ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – ตอนที่ 449 ฉางเกิงแกล้งเสือดำตามคำสั่ง (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 449 ฉางเกิงแกล้งเสือดำตามคำสั่ง (1)

ที่ด้านหน้าประตูของสำนักตู้เซียน บัดนี้ มีแสงเซียนสาดประกายและมีเมฆมงคลเต็มท้องฟ้า ลำแสงเซียนสาดส่องลงมาจากท้องฟ้า ต้องร่างของหลิงเอ๋อร์

หลิงเอ๋อร์ถือกระบี่ด้วยมือซ้ายและยืนเงียบๆ อยู่บนก้อนเมฆรูปเห็ด และปล่อยให้เทพธิดาร่ายรำไปรอบๆ ตัวนาง

บรรดาเซียนทั้งหลายล้วนแสดงความยินดีกับนาง ทว่าในขณะนั้น นางมองเข้าไปในส่วนลึกของท้องฟ้าและเห็นอะไรบางอย่าง…

นางน่าจะเข้าใจถึงการเปลี่ยนสถานะของขอบเขตชีวิตของนาง

ขณะที่หลี่ฉางโซ่วคิดถึงเรื่องนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็ถอยกลับไปเงียบๆ ในขณะที่ร่างเหล่านั้น ขี่เมฆผ่านเขาไป

สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ การนำร่างหลักของเขากลับไปที่ยอดเขาหยกน้อย มันอันตรายเกินไปที่จะออกไปข้างนอกในขณะที่กำลังบาดเจ็บ

นี่คือขอบเขตเซียนใช่หรือไม่?

หลิงเอ๋อร์จ้องมองไปที่ความว่างเปล่าและประตูเต๋าใหญ่ที่อยู่ข้างหน้านาง ความคิดของนางล่องลอยไปที่อื่น ตอนนี้ นางเป็นเซียน หากนางมีลูกกับศิษย์พี่ในภายหน้า แล้วลูกของเราจะเป็นเซียนไปด้วยหรือไม่…

ศิษย์พี่…ลูก…

วะฮะฮ่า นี่ข้ากำลังคิดเหลวไหลอะไรอยู่? ช่างน่าอายอะไรเช่นนี้!

ใบหน้าของหลิงเอ๋อร์ขึ้นสีก่ำ และร้องครางออกมาขณะที่มีควันสีขาวปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเธอและม้วนตัวขึ้นจากแสงเซียน หลังจากการขึ้นสู่เซียน ปริมาณไอน้ำก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ใช่แล้ว ศิษย์พี่อยู่ที่ใดกัน?

เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของปรมาจารย์ใหญ่เจียงหลินเอ๋อร์มาจากระยะไกล หลิงเอ๋อร์ก็ระงับความคิดภายในของนางไว้ชั่วคราวและหันหลังกลับไปหาเมฆ

เพียงเมื่อเห็นร่างที่ใกล้เข้ามา หลิงเอ๋อร์ก็ยืนเขย่งปลายเท้าโดยไม่รู้ตัว… นางคุ้นเคยกับบางคนในขณะที่บางคนนั้น เป็นคนแปลกหน้าสำหรับนาง นางใกล้ชิดพวกเขาหรือเพิ่งพบพวกเขาเพียงไม่กี่ครั้ง พวกเขามีความสำคัญน้อยกว่าร่างที่หายไปมาก

ศิษย์พี่หน้าเหม็น…

เขาไม่ได้มาแสดงความยินดีกับข้า!

หลิงเอ๋อร์ขมวดคิ้วและรู้สึกหดหู่ ทว่านางได้รับการเตือนอย่างต่อเนื่องจากศิษย์พี่ของนางทั้งก่อนและหลังการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ นางจึงเม้มปากและยิ้มเบิกบาน

หลังจากนั้น ข้อมูลเชิงลึกมากมายก็ผุดขึ้นมาในใจนาง… จนดูเหมือนว่า หัวใจเต๋าของหลิงเอ๋อร์จะมีน้ำพุวิญญาณมากขึ้น ในยามนี้ ข้อมูลเชิงลึกที่นางไม่เคยมีมาก่อนยังคงไหลทะลักออกมา เต๋าใหญ่นั้นโชติช่วงและทุกอย่างก็ประสานกลมกลืนกัน

ดวงตางดงามของหลิงเอ๋อร์เผยความคิดบางอย่างออกมา ในยามนั้น นางคำนับพี่น้องและสหายศิษย์ร่วมสำนักหลายคนที่กำลังจะบินจากไป จากนั้น นางก็พับกระโปรงและนั่งขัดสมาธิ และอักขระเต๋ามากมายก็ปรากฏขึ้นรอบๆ กายนาง

ในขณะนั้น หลิงเอ๋อร์มีคำถาม

เต๋าของข้าคืออะไร? นับจากชั่วเวลาที่นางเริ่มฝึกบำเพ็ญมาจนถึงวันนี้ คำตอบที่นางได้รับจากวิถีที่นางก้าวไปและปัญหาที่นางประสบ ล้วนแล้วแต่มาจากศิษย์พี่ของนาง

แม้แต่หลักการที่อาจารย์ของนางสอนในตอนแรกก็ยังเป็นศิษย์พี่ที่จัดการแก้ไขให้นางหลังจากนั้น แล้วเต๋าของข้าจะเลียนแบบเต๋าของศิษย์พี่หรือไม่?

ไม่ทั้งหมด ศิษย์พี่เคยกล่าวไว้ว่า เต๋าใหญ่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติโดยไม่เคลื่อนไหวตามหัวใจ

เต๋ามาจากใจ มิใช่โลก เหตุผลคือการทำสิ่งที่ถูกต้อง ทุกสรรพชีวิตล้วนมีเต๋าเป็นของตัวเอง เต๋าเกิดมาจากตนเอง คำชี้แนะและข้อมูลเชิงลึกที่ศิษย์พี่ให้ไว้เป็นเพียงเพื่อทำให้กระบวนการทำความเข้าใจเต๋าใหญ่และสร้างเต๋าของตัวเองให้ง่ายที่สุดเท่าที่ทำได้

ตอนนี้ หลังจากที่ผลักประตูลึกลับออกไป เครื่องหมายเต๋าก็อยู่ตรงหน้านาง

จิตใจของหลิงเอ๋อร์สงบลง นางยอมรับ มีประสบการณ์ และรู้สึกได้ทุกอย่าง ครั้นเมื่อนางนึกถึงร่างของศิษย์พี่ นางก็ค่อยๆ จมลงไปในเต๋าใหญ่…

ด้านหลังของหลิงเอ๋อร์ แสงเซียนหลากสีสันสดใสได้รวมตัวเป็นตำรา ตำรานั้น ค่อยๆ พลิกหน้าและเปล่งแสงเจิดจ้าออกมา มวลบุปผาบนท้องฟ้าร่วงหล่นลงมาอย่างนุ่มนวลในขณะที่หมู่เมฆล่องลอยไป

“อย่าข้ามไปหา หลิงเอ๋อร์กำลังทะยานขึ้น อย่าไปรบกวนนาง”

เจียงหลินเอ๋อร์ ส่งเข้อความสียงของนางไปยังสถานที่ต่างๆ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆ หลิงเอ๋อร์ ทำให้บรรดาเซียนจากสำนักตู้เซียนหยุดในขณะที่พวกเขาไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า … เจ้าสำนักจี้อู๋โหย่วได้วางชั้นเกราะป้องกันเซียนและส่งหลิงเอ๋อร์กลับไปที่ยอดเขาหยกน้อยแห่งสำนักตู้เซียน

หลี่ฉางโซ่วได้เก็บร่างหลักของเขาขึ้นมาแล้ว และออกเดินทางจากยอดเขาหยกน้อย เขาค่อยๆ ย้าย หลิงเอ๋อร์ ซึ่งจมอยู่ในห้วงแห่งการตรัสรู้เต๋า กลับไปที่กระท่อมมุงจากริมทะเลสาบ แล้วเปิดใช้กฎห้ามต่างๆ หลายๆ ชั้นเพื่อให้นางฝึกบำเพ็ญอย่างสงบสุข เก้าทัณฑ์สวรรค์นั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

ทั้งสำนักล้วนตื่นตระหนกกันหมด บรรดาผู้นำสูงสุดและผู้อาวุโสหลายคนต่างพาศิษย์ที่ภาคภูมิใจของพวกเขาไปที่ยอดเขาหยกน้อยเพื่อแสดงความยินดีกับนาง

หลี่ฉางโซ่วเดินตามอาจารย์ของเขา ฉีหยวน และฉีหยวนก็เดินตามหลังปรมาจารย์ของเขา ปรมาจารย์ใหญ่ เจียงหลินเอ๋อร์ พวกเขาคอยให้การต้อนรับและส่งแขกออกไป มันหาได้ยากนักที่ยอดเขาหยกน้อยจะครึกครื้นมากเช่นนี้ …

ทว่าหลี่ฉางโซ่วไม่ได้มุ่งสนใจเรื่องนั้น เขาทำงานหลายอย่างไปพร้อมๆ กัน นอกเหนือจากการรักษาตัวเองแล้ว เขายังต้องให้ความสนใจส่วนหนึ่งไปที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ซียนจิน เขาแอบจ้องไปที่คู่ปีศาจ และด้วยเหตุนี้ จึงยิ่งทำให้หลี่ฉางโซ่วมีความสงสัยและตื่นตกใจมากขึ้น

ปีศาจเสือดำนี้คือใคร?

บางที อาจเป็นเพราะหลี่ฉางโซ่วถูกการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ ลงโทษหลายครั้งในขณะที่ตอนนี้ เขาเป็นเทพผู้ชอบธรรมที่ถูกต้องตามกฎของศาลสวรรค์ เขาจึงอ่อนไหวเป็นพิเศษกับอักขระเต๋าพิเศษที่เกี่ยวข้องกับเต๋าสวรรค์

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหายเต๋าที่เป็นมิตร ซึ่งมีแซ่ว่า ฮวา เขามักจะสัมผัสได้ถึงพลังที่ซ่อนของการคุ้มครองแห่งเต๋าสวรรค์จากสหายเต๋าผู้นั้น… เมื่อหลี่ฉางโซ่วเห็นเสือดำเป็นครั้งแรก เขารู้สึกเพียงว่ามันคุ้นเคยอย่างประหลาด ทว่า หลังจากที่แอบตามมันไปสักพัก หลี่ฉางโซ่วก็ตกใจ! เขาสัมผัสได้ถึงการคุ้มครองแห่งเต๋าสวรรค์จากเสือดำ!

วิญญาณเสือดำ…

ได้รับการคุ้มครองจากเต๋าสวรรค์…

หรือว่า ข้าบังเอิญค้นพบคนพิเศษผู้ขับเคลื่อนทัณฑ์สวรรค์?

แต่หากนี่คือ เสิ่นกงกง[1] ‘บุตรแห่งมหาภัยพิบัติ’ แห่งมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพ แล้วเหตุใดเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่พร้อมกับปีศาจสาว และวิ่งไปรอบๆ ในทุ่ง?

ความรู้สึกคุ้นเคยนั้นมาจากที่ใดกัน?

ข้าควรทำอย่างไรดี…

ในเวลานั้น หลี่ฉางโซ่วอดจะคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนไม่ได้ เขาได้กระโดดออกมาจากมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพแล้ว มหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพนี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา แม้เสือดำจะเป็นเสิ่นกงเป้าจริงๆ เขาก็ไม่จำเป็นต้องวางแผนทำร้ายมัน

ไม่มีกลอุบายแยบยลใดๆ เขาหลีกเลี่ยงกรรมใหญ่หลวงเช่นนี้ไปย่อมจะดีกว่า

ข้าจะมั่นคง ปล่อยวาง และแสร้งทำเป็นไม่เห็นเสือดำ

จากนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วหยุดใช้หลีกลี้ปฐพีซ่อนกายใต้ดิน เขาใช้สัมผัสรับรู้มองดูเสือดำอีกครั้งก่อนจะหันหลังจากไป

ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วรู้สึกเหมือนมีคนกำลังบรรเลงพิณอยู่ในใจของเขา เต๋านั้นไร้ตัวตนและความหมายที่แท้จริงของนิรกรรมก็ถูกเปิดเผยออกมา

อักขระเต๋าคลุมเครือที่คุ้นเคย การส่งข้อความเสียงที่คุ้นเคย ความถี่ในการสั่นสะเทือนเต๋าใหญ่ที่คุ้นเคย…

ไป

มีเพียงคำเดียวที่ผุดขึ้นมาในใจของหลี่ฉางโซ่ว

ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วตกใจ เขาโผล่ออกมาจากพื้นดินและโค้งคำนับให้ท้องฟ้า จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและไล่ตามเสือดำไปทันที

จอมปราชญ์เทพได้ออกบัญชามาอีกครั้ง!

มันเป็นอักขระเต๋าของจอมปราชญ์เทพที่เขาไม่ได้พบมาเป็นเวลานาน คำสั่งของจอมปราชญ์เทพที่เขารอคอยมาเป็นเวลานาน!

ในที่สุด หลี่ฉางโซ่วก็ยืนยันได้ว่า องค์ไท่ชิงกำลังให้ความสนใจเขา ปรมาจารย์เต๋าน้อย ทำให้เขามีความปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้น!

ทว่าจอมปราชญ์เทพได้ให้คำว่า ‘ไป’ แก่เขาเท่านั้น แล้วมันหมายความอันใดกัน?

หลี่ฉางโซ่วทำความเข้าใจมันอย่างระมัดระวัง และได้รับบางสิ่งบางอย่างอย่างรวดเร็ว จอมปราชญ์เทพน่าจะขอให้ข้าทำในสิ่งที่ข้าอยากทำก่อนหน้านี้ หรือเขาน่าจะบอกให้ข้าตามหลังเสือดำไปและช่วยให้มันรอดพ้นจากภัยพิบัติ… แล้วก่อนหน้านี้ ข้าอยากทำอันใด?

ข้าอยากรู้และยืนยันตัวตนที่แท้จริงของเสือดำ

แต่จอมปราชญ์เทพได้สั่งให้ตรวจสอบตัวตนของเสือดำด้วยตัวเอง สหายผู้นั้นต้องเป็นเสิ่นเป้า ผู้ที่ใช้สมองอย่างหนักและพยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อจะได้มีปรมาจารย์ที่แท้จริงในสำนักบำเพ็ญเต๋ามากขึ้นในหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพของศาลสวรรค์!

หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว หลี่ฉางโซ่วก็ใคร่ครวญให้รอบคอบอีกเป็นเวลาสองสามชั่วยาม และในที่สุด เขาก็ตัดสินใจทำตามคำชี้แนะของคำว่า “ไป” จากนั้น เขาก็ทำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาอยากทำให้เสร็จหลังจากค้นพบว่า เสือดำนี้ได้รับการคุ้มครองจากเต๋าสวรรค์…

………………………………………………………………..

[1] หมายถึงเสิ่นกงเป้า ซึ่งตามตำนาน ท่านเป็นเทพารักษ์ใต้สะดือทะเลและเทพผู้รักษาฝ่ายพระเจ้าชางโจ้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท