ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 153 ชุลมุนวุ่นวาย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 153 ชุลมุนวุ่นวาย

บทที่ 153 ชุลมุนวุ่นวาย

“ข้ากำลังตามหาเหลียงต้าเปา รีบไปบอกให้เหลียงต้าเปาออกมา!” กู้เสี่ยวหวานไม่สนใจมารยาทหรือภาพลักษณ์อีกต่อไป เมื่อนึกถึงชีวิตและความเป็นความตายของกู้เสี่ยวอี้ หัวใจของนางก็ราวกับจะถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้น ๆ

“หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง กู้เสี่ยวอี้หายตัวไป มีคนเห็นว่าคนสุดท้ายที่อยู่กับนางเมื่อเช้าวานนี้คือเหลียงต้าเปาหลานชายของท่าน!” ฉือโถวอธิบาย “หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง เสี่ยวหวานใกล้จะเป็นบ้าไปแล้ว ได้โปรดปล่อยให้เหลียงต้าเปาออกมาเถอะ เสี่ยวหวานแค่จะถามเขา!”

“ไร้สาระ ไร้สาระ!” เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงได้ยินว่ากู้เสี่ยวอี้หายตัวไป และยังเกี่ยวข้องกับหลานชายหัวแก้วหัวแหวนของเขา เขาก็พ่นลมเป่าเคราและจ้องมองกู้เสี่ยวหวาน กล่าวว่า “น้องสาวของเจ้าหลงทาง แค่ออกไปตามหาก็จบแล้ว พวกเจ้ามาที่บ้านของข้าทำไม! ใครในพวกเจ้าที่เห็นหลานชายของข้าพากู้เสี่ยวอี้ไป!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของกู้เสี่ยวหวานก็ชาวาบ นางจ้องไปที่ครอบครัวของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงด้วยดวงตาแดงช้ำ และทุกคนต่างก็จ้องมาที่นางราวกับว่าถ้านางพูดอีกประโยคเดียวก็อาจจะโดนคนกลุ่มนี้ไล่ออกไป

ฉือโถวและท่านป้าจางที่กำลังตามนางมา อีกทั้งช่วยนางหาเสี่ยวอี้ แม้กระทั่งชายหนุ่มคนหนึ่งที่เพิ่งรู้จักกันเมื่อครู่ก็ตามมาด้วย

บางทีนี่อาจเป็นหัวใจของมนุษย์!

ชายหนุ่มที่ตามมารุดขึ้นหน้าและกล่าวว่า “เมื่อเช้าวานนี้ข้าเห็นเด็กอ้วนอายุประมาณสิบขวบ สวมสร้อยคอสีเงิน พาเด็กหญิงอายุสี่ขวบเข้ามาในหมู่บ้าน!”

“เจ้ามาจากไหน?!” เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้ใหญ่บ้านเหลียงมองดูชายหนุ่มด้วยความสงสัยและถามอย่างไม่เป็นมิตร

“ข้ามาจากหมู่บ้านอื่น เมื่อวานข้าบังเอิญไปส่งของที่หมู่บ้านข้างบน จึงอยากใช้ทางลัด เลยเดินเข้าไปเจอเด็กสองคน วันนี้ส่งของเสร็จแล้วและกำลังบ้าน บังเอิญผ่านทางเข้าหมู่บ้าน ข้าถูกน้องชายคนนี้หยุดไว้ และนึกถึงเหตุการณ์ที่ข้าเห็นเมื่อเช้าวานนี้ได้!” เด็กหนุ่มพูดอย่างมุ่งมั่น

“ไร้สาระ!” เคราของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงกำลังจะยกขึ้น แต่เมื่อมองดูท่าทางเย่อหยิ่งและรู้สึกผิดเล็กน้อย ก็ดูเหมือนว่าจากคำอธิบายของเด็กหนุ่มคนนี้น่าจะเป็นเหลียงต้าเปาจากครอบครัวของเขาเองจริง ๆ

อย่างไรก็ตาม หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจะส่งหลานชายออกไปได้อย่างไร และมันก็เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเสี่ยวอี้อีกด้วย

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงลำเอียงมาก เหลียงต้าเปาเป็นเหมือนดวงใจของเขาและภรรยา เขาจึงต้องการปิดปากเงียบและปกป้องเด็กชายไว้

พวกเขาเลี้ยงดูเหลียงต้าเปาอย่างประคบประหงมมาตั้งแต่เด็กจนโต เหลียงต้าเปาต้องการดวงดาวบนท้องฟ้า พวกเขาก็พยายามดึงดวงจันทร์บนท้องฟ้ามาให้ได้ เหลียงต้าเปาอยากกินนกจากฟ้า ก็ไม่กล้าให้เขากินไก่จากพื้นดิน

เด็กชายที่หยาบคายและเย่อหยิ่งเช่นนี้ หากโตขึ้นในหมู่บ้านนี้ก็ยังมีปู่ย่าคอยปกป้องเขา แล้วถ้าในอนาคตเขาออกจากหมู่บ้านไป ก็ไม่รู้ว่าเขาจะตายอย่างไร

“หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ทั่วทั้งหมู่บ้านมีเด็กชายอายุสิบขวบคนเดียวเท่านั้นที่สวมสร้อยคอสีเงิน ซึ่งเหลียงต้าเปาหลานชายของท่านเป็นคนเดียวที่ใส่มัน!” ฉือโถวพูดอย่างอารมณ์เสีย “คนอื่นเห็นกับตาว่าเหลียงต้าเปาอยู่กับกู้เสี่ยวอี้ ข้าก็แค่จะถามเหลียงต้าเปาว่ากู้เสี่ยวอี้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว!”

ปกติแล้วฉือโถวไม่ชอบพูด แต่การได้เห็นกู้เสี่ยวหวานเป็นเช่นนั้นก็ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

“เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระ!” ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงถึงกับโกรธจัด เมื่อเห็นว่าหลานชายสุดรักสุดหวงของนางถูกคนอื่นใส่ร้าย

“ฮูหยินเหลียง!” เด็กหนุ่มที่มาด้วยกันกล่าวด้วยความเคารพ

เมื่อได้ยินคำเรียกว่าฮูหยินเหลียงเช่นนั้น ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็สบายใจขึ้นมาก แสดงท่าทางดีกว่าก่อนหน้านี้ ถึงกระนั้นก็ยังส่งสายตาหยิ่งผยองและดูถูกผู้อื่นออกมา นางพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาและเหลือบมองเด็กหนุ่ม

“เขาคือคนที่เห็นหลิงซุนและกู้เสี่ยวอี้อยู่ด้วยกัน!”

“เจ้า…เจ้าโกหก!” ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านถ่มน้ำลายอย่างดุเดือด ชี้หน้าชายหนุ่มแล้วชี้หน้ากู้เสี่ยวหวาน สาปแช่งอย่างไร้มารยาท “ครอบครัวของเจ้าคืออะไร ต้าเปาของข้าจะไปอยู่กับกู้เสี่ยวอี้ได้อย่างไรอย่าฝันไปเลย!”

“ท่านพี่เหลียง ใส่ใจกับสิ่งที่ท่านพูดหน่อยเถอะ พวกเราทั้งหมดเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน เหตุใดท่านถึงพูดน่าเกลียดเช่นนี้!” ท่านป้าจางเริ่มโมโหและถามภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเสียงแข็ง

“ข้าต้องใส่ใจอะไร! จางซื่อ อย่าลืมว่าที่นี่คือบ้านของข้า พวกเจ้าวิ่งมาบ้านข้าเหมือนหมาบ้า ข้าไม่โยนพวกเจ้าออกไปก็ถือว่าไว้หน้ามากพอแล้ว!” ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงพูดอย่างเกรี้ยวกราด

สีหน้าของกู้เสี่ยวหวานเย็นชาลงขณะเหลือบมองกลุ่มคนในห้อง เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเห็นสายตาของกู้เสี่ยวหวาน เขาก็รู้สึกหนาวเยือกไปตามสันหลังเล็กน้อย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้มาจากไหนทำไมถึงดูมีพลังอาฆาตรุนแรงเช่นนี้

“หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านเรียกเหลียงต้าเปาออกมาเถอะ น้องสาวของข้าถูกเหลียงต้าเปาพาไปนะ”

เมื่อเห็นว่าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงไม่ยอมเรียกเหลียงต้าเปาออกมา กู้เสี่ยวหวานก็ร้อนใจเป็นอย่างมาก เพราะตอนนี้มีเพียงแค่เหลียงต้าเปาเท่านั้นที่รู้ว่าสุดท้ายแล้วกู้เสี่ยวอี้ไปอยู่ที่ไหน วันนี้ถ้าไม่ได้เจอเหลียงต้าเปา ต่อให้ต้องตายนางก็จะไม่ยอมไปไหน

“เหลียงต้าเปา เหลียงต้าเปา ออกมา รีบออกมาเดี๋ยวนี้ เจ้าพาน้องสาวของข้าไปไว้ที่ไหน เจ้ารีบออกมาหาข้าเดี๋ยวนี้!” ในตอนนี้กู้เสี่ยวหวานสูญเสียสติไปหมดแล้ว การหายตัวไปของกู้เสี่ยวอี้ทำให้นางควบคุมตัวเองไม่ได้

ความคิดเดียวในตอนนี้คือต้องรีบค้นหากู้เสี่ยวอี้ รีบค้นหากู้เสี่ยวอี้อย่างรวดเร็ว

“เด็กบ้า ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!” ทุกคนจากครอบครัวของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเข้ามาจับแขนของกู้เสี่ยวหวานและกำลังจะโยนนางออกไป

ฉือโถวจึงรีบมาขวางไว้ กอดเอวชายคนนั้นแล้วดึงเขาไปด้านข้างอย่างแรง “พวกท่านปล่อยมือเดี๋ยวนี้ ปล่อยมือสิ!”

สถานการณ์นั้นดูวุ่นวายเป็นอย่างมาก ทั้งเสียงร้องไห้ เสียงสบถด่า และการทะเลาะวิวาทกันอย่างไม่จบสิ้น เละเทะราวกับโจ๊กในหม้อ

“หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ดูสถานการณ์ตอนนี้สิ สาวน้อยคนนี้ถูกความวิตกกังวลโจมตีหัวใจ[1]แล้ว เช่นนั้นก็ให้หลานชายออกมาพูดเถอะ ถ้าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับหลานท่านจริง ๆ สาวน้อยคนนี้จะได้กลับไปเหมือนกัน และยังพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของหลานชายท่านได้อีกด้วย หากวันนั้นเป็นหลานชายของท่านจริง ๆ ก็ให้เขาบอกว่าสาวน้อยคนนั้นหายไปไหน พวกเราจะได้ไปค้นหา นี่ก็เป็นคุณธรรมเรื่องหนึ่งใช่หรือไม่?” เด็กหนุ่มกล่าวอย่างมีเหตุผล เดิมทีหัวหน้าหมู่บ้านบ้านเหลียงมีความรู้สึกผิด เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานยังไม่ยอมแพ้จนกว่านางจะรู้ความจริง ถ้าวันนี้ไม่เห็นเหลียงต้าเปา เกรงว่าวันนี้จะอยู่อย่างสงบไม่ได้

………………………………………………………………………….

[1] ความเจ็บป่วยทางจิตใจที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่สบายใจในชีวิต กล่าวคือความไม่สบายในจิตใจนำไปสู่ความเจ็บปวดในร่างกาย มีอาการซึมเศร้า

สารจากผู้แปล

รักหลานแบบผิด ๆ อีกนะครอบครัวหัวหน้าหมู่บ้านนี่ จะไร้หัวใจเกินไปแล้ว

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท