ด้วยเหตุนี้ หลี่ฉางโซ่วและหลิงเอ๋อร์จึงไปที่ศาลาด้านข้าง ตัวอาคารถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถันยิ่ง วัสดุและสีล้วนมีคุณภาพสูงชั้นยอด ซึ่งหากหลี่ฉางโซ่วจำไม่ผิด โหย่วฉินเสวียนหย่าเป็นคนตกแต่งสถานที่นั้นด้วยตัวเอง…
เป็นไปตามคาด นางช่างสมกับเป็นองค์หญิงแห่งโลกมนุษย์จริงๆ ห้องเล่นหมากรุกและไพ่ที่นางสร้างขึ้น มานั้น แผ่กลิ่นอายสูงส่งและโอ่อ่าหรูหราดุจบ่อนพนันแห่งราชวงศ์!
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วก็หยิบรูปของบุรุษหนุ่มรูปงามออกมาจากแขนเสื้อของเขา บุรุษหนุ่มรูปงามผู้นี้คือรูปลักษณ์ที่เขา ‘แก้ไข’ ให้กับตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์
จากนั้นเขาก็แอบแขวนภาพเหมือนไว้อย่างลับๆ และซ่อนถุงใบหนึ่งเอาไว้ด้านหลังภาพเหมือนเพื่อให้หลิงเอ๋อร์ใช้พลังปราณสัมผัสรับรู้ของนางตรวจดู…
ผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่ฉางโซ่วก็ถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง”
“อันใดกันเจ้าคะ” หลิงเอ๋อร์กะพริบตาเบาๆ
หลี่ฉางโซ่วจึงกล่าวถามว่า “เวลานี้ มีภาพบางภาพปรากฏขึ้นในใจของเจ้าบ้างหรือไม่”
“หือ?” หลิงเอ๋อร์เอียงศีรษะของนางแล้วถามว่า “ดูเหมือนภาพนี้จะเป็นภาพเหมือน อันใดกัน…แล้วข้าควรเห็นภาพใดกันเจ้าคะ”
หลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้วและกล่าวว่า “จงดูต่อไป” “เจ้าค่ะ” หลิงเอ๋อร์ตอบรับอย่างเชื่อฟัง จากนั้นจึงนั่งขัดสมาธิแล้วใช้พลังปราณสัมผัสรับรู้ของนางตรวจดูภาพเหมือนต่อไป
ทว่าไม่นานหลังจากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็สัมผัสได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในตัวหลิงเอ๋อร์ “แปลกจริง” จากนั้น หลี่ฉางโซ่วจึงเก็บภาพเหมือนออกไป และหยิบถุงกลับไปอีกครั้ง จากนั้นก็เปิดตราผนึกบนถุงรวมถึงตราผนึกโอสถที่อยู่ภายในนั้น…
ในขณะนั้น หลิงเอ๋อร์ได้ยินเสียงดังวิ้ง แล้วใบหน้าของนางก็ขึ้นสีแดงก่ำทันทีในขณะที่ผ่อนลมหายใจออกเบาๆ แล้วกัดริมฝีปากของนางอย่างแรง “ศิษย์พี่…”
ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ปิดผนึกถุงทันทีและกระตุ้นโอสถชิงซินที่มีฤทธิ์สร้างความรื่นรมย์ใจ ก่อนจะหลอมละลายพลังการรักษาของโอสถโดยตรง ทำให้คุณสมบัติทางยาภายในผสานกันแล้วกลายเป็นหมอกก่อนที่จะลอยเข้าสู่จมูกของหลิงเอ๋อร์
หลังจากนั้นไม่นาน…หลิงเอ๋อร์ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกและมองไปที่หลี่ฉางโซ่วด้วยความกลัว ในขณะที่ใบหน้าของนางค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นนางก็กล่าวตะกุกตะกักออกมาว่า “ศิษย์พี่ เมื่อครู่นี้ ท่านทำอันใดกันเจ้าคะ หากท่านเป็น…หากท่านเป็น…ท่านไม่จำเป็นต้องใช้วิธีเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ…แค่เพียงพูดออกมา…”
หลี่ฉางโซ่วแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและกล่าวว่า “ฝึกฝนให้ดี อย่าคิดมาก ข้าแค่พยายามทดสอบยาที่จะมอบให้ท่านอาจารย์เท่านั้น”
หลังจากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ก้มหน้าลงอย่างสับสนแล้วเดินจากไป
โอสถเม็ดนี้ไม่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีคนรักอยู่ในหัวใจแล้วหรือไม่
หากเป็นเช่นนี้ เมื่ออาจารย์ลุงจิ่วอูมารับโอสถปรารถนาไป เขาเห็นภาพโฉมงามและมีโอสถนี้อยู่ข้างหลังภาพนั้นด้วย แล้วเหตุใดอาจารย์ลุงจิ่วอู…
เป็นเพราะสรรพคุณทางยาไม่เสถียรหรือว่าเป็นเพราะอาจารย์ลุงจิ่วอูเอง…
ฟ่อ…
โอ้ไม่ โอ้ไม่
“ศิษย์พี่!”
หลิงเอ๋อร์ไล่ตามหลังเขาไปพลางจับกรอบประตูเอาไว้ในขณะที่นางเอ่ยถามเบาๆ ว่า “ท่านอยากให้ข้านำสิ่งนั้นมากับข้าและลองใช้พลังปราณสัมผัสรับรู้ของท่านหรือไม่เจ้าคะ ท่านจะรู้ถึงผลกระทบเมื่อสัมผัสด้วยตัวเองแล้วเท่านั้น”
หลี่ฉางโซ่วหยุดเดินชั่วขณะแล้วโบกมือ ก่อนจะขับเคลื่อนเมฆแล้วบินตรงไปที่หอโอสถ
“หึ! ข้ารู้ว่าท่านไม่กล้า ท่านรู้แค่วิธีที่จะทำตัวให้มั่นคงและมั่นคงเท่านั้น”
ทันใดนั้น หลิงเอ๋อร์ก็พลันแค่นเสียงร้องออกมาแล้วกลอกตาก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องของนางในศาลาทันที…
ทว่าในเวลานี้ หลี่ฉางโซ่วกำลังคิดหาวิธีปรับปรุงโอสถสองประเภทที่เขาเพิ่งพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
โอสถพิษสัมผัสเซียนควรถือว่าเป็นงานสร้างสรรค์ของผู้อาวุโสว่านหลินหยุน หลี่ฉางโซ่วแค่ยืมความคิดของเขามาเพื่อต่อยอดและสร้างแนวทางเลือกใหม่เท่านั้น…
ในขณะนั้น เขาได้ผลิตโอสถสัมผัสเซียนออกมาสองเม็ด และใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อหาสมุนไพรและสมบัติล้ำค่า แต่ผลก็ชัดเจน และบัดนี้คลังเก็บไพ่ไม้ตายของเขาก็ได้ขยายตัวขึ้นอีกครั้งแล้ว
ประเภทของโอสถที่หลี่ฉางโซ่วเก็บไว้เป็นโอสถวิญญาณที่ใช้ต้านการตรวจจับของพลังสัมผัสเซียนรับรู้ที่แปลกประหลาด ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น ‘โอสถต้านการสำรวจ’ ซึ่งเป็นโอสถที่หลี่ฉางโซ่วไม่ได้คิดที่จะมอบให้ผู้ใด
ไม่เช่นนั้น หากโอสถชนิดนี้แพร่กระจายออกไป บางทีมันอาจจะถูกนำมาใช้กับเขาเอง
เมื่อโอสถต้านการสำรวจอยู่กับเขา ผู้ใดก็ตามที่ใช้พลังสัมผัสเซียนรับรู้เพื่อตรวจจับเขาจะทำให้เกิดหมอกวิญญาณปรากฏขึ้นรอบๆ ตัวเขา
และหมอกวิญญาณนี้จะสามารถช่วยให้หลี่ฉางโซ่วค้นหาผู้ที่กำลังสำรวจตรวจจับเขาได้
เขาตั้งชื่อโอสถสัมผัสเซียนชนิดที่สองนี้ว่า ‘โอสถเพลิงหัวใจ’
หลี่ฉางโซ่วได้รับแรงกระตุ้นจากเวทปีศาจ เขาใช้หินแห่งความรักและสุราแห่งความรักเป็นรากฐาน และได้ทดลองมาหลายร้อยครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้จนบังเอิญได้พบสูตรที่ถูกต้อง
โอสถพิษสัมผัสเซียนของผู้อาวุโสว่านหลินหยุนใช้งานได้จริง โดยใช้คุณสมบัติเป็นพิษพิเศษของหนอนเทพหนามปี้จิงเพื่อทำร้ายปราณวิญญาณของผู้ที่กำลังสำรวจเขา
‘โอสถเพลิงหัวใจ’ ที่หลี่ฉางโซ่วหลอมขึ้นมาเพื่อแทนที่หนอนเทพหนามปี้จิง ด้วย ‘หนอนกู่พิษรัก’ ซึ่งยืมหลักการของเวทปีศาจ และคาถาเสน่ห์อาคม
ในเวลาเดียวกัน หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากอาจารย์ให้ทำเช่นนั้นได้แล้ว หลี่ฉางโซ่วก็ใช้ภาพลักษณ์ของอาจารย์ของเขาเป็นพิเศษเพื่อแอบมองหาปีศาจจิ้งจอกเซียนเสิ่นที่ถูกขังอยู่ในค่ายกลชีพจรปฐพีเพื่อศึกษาคาถาเสน่ห์อาคม
เขาสังเกตและสรุปสองสามครั้งแล้วแก้ไขกรรมระหว่างปีศาจจิ้งจอกและยอดเขาหยกน้อยของเขาเองอย่างชาญฉลาด
สำหรับกระบวนการ…
ไม่สำคัญ อีกฝ่ายให้สัตย์สาบานที่ดีแล้ว
หลังจากปรับคุณสมบัติทางยาของโอสถเพลิงหัวใจเป็นเวลาสองเดือนแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็ใส่ให้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์หนึ่งตัว ซึ่งมีโอสถเพลิงหัวใจหนึ่งเม็ด และโอสถต้านการสำรวจหนึ่งเม็ดลงในถุงผ้าที่ผ่านกระบวนการพิเศษ
ต่อมา อาจารย์ของเขาเพียงแค่นำถุงเก็บโอสถติดตัวไปในขณะเดินทางไปทั่ว
หากเขาพบพลังสัมผัสเซียนที่พยายามจะตรวจจับบางอย่าง หลี่ฉางโซ่วก็จะใช้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เพื่อตรวจดูและตัดสินว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร หากรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่เลว เขาก็จะเปิดกฎห้ามของโอสถเพลิงหัวใจ
เขาต้องตามหาการกลับชาติมาเกิดของท่านอาจารย์ป้า
แต่เพื่อให้อาจารย์พ้นจากการจมอยู่กับความเศร้าโศกโดยเร็วที่สุด และการยอมรับผู้บำเพ็ญสตรีอื่น ก็จะทำให้ท่านอาจารย์มีกำลังใจมากขึ้นอย่างแน่นอน ในฐานะศิษย์ เขาคงทำให้ท่านอาจารย์ของเขาได้เต็มที่เพียงเท่านี้แล้ว
หลี่ฉางโซ่วจัดถุงและขับเคลื่อนเมฆไปทางกระท่อมมุงจากของท่านอาจารย์ของเขา
หลี่ฉางโซ่วอดยิ้มไม่ได้ในขณะที่มองไปยังร่างทั้งสามที่กำลังยุ่งอยู่รอบๆ กรงสัตว์วิญญาณอีกครั้ง พวกนางดูจริงจังกว่าเมื่อก่อนมาก
แต่ก่อนที่หลี่ฉางโซ่วจะบินไปที่กระท่อมมุงจาก เขาก็รู้สึกไม่สบายใจในใจของเขาอย่างกะทันหัน
จากนั้น เขาจึงบีบนิ้วคาดการณ์และพบว่าแม่ทัพตงมู่กำลังรอเขาอยู่ที่วิหารเทพทะเลอีกแล้ว…พูดถึงเรื่องนั้นแล้ว บัดนี้ เขามีวิหาร…แค่กๆ หกพันหกร้อยเก้าสิบสองแห่งแล้ว แต่ไฉนท่านแม่ทัพตงมู่จึงไปที่วิหารนั้นแห่งเดียว เขาไม่อาจไปที่วิหารที่ซ่อนอยู่ในที่อื่นๆ ได้หรือ
ความจริงแล้ว มันไม่มีทางที่จะซ่อนได้ เพราะในไม่ช้าก็เร็ว ย่อมต้องมีคนสังเกตเห็น
หลี่ฉางโซ่วคร่ำครวญในใจ ขณะที่ตัดสินใจจะเตือนแม่ทัพตงมู่ให้ซ่อนร่องรอยของเขาเมื่อเขามาในครั้งต่อไป
ทันทีหลังจากนั้น เขาก็หันมุมบนก้อนเมฆและกลับไปที่กระท่อมมุงจากของเขา
ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ในขณะที่ใช้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เพื่อสังเกตผู้อาวุโสว่านหลินหยุนที่กำลังค้นหาแมลงพิษในดินแดนเทวะอุดร และพบว่าท่านผู้อาวุโสปลอดภัย ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล หลังจากนั้น หลี่ฉางโซ่วจึงเปิดใช้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่อยู่ใต้วิหารเทพทะเล…