บทที่ 100 หย่า
บทที่ 100 หย่า
“หัวหน้าหมู่บ้าน ข้าต้องการหย่า!” กู้ฉวนโซ่วแสดงสีหน้าเหี้ยมเกรียม พูดคำนั้นใส่เฉาซื่ออย่างดุร้าย
“ว่าอย่างไรนะ หย่า!” เหล่าเหลียงโถ่วไม่อยากจะเชื่อ ในชนบทมีครอบครัวใดบ้างที่ไม่ใช้ชีวิตอย่างสบงสุข เรื่องอย่างการหย่าเช่นนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยพบเจอ! อีกทั้งยังมาจากปากของคนที่กลัวภรรยาคนหนึ่งอีกด้วย นี่ นี่มันช่าง…
เหล่าเหลียงโถ่วพูดเข้าประเด็น “เอาล่ะ เจ้าต้องการหย่า ข้าเหล่าเหลียงโถ่วก็จะไม่ห้าม เดิมทีนี่เป็นเรื่องภายในบ้านของเจ้า จะให้ข้าสอดมือยุ่งก็ดูไม่ดีเท่าไร แต่เมื่อครู่เจ้าเรียกข้ามานี่แล้ว ทั้งยังพูดว่าจะหย่ากับนาง ตอนนี้เจ้าพูดเหตุผลให้ชัดเจนเลยว่าทำไมต้องการหย่า เฉาซื่อไม่ใช่คนในหมู่บ้านเรา ถ้าเกิดเจ้าจู่ ๆ หย่ากับนาง หมู่บ้านของเฉาซื่อต้องเอาเรื่องกับหมู่บ้านอู๋ซีเป็นแน่”
หมู่บ้านเฉาซื่อเป็นคือหมู่บ้านข้าง ๆ โบราณว่าลูกสาวก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป ถ้าฝ่ายหญิงถูกขอหย่าแล้ว ก็ทำได้เพียงกลับบ้านมารดา! ถึงตอนนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องของครอบครัวหนึ่งแล้ว แต่เป็นเรื่องระหว่างทั้งสองหมู่บ้าน
ดังนั้นตอนนี้เหล่าเหลียงโถ่วจำเป็นต้องรู้ต้นตอทั้งหมดให้ได้ ไม่อย่างนั้นหากถึงตอนนั้นแล้วเขาคงมองหน้าหมู่บ้านข้าง ๆ ไม่ได้เช่นกัน!
กู้ฉวนโซ่วมองใบหน้าบวมปูดของเฉาซื่อที่นั่งบนอยู่พื้นแล้วแค่นเสียงขึ้นจมูก ระบายความโกรธที่ไม่สามารถอธิบายได้ ปกติเวลาที่นางทำเรื่องเหล่านั้น เขาก็แค่ปิดตาข้างหนึ่งมาตลอดโดยไม่ถือสานาง และการทะเลาะกับพี่สะใภ้ไม่ว่าบ้านไหนก็มีทั้งนั้น เพียงแต่อย่าเกินเหตุไปก็พอ ใครใช้ให้เขาชอบนางกันเล่า
เฉาซื่อนั้นแม้จะมีอารมณ์รุนแรงไปหน่อย แต่นางช่างงดงาม ใบหน้าขาวราวไข่ปอก โดยเฉพาะตอนทำเรื่องอย่างว่า น้ำเสียงออดอ้อนนั่นก็ทำให้เขาแทบจะใจเหลวเป็นน้ำแล้ว ความงามของนางทำให้กู้ฉวนโซ่วรู้สึกใจละลายมาโดยตลอด
แต่ แต่ แต่ว่า…
ภรรยาอำมหิตคนนี้กลับทำเรื่องอย่างนั้นกับตัวเอง จบสิ้นชีวิตของลูกผู้ชายแล้ว ถ้าผู้อื่นล่วงรู้เรื่องนี้แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน นี่ไม่เท่ากับว่าเขาจะถูกคนอื่นเหยียบหลังไปตลอดชีวิตอย่างนั้นหรือ
แค่คิดถึงความเจ็บปวดที่ ‘เครื่องเพศ’ ของตัวเองถูกภรรยาเตะจนใช้ไม่ได้แล้ว กู้ฉวนโซ่วก็โกรธนังผู้หญิงแพศยาคนนี้อย่างไม่สามารถระบายทางไหนได้
คิดถึงตรงนี้กู้ฉวนโซ่วก็ไม่อาจกักเก็บไฟแค้นในใจตัวเองได้ ยกเท้าเตะเฉาซื่ออย่างแรง “ภรรยาอำมหิตเช่นนี้ ดีแต่สร้างความฉิบหายไม่หยุดหย่อน หรือเจ้าต้องการทำให้ครอบครัวเราวุ่นวายก่อนใช่ไหมถึงจะพอใจ ดูสิว่าวันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าได้หรือไหม!”
กู้ฉวนโซ่วไม่กล้าพูดเรื่องความเป็นชายของตัวเองออกมา ถ้าเขาพูดออกมาเขาก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าตัวเองไปไว้ที่ไหนแล้ว
เพียงแค่ว่าเฉาซื่อที่เคยวางอำนาจเหนือตัวเองก่อนหน้านี้ วันนี้จะหย่าก็หย่า ถ้าไม่สามารถหย่านางต้องกลายเป็นวัวเป็นม้าของตัวเองไปทั้งชีวิตที่เหลือ นางทำให้ชีวิตเขาล่มจม นางก็ไม่ควรที่จะมีชีวิตที่ดีเช่นกัน
แม้กู้ฉวนโซ่วจะอ่อนแอ แต่ก็เป็นบุรุษคนหนึ่ง ความอับอายครั้งใหญ่นี้ทำให้เขารู้สึกไม่เพียงอยากเตะเฉาซื่อ เขาอยากจะแล่เนื้อเถือหนังนางเป็นชิ้น ๆ ด้วยซ้ำ ขอเพียงไม่ผิดกฎหมาย กู้ฉวนโซ่วก็จะทำทั้งสิ้น ไฟโทสะที่สุมอยู่ภายในใจมันใหญ่หลวงมากจริง ๆ
เฉาซื่อซือรู้ดีถึงความผิดของตัวเอง จึงยอมให้กู้ฉวนโซ่วทำร้ายร่างกายตนโดยไม่ปริปาก
ซุนซื่อมองเฉาซื่ออย่างเย็นชา ทั้งในใจยังรู้สึกสงสัย เมื่อมองความโกรธของเจ้าสามที่เตะเฉาซื่อโดยไม่พูดไม่จา ในใจก็ยิ่งสงสัย ไม่รู้ว่าสองสามวันที่ผ่านมาสองสามีภรรยาคู่ไปมีความแค้นล้ำลึกอะไรมาขนาดนี้
จะบอกว่าวันที่ทะเลาะกับนางวันนั้นหรือ เจ้าสามถึงจำเป็นต้องสั่งสอนภรรยาตัวเองขนาดนี้เชียว จะเป็นไปได้อย่างไร ต่อให้ซุนซื่อใช้ใจเป็นประกันหนึ่งร้อยดวงนางก็ยังไม่เชื่อเลยว่าเรื่องในวันนี้มันจะเป็นการทะเลาะตามประสาลูกสะใภ้เมื่อวันก่อน!
“ดูสิ จุ๊ ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าสามกู้จะจิตใจโหดร้ายตีภรรยาตัวเองปานนี้”
“ใช่ ๆ เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าเจ้าสามรักเฉาซื่อมากหรือ สามวันไม่โดนตี ต่อไปดื้อจนไปรื้อกระเบื้องหลังคา[1] เจ้าสามนี้ก็จริง ๆ แต่เฉาซื่อก็เกินไป นี่เขาคงคิดว่าตัวเองถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีลูกชายขึ้นมาหรือเปล่านะ”
เหล่าเหลียงโถ่วเห็นกู้ฉวนโซ่วเตะร่างกายของเฉาซืออย่างแรง เฉาซื่อกลับกล้ำกลืนฝืนทนปล่อยให้กู้ฉวนโซ่วได้ระบายโทสะก็รู้สึกแปลกใจ แต่แปลกใจส่วนแปลกใจ ถ้าเขายังไม่ห้ามกู้ฉวนโซ่วตอนนี้ เกรงว่าเฉาซื่อคงโดนกู้ฉวนโซ่วฆ่าตายเป็นแน่
เหล่าเหลียงโถ่วรีบเข้าไปดึงกู้ฉวนโซ่ว “เจ้าสามกู้ หยุดมือเสีย หากเจ้ายังเตะอีก ภรรยาเจ้าได้ตายแน่”
“ตายก็ตายสิ ข้าไม่ต้องการนางอีกแล้ว!”
เหล่าเหลียงโถ่วได้ยินกู้ฉวนโซ่วพูดจาร้ายกาจก็เดาว่าสองวันนี้สองสามีภรรยาคงจะมีอะไรที่ทำให้แค้นกันจนอยากเลิกราแน่ ไม่เช่นนั้นคงจะไม่โกรธเป็นฟืนไฟขนาดนี้ สามีภรรยาทะเลาะกันประเดี๋ยวก็คืนดีเห็นทีจะไม่ใช่พวกเขาสองคน เจ้ากู้ฉวนโซ่วนี้ทุบตีเฉาซื่อซือเหมือนต้องการให้นางตายจริง ๆ
“เฉาซื่อ เจ้าพูดสักคำสิ เจ้าสามมันจะทุบตีเจ้าตายอยู่แล้ว!” กู้ฉวนลู่เห็นว่าโน้มน้าวกู้ฉวนโซ่วไม่ได้ ก็หันไปโน้มน้าวเฉาซื่อแทน
“น้องสาว เจ้าทำอะไรผิด ทำไมเจ้าสามถึงโกรธขนาดนี้!” กู้ฉวนลู่เห็นว่าถ้าวันนี้ตัวเองไม่พูดอะไรสักอย่าง วันนี้เฉาซื่อคงไม่อาจมีชีวิตรอดแล้ว จึงทำได้เพียงเอ่ยถาม
“ข้า ข้า…” เฉาซื่ออ้ำอึ้ง เมื่อมองหน้ากู้ฉวนโซ่วที่เหมือนจะกินตัวเองเข้าไปแล้วก็หวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่นเทา “ข้าไม่ควรทะเลาะกับพี่สะใภ้ พี่สะใภ้ข้าผิดไปแล้ว ข้าขอโทษท่านจริง ๆ!”
อะไรนะ นี่สาเหตุมาจากการทะเลาะเมื่อวันก่อนอย่างนั้นหรือ
ชาวบ้านในนี้ต่างกันงุนงง เจ้ากู้ฉวนโซ่วกินยาผิดสำแดงอะไรมา เพียงเพราะเฉาซื่อทะเลาะกับซุนซื่อ เขาถึงขนาดต้องทำให้เฉาซื่อมีสภาพเป็นถึงขนาดนี้เลยหรือ ทั้งยังต้องการหย่าด้วย
ตั้งแต่เมื่อไรที่กู้ฉวนโซ่วสนใจภาพลักษณ์ของตระกูลกู้ขนาดนี้
ปกติไม่ใช่ว่าเฉาซื่อจะรุนแรงขนาดไหนเขาก็ไม่ว่าอะไรหรอกหรือ? ทุกคนมองหน้ากันแต่กลับไม่มีใครกล้าเชื่อสิ่งที่ตนเห็นข้างหน้านี้เลย
ทว่าจู่ ๆ ก็มีคนเห็นเป็นเรื่องตลกและหัวเราะขึ้นมา
“เจ้าสามกู้ ไม่ใช่ว่าหึงที่อู๋เอ้อร์โก่วไปกอดภรรยาตัวเองในวันนั้นหรอกใช่ไหม ฮ่า ๆๆ ….”
มีคนหนึ่งอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นพูดล้อเล่นออกมา คนมากมายที่เห็นเหมือนกันในวันนั้นก็ปล่อยเสียงหัวเราะครืนออกมาเช่นกัน
…………………………………………………………………………
[1] สามวันไม่โดนตี ต่อไปดื้อจนไปรื้อกระเบื้องหลังคา เป็นสุภาษิต ประมาณว่าเด็กที่โดนตามใจ ต่อไปจะเสียคน
สารจากผู้แปล
จะกล้าบอกได้ยังไงว่าโดนเมียเตะจนกล่องดวงใจพัง เฮ้อ น่าเห็นใจเขาอยู่เหมือนกันนะ
แต่ดูท่าทางแล้วต่อให้ไม่หย่าก็คงจะแยกกันอยู่แหละ ความรู้สึกรักมันเสียไปแล้ว
ไหหม่า(海馬)