ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 154 ถามเหลียงต้าเปา

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 154 ถามเหลียงต้าเปา

บทที่ 154 ถามเหลียงต้าเปา

“เอาล่ะ เอาล่ะ” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงตัดสินใจแล้ว “อย่าส่งเสียงดัง!”

ครั้นเห็นหัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยขึ้น ภรรยาของเขาก็ปิดปากสนิท และมองไปที่กู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ อย่างเย่อหยิ่ง

“ภรรยา ไปเรียกต้าเปามา!” ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงไม่คิดว่าสามีของตนจะไม่ช่วยคนในครอบครัวของตนเอง แต่กลับกลายไปช่วยคนนอก นางจึงโกรธเคือง!

“ตาเฒ่า ท่านกำลังทำอะไรอยู่? ท่านกำลังช่วยคนนอกรังแกต้าเปาของครอบครัวเราอยู่นะ?” เสียงแผดคำรามดังขึ้นทันใด เมื่อมองตามเสียงก็พบใบหน้าของเหลียงซื่อเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด ดวงตาเบิกกว้างราวกับว่านางกำลังจะกลืนกินหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเข้าไป

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเห็นภรรยาย้อนถามพลางตำหนิเขาเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาก็ไม่สามารถระงับสีหน้าของเขาได้

“หยุดพูดได้แล้ว! พาต้าเปามาที่นี่ซะ!” สีหน้าของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงดูเหยเกไม่น่ามองเมื่อจ้องไปที่ภรรยาของตน

ครั้นหญิงชราเห็นสายตาของหัวหน้าครอบครัวที่ดูเหมือนจะกินคนได้จึงผงะถอยหลังแต่ยังคงจ้องที่กู้เสี่ยวหวานอย่างไม่เต็มใจ และเอ่ยวาจาร้ายกาจ “ถ้าหลานชายของข้าไม่ได้อยู่กับน้องสาวของเจ้า คอยดูว่าข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างไร!”

ในที่สุด หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็ปล่อยให้เหลียงซื่อไปที่สวนหลังบ้านเพื่อเรียกเหลียงต้าเปามา

ห้องโถงซึ่งมีเสียงดังเมื่อสักครู่เงียบลงทันใด

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงพ่นลมหายฟึดฟัด มองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยท่าทางพิกล และพูดอย่างไม่เกรงใจ “เสี่ยวหวาน ถ้าหลานชายของข้าไม่ได้อยู่กับน้องสาวของเจ้า เจ้าจะอธิบายอย่างไร!”

“อยากจะทุบตีหรือดุด่าประการใด ก็แล้วแต่ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน!” กู้เสี่ยวหวานพูดอย่างเย็นชาโดยไม่มองหน้าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง

“ฮึ่ม…” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงขว้างชามและพูดอย่างดุเดือด “เสี่ยวหวาน ถ้าเจ้าใส่ร้ายต้าเปาของครอบครัวข้า ครอบครัวของเจ้าจะต้องออกไปจากหมู่บ้านอู๋ซี!”

“หัวหน้าหมู่บ้าน!” หลังจากได้ยินดังนั้น ท่านป้าจางก็ตะโกน “หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านหมายความว่าอย่างไร ทำไมถึงใจร้ายเช่นนี้ น้องสาวนางหายตัวไป นางเลยออกตามหา ท่านยังจะขับไล่เด็กพวกนี้ออกจากหมู่บ้านอีก ถ้าพวกเขาออกจากหมู่บ้านไปแล้วจะไปอยู่ที่ไหน? ท่านกำลังใช้มีดกรีดหัวใจของกู้ฉวนฟู่ กำลังทำให้กู้ฉวนฟู่ตายอย่างไม่สงบ!”

“ไร้สาระ!” เมื่อเห็นว่าท่านป้าจางเอ่ยนามของกู้ฉวนฟู่ออกมา หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็โบกมืออย่างอับจนหนทาง “หยุดพูดได้แล้ว ถ้าเจ้าจะใส่ร้ายข้าก็ออกไปจากที่นี่! ข้าไม่สนว่าเจ้าจะอยู่หรือตาย!”

“หัวหน้าหมู่บ้าน…” ท่านป้าจางต้องการพูดมากกว่านี้ แต่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงโบกมืออย่างแรง

ในเวลานี้กู้เสี่ยวหวานก็กล่าวว่า “ตกลง ถ้าข้ากล่าวหาต้าเปาจริง ๆ ในวันนี้ข้าจะออกไปจากหมู่บ้านอู๋ซี!”

“เสี่ยวหวาน…”

“เสี่ยวหวาน…”

ท่านป้าจางและฉือโถวโกรธมาก เหตุใดหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงถึงใจแคบเช่นนี้ นี่ทำให้พวกเขาก็เกลียดหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงอย่างมาก

ครอบครัวนี้ต้องทนทุกข์กับความชั่วร้ายขนาดไหนกัน? นี่ขนาดยังไม่รู้ว่ากู้เสี่ยวอี้อยู่ที่ไหน หัวหน้าหมู่บ้านก็ต้องการให้พวกเขาออกจากหมู่บ้านอู๋ซีเสียแล้ว หลังจากที่เด็กสี่คนนี้ออกจากหมู่บ้านอู๋ซีไปแล้วพวกเขาจะไปอยู่ที่ไหน!

“แต่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง…” ในที่สุดกู้เสี่ยวหวานก็ขยับตัว หันหลังช้า ๆ เอ่ยขึ้นทีละคำ “ถ้าข้าไม่ได้ทำผิดต่อเหลียงต้าเปา และถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเสี่ยวอี้ของข้า ข้าจะขอให้เหลียงต้าเปาชดใช้ด้วยชีวิต!”

กู้เสี่ยวหวานออกมาทีละคำอย่างนุ่มนวลราวกับไฟชำระความถูกผิดของผู้คน สายตาที่ดุร้ายของนางทำให้หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยความตกใจ

“เจ้า…เจ้า…เจ้า…” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงถอยหนีด้วยความตกใจ ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานดูราวกับจะกินตนเข้าไป เขาจึงตกใจจนไม่อาจกล่าวสิ่งใดออกมาได้

ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นด้านหลัง กู้เสี่ยวหวานจึงรีบหันกลับมา และเห็นเหลียงต้าเปาออกมาพร้อมกับย่าของเขา

อย่างไรก็ตาม เขากลับหลบสายตาราวกับว่าไม่ต้องการออกมาเลย

“ต้าเปา บอกกู้เสี่ยวหวานไปสิว่าเมื่อวานเจ้าอยู่บ้านหรือเปล่า?”

“ท่านย่าขอรับ เมื่อวานข้าอยู่ที่บ้าน!” เหลียงต้าเปาตอบ

“ได้ยินหรือยังกู้เสี่ยวหวาน น้องสาวของเจ้าไม่ได้อยู่กับหลานชายของข้า ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!” ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านพูดกับกู้เสี่ยวหวานด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน

“เฮ้…ฮูหยินเหลียง ช้าก่อน!” เด็กหนุ่มรุดขึ้นหน้าด้วยรอยยิ้มมุมปาก มันไม่เข้ากับบรรยากาศที่ตึงเครียดนี้เลยสักนิด

“เจ้าจะทำอะไร!” เมื่อเห็นใครคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้หลานของนาง ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านรีบปกป้องเหลียงต้าเปาที่อยู่ข้างหลังตนทันที ราวกับแม่ไก่ปกป้องลูกไก่ ขณะที่เหลียงต้าเปากำลังซ่อนตัวอยู่ข้างหลังย่าด้วยร่างกายสั่นเทา เมื่อเห็นเด็กคนนี้เป็นเช่นนี้ ชายหนุ่มจึงคิดบางอย่างในใจ

“ต้าเปา!” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเชื่องช้า “เมื่อวานตอนเช้า ข้าอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน และบังเอิญเห็นเด็กชายตัวเล็กเช่นเดียวกับเจ้า กำลังจูงมือเด็กหญิงอายุสี่ขวบ เด็กหญิงตัวเล็กคนนั้นร้องไห้สะอึกสะอื้นและพูดว่า ข้าอยากช่วยท่านพี่ ข้าอยากช่วยท่านพี่ ข้าได้ยินเจ้าพูดว่า ไม่เป็นไร ไปหาท่านปู่ของข้า ท่านปู่ของข้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน และจะปกป้องพี่ของเจ้าได้อย่างแน่นอน! คำพูดพวกนี้เจ้าได้พูดหรือไม่!”

“ท่านย่า!” เหลียงต้าเปาร้องออกมาด้วยความกลัว และซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเหลียงซื่อด้วยความสยองพองเกล้า ขณะหลบซ่อนก็ร้องไห้กระซิก “ท่านย่า ข้ากลัว ข้ากลัว!”

“เจ้าอย่าพูดไร้สาระ เมื่อเช้าวานนี้หลานชายของข้าอยู่ที่บ้าน เขานอนจนดวงอาทิตย์ขึ้นจากภูเขา วันนั้นฟ้ายังไม่สว่าง เขาจะไปข้างนอกได้อย่างไร อย่าพูดเรื่องไร้สาระ!” เหลียงซื่อแก้ตัว นางสะดุ้งเล็กน้อย ลูบหน้าผากหลานชายของนางอย่างปกป้อง

กู้เสี่ยวหวานเห็นว่าปู่ย่าปกป้องหลานของพวกเขาเช่นนี้ หลังจากที่มีชีวิตอยู่มานานกว่าสามสิบปี ถ้านางไม่รู้ว่าเหลียงซื่อปกปิดอะไร ชีวิตที่สองของนางคงเสียเปล่า

กู้เสี่ยวหวานเดินเข้าไปหาเหลียงต้าเปาด้วยใบหน้ามืดมนเชื่องช้า

เมื่อระยะห่างระหว่างคนทั้งสองสั้นลงเหลือเพียงไม่กี่ก้าว เหลียงต้าเปาก็ดูหวาดกลัวขึ้นมาทันที และถอยหลังกรูดอย่างตระหนกตกใจ

ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานมืดมนลงเรื่อย ๆ เมื่อนึกได้ว่าเมื่อวานเขาเห็นกู้เสี่ยวอี้เป็นคนสุดท้ายก่อนที่กู้เสี่ยวอี้จะหายตัวไป สภาพอารมณ์ของนางในขณะนี้ไม่ใช่ความโกรธ แต่เป็นเจตนาสังหาร

ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับกู้เสี่ยวอี้ นางไม่รู้จริง ๆ ว่านางจะทำอย่างไร

“น้องสาวของข้าอยู่ที่ไหน!” เสียงของกู้เสี่ยวหวานทุ้มต่ำและแหบแห้งเหมือนปีศาจที่คลานออกมาจากนรก หากดวงตาสามารถฆ่าคนได้ เหลียงต้าเปาคงถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ

แม้แต่เหลียงซื่อที่หวาดกลัวจนหัวหดก็ตกใจ รู้สึกได้ว่านางเห็นความโกรธในดวงตาคู่นั้น มันทำให้นางพูดไม่ออก “ใคร…ใครว่าต้าเปา…ว่าอยู่ด้วยกันกับน้องสาวเจ้า?”

………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ตอบดี ๆ นะว่าจริงหรือเปล่า ไม่งั้นได้มีเหตุนองเลือดในบ้านหัวหน้าหมู่บ้านแน่

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท