทษที่สวรรค์ประทานให้เพื่อปกป้องทะเลทั้งสี่คาบสมุทรที่ส่งผ่านมาจากเต๋าสวรรค์นั้นเป็นเรื่องสูงส่ง ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุดเกี่ยวกับลักษณะนิสัยและความยินดีที่จะเป็นประโยชน์ต่อสรรพชีวิตทั้งมวล!
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาต่างก็พากันคุยโวว่าเผ่าพันธุ์มังกรเคยเป็นราชาแห่งพิภพนี้ได้อย่างไร และเผ่าพันธุ์โบราณนั้นเหนือกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่อ่อนแอมากเพียงใด!
ยามนี้เผ่าหงส์และกิเลนใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว ในขณะที่เผ่าจอมเวทและปีศาจก็ไม่มีความสำคัญ รวมทั้งความจริงที่ว่าความเจริญรุ่งเรืองของเผ่ามังกรในสมัยโบราณ ยังคงได้รับการเคารพบูชาจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ นั่นคือข้อพิสูจน์ว่าเผ่าพันธุ์มังกรนั้นแข็งแกร่งที่สุด…
ช่างน่าสังเวชนัก!
น่าขบขันยิ่ง!
เวลานี้การที่เผ่าพันธุ์มังกรมีความสงบสุขนั้น เป็นผลมาจากการเสียสละของบรรพบุรุษเผ่ามังกรจำนวนนับไม่ถ้วน ที่หลั่งเลือดเนื้อเพื่อซ่อมแซมดวงตามหาสมุทร!
ทั้งยังมีเทพเซียนอยู่บนฟ้าที่สามารถกำจัด ล่าสังหารเผ่ามังกรได้ด้วยเพียงนิ้วเดียว!
ในขณะที่มนุษย์บนดินก็สามารถพัฒนากองกำลังที่ทรงพลัง ที่เผ่าพันธุ์มังกรไม่อาจขัดขวางได้อีกต่อไป!
อย่างไรก็ตามยังมีเผ่าพันธุ์มังกรมากมาย ที่ยังคงฝันกลางวันถึงความรุ่งโรจน์ในอดีต และไม่ยอมตื่นขึ้นมาจากความฝัน ด้วยเหตุนี้เผ่าพันธุ์มังกรจึงยังคงประกาศการต่อสู้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้ว่าจะไม่กล้าทำสงครามกับเผ่าพันธุ์มนุษย์จริงๆ
เมื่อไม่กี่วันก่อน เสด็จพี่ของอ๋าวอี่ องค์รัชทายาทแห่งวังมังกร ถึงกับให้คนใช้กลอุบายที่น่ารังเกียจกลั่นแกล้งให้สำนักตู้เซียนต้องประสบปัญหา แต่เขาก็ยังไม่กล้ายืนหยัดเพื่อประกาศศึกที่แท้จริงกับสำนักตู้เซียน!
นี่คือเผ่ามังกรผู้สง่างามของข้า! นี่คือราชาผู้ปกครองแห่งโบราณกาลที่เลวร้ายถึงแก่นจนบิดเบี้ยว! แล้วมังกรวัยสิบขวบอย่างข้าจะทำอันใดได้บ้างเล่า
อ๋าวอี่มองไปทางแท่นสูงที่ลอยอยู่ ราวกับว่าเขาได้เห็นบิดาของเขาซึ่งเป็นราชาอยู่ในขอบเขตเซียนต้าหลัวจิน
เซียนต้าหลัวจินสามารถถูกมหาทัณฑ์สวรรค์ทำลายได้เท่านั้น หากแม้นว่าพระบิดาจะทรงสละราชบัลลังก์ ก็จะเป็นเสด็จอาของเขาที่จะสืบราชบัลลังก์แทน ไม่ใช่อ๋าวอี่ และเป็นผลให้เขาไม่อาจใช้พลังอำนาจในฐานะราชาเพื่อพลิกสถานการณ์ของเผ่าพันธุ์มังกรได้
อ๋าวอี่เย้ยหยันในใจ ว่ากันตามตรง ข้าก็เป็นแค่หุ่นเชิดสวยงามซึ่งมีความคาดหวังสูงที่จะช่วยพวกเขารักษาศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจต่อไปได้
ก็เพียงเท่านั้น
‘ลูกแม่ ในงานชุมนุมกวาดล้างปีศาจวันนี้ เจ้าต้องเลือกศิษย์จากสำนักตู้เซียนขึ้นมาบนลานประลองเพื่อแลกเปลี่ยนวิชายุทธ์ จำไว้ว่าเจ้าต้องชนะอย่างสวยงามเท่านั้น นั่นจึงจะทำให้พระบิดาเบิกบานใจได้’
นี่คือคำแนะนำจากพระมารดาของเขา
‘ฝ่าบาท ได้โปรดเมตตาอย่าทำร้ายผู้ใด ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาจะเลวร้ายจนยากที่จะจัดการได้พ่ะย่ะค่ะ’
และนี่คือคำแนะนำจากเสนาบดีของพระบิดา
ทว่าทุกคนไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร
“เนื่องจากวันนี้เป็นวันคล้ายวันประสูติขององค์ชายรองของเรา หม่อมฉันจึงอยากจะขอทูลเชิญองค์ชายรองแห่งวังมังกรทะเลบูรพาได้โปรดกรุณาขึ้นมาบนเวทีนี้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” เสนาบดีเต่าตะโกนก้องออกมา
อ๋าวอี่ ก้าวขึ้นไปบนเวทีอย่างสงบภายใต้ทุกสายตาที่จับจ้องมองมาที่เขา แต่เขาไม่สนใจจะมองดูสิ่งมีชีวิตใดที่มิใช่คนของเผ่ามังกร
เสนาบดีเต่ายังคงบรรยายบทที่เขาท่องจำได้ และในไม่ช้าอ๋าวอี่ก็จะต้องเลือกคู่ต่อสู้เพื่อแลกเปลี่ยนวิชายุทธ์กันตัวต่อตัวอย่างอิสระ และนี่จะเป็นรายการเปิดตัวที่สนุกตื่นเต้นก่อนที่จะเริ่มงานชุมนุมกวาดล้างปีศาจอย่างเป็นทางการในวันนี้
นอกจากนี้ก็ยังจำเป็นต้องทำให้สำนักบำเพ็ญเล็กๆ ตู้เซียน มีสีสันสักเล็กน้อยในที่สาธารณะ
อ๋าวอี่รู้ดีว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาเป็นเช่นไร การสะสมสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มาเมื่ออยู่ในไข่มังกร สายเลือดมังกรบรรพบุรุษของเขา และพลังศักดิ์สิทธิ์โดยกำเนิดของเขา แม้เขาจะเพิ่งฟักออกมาจากไข่มังกรได้เพียงสิบปี แต่กระทั่งบรรดามังกรที่เพิ่งกลายเป็นเซียนก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไป
ทว่าวันนี้…
เหมือนกับที่ทุกคนกำลังดูเขาอยู่
สำนักเซียนที่อยู่รายรอบทะเลบูรพาล้วนมารวมตัวกันที่นี่!
เขาคือองค์ชายรองวัยสิบปีของวังมังกรทะเลบูรพาผู้กำลังจะทำบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่!
เขาสังเกตความแข็งแกร่งของศิษย์สำนักตู้เซียนและเล็งเป้าไปที่จุดอ่อนที่สุดของพวกเขา
บางทีเผ่าพันธุ์มังกรผู้ยิ่งใหญ่ก็รู้สึกว่าการถูกตบหน้าจากสำนักตู้เซียนสองครั้งก็ยังไม่เพียงพอ
นั่นยังไม่สามารถปลุกพวกเขาให้ตื่นจากฝันกลางวันได้ใช่หรือไม่
ดีล่ะ!
วันนี้ข้า อ๋าวอี่ โอรสองค์รองของราชามังกร จะแพ้ให้กับผู้ที่อ่อนแอที่สุดของสำนักตู้เซียนอย่างยุติธรรมและตรงไปตรงมา!
ถูกตบหน้าครั้งนี้เพียงพอหรือไม่
ตื่นได้แล้ว เผ่ามังกร!
ตื่นได้แล้ว สหายเผ่ามังกรที่มัวเมาในความฝันโบราณเหล่านั้น!
บัดนี้ยังไม่สายเกินไป พวกเราในฐานะเผ่ามังกรจำเป็นต้องละทิ้งความเย่อหยิ่งของเรา เราต้องแสวงหาเส้นทางที่แท้จริง โดยปล่อยให้ลูกหลานมังกรที่มีพรสวรรค์เข้าสู่สำนักต่างๆ ภายใต้สำนักบำเพ็ญเต๋าทั้งสาม เพื่อฝึกฝนวิชาเวทเต๋าของพวกเขาเฉกเช่นเดียวกับลูกหลานของเผ่าพันธุ์มนุษย์คนอื่นๆ!
เสนาบดีเต่าคนหนึ่งกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “วันนี้องค์ชายรองของเราจะได้พบกับผู้มีพรสวรรค์จากสำนักเซียนเพื่อแลกเปลี่ยนและชี้แนะวิชาการต่อสู้กัน…”
เอาล่ะ เริ่มได้แล้ว
อ๋าวอี่สูดลมหายใจเข้าอย่างระมัดระวังแล้วก้าวไปข้างหน้าพลางมองไปในทิศทางที่นั่งของสำนักตู้เซียน
ทุกคนในงานต่างก็จ้องมองตามสายตาของเขาไปยังที่นั่งของสำนักตู้เซียน
“เจ้า”
เขายกมือขวาแล้วชี้ตรงไปยังผู้ที่อ่อนแอที่สุดในสำนักตู้เซียนที่เขาเลือกเอาไว้ก่อนหน้านี้ และกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยังคงอ่อนโยนของเขา
“จงขึ้นมาประลองกับข้า”
………………………………………………………………